เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 75
บทที่ 75 ยุ่นเฟิง
ยุ่นซานถอนหายใจขณะที่เขาถือจดหมายไว้ในมือ
“มีอะไรรึเปล่า?” หลี่จิ้งถามสามีของเธอ ดูเหมือนว่าเขาจะมีปัญหาบางอย่าง
แทนที่จะตอบ เขาแสดงจดหมายให้เธอดู เขาคิดว่านั่นจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตอบคำถามของเธอ
“นี่มัน… จากยุ่นเฟิงงั้นหรือ?” เธอถามขมวดคิ้ว จากนั้นเธอก็อ่านจดหมายอย่างเงียบๆ ครู่ต่อมา เธอถอนหายใจเหมือนสามีของเธอ
จดหมายนี้มาจากลูกชายคนสุดท้องของพวกเขา ยุ่นเฟิง
หลี่จิ้งและยุ่นซาน มีลูกชายทั้งหมดสามคน คนโตคือ ยุ่นฮุ้ย คนที่สองคือยุ่นหลิง น้องคนสุดท้องคือยุ่นเฟิง
ไม่กี่สัปดาห์ก่อน ยุ่นซานได้เรียกยุ่นเฟิงและยุ่นฮุ้ย ลูกชายทั้งสองคนมาเพื่อให้พวกเขาได้ทันเวลาเพื่อดูการคัดเลือกมังกรทองและช่วยเชียร์ยุ่นหลิง น้องชายของพวกเขา
การดูการคัดเลือกมังกรทองนี้มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับยุ่นเฟิงที่อายุน้อยที่สุด ยุ่นเฟิงอาจไม่ได้คิดที่จะเข้าร่วมในการคัดเลือกมังกรทองในทศวรรษนี้ แต่เขาสามารถดูยุ่นหลิงและคนอื่นๆ แข่งขันในครั้งนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงมีความคิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างในการคัดเลือกมังกรทองครั้งต่อไป
สำหรับยุ่นฮุ้ย การคัดเลือกมังกรทองไม่ได้มีความสำคัญสำหรับเขามากนัก เพราะเขาไม่ใช่ผู้ฝึกตนของจักรวรรดิจิ๋นอีกต่อไป แต่เป็นศิษย์ของนิกายเทพชั้นหนึ่งคือ นิกายจิตวิญญาณศักดิ์สิทธ์ ยิ่งไปกว่านั้น เขาอายุสามสิบแล้ว ดังนั้นแม้ว่าเขาจะยังเป็นผู้ฝึกตนของจักรวรรดิจิ๋น เขาก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้อยู่ดี อย่างไรก็ตามยุ่นซานก็ยังคงเรียกเขามาพร้อมกับยุ่นเฟิงเนื่องจากเขาคิดว่ามันคงจะดีถ้าพวกเขาทั้งสามได้เจอกันอีกครั้ง
ยุ่นซานคงจะต้องผิดหวัง ยุ่นฮุ้ยส่งจดหมายถึงเขาเมื่อสองสามวันก่อน โดยบอกว่าเขาไม่สามารถมาที่จักรวรรดิจิ๋นได้ในตอนนี้เพราะเรื่องสำคัญบางอย่างในนิกายจิตวิญญาณศักดิ์สิทธ์ เขาไม่สามารถว่าอะไรลูกชายของเขาได้จริงๆ เขาสูญเสียอิสรภาพไปมากหลังจากที่เขากลายเป็นศิษย์ของนิกายนั้น แต่นั่นก็คือสิ่งที่ควรจะเป็น
เมื่อยุ่นฮุ้ยไม่สามารถมากได้ เขาจึงทำได้เพียงคาดหวังกับลูกชายคนสุดท้องของเขา ถึงอย่างนั้น เขาก็ผิดหวังอีกครั้งเพราะยุ่นเฟิงไม่สามารถกลับมายังจักรวรรดิได้ในตอนนี้ ยุ่งเฟิงอยู่ใน ประเทศแห่งใหม่และประเทศนั้นยังมีการคุ้มครองที่เข้มงวดมาก ผู้คนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าหรือออกจากประเทศไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม อันที่จริง ยุ่นเฟิงก็กำลังประสบปัญหาในการส่งจดหมายฉบับนั้นเหมือนกัน เนื่องจากไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องออกจากประเทศ แม้แต่เรื่องที่เล็กน้อยที่สุด เขาต้องทำอย่างลับๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกลงโทษโดยทางการหากพวกเขารู้
ยุ่นเฟิงกล่าวในจดหมายของเขาว่าเขาไม่แน่ใจจริงๆ ว่าทำไมประเทศแห่งใหม่นี้ถึงได้เข้มงวดมาก บางทีอาจมีบางสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเกิดขึ้นในประเทศแห่งใหม่นี้ก็ได้
