เมื่อผมโดนระบบครองร่าง - บทที่ 34 หนึ่งมื้อต่อสัปดาห์
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เวลาสองทุ่ม ณ ฐานทัพสำนักงานใหญ่หน่วยกิจการพิเศษเมืองฉี
โม่ซิ่ง “ทุกคน วันนี้พวกคุณมีภารกิจที่หนักมาก!”
อาจารย์ใหญ่จางสีหน้าจริงจัง
คนอื่นๆ ก็ดูเคร่งขรึม
โม่ซิ่ง “ในบรรดาพวกคุณจะมีหลายคนที่ไม่ได้กลับมา…”
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
โม่ซิ่ง “สำนักงานความจริงได้ส่งประกาศฉุกเฉินมาอีกครั้งว่า ‘เครือข่ายของเราได้ตรวจพบเหตุการณ์พิเศษที่ 77 ปีศาจผู้ทรงพลังที่เก่งในเรื่องการพรางตัวครั้งก่อนจะกลับมาที่เมืองฉีอีกครั้งในเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ เพื่อความแน่ใจ เราได้ตรวจสอบซ้ำแล้วว่า ในครั้งนี้มีสถานที่สามแห่งที่มีความเป็นไปได้ที่มันจะลงจุติ ซึ่งได้แก่ เขตตะวันออกเฉียงใต้ เขตตะวันออกเฉียงเหนือ และใจกลางเมือง เพียงแต่สาวกที่เป็นผู้ชี้พิกัดให้มันค่อนข้างอ่อนแอ เครือข่ายจึงยากที่จะตรวจจับตำแหน่งที่แน่ชัดได้ เราจึงต้องกระจายกำลัง’”
ทุกคนสีหน้าตึงเครียดกันหมด
โม่ซิ่ง “ตามแผน แบ่งเป็นสามทีมและออกเดินทาง”
อาจารย์ใหญ่จาง “ทุกคนต้องกลับมานะ…”
…
การฟาร์มปีศาจในชีวิตประจำวันของอัศวิน A
ระบบพูด “โฮสต์ ไปล่าปีศาจชื่อเหลืองอีกสักตัวสองตัว…”
ฟางหนิงไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง เขากำลังมุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับเกมออนไลน์ในประเทศที่เขาเป็นหัวหน้ากิลด์ “ตามใจแกสิ…”
ณ ห้องใต้ดินเขตตะวันออกเฉียงใต้เมืองฉี
พื้นห้องถูกย้อมด้วยคราบเลือดสีแดงเหมือนเดิม รูปเจ็ดเหลี่ยมแปลกประหลาดร่างอยู่บนพื้นคอนกรีต มีเจ็ดมุม แต่ละมุมจะแสดงใบหน้ามนุษย์หนึ่งคน บ้างสุขบ้างโกรธ บ้างทุกข์บ้างเศร้า
ชายคนหนึ่งคุกเข่าอยู่ตรงกลางรูปเจ็ดเหลี่ยมและพึมพำกับตนเอง “การเสียสละของอารมณ์ทั้งเจ็ด…”
อัศวิน A อยู่ข้างหลังชายคนนั้น ทว่าชายคนนั้นกลับไม่ได้สังเกตเห็น แต่แม้อัศวิน A จะอยู่ตรงนั้นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ลงมือ…
ระบบ “โฮสต์ คุณปรับอารมณ์ของตัวเองเสร็จแล้วหรือยัง?”
ฟางหนิงตอบกลับ “ฉันทำไม่ได้ การเจอสิ่งเดิมๆ ครั้งที่สอง ก็ไม่รู้สึกกลัวเหมือนเดิมแล้ว ขอฉันสร้างบรรยากาศน่าสยดสยองในหัวก่อนนะ จินตนาการถึงอนาคตที่น่ากลัว…”
ระบบเริ่มหงุดหงิด “รีบหน่อยเถอะ ระบบรู้สึกว่าหมอนี่เป็นพวกเดียวกับคนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว น่าจะกำลังเชิญบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ อาจทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองนี้ถูกตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต…”
ฟางหนิง “?! เสร็จแล้ว ดูแผนที่เร็ว!”
