เมื่อผมโดนระบบครองร่าง - บทที่ 30 โฮสต์ แพ็กเกจทูอินวันที่โฮสต์กลัวมาแล้ว
หลังจากประธานจ้าวส่งฟางหนิงถึงบ้านแล้ว ฟางหนิงก็เชื้อเชิญเขาขึ้นไปนั่งดื่มอะไรในบ้านก่อน
ประธานจ้าวปฏิเสธอย่างสุภาพ เขาบอกว่าฟางหนิงเพิ่งออกจากโรงพยาบาล อยากให้ฟางหนิงได้พักผ่อน เพราะฉะนั้นจะไม่ขึ้นไปรบกวน และถ้ามีเวลาจะมาเยี่ยมในภายหลัง
เมื่อโอตาคุอย่างฟางหนิงได้ยินที่ประธานจ้าวพูด ก็เพียงแค่ยืนส่งเขาที่ข้างทางเท้า จากนั้นมองดูอีกฝ่ายขับรถออกไป ถ้าเป็นคนอื่นที่มีทักษะการสื่อสารดีเยี่ยมล่ะก็ เขาจะต้องคะยั้นคะยอลากประธานจ้าวขึ้นไปดื่มชาสักแก้วและนั่งคุยเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการลงทุน เรียนรู้ประสบการณ์จากผู้อาวุโสในแวดวงนี้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแน่นอน
รถโรลส์-รอยซ์ค่อยๆ แล่นไกลออกไป
ในรถ ประธานจ้าวขับรถไปพลางพูดว่า “เหยาเหยา ลูกเขยคนนี้ที่พ่อเลือกให้ ไม่เลวเลยใช่ไหม ไม่ต้องพูดถึงวงศ์ตระกูลของเขาหรอก ในอนาคตข้างหน้าต้องไม่ด้อยไปกว่าตระกูลเราแน่นอน เขายังเป็นผู้มีพลังพิเศษอีกด้วย ซึ่งสามารถส่งต่อให้คนรุ่นต่อไปได้ คนรุ่นหลังจะต้องมีฐานะร่ำรวยกว่าเดิมแน่
“เรื่องนิสัยใจคอยิ่งไม่ต้องพูดถึง หลังจากที่จู่ๆ ก็ร่ำรวยขึ้นมาแล้ว แม้ว่าจะใช้ชีวิตคนเดียวโดยไม่มีคนคุม แต่ก็ไม่ได้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย และติดนิสัยแย่ๆ เหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ
“ถึงแม้ว่าเขาจะโมโหจนสลบไปในงานเลี้ยงก่อนหน้านี้ จนขายหน้าคนอื่นๆ เล็กน้อย แต่นั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์ ไม่ใช่คนอารมณ์รุนแรงแน่นอน ด้วยบุคลิกของลูก เมื่อคบหากันแล้วก็ไม่ต้องคอยรองรับอารมณ์อะไรของเขา และเมื่อลูกได้ชิมฝีมือของเขาแล้ว ก็จะยิ่งรู้สึกถึงความดีของเขาเลยล่ะ
สำหรับเรื่องพลังพิเศษของเขานั้น งานเลี้ยงเมื่อหลายวันก่อนพ่อยังคงกังวลกับสิ่งที่ไอ้บ้านั่นพูด แต่หลังจากที่แม่ของลูกพูดเรื่องนั้น พ่อก็เลิกกังวลแล้ว ดูสิว่า พ่อหวังดีกับลูกมากแค่ไหน และได้คิดทุกอย่างเผื่อลูกหมดแล้ว”
หลิ่วเหยานั่งเงียบๆ ที่เบาะหลัง หลังจากได้ยินก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่แม่เคยพูดหรือเปล่าคะ…”
