เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 174 : รังแกผู้หญิง!
- Home
- เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง
- ตอนที่ 174 : รังแกผู้หญิง!
โมโมะเป็นจุดยึดหลักของแพลตฟอร์มซางหยู เธอมีแฟนๆที่ติดตามหลายสิบล้านคน เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก
ถ้าแฟนๆรู้ว่าโมโมะไปจับมือกับคนอื่น พวกเขาคงจะต้องอ้าปากกว้างด้วยตกใจและอิจฉาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ มุมปากของโมโมะยกขึ้นยิ้มอย่างลับๆ
เสี่ยวอ้าย เซียงเซียงและคนอื่นๆที่ยืนอยู่ใกล้ๆได้แต่แสดงสีหน้าเสียดายออกมา
ทุกคนต่างคิดในใจของตัวเอง: คงจะดีถ้าเป็นฉันที่ได้ดึงมือเศรษฐีต้าจงเหรินไปร้องเพลง
ในที่สุด หลินฟานและโมโมะก็มาถึงบนเวที
โมโมะหยิบโทรศัพท์สีชมพูของเธอออกมาอย่างรวดเร็ว และเปิดเนื้อเพลง “หนีตามกันไปยังดวงจันทร์” ขึ้นมา
สุดท้าย หลินฟานก็ร้องเพลงออกมาภายใต้ความคาดหวังของทุกคน
“เธอคือหัวขโมยที่จิตใจโหดร้ายเหลือเกิน หัวใจของฉัน ลมหายใจและชื่อของฉัน ก็ถูกเธอขโมยจากไป…”
เรียบง่ายและนุ่มนวล!ไอรีนโนเวล
ไพเราะ!
ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจความหมายคำว่าไพเราะ!
ทุกคนในงานเป็นนักไลฟ์สตรีมของแพลตฟอร์มซางหยู พวกเธอต้องร้องเพลงหลายร้อยเพลงทุกๆวัน
แม้ว่าอาจจะไม่เก่งเท่านักร้องมืออาชีพบางคน
แต่พวกเธอก็มั่นใจว่าร้องได้ดีในระดับหนึ่ง…
อีกอย่าง การร้องเพลงมาเป็นเวลานานยังทำให้พวกเธอร้องเพลงได้ไพเราะขึ้นอีกด้วย
ในแง่ของทักษะการร้องเพลง พวกเธอคิดว่าก็ไม่ได้แย่ไปกว่าคนดังๆบางคนด้วยซ้ำ
มิเช่นนั้นพวกเธอคงจะไม่สามารถดึงดูดแฟนๆมาได้เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเธอได้ยินหลินฟานร้องเพลง พวกเธอก็รู้สึกถึงความด้อยกว่าในทันที พวกเธอรู้สึกละอาย… เมื่อได้ฟังเพลงที่หลินฟานร้อง!
อันที่จริง นี่เป็นเรื่องปกติ
ท้ายที่สุด หลินฟานมีทักษะเสียงสวรรค์อยู่
โมโมะที่ยืนอยู่ข้างๆก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นกับการร้องเพลงของหลินฟาน
ซักพัก เธอก็ร้องท่อนต่อของเพลง
“เธอนั่นแหละ ที่เป็นคนร้ายลักพาตัวฉัน ตัวฉันที่นั่งอยู่ที่นั่งท้ายรถนั้น รับสายลมที่โบกพัด…”
…………
เสียงเพลงอันไพเราะดังก้องไปทั่วทั้งงาน
“ห้วงอวกาศที่ไร้ซึ่งความทุกข์กังวล และความประทับใจอันบริสุทธิ์ของแสงจันทร์นั้น!”
เมื่อประโยคสุดท้ายของเนื้อเพลงถูกร้องจบ ทั้งงานก็ปรบมือและส่งเสียงเชียร์ในทันที
“วูว!”
“เศรษฐีต้าจงเหริน คุณร้องเพลงได้ไพเราะมาก!” โมโมะตะโกนลั่น
“ฉันรู้สึกว่าเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นดั้งเดิม มันเพราะไม่แพ้กันเลย!” เสี่ยวอ้ายพูด
“เศรษฐีต้าจงเหริน นายจะไม่มาเป็นนักไลฟ์สตรีมจริงๆหรอ? ตราบใดที่นายมาละก็ ฉันรับประกันได้ว่านายจะต้องดังเป็นพลุแตกอย่างแน่นอน!” จิ่วอี้ไคตะโกน
เป็นนักไลฟ์สตรีมหรอ?