เสียง ‘ตู้ม’ ดังขึ้นฉับพลัน จากนั้นชายหนุ่มก็ลงไปนอนกับพื้นและสิ้นลมหายใจไปทันที
ฟางหนิงเอ่ยถาม “สิ่งน่าสะพรึงตัวนั้นจะไม่ถูกเรียกออกมาแล้วใช่ไหม?”
ระบบตอบกลับ “เมื่อครู่บนแผนที่ระบบมีจุดสีเหลืองสองจุดที่มีสีและขนาดเท่ากับเขา ล้วนแต่เป็นเหลืองประกายม่วงแดง สีคล้ายกันขนาดนี้ เป็นไปได้ว่ามันเป็นพวกเดียวกัน และเคยก่ออาชญากรรมเดียวกัน”
ฟางหนิงว่า “ถ้าอย่างนั้นรีบไปจัดการกันเถอะ ฉันกำลังทำภารกิจรับค่าประสบการณ์สองเท่าและอัตราการระเบิดสามเท่า จะถูกตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้…”
ระบบ “…”
…
ณ สนามในฐานทัพหน่วยกิจการพิเศษเมืองฉี
อาจารย์ใหญ่จางรีบถาม “เกิดอะไรขึ้น ไม่มีโผล่มาอีกแล้วหรือ?”
รองผู้อำนวยการหน่วยกิจการพิเศษตอบกลับทันที “อาจารย์ใหญ่ เจ้าหน้าที่สำนักสัจธรรมแจ้งมาว่า สัตว์ประหลาดตัวนั้นยังคงหาพิกัดจุติไม่พบ ให้เรารออีกหนึ่งสัปดาห์…”
อาจารย์ใหญ่จางตอบกลับ “ไม่เป็นไร เป็นเรื่องดีที่สัตว์ประหลาดตัวนี้หลงทางอยู่เรื่อย อย่างน้อยพวกคุณก็ยังปลอดภัยดี และได้สั่งสมประสบการณ์ในการเข้าร่วมเหตุการณ์ฉุกเฉินจำนวนไม่น้อยด้วย…”
โม่ซิ่งตอบรับ “แยกย้าย ห้ามใครพูดถึงรายละเอียดของภารกิจในคืนนี้!”
…
ณ คฤหาสน์ตระกูลจ้าวแห่งฉีเฉิงซิงเซิ่งกรุ๊ป ในเขตชานเมืองทางตะวันออก
คุณนายจ้าวเอ่ยขึ้น “ตาแก่ นี่ก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ฉันเองก็หิวมากแล้วนะ คุณก็น่าจะไม่อายที่จะเอ่ยปากพูดได้แล้ว ฉันรอถ่ายทอดทักษะฝึกฝนเฉพาะตัวให้เขาหลังอาหารด้วย จริงที่ครั้งที่แล้วฉัยกินเยอะไปหน่อย แต่เหยาเหยาก็ได้จ่ายค่าอาหารแทนเราแล้วไม่ใช่หรือ เสี่ยวฟางนี่ไร้เดียงสาจริงๆ เลย ถ้าเป็นคนอื่นที่มีเจตนาล่ะก็ คงไม่คิดจะเก็บเงินแล้ว”
จ้าวเสียงเหวินตอบกลับ “เพิ่งจะผ่านมาไม่นานเอง ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าคุณฝึกถึงขั้นสองแล้ว กินอาหารเดือนละครั้งก็ได้ไม่ใช่หรอกหรือ? เงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่างมากก็แค่ขนวัตถุดิบจากซิงเซิ่งกรุ๊ปของเราไปให้เพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่การที่ทำให้เขาต้องทำงานเหนื่อยหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มนั้น ถึงจะเป็นสัปดาห์ละครั้งก็ไม่มีใครทนไหวหรอก…”
“เฮ้ๆ หยุดๆ อย่าบิดเลยๆ ฉันจะโทรไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะโทรเดี๋ยวนี้ล่ะ…”
หลิ่วเหยาลงมาจากชั้นสอง “พ่อ จะโทรหาใครคะ?”
