เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 141 : งานแสดงรถยนต์
- Home
- เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง
- ตอนที่ 141 : งานแสดงรถยนต์
วันรุ่งขึ้นกับท้องฟ้าที่แจ่มใส
หลินฟานกำลังเดินอยู่ในมหาวิทยาลัย
ซึ่งเมื่อหลินฟานเดินมาถึงทางแยกนั้น เขาก็บังเอิญได้พบกับซุนเหยาตงเข้าพอดี
“หลินฟาน ไม่ได้เจอกันนานเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ซุนเหยาตงวางมือลงบนไหล่ของหลินฟานเหมือนกับว่าเขาป็นเพื่อนซี้ของหลินฟานอย่างไงอย่างงั้น
“วิสัยทัศน์การมองคนของฉันนี่มันสุดยอดสุดๆ! ฉันเห็นความสามารถที่โดดเด่นของนายทันทีตั้งแต่ตอนที่ได้เจอกันครั้งแรก ฉันเลยชวนนายมาแข่งขันแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ซึ่งนายก็เอาชนะมาได้! แค่นั้นยังไม่พอ นายยังสร้างเครื่องทำนายแผ่นดินไหวขึ้นมาได้อีก!”
“ทำได้ดีมาก! ลูกศิษย์ของฉัน! ฮ่าๆ!”
ความสามารถโดดเด่น คว้ารางวัลเกียรติยศ สร้างเครื่องทำนายแผ่นดินไหว!
คำพูดที่ออกมาจากปากของซุนเหยาตง หลินฟานนั้นรู้สึกชินชาไปซะแล้ว
ซุนเหยาตงพูดต่อ “ตอนนี้นายถือว่าประสบความสำเร็จในด้านการงานมากเลยนะ แต่นายอย่าลืมสนใจเรื่องการใช้ชีวิตของตัวเองด้วยล่ะ นายมีผู้หญิงคนไหนที่เล็งเอาไว้บางไหม ถ้ามี นายก็ลุยแบบดับเครื่องชนไปเลย!”
“ซ่งเจียซินในชั้นเรียนของเราก็น่าสนใจอยู่นะ ถึงจะดูเย็นชาไปหน่อยก็เถอะ แต่สัดส่วนร่างกายของเธอก็จัดว่างามของจริง…”
“น่าเสียดายที่ตอนนี้ลูกสาวของฉันเพิ่งเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา ถ้าเธออายุมากกว่านี้อีกหน่อยคงสามารถเป็นแฟนกับนายได้อยู่หรอก ฮ่าๆๆ”
เมื่อหลินฟานได้ยินประโยคสุดท้าย เขาก็แทบจะสำลักน้ำลายทันที
หลังจากที่หลินฟานฟังซุนเหยาตงพูดมานาน เขาก็เริ่มพูดบ้าง“คูรที่ปรึกษา… ลูกสาวของคุณไปโรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง?”
ทั้งสองคนเดินคุยกันไปเรื่อยๆจนมาถึงหน้าห้องเรียน
ซึ่งในเวลานี้ นักเรียนทุกคนที่อยู่ในห้องก็กำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องวันปีใหม่ของตัวเอง
และเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าหลินฟานกำลังเดินเข้ามา พวกเขาก็รีบเปิดปากพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
“ดูสิ นั่น หลินฟานมาแล้ว!”
“หลินฟานจากห้องเรียนของเรา ล่าสุดเขาสามารถสร้างเครื่องทำนายแผ่นดินไหวได้แล้วด้วยนะ นายรู้หรือยัง?”
“จริงหรอ ฉันเพิ่งจะรู้เนี่ย……”
ขณะเดียวกัน ซุนเหยาตงก็เดินไปที่โต๊ะหน้าห้องเรียน
เขากระแอมในลำคอก่อนจะพูด “ขอให้นักศึกษาทุกคนช่วยแสดงความยินดีกับหลินฟานด้วยการส่งเสียงปรบมืออันอบอุ่นสำหรับการที่เขาสามารถสร้างเครื่องทำนายแผ่นดินไหวขึ้นมาได้ ซึ่งมันมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศจีน…และคนทั้งโลก!”
“เย่! เปาะ แปะ เปาะ แปะ!”
ทุกคนในชั้นเรียนปรบมือจนเสียงกระหึ่มไปทั้งห้อง!