บางคนอยากมีชื่อเสียง
บางคนอยากมีแฟนๆจำนวนมากเพราะต้องการทำเงิน
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ดึงดูดหลินฟานเลย
หลินฟานส่ายหัวก่อนจะพูด”ฉันไม่อยากเป็นนักไลฟ์สตรีมจริงๆ”
“โอ้ คนสวยทุกคนอยู่ที่นี่เองหรอ?!” จู่ๆก็มีเสียงเย็นเยียบดังขึ้นมาแต่ไกล
ชายร่างเตี้ยในชุดตัวการ์ตูนเดินมาที่หน้าหน้าทุกคน
“ฉันลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อเกาเจิ้นโป พวกเธอคือนักไลฟ์สตรีมแพลตฟอร์มเราสินะ”
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนที่อยู่ที่นี้ก็แสดงท่าทีเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
อนิจจา กลุ่มบริษัทซึ่งมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ มีส่วนร่วมในหลายอุตสาหกรรม เช่น โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และความบันเทิง
นักไลฟ์สตรีมรู้ดีว่าคนๆนี้เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของซางหยู
เกาเจิ้นโปที่อยู่ต่อหน้าพวกเธอ นั้นเป็นตัวตนระดับสูงอย่างแน่นอน
เกาเจิ้นโปมองดูปฏิกิริยาทั้งหมดของนักไลฟ์สตรีมสาวในดวงตาของเขา จากนั้นมุมปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย
เขาพูดเสียงดังว่า “โอ้ กำลังร้องเพลงอยู่นี่เอง! ฉันเองก็ชอบร้องเพลงที่สุด โมโมะ มาเลย มาร้องเพลงด้วยกันเถอะ!”
ขณะพูด เขาก็มองไปที่หลินฟานอย่างท้าทาย
หลินฟานขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับ
ท้ายที่สุดแล้ว นี้ไม่ใช่เรื่องของเขา
ถ้าคนอื่นต้องการร้องเพลง ก็เป็นสิทธิ์ของคนอื่น
โมโม่มองหลินฟ่านอย่างขอโทษ เธอไม่ต้องการร้องเพลงกับเกาเจิ้นโป
อย่างไรก็ตาม มันไม่ง่ายเลยที่จะปฏิเสธเพราะภูมิหลังของเกาเจิ้นโปนั้นใหญ่เกินไป
เกาเจิ้นโปหยิบไมโครโฟนและตะโกน “เล่นเพลง “The Roof” ให้ฉัน!”
ไม่นานเพลงก็บรรเลงขึ้นมา
เกาเจิ้นโปเริ่มร้องออกมา
“กลางดึกฉันนอนไม่หลับ ฮัมเพลงตามอารมณ์ เลยต้องขึ้นไปบนหลังคาเพื่อค้นหาความฝัน…”
คุกเข่า!
เกาเจิ้นโปทำให้ทุกคนต้องคุกเข่า!
อย่างไรก็ตาม ทุกคนอยากจะคุกเข่าขอร้องเพื่อไม่ให้เขาร้องเพลงต่อ
น้ำเสียงของเขานั้นร้องออกมาได้แย่มาก
ถ้าบอกว่าหลินฟ่านร้องเพลงเพราะเหมือนกับเสียงของธรรมชาติที่ไพเราะ
เกาเจิ้นโปก็คงจะเป็นการสั่นสะเทือนที่สูงถึงขนาดกลายเป็นเสียงรบกวนได้เลย!
เสียงดังมาก!
การร้องเพลงของเกาเจิ้นโปนั้นส่งผลต่อโมโมะด้วย มันถึงขนาดที่ทำให้เธอร้องเพี้ยนตาม
“ร้องเพลงบนหลังคา เพลงที่ฉันรักบนหลังคา”
ด้วยการฝืนร้องต่อไปอย่างหนักหน่วงของโมโมะ ในที่สุดเพลงก็จบลง
เกาเจิ้นโปยิ้มอย่างจริงใจ “เพลงนี้ร้องออกมาได้เยี่ยมเลย ฮ่าฮ่า!”
