เมื่อผมโดนระบบครองร่าง - บทที่ 158 ไม่จำเป็นต้องปรึกษาหารือ
บทที่ 158 ไม่จำเป็นต้องปรึกษาหารือ
ณ ป่าแห่งหนึ่งในดินแดนมรดก มนุษย์กับกิ้งก่ากำลังไล่ติดตามงูจงอางกับกิ้งก่าที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา
เพราะความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้นั้นสูงกว่าฝ่ายตนเองมาก อัศวิน A จึงไม่ได้ไล่ตามกระชั้นเกินไป เพียงแต่ตามจากระยะไกลเพื่อรอโอกาสที่เหมาะสม
กระทั่งงูจงอางและกิ้งก่าปีนออกมาจากป่าและเข้าไปในพื้นที่เนินเขาอีกแห่ง ฟางหนิงพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้มุ่งหน้าไปยังค่ายในหุบเขา หากแต่กำลังเลื้อยมุ่งไปทางอื่น…
…
งูและกิ้งก่าที่อยู่ข้างหน้าแอบส่งเสียงพูดคุยกันถึงแผนการของพวกเขา
กิ้งก่าป่า “ท่านเชส ทำไมเราไม่ตรงไปที่ค่ายในหุบเขาล่ะ ด้วยพลังแห่งเวทของข้า ไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากใครทั้งนั้น”
มันคิดง่ายเกินไป ถ้าหากมีคนเพิ่มมาอีกคน ในอนาคตจะมีคู่ต่อสู้ที่ชาวเทียนจู๋บูชาเพิ่มอีกไม่ใช่หรือ พลังจิตมนุษย์ โดยปกติแล้วคนยิ่งน้อยยิ่งดี สถานการณ์ที่ดีที่สุดคือเมื่อประสบความสำเร็จแล้ว เชสก็ตายด้วยน้ำมือของชาวเสินโจว…
เชส”ไม่ได้ มีมังกรเพลิงอยู่ที่นั่น มันมีวิธีที่จะทำลายความสามารถในการสั่งการฝูงสัตว์ปีศาจของข้า มันยังสามารถควบคุมชาวเสินโจวให้โจมตีด้วยชุดกระบวนท่า ขอบเขตการโจมตีกว้างไกลและทรงพลังสูงมาก ถ้าข้ารับการโจมตีตรงๆ ก็คงจะบาดเจ็บเหมือนกัน หากเจ้าร่ายเวทเพื่อช่วยก็ไม่มีทางหลบหลีกพ้น มีแต่จะถูกกระบวนท่านั้นเท่านั้น เกรงว่าเจ้าจะต้องตายคาที่”
กิ้งก่าป่าตกตะลึงพรึงเพริดเมื่อได้ยินคำพูดของเชส มันเองก็เคยได้ฟังมาว่าเชสทรงพลัง วิธีการลงมือโหดเหี้ยมและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายพูดอย่างนั้น แน่นอนว่าไม่ได้พูดเพื่อให้มันกลัวอย่างแน่นอน
มันจึงรีบเอ่ยถาม “ท่านทราบหรือไม่ว่านั่นคือกระบวนท่าอะไร เราจะทำลายมันได้ยังไง”
ดวงตาอสรพิษเย็นชาของเชสที่มองกิ้งก่าป่าสะท้อนแววเจ้าเล่ห์แล้วเปล่งเสียงแหบพร่า “พวกเขาเรียกกระบวนท่านั้น ‘กระบี่สวรรค์พิฆาตศัตรู’ หลังจากที่ข้าสังเกตมันในตอนนั้นก็คิดวิธีการทำลายออกแล้ว ไม่ต้องมัวแต่ถามมาก แค่ปีนตามข้ามาก็พอ ถึงตอนนั้นเจ้าจะรู้วิธีทำลาย…”
งูจงอางเจ้าเล่ห์ตัวนี้ย่อมคิดไม่ถึงชื่อกระบวนท่า ‘กระบี่สวรรค์พิฆาตศัตรู’ อะไรทำนองนี้ มันเป็นเพียงชื่อที่ระบบแต่งชื่อมั่วๆ ออกไป ชื่อที่แท้จริงของกระบวนท่าจะปรากฏเฉพาะในการแจ้งเตือนของระบบเท่านั้น