คุณนายจ้าวยั้งมือแล้วบอกว่า “เหยาเหยา สองสามวันนี้ลูกอย่าออกไปไหน อยู่ฝึกซ้อมเปียโนที่บ้านนะ พ่อกับแม่กำลังจะทำภารกิจที่ค่อนข้างหนัก เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของครอบครัวเรา…”
หลิ่วเหยา “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง แต่หนูได้ยินแม่พูดว่าจะทำอะไรบางอย่างหลังกินข้าว ก็เลยคิดว่าประธานฟางคงเชิญพ่อกับแม่ไปทานข้าวอีกแล้ว”
คุณนายจ้าวยิ้มหวาน “เดินร้อยก้าวหลังอาหาร จะมีชีวิตอยู่ถึงเก้าสิบเก้าปี ไม่มีอะไรอื่น รีบไปฝึกซ้อมเปียโนเถอะจ้ะ ส่วนเรื่องกับข้าว แม่บอกแม่บ้านอู๋ว์ให้ทำอาหารจานโปรดของหนูแล้ว พ่อกับแม่ไปก่อนนะ…”
ประธานจ้าวยิ้มเจื่อน “เหอะๆ…”
หลิ่วเหยาตอบรับ “ค่ะ หนูเข้าใจแล้ว…”
คุณนายจ้าวส่งสายตาให้ตาแก่จ้าว ‘เร็วเข้า’
ประธานจ้าว ‘ครับๆ’
…
บนรถเบนซ์ คนขับรถของตระกูลจ้าวกำลังขับรถอย่างตั้งใจ
ประธานจ้าวโทรศัพท์หลายสายให้พนักงานในเครือหลายๆ แห่งตระเตรียมวัตถุดิบต่างๆ ทั้งหมดเป็นผลผลิตของซิงเซิ่งกรุ๊ป ซึ่งล้วนแต่ปลอดสารพิษและสารกันบูด…
หลังจากนั้นเขาจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะกดโทรหาหมายเลขหนึ่ง แต่หลังจากหยุดคิด เขาก็วางมือถือลงอีกครั้ง แต่แล้วหลังจากวางมือถือลง เขาก็ต้องหยิบมันขึ้นมาใหม่เพราะสายตาเฉียบคมของภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ
คุณนายจ้าว “นี่มันก็สิบโมงเช้าแล้ว คุณต้องเผื่อเวลาให้เขาทำอาหารด้วย ถ้าเลยเวลากินข้าวไป ก็ทำได้แค่ดื่มน้ำชายามบ่ายแล้วล่ะ…”
ในที่สุด เขาก็กัดฟันและโทรออกหมายเลขนั้น
เสียงรอสายของปลายสายดังขึ้น ‘สี่ซัวซัว~ สี่ซัวซัว…’
เสียงรอสายดังอยู่ครู่หนึ่ง ก็มีเสียงตอบรับว่า “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ โปรดลองใหม่อีกครั้งในภายหลัง”
ประธานจ้าวนิ่งเงียบ “…”
ด้านคุณนายจ้าวกลับมีสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด มือข้างหนึ่งค่อยๆ เลื่อนไปที่หูของตาแก่จ้าว “เกิดอะไรขึ้น?”
ประธานจ้าวงุนงง แต่แล้วก็นึกบางอย่างขึ้นได้ “อ๋อ ผมรู้แล้ว เด็กคนนี้ต้องกำลังเล่นเกมอยู่แหงๆ และเปิดเครื่องเสียงไว้ด้วยแน่นอน จึงไม่ได้ยินเสียงเรียกเข้า”
คุณนายจ้าว “???”