จากนั้นเขาก็เดินลงจากเวทีอย่างรวดเร็ว เขารินไวน์แดงแก้วใหญ่สองแก้วพร้อมกับพูดว่า “หลังจากร้องเพลงเสร็จก็ต้องดื่ม! โมโมะ มาดื่มกันเถอะ!”
โมโมะมองแก้วไวน์แก้วใหญ่อย่างลังเลแล้วพูดว่า “นายน้อยเกา ฉันดื่มได้แย่มาก… และยังในงานคาร์นิวัลด้วย ถ้าฉันเมา มันคงไม่ดี”
เกาเจิ้นโปเบิกตากว้างและพูดว่า “อะไรนะ ฉันให้เธอดื่มแต่เธอไม่เต็มใจจะดื่มหรอ?”
โมโมะกัดฟันแน่นก่อนจะพูด “งั้นฉันจะดื่มแก้วนี้ ฉันดื่มมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ”
เกาเจิ้นโปพยักหน้าอย่างได้ใจ
โมโมะมองไปที่แก้วไวน์…
สุดท้ายเธอก็ยกไวน์ขึ้นดื่ม
เห็นได้ชัดว่าการดื่มของเธอนั้นแย่มาก
หลังจากดื่มไวน์ไปหนึ่งแก้ว ใบหน้าสวยๆของเธอก็กลายเป็นสีแดงทันที
“เยี่ยม!” เกาเจิ้นโปพูดอย่างมีความสุข
จากนั้นเขาก็หยิบไวน์แก้วใหญ่สองสามแก้วแล้วยื่นให้เซียงเซียง เสี่ยวอ้าย โมโมะและเสี่ยวลี่ตามลำดับ พร้อมกับพูดว่า “พวกเธอคือนักไลฟ์สตรีมสาวที่ฉันชอบที่สุดเลย ฉันมีความสุขมากที่ได้พบพวกเธอในวันนี้!”
“มาดื่มด้วยกัน!”
ทั้งสี่คนลังเล
พวกเธอทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่บอบบางและไม่ค่อยดื่มเหล้า
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภูมิหลังของเกาเจิ้นโป พวกเธอจึงต้องฝืนดื่มมัน
หลังจากที่ดื่มไวน์กันไปคนละแก้ว ทุกคนก็เริ่มมีอาการเวียนหัวเล็กน้อย
ถ้าให้พวกเธอดื่มกันอีก เกรงว่าจะทำให้พวกเธอเมาจนกลับบ้านไม่ถูกแน่ๆ
แต่โมโมะที่ดื่มไปแก้วนึงแล้ว ก็เริ่มพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ “พอ…พอแล้ว ฉันดื่มไม่ได้แล้ว ตอนนี้ฉันดื่มอีกไม่ได้จริงๆ”
ใบหน้าของเกาเจิ้นโปมืดมดลง เขาพูด “ทำไม เพิ่งเจอกันครั้งแรกก็จะไม่ไว้หน้าฉันซะแล้วหรอ?”
“เปล่า… ฉันแค่ยังมีอีเว้นท์ที่ต้องทำในซางหยูคาร์นิวัลต่ออีก…” โมโมะพูด
“กลายเป็นว่านักไลฟ์สตรีมของแพลตฟอร์มซางหยู ไม่แม้แต่ที่จะดื่มไว้หน้าฉันเลยหรอ?… ดูเหมือนว่าฉันจะต้องบอกคุณชิวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้เขาจำกัดอนาคตของเธอดีไหม ห๊ะ!” เกาเจิ้นโปพูดอย่างเย็นชา
ใบหน้าสวยๆของโมโมะซีดลงทันทีเมื่อได้ยินที่เขาพูด
คุณชิวที่เกาเจิ้นโปพูดถึงก็คือผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของซางหยูไลฟ์
และยิ่งตอนนี้โมโมะเป็นนักไลฟ์สตรีมที่มีแฟนๆมากถึงหลายสิบล้านคน
เพราะถ้าหากผู้อำนวยการชิวพยายามที่จะจำกัดการแจ้งเตือนของเธอกับแฟนๆละก็… งานที่โมโมะพยายามมาอย่างหนักเป็นเวลาหลายปีก็จะต้องสูญเปล่าลงในไม่ช้า!
ตอนนั้นเอง หลินฟานที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมา “ผู้ชายที่รู้แต่วิธีกลั่นแกล้งผู้หญิง จะให้เรียกมันว่าอะไรดี?”