เมื่อผมโดนระบบครองร่าง - บทที่ 118 ว่ากันว่ามีคนต้องการฆ่าอัศวิน A
บทที่ 118 ว่ากันว่ามีคนต้องการฆ่าอัศวิน A
เมื่อเห็นโรเบิร์ตพยักหน้าแบบนั้นแล้ว เหล่ยเจวี๋ยต้งก็เอื้อมมือไปหาเขาแล้วเอ่ย “เอาล่ะ เอากระสุนที่นายจะใช้หลังจากนี้มา ฉันจะร่ายเวทมนต์ให้”
โรเบิร์ตเปิดกล่อง จากนั้นก็หยิบกระสุนแถวยาวสั่งทำพิเศษขึ้นมายื่นให้
เมื่อเห็นเช่นนี้เหล่ยเจวี๋ยต้งก็ขมวดคิ้ว “นายมีโอกาสยิงนัดเดียวเท่านั้น ขอกระสุนที่นายจะใช้ทันที”
โรเบิร์ตหยิบกระสุนหนึ่งนัดแล้วยื่นให้อีกฝ่าย ร่างของชายชราสั่นอีกครั้ง ก่อนจะหดลงอย่างรวดเร็วและกลายเป็นชายร่างกำยำ
ไม่นานไอหมอกหนาทึบก็พรั่งพรูออกมาจากร่างของชายกำยำเมื่อครู่ จากนั้นไอหมอกทั้งหมดก็พุ่งเข้าหากระสุน
หลังจากเหล่ยเจวี๋ยต้งร่ายคาถาเสร็จสิ้น เขาไม่ได้ส่งกระสุนคืนให้โรเบิร์ต แต่กลับส่งสัญญาณให้หญิงวัยกลางคนอย่างเฉียงเวยเดินเข้ามาแทน
เฉียงเวยดูลังเลเล็กน้อยไม่ได้หยิบกระสุนขึ้นมา กายของเธอกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะมีหมอกสีดำบางๆ ปรากฏ แล้วไหลเข้าไปในกระสุนเดียวกัน ร่างของเธอน้ำหนักลดฮวบอย่างรวดเร็ว ทั้งผิวก็หย่อนยานไม่น้อย
หลังจากเสร็จสิ้นเหล่ยเจวี๋ยต้งก็ส่งกระสุนให้โรเบิร์ต ก่อนจะชี้นิ้วไปทางอัศวิน A เอ่ยกระแหนะกระแหน “เอาล่ะ! ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’ เตรียมพร้อมแล้ว โรเบิร์ตยักษ์ไปเอาชีวิตสุนัขของอัศวิน A มาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
โรเบิร์ตหยิบกระสุนขึ้นมา ยืนขึ้นอีกครั้งและพูดเสียงขรึม “ตามบัญชาการครับ!”
โรเบิร์ตเป็นมืออาชีพ เขาพบตำแหน่งซุ่มยิงที่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงบรรจุกระสุนปืน
เขานอนราบเล็งไกปืนไปที่เป้าหมาย โดยมีเฉียงเวยยืนมองอยู่ข้างสนาม
เหล่ยเจวี๋ยต้งยืนอยู่ข้างโรเบิร์ตทำหน้าที่เป็นยาม สายตาจดจ้องไปทางอัศวิน A อีกครั้ง รอยยิ้มอันโหดร้ายปรากฏขึ้นตรงมุมปาก ในดวงตาฉายแววความคาดหวังทุกครั้งที่เห็นเหยื่อในภาพที่อยู่ห่างไกล ไม่มีกำลังที่จะหลบหนีกระสุนนี้ไปได้
…
เฉียวจื่อซานและพรรคพวกหารือเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการ ส่วนโม่ซิ่งถูกส่งออกไปเพื่อแจ้งข่าวแก่อัศวิน A
แต่เมื่อเขาเดินไปที่หินที่อัศวิน A นั่งขัดสมาธิ ก่อนที่จะได้เอ่ยอะไร จู่ๆ ก็ไม่มีใครอยู่ที่นั่นแล้ว
โม่ซิ่งตกตะลึง ก่อนที่เสียง ‘ปัง’ จะดังขึ้ย เขาหันขวับไปมองทันที
ห่างออกไปสองสามร้อยเมตร กลุ่มควันขนาดใหญ่ก่อตั้วขึ้นอยู่ตรงนั้น ไม่นานเศษหญ้าและสิ่งสกปรกจำนวนนับไม่ถ้วนก็ถูกโยนขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับพายุทราย
จากนั้นร่างของอัศวิน A ก็เดินออกจากพายุทรายพร้อมกับหมาดำ หมาตัวนั้นท่าทางเคร่งขรึม แต่ใบหน้ากลับดูย่ำแย่ ดวงตาของมันหวาดหวั่นอย่างยิ่ง
ก่อนที่โม่ซิ่งจะได้ตอบโต้เสียง ‘ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว’ ก็ดังตามมา
ขณะนั้นน้ำแข็งสีน้ำเงินหนาก็ปรากฏขึ้นบนศีรษะทุกคน รวมถึงอัศวิน A ที่กำลังเดินกลับมาที่นี่
ทุกคนถูกแยกออกจากกัน ยกเว้นหมาเหลืองเพียงตัวเดียวที่หลบซ่อนตัวอยู่ ดูเหมือนว่าเขายังไม่พบเป้าหมายของเจ้าหมานั่นเลยไม่สามารถเสกคาถาและปัดเป่าบัฟการป้องกันได้
อัศวิน A ลอยกลับไปที่ที่ทุกคนอยู่พร้อมกับหมาดำอย่างรวดเร็ว
“ท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณ ท่านรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” เฉียวจื่อเจียงรีบถาม
ในเวลาเดียวกันกับที่เฉียวจื่อซานเอ่ยถาม ฟางหนิงซึ่งกำลังหดตัวอยู่ในพื้นที่ของระบบ กำลังตรวจสอบข้อความแจ้งเตือนของระบบอยู่เช่นกัย
ทุกครั้งที่เขาเข้าไปในสนามรบ ร่างโอตาคุจะเวียนหัว ถ้าเขาควบคุมร่างกายของเขาตัวเองโดยไม่มีระบบคอยช่วยเหลือเขาคงจะโดนยิงจนพรุนไปตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว
การที่เขาต้องตรวจสอบการแจ้งเตือนของระบบทุกครั้งก็เพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างการต่อสู้ดุเดือดเหล่านั้นบ้าง คราวนี้ก็เหมือนกัน
ระบบแจ้ง มือปืนต้าเว่ยโรเบิร์ตโจมตีหมาดำไป๋หลี่ด้วย ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’!
โรเบิร์ตได้รับการสนับสนุนมากมาย
เปิดโหมด ‘เนตรอเวจี’ เพื่อเพิ่มการมองเห็นเป็นสิบเท่า
‘กระสุนเดียว’ การโจมตีประเภทกระสุน ครั้งต่อไปจะโจมตีเป้าหมายที่ล็อคไว้ในปัจจุบันของผู้โจมตีได้อย่างแม่นยำ
‘ไร้เสียงไร้เงา’ หนึ่งวินาทีก่อนจะโจมตีเป้าหมาย คนที่ถูกล็อคเอาไว้อาจรับรู้ถึงอันตรายถึงชีวิตและมีโอกาสป้องกัน
‘สัมผัสมัจจุราช’ หลังจากโจมตีเป้าหมายแล้ว หากเป้าหมายไม่มีการป้องกันพิเศษจะถูกสังหารในทันที
‘จู่โจมทำลายเกราะ’ หลังจากการสังหารในทันทีล้มเหลว จะสามารถละเกราะป้องกันของคู่ต่อสู้ได้
‘ระเบิดรุนแรง’ สร้างความเสียหายสองเท่าให้กับเป้าหมาย
หมาดำไป๋หลี่กลายเป็นเป้าหมาย แผนที่ระบบใกล้เคียงถูกเปิดชั่วคราวและเปิดโหมด ‘ช่วยเหลือพันลี้’
ระบบใช้ศีลธรรมอันน้อยนิดที่มีเข้าช่วยหมาดำไป๋หลี่ให้ทันเวลา
ระบบใช้พลังปราณห้าช่องและสล็อตความโกรธห้าช่องเพื่อเปิดการใช้งานการป้องกัน ‘การป้องกันร่างธรรม’
‘ลมปราณคุ้มร่าง’ พัฒนาชั่วคราวเป็น ‘ปราณแท้คุ้มร่าง’ ตอบโต้การโจมตี!
