เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ - ตอนที่ 1087 จดหมายเชิญพิเศษ / ตอนที่ 1088 คุณหนูเชิญด้านใน
เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ – ตอนที่ 1087 จดหมายเชิญพิเศษ / ตอนที่ 1088 คุณหนูเชิญด้านใน
ตอนที่ 1087 จดหมายเชิญพิเศษ
ซูหลีหันหลังกลับ ใบหน้าของนางฉายแววประหลาดใจ นางมองไปที่เซียวเก๋อเหล่าที่เรียกตนเองไว้
“ใต้เท้าเซียวยังมีอะไรที่ต้องการสั่งสอนอีกหรือ” นางหยุดฝีเท้าลง มองไปยังเซียวเก๋อเหล่าด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มไม่ยิ้ม
“ซูเฟย…ไฉเหรินนางกระทำสิ่งใดผิดหรือ” เซียวเก๋อเหล่าอดกลั้นความสงสัยไว้ไม่ไหว จึงเอ่ยถามเช่นนี้ออกมา
“เรื่องนี้ ใต้เท้าเซียวไปถามเหนียงเหนียงด้วยตนเองดีกว่า” ซูหลีมองเขาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันปราดหนึ่ง แต่กลับไม่มีความหมายอื่น จากนั้นหมุนกายเดินจากไป
เซียวเก๋อเหล่ากับเซียวเสวียนทั้งสองมองหน้ากัน สีหน้าดูย่ำแย่ทั้งคู่ เซียวไฉเหรินกระทำเรื่องใดกันแน่ถึงได้ถูกฝ่าบาทตัดบัวไม่เหลือเยื่อใยเช่นนี้ แม้กระทั่งชุ่ยจู๋ยัง…
แน่นอนว่าความจริงเบื้องหลังของเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างไร เกรงว่าพวกเขาคงไม่มีทางได้รับรู้
เพียงแต่วันนี้พวกเขาขบคิดวางแผนทุกวิถีทาง แม้กระทั่งใช้จุดอ่อนเรื่องยาช่วยชีวิตของซูหลีแล้ว ก็ยังไม่สามารถทำอะไรซูหลีได้ อีกทั้งฝั่งตนได้รับความเสียหายเสียเอง ทำให้เซียวซูเฟยต้องเสียตำแหน่งเฟยไปด้วย
ในใจนั้นเต็มไปด้วยความสับสน ซ้ำยังต้องรับมือกับการสืบสวนของขุนนางหลายกรม ในเวลานี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยใจเหลือเกิน ท่าทีที่มีต่อซูหลีลุ่มลึกยิ่งขึ้น
…
สำหรับการกระทำที่รู้ใจระหว่างซูหลีกับตนในวันนี้ ร่างกายของฉินเย่หานแสดงให้เห็นถึงความพอใจของตน
สำหรับเรื่องที่ถูกเคี่ยวกรำในทุกเวลานี้ ซูหลีก็ไม่มีวิธีใดๆ ใครให้เขาเป็นฮ่องเต้กัน!?
หลังจากวันนั้นซูหลีกลับยุ่งเป็นอย่างมาก เรื่องที่นางลงมือทำมีผลสรุปออกมาแล้ว ในเวลานี้เพียงแค่ต้องหาโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้น ก็จะสามารถให้คนเหล่านั้นจ่ายค่าตอบแทน!
กี่วันมานี้สถานการณ์เงียบสงบ สกุลเซียวก็สงบไปมิน้อย ซูหลีก็ไม่มีเรื่องยุ่งอะไรแล้ว จู่ๆนางก็ได้รับจดหมายเชิญพิเศษมาฉบับหนึ่ง
ในเมืองหลวงจดหมายเชิญเป็นเรื่องที่พบเห็นอยู่บ่อยมาก ทว่าจดหมายเชิญที่ซูหลีได้รับฉบับนี้มีความพิเศษมากเช่นไรจนนางก็คิดไม่ถึงเช่นกัน
”คุณหนู ท่านจะไปจริงหรือเจ้าคะ” ไป๋ฉินมองคุณหนูของนางด้วยสายตากังวลเกินจะเปรียบ นางไม่รู้ว่าควรจะพูดโต้ตอบอะไรถึงจะดี
ซูหลีได้ยินดังนั้นจึงเลิกคิ้วมองนางปราดหนึ่ง และเอ่ยว่า “ต้องไปอยู่แล้ว จดหมายเชิญส่งมาให้ขนาดนี้ มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ไปเสียที่ไหนกัน”
ไป๋ฉิน : “…”
ทว่านี่เป็นจดหมายเชิญที่ส่งมาจากหอหร่วนเซียง
นี่คุณหนูของพวกนางจริงจังใช่หรือไม่!?