ยุ่นซานขมวดคิ้ว คนโตก็นิกายจิตวิญญาณศักดิ์สิทธ์ น้องคนสุดท้องก็ประเทศแห่งใหม่ แม้แต่จักรวรรดิของพวกเขา จักรวรรดิจิ๋นก็ยังตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียดเพราะเรื่องของต้นไม้เซียนวิลโลว์ ยุ่นซานกลัวถ้าผู้คนทั้งโลกรู้
เรื่องภายในหุบเขาพันภูเขา ทั้งคนบนโลกและเซียนตนนั้นจะต้องมีการเคลื่อนไหวบางอย่างแน่นอน
“คุณคะ…” หลี่จิ้งมองที่ยุ่นซานด้วยความกังวล เธอเป็นห่วงลูกชายของเธอ
ยุ่นซานยิ้มให้เธออย่างสบายใจ “ไม่ต้องเป็นห่วง ลูกๆของเราทุกคนรู้จักวิธีดูแลตัวเอง ยุ่นเฟิงก็ไม่ต่างกัน”
หลี่จิ้งไม่ได้พูดอะไร เธอหมกมุ่นอยู่กับความเป็นอยู่ที่ดีของน้องคนสุดท้องมากกว่า
“ข้าจะส่งคนของข้าไปที่ประเทศแห่งใหม่นั้นหลังจากการคัดเลือกมังกรทองสิ้นสุดลง”
ด้วยเหตุนี้ ความกังวลของหลี่จิ้งจึงลดลง
…
เป็นเวลาดึกดื่นที่ยุ่นหลิงนั่งลงและเอนกายบนหัวเตียงขณะอ่านหนังสือทางขวามือ เขาไม่ได้อยู่คนเดียวในห้องของเขาเพราะลูกสาวของเขาอยู่กับเขาและหลับไปนานแล้ว
ยุ่นเซี่ยหลับไปตอนหนึ่งทุ่มได้ แม้ว่าปกติแล้วเด็กหญิงตัวเล็กๆ จะนอนตอนสองหรือสามทุ่ม แต่ยุ่นหลิงไม่แปลกใจเลยเพราะเธออาจจะเหนื่อยกับการเล่นทั้งวันที่พวกเขาทำก่อนหน้านี้ เขาแค่ดีใจที่เธอสนุก
เขาปิดหนังสือที่เขากำลังอ่านอยู่และวางมันไว้บนโต๊ะข้างเตียง จากนั้นเขาก็นึกถึงสิ่งที่พ่อเขาบอกหลังจากรับประทานอาหารเย็น
ดูเหมือนว่าพี่ชายของเขาทั้งสองไม่สามารถมาที่จักรวรรดิเพื่อชมการคัดเลือกมังกรทองได้ ยุ่นหลิงต้องยอมรับว่าเขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับเรื่องนั้น เป็นเวลานานแล้วที่พวกเขาไม่ได้พบกัน โดยเฉพาะพี่ชายของเขายุ่นฮุ้ย
พวกเขาไม่ค่อยได้เจอกันเลยตั้งแต่เขาไปเป็นศิษย์ของ นิกายจิตวิญญาณศักดิ์สิทธ์
เขาถอนหายใจขณะที่เปลี่ยนไปนึกถึงน้องชายของเขา ยุ่นเฟิง
ไอ้น้องเวรนั่นจะไปทำอะไรแปลกๆเหมือนที่ข้าชอบทำในเมืองหลวงรึเปล่านะ…’? เขาคิดด้วยรอยยิ้มตลก น้องชายคนสุดท้องของเขามองว่าเขาเป็นแบบอย่างมากกว่าพี่ชายของเขายุ่นฮุ้ย ยุ่นเฟิงเริ่มเลียนแบบการกระทำของเขาในอดีตแต่เขาได้รับความอับอายเล็กน้อยในเมืองหลวงกลับมาแทน
ยุ่นเฟิงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ยุ่นหลิงพยายามไม่แสดงท่าทีเย่อหยิ่งเกินไปเมื่อเขาอยู่กับลูกสาวของเขา เขาไม่ต้องการให้เธอรับนิสัยที่ไม่ดีของเขาและกลายเป็นคนไม่ดีอย่างที่ตัวเขาเป็น
จากนั้นเขาก็นึกถึงการคัดเลือกมังกรทองซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ เขารอคอยมันมาหลายปีแล้ว
‘พรุ่งนี้ก็งานคัดเลือกมังกรทองแล้วเหรอ? ยังไงก็ตาม มันก็คงไม่ทำให้ข้าได้แสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาได้หรอก’
ยุ่นหลิงมองขึ้นไปบนเพดาน
ในการคัดเลือกมังกรทองในทศวรรษนี้ เขามีหลายอย่างที่ต้องจัดการ
เหลายู่ตง , มกุฎราชกุมาร, ยู่ฉาน และ ยุ่นหยี่…
“ข้ารอพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว” ยุ่นหลิงพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา ความกระหายเลือดของเขาพุ่งพล่านขึ้นแล้ว!