ประธานจ้าวหันข้าง “ลูกว่าอะไรนะ? เสียงเครื่องยนต์ในรถดังเกินไป พ่อฟังไม่ชัด เหยาเหยา ลูกพูดใหม่อีกทีสิ…”
หลิ่วเหยา “ค่ะ หนูบอกว่าพ่อพูดถูกแล้ว…”
ประธานจ้าวจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และจู่ๆ ก็นึกถึงสิ่งที่ภรรยาเคยพูดไว้ ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจและความมั่นใจที่ไม่สามารถอธิบายได้
…
สำหรับการเตรียมการงานเลี้ยงประธานจ้าว ฟางหนิงได้มอบหมายให้ผู้จัดการร้านอย่างจ้าวอิ๋งเป็นคนจัดการ ให้เธอเป็นคนวางแผนเรื่องที่จะจัดงานเลี้ยงให้เศรษฐีแห่งเมืองฉีคนนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาฟางหนิงก็จะให้เทพแห่งระบบเป็นคนทำอาหาร เรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาขององค์กรแบบนี้ หากไม่ใช่เรื่องไปงานเลี้ยงกับเจ้านายส่วนตัวล่ะก็ จ้าวอิ๋งไม่ปฏิเสธแน่นอน ถ้าปฏิเสธก็แปลว่าโง่เต็มทนแล้ว
หลายวันมานี้ฟางหนิงยุ่งอยู่กับการคิดหาวิธีเพิ่มสล็อตความโกรธ แม้แต่นิยายเกมที่เล่นอยู่เป็นประจำทุกวันก็ไม่มีเวลาให้ แค่แวะไปโผล่หน้าในเกมที่ตนเป็นหัวหน้ากิลด์ เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าสมาชิกสลายตัว
น่าเสียดายที่การตั้งค่าลับนี้เรียกว่าการตั้งค่าลับ เพราะยากที่จะถูกกระตุ้น ไม่สามารถแม้แต่จะมองเห็น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตา…
“โอ๊ย ฉันคิดไม่ออกจริงๆ หลายวันมานี้ฉันคิดจนปวดหัวไปหมดแล้ว ฉันกลัวมากว่าสมองจะเสื่อม…” ฟางหนิงบ่นอุบ
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นก็หยุดสักพัก ครั้งที่แล้วโฮสต์บอกว่าเมื่อโฮสต์ใช้สมอง ก็จะเกิดความโหยหาในการถูกกดขี่ข่มเหง และไปกระตุ้นการตั้งค่าลับ ระบบแค่สงสัยว่าถ้าลองยื้อโฮสต์ไว้อีกสักหน่อย โฮสต์จะเกิดความโหยหาที่จะช่วยเพิ่มสล็อตความโกรธให้ระบบได้ และไปกระตุ้นการตั้งค่าลับอีกครั้ง ดูเหมือนว่ามันจะไม่เกิดขึ้นง่ายๆ ถ้าอย่างนั้นระบบจะช่วยทำอาหารให้โฮสต์หนึ่งครั้งเพื่อตอบแทนบุญคุณ และโฮสต์ก็ค่อยๆ พัฒนาความโหยหา…”
ฟางหนิงแทบกระอักเลือด “แกเพิ่งทำการตัดสินใจที่ลำบากใจมาไม่ใช่เหรอ ว่าจะหยุดคิดเกี่ยวกับปัญหาที่ยากจะแก้ไขเหล่านี้?”