กิ้งก่าป่าชมเชย “นึกไม่ถึงมีมังกรโง่เขลาที่พูดชื่อกระบวนท่าที่ตนเองใช้ มิน่าท่านถึงคิดหาวิธีทำลายมันได้ในเวลานั้น”
เมื่อเชสได้ฟัง แววตาของมันมีรอยยิ้มที่น่าสยดสยองแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เห็นเพียงจุดดำเล็กๆ กำลังวนเวียนบนท้องฟ้าสูงลิบในเวลานี้…
…
ในเวลาเดียวกัน ที่ตั้งของค่ายกลางหุบเขา
พื้นที่ราบในหุบเขาแห่งหนึ่งที่ไกลออกไปจากค่าย ตลาดปะปนกันทั้งปีศาจและมนุษย์
ไม่มีสัตว์ปีศาจที่ดุร้ายปิดล้อมเมืองเป็นเวลาหลายวัน ในหุบเขาก็เงียบสงบลงอีกครั้ง
เผ่าปีศาจหลายเผ่าที่คุ้นเคยกับการแลกเปลี่ยนกับชาวเสินโจวเป็นประจำ เมื่อการสู้รบจบลง พวกมันก็กล้ามากขึ้นที่จะออกมาค้าขาย
พวกมันได้ยินเรื่องสงครามที่เพิ่งจะเกิดขึ้นแล้ว
พันธมิตรเสินโจวเพิ่งถูกงูจงอางที่ดุร้ายตัวนั้นพาฝูงสัตว์ปีศาจขับไล่ออกจากบ้านเดิม ขณะนี้พวกเขากำลังตั้งค่ายใหม่กลางป่า และแน่นอนว่าพวกเขาต้องการข้าวของทุกชนิดอย่างเร่งด่วน อาหารและยารักษาโรคสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
แม้ว่าสถานที่ภายนอกจะคับแคบ แต่ปราณกำเนิดหนาแน่น ต้นไม้เขียวชอุ่มเติบโตอย่างรวเร็ว
ไม่รู้ว่าปัจจัยสำคัญคืออะไร เผ่าพันธุ์สัตว์ปีศาจแต่ละเผ่าถึงมีจำนวนที่แน่นอน ไม่สามารถเติบโตต่อไปได้ ดังนั้นอาหารและยารักษาโรคที่สะสมเอาไว้จึงมีเพียงพอ แต่ละปีเน่าเสียเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ไม่เกิดสงครามระหว่างเผ่า มีแต่ความสงบสุขเรื่อยมา
ชาวเสินโจวถึงได้สามารถบุกเบิกที่นี่ได้สงบสุขมั่นคงมาสิบกว่าปี จนกระทั่งชาวเทียนจู๋เข้ามาทำลายสมดุลนี้
ผู้อาวุโสสามคนแห่งสำนักงานสัจธรรมไม่ได้ห้ามให้เปิดตลาดนัดตามปกติ
มังกรแท้บอกว่าอนาคตอาจเป็นสงครามยืดเยื้อ ตอนนีเสบียงจากโลกภายนอกตัดขาด หากสามารถหาเสบียงได้จากในพื้นที่ของตนเองก็ต้องหาไว้ให้มากหน่อย
ช่วงนี้อากาศแจ่มใส โดรนบินลาดตระเวนทุกหนแห่ง หากมีอันตรายเกิดขึ้นสามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าได้
เมื่อการรวมตัวของสัตว์ปีศาจเพิ่มขึ้น ตลาดก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา
หลังจากนั้นไม่นาน วานรหางขาวตัวใหญ่ก็นำกลุ่มวานรหางขาวทั้งแก่และเด็กเดินมาที่ใจกลางตลาดบนหัว ทุกตัวเทินตะกร้าใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยผลไม้และผักนานาชนิด
“เผ่าวานรหางขาวมาแล้ว” สัตว์ปีศาจกลุ่มหนึ่งมองดูฝูงลิงอย่างอิจฉา อีกฝ่ายเป็นหนึ่งในสี่กลุ่มสัตว์ปีศาจใหญ่ในดินแดนมรดก ประชากรสัตว์ปีศาจมากมายและมีอาณาเขตกว้างใหญ่ นำของออกขายได้มากกว่าและร่ำรวยกว่าพวกมัน …