มิผิดหรือในฐานะที่ซูหลีเป็นสตรีคนหนึ่ง แต่กลับได้รับจดหมายเชิญจากหอโคมเขียวชั้นหนึ่งของเมืองหลวง เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องพิลึกพิลั่นมาก
คุณหนูของนางยังตั้งใจจะไปเข้าร่วม! นี่ยิ่งพิลึกพิลั่นรู้หรือไม่!?
ต้องทราบว่านี่มิใช่เรื่องปกติสามัญ ที่หอหร่วนเซียงมีแม่นางยอดดอกเหมยคนใหม่เข้ามา แม่นางยอดดอกเหมยคนนี้คงสวยงามมาก ทำให้แม่นางสุ่ยเหยียนถึงกับตกกระป๋องไป
เมื่อรับโฉมสะคราญงามเช่นนี้เข้ามา หอหร่วนเซียงก็ต้องจัดงานใหญ่ขึ้นเป็นธรรมดา เพื่อให้ทุกคนทั้งเมืองหลวงมาชมแม่นางยอดดอกเหมยคนใหม่ของหอหร่วนเซียง
เพียงแต่เพื่อประกาศเรื่องแม่นางยอดดอกเหมยคนใหม่ นี่ก็พอเข้าใจจะให้งามเพริศพริ้งสักเพียงใด หากไม่มีใครมารับชมก็เป็นเพียงการจัดแสดงเท่านั้น
แม้จะส่งจดหมายเชิญไปทั่วก็ช่างเถอะ แต่แม้กระทั่งซูหลียังถูกเชิญไป นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน!?
แม้จะพูดว่าไป๋ฉินเข้าใจดี แม้คุณหนูของพวกนางจะเป็นสตรี ทว่าหากพูดกันอย่างจริงใจ ในแวดวงเจ้าสำราญในเมืองหลวงก็มีไม่กี่คนที่เหมือนคุณหนูของพวกนางเช่นนี้
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่ส่งจดหมายเชิญให้คุณหนูของพวกนางกระมัง!?
นี่ช่าง…
ส่งมาแล้วก็ช่าง ดูเหมือนว่าคุณหนูของพวกนางตั้งใจจะไปตามนั้นจริงๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น
ไป๋ฉินรู้สึกว่าสมองของตนแฝงไปด้วยความเจ็บปวด!
“ให้ชุยตานเตรียมตัว คืนนี้เราจะออกไปตามเวลาที่นัดหมาย!”
ตอนที่ 1088 คุณหนูเชิญด้านใน
งานชุมนุมดอกเหมยในครานี้ของหอหร่วนเซียงถือว่าโอ่อ่ามาก ซูหลีนั้นให้คนไปสอบถามมาบ้างว่า งานชุมนุมดอกเหมยครานี้ได้เชิญคุณชายที่มีฐานะหน้าตาทางสังคมในเมืองหลวงมาทั้งหมด
รวมถึงคนในสำนักเต๋อซั่นที่นางคุ้นเคยมากที่สุดกลุ่มนั้น
หลังจากซูหลีออกมาจากเรือนจำก็ยังไม่ได้เจอหน้าคนกลุ่มนี้อย่างเป็นทางการเสียที นางต้องการพบคนในกลุ่มนั้นบางคนพอดี
นี่ไม่ใช่การส่งโอกาสมาให้หรือ!?
“ข้าน้อย…” ไป๋ฉินต้องการพูดอะไรบางอย่าง ทว่ากลับถูกเย่ว์ลั่วที่ยืนข้างๆดึงแขนไว้ นางเหลือบตามองเล็กน้อย ปรายตามองเห็นเย่ว์ลั่วส่งสายตาให้แก่นาง
“เอาเถอะ ให้คุณหนูไปก็ได้! เพียงแต่คุณหนู…” เย่ว์ลั่วฉีกยิ้มบางปรายตากวาดมองซูหลีปราดหนึ่ง ถึงได้เอ่ยว่า
“ท่านจักต้องคิดดีๆ หากท่านผู้นั้นทราบว่าท่านไปที่หอหร่วนเซียง เกรงว่า…” เย่ว์ลั่วเอ่ยถึงตรงนี้จึงยิ้มกริ่ม
ครั้นนางเอ่ยถึงท่านผู้นั้นจึงเหลือบตาชำเลืองมองเล็กน้อย ซูหลีมองออกอย่างชัดเจน มุมปากจึงกระตุกขึ้นอย่างอดไม่ได้
ที่เย่ว์ลั่วพูดมานั้นมิผิด หากฉินเย่หานทราบแล้วละก็ เพียงว่านางคงต้องตายคาเตียง!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูหลีก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันใด
ทว่าคืนนี้ที่หอหร่วนเซียง ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องไป!
