เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 74
บทที่ 74 วันก่อนการแข่งขัน
ถนนทั้งสายในเมืองหลวงของจักรวรรดิจิ๋นนั้นแออัดมาก โดยอันที่จริงแล้วมีผู้คนจำนวนมากที่เดินอยู่บนถนนในขณะที่ผู้คนอีกจำนวนหนึ่งยังคงเดินทางมาถึงเมืองหลวง ภายในเมืองหลวงมีงานยุ่ๆงอยู่เสมอ แต่ไม่เคยมีงานยุ่งขนาดนี้มาก่อน เหตุผลที่ทำให้มีคนแน่นขนาดนี้ก็เพราะมาเข้าร่วมหรือบางส่วนที่มาชมการคัดเลือกมังกรทองที่จะจัดในวันรุ่งขึ้น
“โธ่เว้ย ทำไมเราต้องมาวันนี้ด้วยเพราะเห็นไม่มีใครสู้กันเลยนี่? ข้ายอมล่าสัตว์ร้ายหรือฆ่าผู้ฝกตนด้านมืดมากกว่าที่จะมาทำอะไรที่น่าเบื่อแบบนี้” ชายหนุ่มบ่นกับเพื่อนของเขาในขณะที่เขามองไปรอบๆอย่างเหน็ดหน่าย
“เจ้ารู้ได้ไงว่าไม่มีใคร? เจ้าไม่ควรดูถูกคนในจักรวรรดินี้มากเกินไป จักรวรรดิจิ๋นเป็นหนึ่งในจักรวรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก พวกเขาสามารถแข่งขันกับนิกายชั้นหนึ่งส่วนใหญ่ได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะถ้าเจ้าไม่เอาจริงในการแข่งเจ้าอาจโดนอัจฉริยะที่อยู่ในจักรวรรดินี้เอาชนะได้โดยง่าย” ชายวัยกลางคนกล่าวกับชายหนุ่ม
“ถ้าคนๆนั้นทำได้นะ” ชายหนุ่มพึมพำอย่างประชดประชัน
ชายวัยกลางคนทำได้เพียงส่ายหัวด้วยความผิดหวัง ผู้ชายคนนี้ดูเย่อหยิ่งเกินไปในมุมมองของเขา เขามองว่าทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในนิกายเป็นคนที่ด้อยกว่าเขา
สองคนนี้จริงๆแล้วมาจากนิกายบัญญัติสวรรค์ ทั้งคู่ได้รับคำสั่งให้เข้ามาในจักรวรรดิจิ๋นและดูการแข่งขันที่จัดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบทศวรรษของแต่ละรุ่น ภารกิจของพวกเขาคือการมองหาคนที่โดดเด่นในการแข่งขันและคัดเลือกพวกเขาเข้าสู่นิกายของพวกเขา หากทำได้พวกเขาจะได้รางวัลอย่างงาม
ไม่ใช่แค่นิกายบัญญัติสวรรค์เท่านั้นที่ทำแบบนี้ นอกจากนี้ยังมีผู้คนจากนิกายอื่น ๆ ที่อยู่ในจักรวรรดิจิ๋นที่กำลังพยายามหาคนที่มีความสามารถที่พวกเขาสามารถคัดเลือกเข้าสู่นิกายของพวกเขาได้
มันไม่ใช่เรื่องที่แปลกของแต่ละนิกาย เพราะทุกครั้งที่มีการแข่งขันครั้งใหญ่ในจักรวรรดิ หรือในนิกายอันดับสองหรือสาม บุคคลที่อยู่ในนิกายอันดับหนึ่งก็จะส่งคนมามาดูเพื่อคัดเลือกไปอยู่นิกายกับเขาด้วยเหมือนกัน
นี่เป็นวิธีที่นิกายชั้นหนึ่งรักษามาตราฐานของพวกเขาไว้และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ชายวัยกลางคนถอนหายใจ ภารกิจของพวกเขาคือหาคนที่มีความสามารถเข้ามาในนิกายของพวกเขา แต่นั่นเป็นเพียงความสำคัญอันดับสองสำหรับพวกเขา สิ่งที่สำคัญจริงๆก็คือการที่พวกเขาพาคนที่มีความสามารถไปได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง ถ้าพวกเขาทำได้นิกายจะมอบรางวัลและสิ่งอื่นๆที่ดีมากจนพวกเขาไม่อาจคาดได้
“ยุ่นหลิงงั้นหรือ”? ชายวัยกลางคนพึมพำขณะมองดูรูปถ่ายของชายหน้าตาดีที่วาดด้วยกระดาษคุณภาพสูงบางอย่าง
ชายหนุ่มเหลือบมองภาพและขมวดคิ้ว “ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมคนอย่างท่านถึงได้หมกมุ่นอยู่กับผู้ชายคนนั้น อะไรทำให้เขาพิเศษกัน?