โรเบิร์ตถูกโจมตีด้วยพลังปราณ!
โรเบิร์ตต่อต้านพลังปราณ!
โรเบิร์ตไม่ได้รับบาดเจ็บ
ฟางหนิงอ่านข้อความทั้งหมด ก่อนจะพบว่าครั้งนี้มีข้อสงสัยมากมาย เขารู้สึกอึดอัดมาก ในการต่อสู้เขากลายเป็นคนขี้ขลาดงั้นเหรอ?
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตั้งคำถามกับระบบ เขาต้องรอให้ระบบรับมือกับเฉียวจื่อซานละคนอื่นๆ ก่อน
หลังจากที่เฉียวจื่อซานถามคำถาม สายตาของทุกคนก็เพ่งไปที่อัศวิน A เพื่อรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
อัศวิน A “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่มีคนแอบซุ่มดูเราจากที่ไกลๆ”
เมื่อเฉียวจื่อเจียงได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เธอรีบตะโกนว่า “ป้าไห่ เพิ่มการป้องกันเป็นสามชั้นให้แต่ละคน”
ทันใดนั้น ‘ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว’ ชั้นน้ำแข็งสีน้ำเงินบนร่างของทุกคนก็หนาขึ้น
จากนั้นเฉียวจื่อเจียงก็สั่งไห่เฉิงที่อยู่ข้างๆ “ลุงเฉิง ตรวจสอบสถานการณ์ตอนนี้โดยด่วน”
ไห่เฉิงไม่ลังเล เปิดโหมด ‘เนตรสีชาด’ ทันที ดวงตาสีเลือดตรงหว่างคิ้วพลันปรากฏขึ้น แสงสีน้ำเงินกวาดไปยังสถานที่ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร
มีเพียงแสงสีน้ำเงินเท่านั้นที่กวาดออกไป ใบหน้าของไห่เฉิงตื่นตกใจ น้ำเสียงของเขาร้อนรน “เกิดปัญหาใหญ่แล้ว นั่นมัน ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’! รีบซ่อนเร็ว!”
พูดจบเขาก็รีบหลบ คว้าโม่ซิ่งที่อยู่ไม่ไกล แล้ววิ่งไปทางด้านหลังของหิน
ทุกคนอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ทุกคนซ่อนตัวเดี๋ยวนี้!” เป็นเฉียวจื่อเจียงที่พูดขึ้น
แม้ว่าเฉียวจื่อซานจะเป็นหัวหน้าทีมและติงเซียงจะเป็นรองหัวหน้าทีม แต่ในฐานะผู้บัญชาการสนามรบเธอก็มักได้รับฉายา ‘หญิงฉลาดเฉลียว’ อยู่เสมอ
ทันทีที่ได้ยิน ทุกคนก็ไม่ลังเลอีกต่อไป รีบลดตัวลงต่ำมองไปรอบๆ เพื่อหาที่หลบ
อัศวิน A ไม่สนใจเรื่องนี้ แต่หลังจากเขาวางหมาดำลงแล้ว ก็หายตัวไปทันที…
…………
“แกอยากตายหรือไง?!” เหล่ยเจวี๋ยต้งเตะโรเบิร์ตที่กำลังนอนคว่ำอยู่ อีกฝ่ายกระเด็นออกไปสองสามเมตร ก่อนจะอัดกระแทกเข้ากับก้อนหินจนอาเจียนออกมาเป็นเลือด
“ท่านครับ อย่าฆ่าผมเลย” โรเบิร์ตอ้อนวอน “พวกมันแข็งแกร่งมาก ฆ่าไม่ตาย ผมเป็นแค่คนธรรมดา ได้โปรดอย่าโทษผมเลย ผมก็ทำตามความต้องการของคุณแล้วไง ลอบโจมตีเป้าหมายน่ะ”
“ทำตามที่ฉันต้องการบ้านแกสิ!” เหล่ยเจวี๋ยต้งโกรธมากเดินไปยกคอเสื้อเขาขึ้น แล้วตะคอก “ฉันให้แกไปเอาชีวิตหมาของอัศวิน A! แกลอบยิงหมาสีดำของเขาทำไม? บอกมานะ แกเป็นสายลับที่แฝงตัวมาจากสหพันธ์นานาชาติใช่ไหม?”