“เหอะ! อย่าทำให้คุณหนูของเขาตกใจเลย!” ซูหลีปรายตามองนางปราดหนึ่ง และเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “เจ้าเห็นข้าเหมือนคนถูกทำให้ตกใจหรือไม่”
เย่ว์ลั่วเผลอยิ้มออกมาและส่ายหัวไปมา ก็ไม่รู้ว่าเมื่อคืนใครยังส่งเสียงโวยวายว่าปวดเอว ถูกเคี่ยวกรำจนแทบจะสิ้นชีพกัน!?
…
อากาศยามค่ำคืนหนาวเย็นดุจสายน้ำ ตำแหน่งของหอหร่วนเซียงตั้งอยู่ที่ในซอย บรรยากาศครึกครื้นเป็นอย่างมาก รถม้าที่ผ่านไปผ่านมาล้วนเป็นรถม้าที่หรูหรา ด้านบนรถม้าแขวนด้วยป้ายแสดงตำแหน่งฐานะของแต่ละคน แต่ละคนล้วนมีฐานะตำแหน่งสูงกันทั้งนั้น
ภายในเมืองหลวงก็มีเพียงแค่หอหร่วนเซียงเท่านั้นที่สามารถมีป้ายที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้
“เอี๊ยด!”
มีรถม้ามาจอดที่ด้านหน้าของหอหร่วนเซียงอีกคัน เด็กรับใช้ที่มีหน้าที่ต้อนรับแขกที่หน้าประตูก็รีบเข้าไปต้อนรับ ก้มศีรษะแล้วเอ่ยว่า
“คุณชายเชิญ…” คำเชิญยังมิทันได้เอ่ยจบ เมื่อชำเลืองเห็นคนที่ลงมาจากรถม้า เด็กรับใช้ก็กลืนคำพูดนั้นลงคอทันที
คนที่มาสวมเสื้อคลุมกันลมหนังสุนัขจิ้งจอกที่ประดับด้วยอัญมณีและยังมีขนสุนัขจิ้งจอกพาดไว้อยู่ ภายในสวมชุดอาภรณ์สีแดงสวยหยาดเยิ้ม
ทั้งร่างดูสง่ามีฐานะ งามเพริศจนมิมีใครกล้าเปรียบ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่สำคัญที่สุดก็คือคนคนนี้เป็นสตรี!
เด็กรับใช้ตะลึงค้าง สตรีมาที่นี่เพื่ออะไรกัน อีกทั้งยังมีท่าทางที่มีเสน่ห์เย้ายวนที่สุด คงไม่ได้มาทำลายบรรยากาศที่นี่กระมัง!?
“มัวมองอะไรอยู่ ยังไม่รีบพาเข้าไปอีก!?” ชุยตานเหลือบตามองปราดหนึ่ง เมื่อเห็นเด็กรับใช้ที่จ้องมองคุณหนูของตนตาไม่กะพริบ ใบหน้าจึงดำคล้ำไปชั่วขณะหนึ่ง
“อ้า!…ขอรับ ขอรับ!” เด็กรับใช้คนนั้นยังดึงสติกลัับมาไม่ได้ขณะหนึ่ง จากนั้นเมื่อถูกชุยตานทำให้ตกใจเช่นนั้นจึงรีบผงกศีรษะตอบรับ
“คุณหนูท่านนี้ ท่านสามารถ…”
“ชุยตาน มอบจดหมายเชิญให้แก่เขา”ซูหลีเหลือบตามองเด็กรับใช้ นางรู้ว่าเขาต้องการพูดอะไร
นางรีบหมุนกายให้ชุยตานนำจดหมายเชิญมอบให้แก่เขา!
เด็กรับใช้คนนั้นคิดไม่ถึงว่า สตรีมาที่นี่ก็ถือเป็นแปลกประหลาดแล้ว คิดไม่ถึงว่านางยังจะมีจดหมายเชิญฉบับหนึ่งอีก
คำพูดนี้เมื่อย้อนกลับมา ภายในหอหร่วนเซียงส่งจดหมายเชิญให้สตรีตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
คิดไปคิดมาสตรีตรงหน้านั้นดูเหมือนจะมีฐานะร่ำรวยและสูงศักดิ์ ไม่สามารถล่วงเกินนางได้ง่าย คนที่ทำงานอยู่ที่นี่มิใช่คนเขลา ในเมื่อนางมีจดหมายเชิญ
เช่นนั้นก็ให้นางเข้าไปก็แล้วกัน
“คุณหนูเชิญด้านในขอรับ!” หลังเด็กรับใช้คนนั้นรู้สึกตัวจึงรีบนำซูหลีเข้าไปด้านใน