สมาชิกชุดดำที่รับผิดชอบการค้าขายมาเพื่อรับอาหารที่ลิงกลุ่มนี้นำมาขาย
เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นกลุ่มสัตว์ปีศาจที่เป็นมิตรกับคนเสินโจวมากที่สุด สมาชิกชุดดำจึงจริงใจกับพวกมันมาก
แต่สมาชิกชุดดำยังต้องทำตามหน้าที่ตรวจสอบโดยละเอียด เมื่อพบว่าอาหารที่นำมาขายให้นั้นไม่มีปัญหา ทั้งหมดสดใหม่คุณภาพดี
พวกเขาจึงเรียกเจ้าหน้าที่หยิบผักผลไม้จากตะกร้าลงในรถเข็นแล้วเข็นออกไป
สมาชิกบางคนก็เข็นรถเข็นเข้ามา และในไม่ช้าตะกร้าที่ว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยของเล่นและหนังสือสีสันสดใส
ไม่นานนักลิงน้อยก็เล่นของเล่นต่างๆ พวกสัตว์ปีศาจตัวน้อยต่างพากันอิจฉา
ลิงผู้ใหญ่บางตัวกอดหนังสือเริ่มอ่าน หนังสือพิมพ์ชื่อ ‘XXXXXXX’ ได้ยินวางจำหน่ายแล้วและอัปเดท 50 กว่าบท กำลังอยากจะอ่านตอนใหม่ๆ
…
อัศวิน A ไล่ตามงูจงอางมาเกือบครึ่งวันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือโจมตี กิ้งก่าหินติดตามอยู่ข้างหลังเขาโดยไม่บ่นอะไรสักคำ
ฟางหนิงที่อยู่ในพื้นที่ระบบถามอย่างสงสัย “ระบบ แกยังไม่เริ่มต่อสู้อีกเหรอ ยังจะรออะไรอีก”
ระบบ “ฉันกำลังรอให้มันไปถึงที่เหมาะสม ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันรู้สึกได้ว่างูจงอางตัวนั้นดูเหมือนจะระวังตัวอยู่ โฮสต์ดูเส้นทางที่มันเลื้อยไปสิ มีแต่ป่า ภูเขาและโขดหิน โจมตีจากท้องฟ้าไม่ได้ โจมตีบนพื้นดินก็ไม่ง่ายเลย”
ฟางหนิง “ในเมื่อมันรู้แล้วว่าเรากำลังติดตามมัน มันแข็งแกร่งขนาดนั้น ทำไมมันไม่ย้อนกลับมาสังหารพวกเราเลยล่ะ”
ระบบ “แน่นอน เพราะมันตามเราไม่ทัน ตอนที่ฉันกวาดล้างฐานวัตถุดิบยาก่อนหน้านี้ ฉันค้นพบข้อบกพร่องร้ายแรงของมัน ความเร็วของมันช้ากว่านกอินทรีตัวนั้นมาก อย่าว่าแต่มาเทียบกับเราเลย ความเร็วสูงสุดของมันเทียบเท่ากับความเร็วของมอเตอร์ไซค์ ตอนนี้ฉันต้องการหาสถานที่เหมาะสม โจมตีมันจากระยะไกลและปล่อยให้นกอินทรีและกิ้งก่าหินคอยช่วยรอบนอกแบบนี้จะดีกว่า มันมีข้อบกพร่องร้ายแรงด้านความเร็ว ฉันแค่เล่นเฉพาะการโจมตีระยะไกล ‘อัศวินหนังสือบิน’ ก็ไม่ต้องกลัวมัน”
เมื่อเห็นว่ายังไม่มีสงครามใหญ่และไม่รู้ว่าจะมีข่าวอีกเมื่อไหร่ ฟางหนิงก็คิดจะแอบขี้เกียจอีกแล้ว…
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ควรจะเล่น เขาจึงพูดคุยสัพเพเหระกับระบบ
