เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 76
บทที่ 76 วันแข่งขัน
ยุ่นหลิงยืนอยู่บนอาคารที่สูงที่สุดของตระกูลยุ่นขณะที่เขามองดูถนนรอบๆตัวเขา มีผู้คนทุกที่ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เมืองหลวงแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เคยมีนักท่องเที่ยวเต็มขนาดนี้มาก่อน แม้แต่ในการคัดเลือกมังกรทองครั้งก่อน ก็ยังมีคนไม่พลุกพล่านขนาดนี้
ผู้คนที่อยู่ด้านล่างไม่สามารถแม้แต่จะเดินอีกสองหรือสามก้าวได้อีกต่อไปเพราะพวกเขากำลังเบียดเสียดกันอย่างแน่นหนา เกือบทั้งหมดนั้นเป็นเพียงคนปกติทั่วไป ผู้ฝึกตนเช่นพวกเขาไม่ต้องเบียดเสียดเข้าไปแบบนั้นเพราะพวกเขาสามารถบินขึ้นไปในอากาศได้ โดยปกติผู้ฝึกตนจะไม่ได้รับอนุญาตให้บินเหนือเมืองหลวง ยกเว้นสำหรับวันพิเศษนี้ จักรพรรดิอนุญาตให้บินเหนือเมืองได้ เนื่องจากเป็นเรื่องยากมากที่จะเดินทางไปทั่วเมืองหลวงพร้อมกับจำนวนผู้คนบนท้องถนนที่แน่นขนัด
ยุ่นหลิงมองไปทางตะวันออก เขาเห็นฝูงบินของผู้คนสวมชุดเกราะโลหะเคลือบเต็มขณะที่พวกเขาบินมาทางเขา ยุ่นหลิงรู้จักคนเหล่านี้ พวกเขาเป็นคณะทำงานของจักรวรรดิจิ๋นที่รับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อยในจักรวรรดิ พวกเขาอาจมาที่นี่เพื่อจัดระเบียบความโกลาหลที่เกิดขึ้นด้านล่าง
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบาง หากไม่มีใครรักษาระเบียบไว้ด้านล่าง พวกเขาก็อาจจะเหยียบกันเองจนตาย บางคนอาจถึงกับเป็นลมหรือขาดน้ำเนื่องจากผู้คนด้านล่างไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มากนักและหาที่หลบแดดเพราะอากาศร้อนเกินไป โชคดีที่พระอาทิตย์ยังขึ้นไม่เต็มที่ มันเลยยังไม่ร้อนขนาดนั้น เขาทำได้แค่จินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อถึงเวลาเที่ยง
“ลูกชาย” เขาได้ยินเสียงพ่อดังมาจากข้างหลัง
เขาหันกลับมามองพ่อของเขาซึ่งสวมชุดที่เป็นทางการอยู่แล้ว
“ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกมังกรทองทุกคนต้องอยู่ในลานประลองก่อนสิบโมง อย่ารอช้า”
ยุ่นหลิงพยักหน้า “เข้าใจแล้ว ท่านพ่อ”
“เอาล่ะ”— ยุ่นซานหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า— “ทำให้ดีที่สุดนะลูก”
ยุ่นหลิงยิ้มไปพ่อของเขา
“ข้าจะทำให้ดีที่สุด”
…
ลานประลองของจักรวรรดิจิ๋นเป็นหนึ่งในอาคารที่ใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิจิ๋นทั้งหมด โดยมีความจุที่นั่งสูงสุด 200,000 คน ลานประลองแห่งนี้สร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันเมื่อกว่าห้าร้อยปีที่แล้วและยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สถานที่นี้เคยถูกใช้หลายครั้งก่อนหน้านี้เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการคัดเลือกมังกรทองและงานใหญ่ประเภทอื่นๆ ที่จะรองรับผู้คนจำนวนมากขนาดนี้
ลานประลองนี้ถูกสร้างขึ้นให้คล้ายกับอัฒจันทร์ เป็นอาคารทรงกลมเปิดโล่งที่มีพื้นที่ส่วนกลางล้อมรอบด้วยที่นั่งที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ชม นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นมังกรทองขนาดมหึมาอยู่ด้านหลังลานประลองด้วย สายตาของมันมองไปยังพื้นที่ว่างตรงกลาง ใครก็ตามที่มุ่งหน้าไปลานประลองแห่งนี้ จะถูกดึงดูดโดยรูปปั้นมังกรทันที เนื่องจากมีขนาดใหญ่และมีลักษณะที่สลับซับซ้อน
ภายในลานประลองด้านหลังเวที ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกมังกรทองส่วนใหญ่ได้รวมตัวกันแล้ว
ยู่ฉานพิงกำแพงโดยกอดอกและหลับตา เขาเป็นคนเดียวที่อยู่คนเดียวในขณะที่ผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ กำลังพูดคุยและทำความรู้จักกัน
แต่เขาไม่ทำแบบนั้น เขาพยายามเพิกเฉยต่อสายตาของคนอื่นๆที่คิดจะเข้ามาพูดคุยด้วย เขาไม่สนใจที่จะพูดคุยกับคนเหล่านี้ แต่เขาจะไม่นิ่งเฉยหากมีคนที่อยากพูดกับเขาด้วยจริงๆ มีคนเดียวที่เขาจะเริ่มต้นการสนทนาด้วยคือคนที่เขารู้จักจากก้นบึ้งของหัวใจ
ส่วนพวกที่เหลือ……
พวกเขามีคุณสมบัติไม่เพียงพอ
“โอ้? ท่านนายน้อย ยู่ฉานไม่ใช่รึ”?