ประธานจ้าวรีบเอ่ยต่อ “ไม่ต้องห่วงหรอก ผมจะติดต่อเขาทาง QQ เพื่อติดต่อกับสมาชิกกิลด์ในเกม เขาจะเปิด QQ ทิ้งไว้”
คุณนายจ้าวดีใจมาก “ไม่เลวเลยนะตาแก่ ทำการบ้านมาเยอะเหมือนกันนี่”
ประธานจ้าวเปิด QQ บนโทรศัพท์มือถือ แน่นอนว่าครั้งนี้เขาติดต่อฟางหนิงทาง QQ ได้สำเร็จ เขาพิมพ์ทักทายฟางหนิงอย่างชำนาญ
ประธานจ้าว “สวัสดี เสี่ยวฟาง”
ฟางหนิง “สวัสดีครับ ประธานจ้าว”
ฟางหนิงคิดในใจ ‘รีบออฟไลน์ดีกว่า เมืองของระบบจะถูกยึดอีกแล้ว ตอนนี้เทพแห่งระบบเข้มงวดมาก แอบเติมเกมยังยากเลย ทำให้เราถูกคนอื่นแซงภายในหนึ่งสัปดาห์
ประธานจ้าว “คือว่า ตามที่ฉันบอกคุณครั้งก่อน ภรรยาของฉันได้ปลุกสายเลือดนารีมังกรให้ตื่นขึ้นมา อันที่จริงในขณะเดียวกันนั้นเธอก็ได้เรียนรู้วิธีฝึกฝนพิเศษด้วย”
ฟางหนิง “ได้ยินมาว่าวิธีฝึกฝนพิเศษนั้นล้ำค่ามาก ถ้าอย่างนั้นผมขอแสดงความยินดีกับท่านอีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ ตอนนี้ผมกำลังยุ่งมากจริงๆ”
ประธานจ้าวคิดในใจ ‘ยุ่งอะไรกัน คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าแกกำลังทำอะไร ต้องกำลังเล่นเกมอยู่แน่นอน!’
คุณนายจ้าวผู้อยู่ข้างๆ ที่กำลังยื่นคอมาดูข้อความ QQ นั้นพูดขึ้นว่า “เด็กคนนี้ไม่เลวเลย ไม่หวั่นไหวแม้กระทั่งทักษะการฝึกฝนพิเศษ”
ประธานจ้าวรีบตอบกลับ “เด็กคนนี้ขี้เกียจต่างหาก ในใจมีแต่เกม เขาไม่มีใจเสียเวลาไปกับการฝึกฝนหรอก ถ้าเขารู้ว่าคุณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนอย่างน้อยเก้าชั่วโมงต่อวัน และต้องการอาหารจำนวนมากในการเติมเต็มพลังงานที่เสียไป มิหนำซ้ำยังไม่รับประกันว่าจะบรรลุ เขายิ่งไม่มีทางที่จะยอมฝึกฝนอย่างแน่นอน”
คุณนายจ้าว “ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ฉันจะพูดถูก เขาเป็นคนที่วิเศษจริงๆ ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้น อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่คนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งวิธีการฝึกฝน”
ประธานจ้าวรีบโกลับ “เป็นไปไม่ได้เลย เขาขี้เกียจขนาดนั้น จะสร้างความลำบากให้ตัวเองทำไมกัน”
แต่คุณนายจ้าวกลับยิ้มและพูดว่า “เรื่องนี้ไม่ยาก ฉันมีวิธี คุณรีบพูดเรื่องกินข้าวได้แล้ว”
ประธานจ้าวขมวดคิ้ว “เริ่มยากแล้วสิ เขาไม่สนใจอยู่แล้ว”
คุณนายจ้าวแยกเขี้ยว “ตาแก่โง่ คุณแค่บอกเขาไปว่าฝึกแล้วจะตัวเบาและสุขภาพดี หลังจากบรรลุกินอาหารแค่สัปดาห์ละครั้ง เท่านี้ก็จะสามารถประหยัดเวลากินข้าวเพื่อไปเล่นเกมได้ นอกจากนี้ก็จะมีอายุยืน เมื่อมีอายุยืนก็จะมีเวลาเล่นเกมมากขึ้น”
ประธานจ้าว “ที่รักฉลาดจริงๆ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องเหล่านี้ ก็ลืมคนขับรถไปเลย ด้านคนขับรถก็มองตรงไปข้างหน้า ราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เพียงแค่ตั้งใจขับรถต่อไป
จากนั้นประธานจ้าวก็พิมพ์ข้อความส่งไปใน QQ ทันที
ฟางหนิง “ไม่…”
หลังจากนั้นไม่นาน
ฟางหนิง “ไม่รบกวนพวกท่านแล้วจริงๆ! ผมตื้นตันใจมากจริงๆ และเกรงใจอย่างมาก ผมไม่รู้จะตอบแทนพวกท่านอย่างไรดี มันเป็นไปได้อย่างไร? นี่… นี่มันวิเศษมาก คิดไม่ถึงว่าการฝึกฝนของภรรยาของท่านจะช่วยให้ไม่ต้องกินข้าวและมีอายุยืนได้ มันล้ำค่าจริงๆ จะให้รับมือเปล่าแบบนี้ได้อย่างไร?”