ชายวัยกลางคนรู้สึกรำคาญจะทุบทีหัวของชายหนุ่มคนนั้น
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ไปกันเถอะ เราต้องไปเข้าแถว”
…
“ท่านพ่อ พรุ่งนี้คือวันคัดเลือกมังกรทองแล้วใช่ไหม? ท่านพ่อจะไม่ฝึกฝนหน่อยหรือ?” ยุ่นเซี่ยถามพ่อของเธอเมื่อเธอเข้ามาใกล้เขา
ยุ่นหลิงกำลังจิบชาอย่างสบายๆ เมื่อเห็นยุ่นเซี่ยเดินเข้ามาหาเขา เขาวางชาลงบนโต๊ะทันทีขณะที่ยิ้มให้เธอ
“เซี่ยๆการฝึกฝนมากเกินไปบางครั้งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร นอกจากนี้พ่อได้เตรียมการสำหรับช่วงเวลานี้อย่างดีที่สุดมาหลายปีแล้ว การฝึกฝนเพียงวันเดียวมันไม่ได้ช่วยอะไรพ่อได้มากนัก เนื่องจากการคัดเลือกมังกรทองกำลังจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ เป็นการดีที่สุดที่พ่อจะผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ เพื่อที่พ่อจะได้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดเมื่อถึงวันพรุ่งนี้” ยุ่นหลิงอธิบายขณะจิบชา
ยุ่นเซี่ยทำเพียงเอียงศีรษะไปด้านข้าง เธอไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด
“พ่อหมายถึง จะเป็นการดีกว่าสำหรับพ่อที่จะพักผ่อนเพื่อที่จะทำได้ดีในวันพรุ่งนี้ แทนที่จะฝึกฝนจนนาทีสุดท้าย” ยุ่นหลิงอธิบาย
ปากของยุ่นเซี่ยเป็นรูปตัว *O* เมื่อในที่สุดเธอก็เข้าใจสิ่งที่ยุ่นหลิงกล่าว
“โชคดีสำหรับวันพรุ่งนี้นะท่านพ่อ! ทำให้ดีที่สุดนะ!” เธอพูดอย่างร่าเริง เธอมั่นใจว่าพ่อของเธอจะชนะการแข่งขันตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่ง
ยุ่นหลิงยิ้มให้เธอและพูดว่า “เซี่ยๆเนื่องจากพ่อจะพักผ่อนในวันนี้แทนที่จะฝึกฝน วันนี้เราจะเล่นกันทั้งวันดีไหม”?
ดวงตาของเด็กหญิงตัวเล็กๆ จ้องมองไปที่สิ่งนั้น พ่อของเธอยุ่งมากในช่วงสองวันที่ผ่านมาในการเตรียมตัวสำหรับการคัดเลือกมังกรทองและช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการดัดแปลงกระบวนท่าชั้นสูงบางอย่าง? ไม่ว่ายังไงก็ตาม พ่อของเธอยุ่งอยู่กับการฝึกฝนและช่วยเหลือพวกเขา ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงไม่ได้เล่นหรือออกไปไหนด้วยกันในช่วงสองวันที่ผ่านมา
“แน่นอน!”
“เซี่ยเซี่ยอยากเล่นอะไร”? ยุ่นหลิงถาม
“ซ่อนแอบ!” ยุ่นเซี่ยตอบอย่างกระตือรือร้น
ยุ่นหลิงหัวเราะเล็กน้อย “ได้เลย! ให้เจ้าเขี้ยวหิมะ และลูกชายของกับ และคนรับใช้คนอื่นๆเล่นด้วยนะ”
“ห้ามใช้พลังนะพ่อ!” ยุ่นเซี่ยขมวดคิ้ว มันจะไม่ยุติธรรมถ้าพ่อของเธอจะใช้พลังจากการฝึกตน มันจะทำให้เล่นกันไม่สนุก
“พ่อรู้แล้วล่ะน่า…”
…
“ยู่ หยินยี่การคัดเลือกมังกรทองจะเริ่มในวันพรุ่งนี้แล้ว” จักรพรรดิกล่าวขณะที่มองไปยังชายวัยกลางคนที่หล่อเหลาที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาอย่างนิ่งสงบ
ชายวัยกลางคนคนนี้คือ ยู่หยินยี่ ผู้บัญชาการหน่วยของจักรวรรดิจิ๋น และเป็นพ่อของยู่ฉานซึ่งเป็นหนึ่งในสามอัจฉริยะผู้สูงสุด
“ใช่ ฝ่าบาท” ยู่ หยินยี่ตอบ
“การตรวจการเป็นอย่างไรบ้าง” จักรพรรดิถามเบาๆ
ยู่หยินยี่ส่ายหัวในขณะที่ถอนหายใจ “น่าเสียดายฝ่าบาท เช่นเดียวกับการคัดเลือกมังกรทองก่อนหน้านี้ ข้าสงสัยว่าคนจำนวนมากจากนิกายอื่นได้เข้าไปข้างในเมืองหลวง คนของข้าจับคนพวกนั้นได้เยอะมากๆ คนเหล่านั้นล้วนมาจากนิกายต่างๆ แต่ข้าแน่ใจว่ายังมีคนจำนวนมากที่แอบเข้าไปได้อีก”
“น่าเสียดายจริงๆ แต่เราไม่สามารถทำอะไรกับพวกมันได้ แม้ว่าจะมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุด แต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนบางกลุ่มเล็ดลอดเข้ามาข้างใน ข้าแน่ใจว่าในทศวรรษนี้ อัจฉริยะของเราหลายคนจะถูกคัดเลือกจากนิกายอื่นอีกครั้ง”
ยู่หยินยี่ไม่ได้พูดอะไร
“แต่นั่นไม่สำคัญ เฉพาะคนที่มีความสามารถน้อยเท่านั้นที่จะย้ายไปอยู่กับนิกาย ส่วนอัจฉริยะที่โดดเด่นคือคนที่พวกเขาเหล่านั้นยากที่จะดึงตัวไปเข้าร่วมนิกาย นั่นคือสิ่งที่เราควรให้ความสนใจมากกว่า”