พวกเขาจ้องมองหลินฟานด้วยความชื่นชม
และหลังจากที่ซุนเหยาตงจากไป เจิ้งจินเป่าก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “พี่ฟาน พี่เป็นถึงคนที่สร้างเครื่องทำนายแผ่นดินไหวเครื่องแรกของโลก อาจารย์ซุนได้บอกหรือเปล่าว่าทางมหาวิทยาลัยจะมอบอะไรให้กับพี่?”
ซงหยี่กับหม่าจมองตากันด้วยความอยากรู้
จากนั้นหลินฟานก็ยิ้มออกมาและพูดว่า “ที่ปรึกษาซุนบอกฉันแค่ว่า..ถ้าลูกสาวของเขามีอายุมากกว่านี้อีกหน่อยก็คงจะสามารถเป็นแฟนกับฉันได้น่ะ!”
เพื่อนทั้งสามคน : …
…………
สี่วันผ่านไป
ซึ่งในช่วงสี่วันที่ผ่านมานั้น ซองแดงที่หลินฟานได้เปิดนั้นเป็นเงินทั้งหมด
ในห้องพักตอนนี้ หม่าจงกำลังอ่านหนังสืออยู่ในหอพักอย่างจริงจัง เจิ้งจินเป่าก็กำลังเล่นคอมพิวเตอร์และหัวเราะออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย หลินฟานก็กำลังปัดหน้าจอโทรศัพท์มือถืออย่างสบายๆ
“ตึก ตึก ตึก!”
ทันใดนั้น ซงหยี่ก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ฉันได้ตั๋วเข้างานแสดงรถมา!”
“งานแสดงรถในครั้งนี้มีทั้งบีเอ็มดับเบิลยู ออดี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เฟอร์รารี่ ปอร์เช่ และรถยนต์ระดับสูงรุ่นใหม่อีกมายมากมาย!”
” ลูกพี่ลูกน้องของฉัน เธอเป็นพนักงานขายของบูธเฟอร์รารี่อยู่พอดี ฉันสามารถขอให้เธอพาพวกเราเข้าไปในงานได้นะ! พวกนายว่าไง จะไปด้วยกันไหม”
ซงยี่รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในขณะที่เขาพูด และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเจิ้งจิงเป่าได้ยิน ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นมาทันที เขาพูดตอบ “แน่นอน ฉันต้องไปอยู่แล้ว!”
ซงหยี่ถามอีกครั้ง “พี่ฟาน พี่จะไปด้วยไหม?”
หลินฟานกำลังเตรียมที่จะพูดอะไรสักอย่าง
แต่ทันใดนั้น เสียงเตือนที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
【ติ๊ง! ภารกิจ: ใช้เงินซื้อรถมากกว่าสิบล้านหยวน รางวัลพิเศษที่จะได้รับก็คือ ทักษะหนึ่งทักษะ 】
“ฉันก็จะไปด้วย!” หลินฟานพูดพร้อมกับพยักหน้า
หม่าจงวางหนังสือในมือลงแล้วกำลังคิดด้วยท่าทีที่ลังเล จากนั้นเขาก็ค่อยๆเปิดปากขึ้น: “เกรงว่าฉัน…”
ซงหยี่ไม่ให้โอกาสหม่าจงพูดอะไรออกมาอีก เขาโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูของหม่าจง “ผู้สาวขายาว ผิวขาว มีผู้หญิงในแบบที่นายชอบอยู่เต็มงานแสดงรถเลย!”
“อึก!”
หม่าจงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย การหายใจของเขาเริ่มปั่นป่วนขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้นพวกเขาทั้งสี่คนก็ได้มาขึ้นรถบิ๊กจีของหลินฟาน และพวกเขาก็ตรงไปที่งานแสดงรถอย่างรวดเร็ว
งานแสดงรถในปีนี้ตั้งอยู่ที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ
ซึ่งที่แห่งนี้เดิมทีก็เจริญรุ่งเรืองอยู่แล้ว แต่พอมีการจัดงานมอเตอร์โชว์ครั้งใหญ่ขึ้นมาก็ยิ่งคึกคักมากกว่าเดิม
เอ, บี, ซี, ดี, อี… มีที่จอดรถอยู่มากมาย
ในตอนนี้ เจิ้งจินเป่าได้รับใบปลิวมาและกำลังรู้สึกทึ่งอยู่กับมัน
จากนั้นหม่าจงก็ได้หันไปดู และดวงตาของเขาก็กลอกไปมาด้วยความรวดเร็ว เขาพูดว่า “ราคามากกว่า 1.9 ล้านหยวนเลยหรอเนี่ย?!