ฟางหนิง “เมื่อแกพูดถึงความเร็ว ฉันนึกขึ้นมาได้ว่าคนที่เร็วที่สุดที่เรารู้จักคงจะเป็นเซวียเฟิง คราวก่อนเขาใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงพาเราไปที่เกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก บางทีหนึ่งชั่วโมงจะไปได้เกินหนึ่งหมื่นกิโลเมตร เกรงว่าจะมีเพียงจรวดที่ใช้ปล่อยยานอวกาศเท่านั้นที่จะเร็วกว่าเขา นั่นคือเจ็ดกิโลเมตรต่อวินาทีหรือเร็วกว่า และสามารถบินได้หลายหมื่นกิโลเมตรภายในหนึ่งชั่วโมง”
ระบบ “อ้อ นั่นไม่ใช่ความสามารถของตัวเขาเอง เขาใช้ ‘วิชาควบคุมกระบี่’ ที่จริงแล้วเขาเป็นนักบิน คราวที่แล้วโฮสต์ขอให้ระบบเรียน ‘วิชาควบคุมกระบี่’ แต่ฉันเรียนไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร และยังต้องการกระบี่ที่เจ๋งเหมือนกัน เราทำกระบี่ของเซวียเฟิงหลายครั้งจนเข้าใจทะลุปรุโปร่งแล้ว
“มันถูกแกะสลักด้วยรูปแบบที่วิจิตรงดงาม และวัสดุที่ใช้ก็หายากมากเช่นกัน สำนักงานสัจธรรมคงจะต้องใช้ทรัพยากรมนุษย์และเงินนับไม่ถ้วนในการวิจัยและผลิตมันขึ้นมา มิฉะนั้นมันก็จะไม่ใช่แค่ของเขาคนเดียวเท่านั้น”
ฟางหนิงคิดๆ แล้วพยักหน้า “อย่างนี้นี่เอง ครั้งหน้าลองถามสำนักงานสัจธรรมดูหน่อยจะทำให้เราได้ไหม ถึงยังไงสิ่งที่แกมีก็คือเงิน มีเงินแล้วก็ไม่จำเป็นต้องคอยเรียกคนมาช่วย ฉันรู้สึกเกรงใจที่เรียกเขาบ่อยๆ…
ระบบ “อันที่จริงฉันจนมากนะ ทำไม่ได้หรอก… หรือว่าถึงตอนนั้นโฮสต์ให้ฉันยืมเงินหน่อยได้ไหม”
ฟางหนิงรู้สึกว่าเขาคงหูแว่วไปจึงถามว่า “แกพูดอะไร ระบบ แกเป็นมหาเศรษฐีพันล้านแล้วยังจะขอยืมเงินจากคนจนอย่างฉันอีกเหรอ”
ระบบ “ใช่แล้ว ตอนนี้โฮสต์จนมาก แต่ในอนาคตโฮสต์อาจจะรวยกว่าระบบก็ได้… เกม ‘Beasts Fighting for Heroes’ ออกโหมดเกมพลังจิตมาแล้ว ตอนที่โฮสต์ดูแล ‘เรือนจำพลังมังกร’ ผู้ต้องขังจะทำเงินได้มากมายในไม่ช้า ตอนนี้ใช้เวลาช่วงหนึ่งเพื่อจบเกมนี้ สัตว์ประหลาดในเกมได้ถูกสร้างใหม่ หลังจากนั้นค่อยเข้ามาฆ่าสัตว์ประหลาดอีกรอบ
“หลังจากออกไปจากที่นี่ วัตถุดิบยาปราณกำเนิดราคาถูกควรจะวางขายในตลาด ปราณกำเนิดเร่งการเติบโตให้เร็วขึ้น สองสามเดือนก็เก็บเกี่ยวยาสมุนไพรจีนได้เยอะแยะ ระบบจะกลั่นยาเม็ดขยะให้กับพวกเขา คนน้อยขนาดนั้นคงจะเสียพลังไปไม่มาก”
ฟางหนิงรู้สึกได้ใจมาก “ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าแกที่สนใจแต่เงินก็เห็นภาพการหาเงินจากในเกมนั้นด้วยเหรอ เมื่อก่อนเคยหัวเราะเยาะฉันทุกวันเวลาฉันเล่นจนไม่ลืมหูลืมตา…”
ระบบ “ตอนนี้ฉันจะไม่หัวเราะเยาะคุณแล้ว ตอนที่หลงฟานคุยกับคุณ ฉันได้ยินชัดเจน ‘การแข่งขันหุ่นยนต์พลังจิต’ ที่เขาพูดถึงจะเปิดตัวอีกสามเดือนจากนี้ ถ้าเปิดตัวแล้วจะทำเงินได้มากขึ้นแน่นอน ฉันเคยแข่งขันเกมจัดอันดับมืดและรู้แล้วว่ามนุษย์อย่างพวกคุณชอบการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขนาดไหน… คุณอย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องสิ ฉันจะถามว่าถึงตอนนั้นคุณจะให้ยืมเงินไหม”
