เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 104 : คำเชิญของชูหยุนเยว่
- Home
- เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง
- ตอนที่ 104 : คำเชิญของชูหยุนเยว่
ตอนที่ 104 : คำเชิญของชูหยุนเยว่
ในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากหูเทียนไม่มีสอนในตอนเช้า และเมื่อคืนเธอก็เหนื่อยมากเกินไป
เธอจึงลุกมากินข้าวเช้าแล้วกลับเข้าไปนอนต่อในทันที
หลินฟานก็ไม่อยากอยู่ที่บ้านของเธอนานกว่านี้เช่นกัน เพราะเขาอยากให้หูเทียนได้พักผ่อน หลินฟานจึงตรงกลับมาที่มหาวิทยาลัยเจียงเป่ยตั้งแต่เช้า
ซึ่งทุกเช้าของจังหวัดเจียงเป่ยนั้น ทุกคนต่างก็รีบที่จะไปทำงานกัน รถบนถนนจึงแออัดเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าหลินฟานจะมีทักษะการขับรถอย่างมืออาชีพ แต่เขาก็ต้องใช้เวลามากถึงครึ่งชั่วโมงกว่าที่จะกลับมาถึงยังมหาวิทยาลัยเจียงเป่ย
และเมื่อมาถึงในคาบเรียนตอนเช้าแล้ว หลินฟานก็ฟุบลงบนโต๊ะเพื่อนอนหลับในทันที
“กริ๊ง!”
หลังจากที่เสียงกริ่งดัง หลินฟานก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
ซึ่งในตอนนี้ เขาได้มารับประทานอาหารอยู่ที่โรงอาหาร จากนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้นมาเหมือนกับทุกครั้ง
12:00!
ซองแดงปรากฎ!
“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 2 หยวน”
“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 19,999 หยวน”
……
“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับความรู้ทางเคมีระดับศาสตราจารย์”
“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 3 หยวน”
……
หลินฟานได้รับเงินมาทั้งหมด 50,198 หยวน และก็ได้รับความรู้ทางเคมีระดับศาสตราจารย์
【ความรู้ทางเคมีระดับศาสตราจารย์ ไฮโดรเจน ฮีเลียม ลิเธียม เบริลเลียม โบรอน คาร์บอน ไนโตรเจน ออกซิเจน ฟลูออรีน นีออน… ความรู้ทางเคมีที่ยอดเยี่ยม เพิ่มเสน่ห์เฉพาะตัว】
เมื่อหลินฟานมองข้อความเหล่านี้…
ใบหน้าของหลินฟานก็มีสีหน้าแปลกๆขึ้นมา
เพราะเขาเพิ่งได้รับทักษะภาษาอังกฤษระดับมืออาชีพมาเมื่อวาน แล้วตัวเขาก็ยังมีความรู้ทางคณิตศาสตร์ระดับนักวิชาการอยู่แล้ว และตอนนี้เขายังเปิดได้ความรู้ทางเคมีระดับศาสตราจารย์มาอีก
นี่จะให้ฉันเป็นสุดยอดนักวิชาการหรือไงกัน?
“ตืดด!”
ในขณะที่หลินฟานกำลังเดินกลับไปที่หอพัก โทรศัพท์มือถือของเขาก็ได้สั่นขึ้นมา
และปรากฎว่าคนที่ส่งข้อความมาก็คือชูหยุนเยว่ ผู้ก่อตั้งบริษัทฮัวจือดี
หยุนเยว่ : หลินฟาน ฮัวจือดีของเราได้พัฒนาน้ำหอมเหลียนซินขึ้นมาใหม่ หากว่าคุณมีเวลา คุณช่วยมาที่บริษัทของเราเพื่อออกความคิดเห็นให้หน่อยจะได้หรือไม่?