ดวงตาของโรเบิร์ตเต็มไปด้วยหวาดกลัว “ผมไม่รู้ว่าคุณหมายถึงอะไร ผมทำตามคำสั่งคุณแล้ว คุณไม่ได้เน้นย้ำว่าหมาดำตัวนั้นเป็นหมาของอัศวิน A นี่? ผมก็เลยปลิดชีพหมาของอัศวิน A”
เหล่ยเจวี๋ยต้งหายใจฮึดฮัด สีแปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึง “สอบผ่านภาษาจีนสากลระดับห้างั้นเหรอ! แอนเดอร์สัน ไอ้โง่เอ้ย! แกไอ้โรเบิร์ต ฉันจะฆ่าแกเดี๋ยวนี้แหละ!”
“เดี๋ยว!” ขณะที่เหล่ยเจวี๋ยต้งกำลังจะโยนโรเบิร์ตชายหนุ่มผิวขาวลงจากยอดเขา จู่ๆ ชายชราอีกคนก็เอ่ยขึ้น “วางโรเบิร์ตลง ฉันเพิ่งดูผลกระทบของการลอบยิงมา อัศวิน A ช่างน่ากลัว เขาปกป้องหมาดำสุดฤทธิ์ ไม่ได้หลีกเลี่ยงการถูกลอบสังหารแต่กลับต่อต้านตรงๆ เลยช่วยชีวิตได้หวุดหวิด ฉันประเมินเขาต่ำไปจริงๆ โรเบิร์ต ไม่อยากจะเชื่อว่านายเก่งขนาดนี้ ทำได้ดีมาก! ถ้านายกำหนดเป้าหมายโดยตรงและโจมตีอัศวิน A มันก็จะไร้ประโยชน์ แต่การจู่โจมสุนัขปีศาจของเขาซึ่งกำลังลดลงอย่างมากนั้นได้ผลดีกว่ามาก อย่างน้อยตอนนี้มันก็บังคับให้เขาใช้พลังงานมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่าการชะลอเวลา”
เหล่ยเจวี๋ยต้งไม่คิดว่าโรเบิร์ตจะประสบความสำเร็จ เขาอับอายมากแต่แทนที่จะขอโทษ เขากลับโยนร่างโรเบิร์ตลงบนก้อนหินอย่างรุนแรง
โรเบิร์ตอดทนต่อความเจ็บปวด ไม่พูดอะไร เพียงเช็ดเลือดแล้วลุกขึ้นทันที ก่อนจะวิ่งไปยังตำแหน่งซุ่มยิงและเตรียมที่จะแยกชิ้นส่วนปืนสไนเปอร์เพื่อบรรจุลงในกล่อง
ด้วยรู้ว่ามีโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะยิงได้ เขาจะเดินหน้าต่อไปอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจะไม่เสียเวลาแม้แต่นิดเดียว
“มาแล้ว เขามาเร็วอะไรอย่างนี้!” ผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆ เมื่อสิ้นเสียงของชายชราที่สีหน้าย่ำแย่ก็คว้าตัวโรเบิร์ต ทั้งสองคนถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ ก่อนที่พวกเขาก็หายตัวไปในทันที
ยังไม่ทันที่เหล่ยเจวี๋ยต้งและเฉียงเวยจะตอบสนอง หลังจากมึนงงเล็กน้อย พวกเขาก็เห็นมังกรพิโรธสองตัวโพยพุ่งออกมาจากด้านบนของภูเขาและชนเข้ากับพวกเขาทันที
การแสดงออกของเหล่ยเจวี๋ยต้งเปลี่ยนไปฉับพลัน จากนั้นเขาก็พูดอย่างไม่เชื่อ “นี่มันเป็นไปไม่ได้! ฉันฆ่าคนที่แข็งแกร่งมานักต่อนัก ล้วนมีเวลาเหลือเฟือที่จะหลบหนี ฉันจะตายที่นี่ได้ยังไง?”