ประธานจ้าวตอบว่า “ฮ่าๆ เราใกล้ถึงบ้านคุณแล้วล่ะ ไว้ถึงแล้วค่อยคุยรายละเอียดกันอีกที จริงด้วย กินข้าวด้วยกันอีกสักมื้อ คุณไม่ต้องห่วงเรื่องวัตถุดิบนะเสี่ยวฟาง ผมให้คนส่งไปที่บ้านคุณแล้ว คุณก็แค่ทำอาหารง่ายๆ ก็พอ”
ฟางหนิงพูดไม่ออก “โอ้ นี่มัน… นี่มัน…”
พูดจบ ประธานจ้าวก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ที่รัก ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”
คุณนายจ้าวแสดงสีหน้าลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก “ตามคาด โอตาคุอยากมีชีวิตยืนยาวแน่นอน เมื่อได้เล่นเกมขึ้นมาก็ไม่อยากกินข้าวด้วยซ้ำ…”
ประธานจ้าวผุดยิ้ม “ที่รักฉลาดมากจริงๆ”
…
ณ ร้านอินเทอร์เน็ตในระบบ ฟางหนิงออกจากเกม จากนั้นจึงปาดเหงื่อ “การฟาร์มปีศาจเยอะทำให้สมองเสื่อมได้ง่ายจริงๆ เกือบหลุดปากไปแล้ว ตัวตนที่แท้จริงของโอตาคุผู้มีพลังพิเศษในด้านการทำอาหารเพียงอย่างเดียวอย่างเรา ถ้าไม่สนใจวิธีที่จะทำให้อายุยืนล่ะก็ ทุกคนต้องรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติแน่นอน”
ระบบตอบกลับ “ระบบไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก แต่เรื่องทำอาหารไม่ควรให้มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ระบบจะมีเวลารับใช้พวกเขาทุกวันได้ยังไง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะมีกะจิตกะใจฝึกปราณกำลังภายในได้อย่างไร?”
ฟางหนิงอธิบาย “พวกเขาบอกว่าถ้าฝึกวิชานั้น ไม่เพียงแต่จะมีอายุยืน แต่กินข้าวแค่สัปดาห์ละครั้งด้วย ยิ่งในระดับที่สูงขึ้นไป กินแค่ปีละครั้งก็เพียงพอแล้ว เรื่องอายุยืนนั้นเรายังพิสูจน์ไม่ได้เพราะอายุฉันยังน้อย แต่เรื่องกินข้าวนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน”
ระบบได้ยินด็ตอบรับทันที “ถ้าอย่างนั้นก็รีบบอกให้พวกเขามาเถอะ วิชาที่สามารถประหยัดเวลากินข้าวได้นี้แม้จะเลเวล 80 ก็อาจยังไม่ได้เรียนรู้…”
…………………………………………………