ฟางหนิงไตร่ตรอง “อ๋อ ถ้าอย่างนั้นฉันต้องปรึกษากับภรรยาก่อนนะ”
ระบบงงงวย “เอ๊ะ โฮสต์ คุณไม่เคยมีภรรยาไม่ใช่เหรอ”
ฟางหนิง “ใช่ไง ถึงไม่ต้องปรึกษา…”
ระบบ “…โฮสต์ต้องการใช้โอากาสที่ตนเองแต่งงานก่อนแล้วค่อยมาตกลงกับระบบงั้นเหรอ แบบนั้นเป็นไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นเมื่อถึงเวลาระบบจะแอบโอนเงินของโฮสต์ ถึงยังไงฉันเป็นคนจับนักโทษพวกนั้นก็ต้องได้ส่วนแบ่งบ้าง…”
ฟางหนิงรู้สึกเหมือนถูกกระแทกอย่างแรงและล้มลงกับพื้น “แกเป็นระบบที่ไร้ยางอายขนาดนี้ได้อย่างไร เห็นๆ กันอยู่ว่าก่อนหน้านี้คุยกันดิบดีแล้ว ก่อนหน้านี้แกพูดว่า ‘แน่นอนว่าเงินที่โฮสต์หาได้จากเกมนั้นเป็นเงินของโฮสต์เอง ฉันเป็นระบบอัศวินไม่ยุ่งแน่นอน’… อัศวินผู้ยิ่งใหญ่อย่างแก ‘รับปากแล้วมีค่าดั่งทองพันช่าง’ คำพูดนี้หายไปไหนแล้ว แกไม่กลัวว่านิสัยที่กล้าหาญและยุติธรรมของแกจะเสื่อมเสียหรือไง”
ระบบ “เอ๊ะ โฮสต์จำแม่นขนาดนั้นเลย… น่าเสียดาย ฉันคิดว่าคุณลืมมันไปนานแล้ว…”
ฟางหนิงพูดไม่ออก “ฉันไม่มีทางลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ … เดี๋ยวก่อน เรื่องยืมเงินเราค่อยคุยกันทีหลัง ทำไมการแจ้งเตือนของระบบนี้ดูแปลกๆ”
การแจ้งเตือนของระบบ (หลิว X สมาชิกชุดดำอิจฉาระบบมากจนรู้สึกโกรธ และความโกรธของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลิวX สมาชิกชุดดำ รู้สึกละอายใจต่อระบบอย่างยิ่ง และความโกรธของเขาที่มีต่อระบบก็หายไป
หวางXX สมาชิกชุดดำ รู้สึกอิจฉาระบบมากจนรู้สึกโกรธ และความโกรธของเขาก็เพิ่มขึ้น
หวางXX สมาชิกชุดดำ รู้สึกละอายใจต่อระบบมาก และความโกรธของเขาที่มีต่อระบบก็หายไป……)
การแจ้งเตือนของระบบที่คล้ายคลึงกันปรากฏขึ้นบนหน้าจออย่างต่อเนื่อง
ระบบ “เกิดอะไรขึ้น”
ฟางหนิงขมวดคิ้วพลันร้องออกมา “แย่แล้ว พวกเราถูกเจ้างูจงอางนั่นใช้อุบายเพื่อโจมตีเรา! รีบกลับไปที่ค่ายในหุบเขา หากเป็นไปตามที่คาดไว้ ฉันเกรงว่าคืนนี้มันจะกลับมา”
ระบบ “ฉันไม่เข้าใจโฮสต์พูดอะไร แต่รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ งั้นเรากลับกันเถอะ”
อัศวิน A เลิกติดตามแล้วกำชับกับกิ้งก่าหินสั้นๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายรีบหนีไปจากที่นี่
เขากระโดดขึ้นไปในอากาศ มังกรเพลิงปรากฏขึ้นในอากาศแล้วเร่งความเร็วบินไปยังค่ายในหุบเขา
……………………………………………………………..