ไม่นานหลังจากพูดจบ ร่างกายของเขาก็ระเบิด ‘ตู้ม’ เลือดเนื้อกระจัดกระจาย
เฉียงเวยตื่นตกใจ มือทาบอก ในใจพลางรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคร้ายนัก
เธอรู้ว่าทักษะทั้งหมดของเธอคือการอำพรางและตอนนี้ความแข็งแกร่งของเธอก็ลดลงอย่างมาก ซึ่งแย่กว่าเหล่ยเจวี๋ยต้งหลายเท่า อีกฝ่ายตายอย่างอนาจขนาดนี้ เธอจะสามารถต้านทานได้กี่วินาทีกัน?
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอครุ่นคิดเสร็จก็พบว่าตัวเองเริ่ม ‘อาเจียน’ ออกมาเป็นเลือด ขณะที่กำลังงุนงงอยู่นั้น ร่างของเฉียงเวยก็ล้มลงบนพื้นไม่ขยับเขยื้อนแล้ว
ในตอนนั้นอัศวิน A ก็ปรากฏตัวขึ้นบนยอดเขา เขามองไปรอบๆ แล้วเอนตัวไปยกสองสิ่งขึ้นมาก่อนจะลอยออกไป
…………
เส้นทางผ่านภูเขาเวลานี้ลึกลับมาก หมาเหลืองเซวียปากำลังนั่งหมอบอยู่ท่ามกลางก้อนหินหลายก้อน ทั้งหมาดำไป๋หลี่เองก็นั่งหมอบอยู่ข้างๆ
หมาสองตัวกำลังฟังไห่เฉิงพูดคุยกับเฉียวจื่อซานและคนอื่นๆ อย่างพินิจพิเคราะห์ว่าอะไรคือ ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’
“สไนเปอร์ซุ่มยิง’ ที่ฉันพูดถึงนั้น จากที่หน่วยข่าวกรองแบ่งปันร่วมกับเรานั้น มันเป็นคำเตือนระดับสีแดงและเป็นความลับสุดยอด ตามข้อมูลมันถูกสร้างขึ้นโดยชายชั่วร้ายสามคนที่เชี่ยวชาญด้านกลิ่นอายแห่งความตายจากเหม่ยโจว สามารถใช้เอฟเฟกต์เวทมนตร์ที่น่าสะพรึงกลัวกับพลซุ่มยิง โดยสามารถเปิดการโจมตีระยะไกลพิเศษ ซึ่งระยะการโจมตีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคืออย่างน้อยยี่สิบกิโลเมตร วิธีการลอบโจมตีแบบนี้ทรงพลังมากและออกแบบมาเพื่อฆ่ายอดฝีมือโดยเฉพาะ แต่ต่างจากขีปนาวุธอะไรพวกนั้น มันเงียบและไม่สามารถตรวจจับได้ คนที่ถูกล็อคเป้าไว้จะไม่สามารถรับรู้ถึงการคุกคามของความตายล่วงหน้าและทุกการยิงจะแแม่นยำเสมอ เนื่องจากมันถูกปล่อยออกไปในระยะทางที่ไกลมาก ก่อนที่คู่ต่อสู้จะพยายามค้นหาว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน จนถึงตอนนั้นพวกเขาก็จากไปไกลแล้ว หลักการเฉพาะของ ‘ปืนสไนเปอร์ไรเฟิล’ ยังไม่ได้รับการสำรวจอย่างแน่ชัด ทั้งนี้สำนักงานสหพันธ์นานาชาติให้รางวัลสูงถึงร้อยล้านเหรียญสหรัฐสำหรับข้อมูลของมัน แน่นอนว่ามูลค่าที่แท้จริงของมันสูงกว่านี้มาก แต่ถึงจะมีคนรู้ พวกเขาก็คงจะไม่มอบมันให้เพื่อรางวัลหรอก…”
ทุกครั้งที่เขาพูดใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป ที่แท้การที่มังกรแห่งจิตวิญญาณผู้นั้นบอกไม่ใช่เรื่องใหญ่ นั่นเป็นเพราะศัตรูพวกนั้นเป็นเนื้อหนังและเลือดของมนุษย์นี่เอง
……………………………………..