ซงหยี่ที่เดินตามหลังมาก็พูดอย่างผ่อนคลาย: “ออดี้ A8 รุ่นใหม่ มีระบบไฮบริดระหว่างน้ำมันกับไฟฟ้า ติดตั้งเครื่องยนต์ 4.0T และ V8 ซึ่งดีมากเลยทีเดียว!”
“แต่ถ้าหากพวกนายได้เห็นรถเฟอร์รารีในบูธที่ลูกพี่ลูกน้องของฉันแล้วล่ะก็ พวกนายก็จะรู้ทันทีเลยว่ารถคันเมื่อกี้มันไม่ได้มีอะไรมาก”
ดวงตาของซงหยี่ร้อนราวกับว่าเขากำลังจะได้เป็นเจ้าของรถเฟอร์รารี

ซึ่งชายที่ยืนอยู่ข้างๆก็มองมาที่พวกเขาด้วยใบใบหน้าที่ดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่สุดท้ายเขาก็เดินผ่านไป
5 นาทีต่อมา หลินฟานและเพื่อนๆก็เดินมาถึงทางเข้า พวกเขาค่อยๆเดินเข้าไปในงานแสดงรถ ซึ่งมีคนอยู่ข้างในมากกว่าข้างนอกอย่างมาก พวกเขาเหมือนกับมดตัวเล็กๆที่กำลังถูกบดเบียดจากผู้คนรอบตัว
และด้านหน้านี้ก็มีบูธรถยนต์ทั่วไป โตโยต้า ฮอนด้า ฮุนได โฟล์คสวาเกนและอื่นๆอีกมากมาย
ผู้คนเริ่มกระจายตัวกันไปที่บูธ ทดลองขับ สอบถาม หรือถ่ายรูป… บรรยากาศคึกคักกันอย่างมาก.
ซึ่งหลินฟานและเพื่อนๆ ก็เดินตามทางในงานไปเรื่อยๆพร้อมกับฟังซงหยี่ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับยานพาหนะอยู่ตลอดเวลา
“คุณภาพของโตโยต้านั้นดีจริง ๆ แต่เรื่องรูปลักษณ์ของมันค่อนข้างจะธรรมดาไปหน่อย”
“บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่คันนี้โคตรดี…”
“เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นใหม่ตัวนี้ดูไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่…”
…………
ในเวลานี้ บูธเฟอร์รารีสุดเท่ก็เริ่มปรากฏขึ้นมาให้หลินฟานและเพื่อนๆได้เห็น
ซึ่งในบูธแห่งนี้ก็มีหญิงสาวในเครื่องแบบอยู่เพียงสองคนเท่านั้น
ซงหยี่พูดอย่างตื่นเต้น “นั่นคือบูธของลูกพี่ลูกน้องฉันเอง!”
จากนั้นซงหยี่ก็โบกมือให้กับผู้หญิงตัวสูงและตะโกนว่า “ซงลู่!”
รูปลักษณ์ของซงลู่ดูอ่อนวัยมาก เธอเหมือนกับนักศึกษาที่พึ่งเรียนจบ
เห็นได้ชัดว่าเธอพึ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน
หลังจากที่ซ่งลู่เห็นซงหยี่ เธอก็พูดอย่างมีความสุขอย่าง “ซงหยี่!”
“ลูกพี่ลูกน้อง นี้คือเพื่อนร่วมหอพักของฉันเอง!” ซงหยี่พูด
“สวัสดีครับพี่” เจิ้งจิงเป่า หม่าจงและหลินฟานพูดออกมาทีละคน
“สวัสดีจ้า ยินดีที่ได้รู้จักนะ!” ซ่งลู่ยิ้ม “เดินกันมานานหรือยัง เหนื่อยมั้ย ดื่มน้ำก่อนสิ”
ขณะพูด ซ่งลู่ก็ยื่นน้ำทั้งสี่ขวดที่มีโลโก้เฟอร์รารีติดอยู่ออกมาให้
ซงหยี่ไม่รอช้า เขาเปิดขวดแล้วดื่มน้ำอย่างทันที
จากนั้นดวงตาของเขาก็หันไปมองรถสปอร์ตสุดเท่ในบูธทันที
“ลูกพี่ลูกน้อง ฉันขอจับรถพวกนี้ได้หรือเปล่า?” ซงหยี่ถาม
“ได้สิ แต่อย่าเอามือไปแกะไปเกาล่ะ เดี๋ยวสีรถจะถลอกหมด” ซ่งลู่เตือน