ทันทีที่หลินฟานอ่านข้อความ หัวใจของเขาก็สั่นในทันที
เนื่องจากว่าเขามีทักษะของผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอม
เขาจึงมีความสนใจเรื่องน้ำหอมเป็นอย่างมาก
และนอกจากนี้หลินฟานก็ยังนอนหลับในคาบเช้ามาเพียงพอแล้วด้วย
ซึ่งในขณะที่เดิน หลินฟานก็กำลังคิดอยู่ในหัวพอดี ว่าเขาจะไปเรียนวิชาในตอนบ่ายดีมั้ย แต่เมื่อเขาได้เห็นข้อความนี้ เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและรีบพิมพ์ตอบอย่างรวดเร็ว
หลินฟาน : ได้เลย เดี๋ยวผมจะรีบไป
หลังจากที่หลินฟานบอกเพื่อนร่วมห้องทั้งสามของเขาแล้วว่าเขาจะไม่เข้าในคาบบ่าย เขาก็เดินตรงไปที่ลานจอดรถในทันที
เจิ้งจินเป่าถอนหายใจ “เมื่อไหร่กันนะที่ฉันจะเก่งเหมือนกับพี่ฟาน”
ซ่งหยี่ “เมื่อนายเข้าเรียน”
“ทำไมหรอ?” เจิ้งจินเป่าถาม
“เพราะนายสามารถฝันในห้องเรียนได้ไงล่ะ” ซงหยี่พูด
เจิ้งจินเป่า:…
…………
บริษัทฮัวจือดี ตั้งอยู่ที่ชั้น 17 ของอาคารเฟยหยางในใจกลางเมืองเจียงเป่ย
และในขณะที่หลินฟานออกมาจากลิฟต์ หญิงสาวที่มีกลิ่นหอมก็พุ่งเข้าหาเขาในทันที
เธอยิ้มให้หลินฟานและพูดว่า “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”
หลินฟานตอบ “ผมมาหาชูหยุนเยว่ เธอนัดฉันไว้ ฉันชื่อหลินฟาน”
“อ๋อ! สวัสดีค่ะคุณหลิน ท่านประธานของเราได้อธิบายเรื่องคุณไว้แล้ว โปรดรอที่นี่สักครู่นะคะ”
ในขณะที่พูดคุยกัน เธอก็มองหลินฟานพร้อมกับคาดเดาเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับชูหยุนเยว่ไปด้วย
ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาของฮัวจือดี ได้ครอบครองพื้นที่เกือบหนึ่งในสามของบริษัท
และที่นี่มีขวดสูญญากาศอยู่มากมาย แถมแต่ละขวดก็มีน้ำหอมที่แตกต่างกัน
ซึ่งในเวลานี้ ชูหยุนเยว่และบุคลากรหลายคนก็กำลังศึกษาอย่างจริงจังและรอบคอบอยู่ในห้องวิจัย
“ก๊อก ก๊อก!”
มีเสียงเคาะประตูมาจากด้านนอก
จากนั้นชูหยุนเยว่ก็หยุดในสิ่งที่เธอกำลังทำและพูด “เข้ามาได้”
และเมื่อเธอเห็นว่าคนที่เดินเข้ามานั้นคือหลินฟาน ดวงตาที่สวยงามของเธอก็สว่างขึ้นในทันที เธอรีบพูดออกมาอย่างมีความสุข: “หลินฟาน คุณมาได้ถูกเวลาพอดีเลย!”
“มาดูนี่สิ นี่คือน้ำหอมเหลียนซินโฉมใหม่ของทางเรา”
ทันทีหลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็พูดขึ้นมาใหม่อีกรอบ ” ลืมเรื่องที่ฉันพูดเมื่อกี้ไปเถอะ เราไปที่สำนักงานเพื่อพักดื่มกาแฟหรือชากันก่อนดีกว่า”
เห็นได้ชัดว่าชูหยุนเยว่รู้ดีว่าหลินฟานเป็นแขกที่มีความสำคัญมาก เธอจึงต้องปฏิบัติต่อเขาดีๆ
จากนั้นหลินฟานก็ยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไร ผมไม่ค่อยหิว เรามาดูน้ำหอมกันเลยเถอะ”
ทันทีที่หลินฟานพูดจบ เขาก็ชี้ไปที่ขวดแก้วสีเหลืองในมือของชูหยุนเยว่ และเขาก็พูด “นี่คือน้ำหอมเหลียนซินใช่ไหม”
“ใช่!” ชูหยุนเยว่พยักหน้า
เมื่อเธอเห็นว่าหลินฟานไม่ต้องการดื่มกาแฟหรือชาจริงๆ เธอจึงไม่เซ้าซี้อะไร และยื่นน้ำหอมเหลียนซินให้กับหลินฟานอย่างรวดเร็ว
หลินฟานค่อยๆเปิดฝาขวด
จากนั้นกลิ่นหอมหวานสดชื่นก็ค่อยๆลอยออกมา
หลังจากที่หลินฟานได้กลิ่น เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยและพูด “การเพิ่มกลิ่นมิ้นต์และผสมดอกหอมหมื่นลี้เข้าไป…ทำให้น้ำหอมมีความสดชื่นและรู้สึกถึงความอ่อนหวานอย่างมาก แถมยังมีสัมผัสของความเป็นหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นมาอีก”
แม้ว่าชูหยุนเยว่จะเคยเห็นความสามารถของหลินฟานที่เกี่ยวกับเรื่องของน้ำหอมมาเมื่อไม่นานมานี้
แต่พอได้เห็นอีกครั้ง เธอก็ยังรู้สึกอดสงสัยไม่ได้
หลินฟานพูดต่อ “น่าเสียดายที่ยังมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตน้ำหอม มิฉะนั้น คงเทียบได้กับแบรนด์ต่างๆแล้ว เช่น เกอร์แลง”
ชูหยุนเยว่ถามอย่างเร่งรีบ “ปัญหาอยู่ตรงไหนงั้นหรอ ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม?”