ระบบตอบกลับ “ใช่น่ะสิ ระบบไม่ได้คิดเลยแม้แต่น้อย ระบบแค่ตั้งโจทย์ให้โฮสต์ และให้โฮสต์คิดเกี่ยวกับคำตอบ”
ฟางหนิงหมดคำพูด ตอนนี้ไอ้ระบบงี่เง่านี่เริ่มขี้เกียจที่จะจัดการปัญหายุ่งยากเหล่านี้ และเรียนรู้ที่จะสร้างปัญหาให้ตนแทน
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ระบบ “มีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว”
ฟางหนิง “ว่ามา”
“เฟิงเหนี่ยวเพิ่งส่งข้อมูลไปยังตัวตนออนไลน์ของอัศวิน A ว่า ‘ตระกูลฉีจะไม่มีการแก้แค้นใดๆ ภายใต้การวางแผนของพวกเขา หลังจากที่ทดลองใช้หลากหลายวิธี หมอเทวดายอดฝีมือฉีหยุนเซิงปู่ของฉีเทาได้รับการกระตุ้นอย่างมากจากการเสียชีวิตของผู้เป็นหลาน ทำให้เขาเสียชีวิตด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเมื่อคืนนี้’“
ฟางหนิง “คนพวกนี้มีความสามารถเหนือธรรมชาติจริงๆ ที่สามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่าในอนาคตยังคงต้องใช้ตัวตนของอัศวิน A เพื่อสร้างมิตรกับคนที่มีกำลังมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเรื่องราวครั้งนี้ ลำพังเราไม่สามารถคิดแผนที่สมบูรณ์แบบนี้ได้ กระทั่งเฟิงเหนี่ยวใช้ QQ ของฉีอันส่งข้อมูลของฉีเทามาให้อัศวิน A และส่งสัญญาณลับให้เราว่า พวกเขาได้รับภารกิจ ว่ามีใครบางคนในตระกูลฉีต้องการให้ฉีเทาตายในโอกาสนี้ และสามารถลงมือได้อย่างสบายใจ พวกเขาจะรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง?”
“ฉีเย่ว์ ลูกชายของหัวหน้าตระกูลฉี เป็นประธานบริษัทเภสัชกรรมของตระกูลฉีที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมา พวกเขาเพิ่งเปิดเผยในข้อมูลที่ส่งมาให้เรา”
“ใช้คนอื่นทำงานสกปรกแทน ทิ้งผู้มีพระคุณหลังจากบรรลุเป้าหมายแล้ว แม้แต่คนในครอบครัวก็ไม่เว้น ทุกคนต่างร้ายกาจมาก ไม่ควรไปมีความขัดแย้งกับคนพวกนี้…”
“เป็นอะไรไป? พวกเขาไม่ใช่คนดีหรอกเหรอ? ถ้าฉีเย่ไม่มอบหมายภารกิจ คนของเฟิงเหนี่ยวก็ไม่มีทางติดต่ออัศวิน A คนของเฟิงเหนี่ยวเหล่านั้นก็ไม่เลวเหมือนกัน ไม่เพียงส่งตำแหน่งฟาร์มปีศาจให้เราเท่านั้น ยังช่วยจัดการผลที่ตามมาอีกด้วย ซึ่งรับประกันว่าไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการฟาร์มเลเวลของเราเลยแม้แต่น้อย ระบบจึงคิดว่าควรติดต่อกับพวกเขาต่อไป…”
ฟางหนิง “…”
“ฉันพูดอะไรผิดเหรอ” ระบบงุนงง
ฟางหนิง “แกพูดถูก สำหรับแกพวกเขาเป็นคนดีจริงๆ…”
ฟางหนิงจะไม่ถกปัญหาเหล่านี้กับระบบงี่เง่านี้ เขาแค่คิดในใจว่า ‘คนของเฟิงเหนี่ยวเก่งจริงๆ เก็บทุกรายละเอียดเลยทีเดียว’
ไม่ช้าเขาก็รู้ว่า ด้วยระดับในปัจจุบันของเขา แม้ว่าเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน แต่ก็จะได้พบกับผู้คนที่มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ
…