ยู่ฉานลืมตาของเขาในขณะที่เขาเหลือบไปด้านข้าง เขาเห็นผู้ช่วยของยุ่นหลิงเดินเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้ม
“ยุ่นหยี่…” ยู่ฉานพึมพำ เมื่อพูดถึงคนที่เขารู้จัก ยุ่นหยี่เป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน ยุ่นหลิงและมกุฎราชกุมารก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เขารู้จักเช่นกัน
“ท่านอยู่คนเดียวหรือ นายน้อยยู่ฉาน?” ยุ่นหยี่ถามขณะที่เขาพิงกำแพงข้างๆยู่ฉาน
“อย่าเรียกข้าแบบนั้นเลย แค่เรียกชื่อข้าก็พอ” ยู่ฉานพูดกับเขา จากนั้นเขามองไปทางบางคนในกลุ่มคนและตอบว่า “สำหรับคำถามของเจ้า สมาชิกในตระกูลของข้าบางคนอยู่กับข้า และพวกเขายังเป็นหนึ่งในคู่แข่งของเรา พวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ”
“ถือว่าคนในตระกูลเป็นคู่แข่งงั้นหรือ? เย็นชาน่าดูเลยนะนายน้อย… ไม่สิ ยู่ฉาน”
ยู่ฉานพ่นลมออกมาในขณะที่เขาตอบกลับ “เจ้าเองก็เหมือนกันเหรอ? เพราะสุดท้ายเจ้าก็ต้องทำเหมือนกับยุ่นหลิงเป็นศัตรูไม่ใช่หรือ?”
ยุ่นหยี่หัวเราะสั้นๆ “เอาล่ะข้าเข้าใจท่านแล้ว”
ยู่ฉานหรี่ตาลงที่ยุ่นหยี่ ผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดที่เขาอาจต้องเผชิญในการคัดเลือกมังกรทอง สำหรับคนส่วนใหญ่ ยุ่นหยี่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก บางคนอาจจำเขาได้ว่าเป็นเพียงผู้ช่วยของยุ่นหลิง อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่เทียบเท่ากับอัจฉริยะทั้งสามคนได้
เป็นเรื่องดีที่พ่อของเขาเป็นผู้บัญชาการหน่วยของจักรวรรดิ และรู้หลายสิ่งหลายอย่างที่หลายคนไม่ค่อยรู้จัก เขารู้ว่าเขาจะต้องระมัดระวังยุ่นหยี่ สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับคนอื่นคือพวกเขาอาจดูถูกยุ่นยี่โดยที่รู้ว่ายุ่นหยี่มีฝีมือที่สูงกว่าคนเหล่านั้นมาก
หากพวกเขารู้ว่ายุ่นหยี่แข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาจะระมัดระวังอย่างยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับเขา
แต่พวกเขาไม่รู้ ดังนั้นพวกนั่นจึงทำให้พวกเขาประมาท และจะต้องพ่ายแพ้อย่างสมเพชกับการที่ดูถูกคนอย่างยุ่นหยี่
นี่แสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่ถูกต้องมีความสำคัญเพียงใด
ขณะที่ยู่ฉานและยุ่นหยี่กำลังคุยกันอยู่ พวกเขาสังเกตเห็นว่าคู่แข่งคนอื่นๆเงียบไป คนอื่นๆที่กำลังใช้พื้นที่ในโถงทางเดินหลีกทางเพื่อให้มกุฎราชกุมารสามารถเดินผ่านมาหายุ่นหยี่และยู่ฉานที่กำลังคุยกันอยู่
“มกุฎราชกุมาร” ยู่ฉานเรียกมกุฎราชกุมารซึ่งมาพร้อมกับองครักษ์ส่วนตัวทั้งสองคนของเขาในชุดเกราะโลหะสีดำเต็มรูปแบบ คนเหล่านี้เป็นองครักษ์เดียวกันกับที่เขาพามาที่งานเลี้ยง
“ยู่ฉานและ…ยุ่นหยี่” มกุฎราชกุมารเดินไปด้านข้างและพยักหน้าให้พวกเขา
“ท่านมกุฎราชกุมาร” ยุ่นยี่ทักทายและโค้งคำนับให้
มกุฎราชกุมารมองยุ่นยี่อย่างไตร่ตรอง เขารู้จักผู้ชายคนนี้ ยุ่นหยี่อาจเป็นผู้ช่วยของยุ่นหลิง แต่เขาก็แข็งแกร่งพอๆกับ ยู่ฉานและยุ่นหลิง ไม่มากก็น้อย เขาไม่สามารถดูถูกยุ่นหยี่ได้แม้ว่าจะเป็นเพียงผู้ช่วยของยุ่นหลิงก็ตาม