น้ำเสียงของเธอดูกระตือรือร้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ซึ่งเธอเชื่อว่าสิ่งที่หลินฟานพูดนั้นจะต้องเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน
ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก…
เพราะสาเหตุที่ชูหยุนเยว่สามารถพัฒนาน้ำหอมเหลียนซินได้ในช่วงเวลาสั้นๆนั้น มาจากการที่เธอได้รับคำแนะนำของหลินฟาน
จากนั้นชูหยุนเยว่ก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างและพูด “ขอโทษที เมื่อกี้ฉันมัวแต่อยากรู้ไปหน่อย… ฉันไม่อยากรบกวนเวลาของคุณด้วย เดี๋ยวฉันจะค่อยๆศึกษาเอาเอง…”
ตอนนั้นหลินฟานได้ปฏิเสธเรื่องที่เธอจะให้เขามาเป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิค เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจจะทำงานด้านน้ำหอม ที่เขามาอยู่ที่นี้ในตอนนี้ก็เรียกว่าเป็นเรื่องยากแล้ว
แต่ชูหยุนเยว่ไม่ได้รู้ว่า หลินฟานนนั้นเองก็สนใจที่จะทำน้ำหอมเหมือนกัน
หลินฟานพูดด้วยรอยยิ้มผ่อนคลาย “ผมพพจะมีเวลาว่างอยู่บ้าง ถ้าคุณสะดวก ผมจะไปดูขั้นตอนการผลิตน้ำหอมให้”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินฟานพูด ชูหยุนเยว่ก็พูดตอบกลับอย่างมีความสุขทันที “สะดวกสิ สะดวกมาก!”
จากนั้น ชูหยุนเยว่ก็พาหลินฟานไปที่ห้องทดลองขนาดใหญ่
ที่บนโต๊ะทดลอง มีขวดทรงกรวย หลอดรูปตัวยู ตะเกียงแอลกอฮอล์ ที่วางเหล็กและอุปกรณ์อื่นๆ ตลอดจนวัตถุดิบต่างๆสำหรับทำน้ำหอม
ชูหยุนเยว่พูดกับเจ้าหน้าที่ R&Dที่อยู่ในห้อง “พวกคุณช่วยแสดงขั้นตอนการผลิตน้ำหอมเฟิ่งเซียงให้พวกเราดูหน่อย”
ขณะนี้มีผู้หญิง 4 คนและผู้ชายอีก 2 คนอยู่ในศูนย์วิจัย R&D
ในหมู่พวกเขา ชายร่างสูงผอมชื่อจ้าวซือฉง ซึ่งดูน่าจะอายุประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปีพูดขึ้นมาอย่างลังเล “ท่านประธาน เฟิ่งเซียงเป็นผลิตภัณฑ์ลับของบริษัทฮัวจือดีของเรา…”
แม้ว่าเขาจะพูดไม่จบ
แต่ความหมายที่เขาจะสื่อนั้นชัดเจนมาก
เพราะว่าหลินฟานไม่ใช่พนักงานของบริษัท เขาไม่ได้ลงนามในข้อตกลงการรักษาความลับ ถ้าสูตรน้ำหอมนี่รั่วไหลออกไปเพราะเขา บริษัทก็จะต้องพบกับความสูญเสียอย่างหนัก
ชูหยุนเยว่เองก็รู้ความหมายที่จ้าวซือฉงจะสื่อ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดอย่างเคร่งขรึม “เหตุผลที่บริษัทฮัวจือดีของเราพัฒนาน้ำหอมเฟิ่งเซียงมาได้ขนาดนี้ ก็เป็นเพราะคำแนะนำของหลินฟาน เราไม่จำเป็นต้องปิดบังสูตรนี้กับเขา”
“พวกคุณต้องแสดงขั้นตอนที่สมบูรณ์ในการผลิตน้ำหอมเฟิ่งเซียงต่อหน้าหลินฟาน”
หลินฟานมาที่บริษัทด้วยความตั้งใจที่จะช่วยปรับปรุงชุดน้ำหอมเฟิ่งเซียง
ชูหยุนเยว่ไม่อยากให้หลินฟานรู้สึกไม่มีความสุขเพราะคำพูดของจ้าวซือฉง