ทางเข้าร้าน ‘รสชาติของฟางซื่อ’ ตอนนี้พนักงานยืนเรียงเป็นสองแถวอย่างเรียบร้อย นำโดยผู้จัดการคนสวยจ้าวอิ๋ง ทุกคนต่างยืนต้อนรับประธานฉีเฉิงซิงเซิ่งกรุ๊ปจ้าวเสียงเหวินและภรรยากับลูกสาวของเขาที่มาร่วมงานเลี้ยง
ประธานจ้าวเดินมาพร้อมภรรยาและลูกสาว พวกเขายิ้มและโบกมือให้ทุกคน เพื่อแสดงว่าเขาค่อนข้างพึงพอใจกับการต้อนรับนี้ เพราะไม่ใช่เศรษฐีทุกคนที่จะได้เพลิดเพลินกับการปิดร้านครึ่งวันของร้านเก่าแก่ ‘รสชาติของฟางซื่อ’ ที่เจ้าของร้านมาดูแลเอง อย่างน้อยในเมืองฉี เขาก็เป็นคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้
ประธานจ้าวเป็นคนอ้วนใจดี ลูกสาวของเขาหลิ่วเหยาเป็นหญิงสาวที่มีบุคลิกนิ่งเงียบ แม้แต่โอตาคุอย่างฟางหนิงก็ไม่กลัว
แต่คุณนายจ้าวนั้น เขาเจอเธอเป็นครั้งแรก ตามข้อมูลที่เทพแห่งระบบดึงมาจากอินเทอร์เน็ต ระบุว่าอีกฝ่ายอายุสี่สิบสามปี แต่ดูเหมือนแค่สามสิบต้นๆ เท่านั้น ด้วยรูปร่างที่เพรียวบางและใบหน้าที่งดงาม ดูสวยงามกว่าหลิ่วเหยาเสียอีก แต่ภายใต้ใบหน้าอันเปื้อนยิ้มนั้น ก็มีความน่าเกรงขามซ่อนอยู่
ฟางหนิงเพียงชำเลืองมองจากไกลๆ สองสามครั้ง แล้วจึงหยุดมอง และเดินหน้าเข้าไปต้อนรับทั้งสามคน
เมื่อก่อนฟางหนิงไม่รู้จักสังเกตสีหน้า เลยมองไม่ออก แต่ตอนนี้สมองของเขาพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้ว เขาสามารถใช้มุมมองของระบบอย่างเต็มที่ มองปราดเดียว เขาก็รู้ได้เลยว่าแม่ยายในอนาคตของเขาไม่ธรรมดาเหมือนกัน
ฟางหนิงเดินไปได้ครึ่งทาง กำลังจะเอ่ยปากต้อนรับ จู่ๆ เขาก็หยุดชะงัก…
เขาขยับร่างกายไม่ได้แล้ว
ฟางหนิง “เฮ้ ระบบ แกยึดร่างฉันในเวลานี้ทำไมกัน? อย่าสร้างปัญหาอะไรล่ะ รีบคืนร่างมาให้ฉันซะ”
ระบบ “แน่นอนว่าต้องมีเรื่องสำคัญ อีกไม่นานอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ระบบทำเพื่อโฮสต์เลยนะ ตอนที่โฮสต์เจอผีสองครั้งก่อนหน้านี้ก็ยังกลัวจะเป็นจะตาย ซึ่งเกินจริงไปหน่อย ระบบแค่อยากจะถามโฮสต์ว่า นอกจากผีแล้ว มีอย่างอื่นที่โฮสต์กลัวเป็นพิเศษอีกไหม…”
ฟางหนิงเป็นกังวลมาก แต่เขาก็รู้ดีว่าเทพแห่งระบบไม่เคยทำเรื่องไร้สาระ ดังนั้นจึงรีบตอบในพื้นที่ของระบบว่า “เยอะแยะ สัตว์ประหลาด ฆาตกรต่อเนื่อง สัตว์ประเภทงู เสือ เสือดาว หมาป่า รวมถึงสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ไม่สามารถอธิบายได้และสิ่งเหนือธรรมชาติที่ปรากฏในภาพยนตร์สยองขวัญ…”
ระบบ “โอ้ งั้นโฮสต์ต้องเตรียมใจแล้วล่ะ แพ็กเกจทูอินวันที่โฮสต์กลัวเป็นพิเศษมาแล้ว…”
การแจ้งเตือนของระบบเด้งขึ้น: ระบบเปิดใช้งานทักษะลับ ‘เนตรปีศาจ’ ซึ่งต้องใช้สล็อตความโกรธระดับที่สอง และคุณจะได้รับความสามารถในการมองเห็นทุกอย่างอย่างปรุโปร่งเป็นเวลาสามสิบนาที
‘เชี่ย!’ เมื่อฟางหนิงเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า สติของเขาก็ถอยกลับไปที่ร้านตีเหล็กในพื้นที่ของระบบทันที โดยไม่พูดถึงเรื่องการคืนร่างอีก
เขาเห็นอะไรกันแน่?
……………………………………………………..