เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 143
คามิลล์มองที่แผ่นหลังของแคลร์อย่างว่างเปล่า ประตูยังคงห้อยอยู่ตรงนั้นและมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด นางช่างมาเร็วไปเร็วจริงๆ
“แคลร์ เจ้ากลับมาหาข้าก่อน มาจ่ายค่าประตูให้ข้าด้วย!” คามิลล์ได้สติหลังจากนั้นไม่นานแล้วเขาก็ตะโกนออกไป
แต่แคลร์ที่ไปไกลแล้วมีหรือจะได้ยินคำพูดของเขา
แคลร์เดินมองก้อนเมฆบนท้องฟ้าไปตามถนน จากนั้นอารมณ์ของนางก็แจ่มใสขึ้น ความเศร้าโศกก่อนหน้านี้ก็หายไป อัศวินที่ทรยศและหญิงสาวที่มีผมสีดำและดวงตาสีดำเสียชีวิตแล้ว ความเกลียดชังและความเศร้าไม่สามารถเรียกอะไรคืนมาได้ แคลร์รู้ดีว่าสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คืออะไร นางแทบจะลืมความตั้งใจเดิมไปแล้ว ความแข็งแกร่ง นางต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เป็นเทพีแห่งแสงแล้วยังไงล่ะ? ในเมื่อเทพีผู้นั้นสามารถไปถึงจุดสูงสุดของผู้แข็งแกร่งในโลกมนุษย์ได้จนถูกเรียกว่าเทพี เช่นนั้นทำไมนางจะทำบ้างไม่ได้ล่ะ?
แคลร์ถอนหายใจยาวๆ แล้วมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์
ทันทีที่เข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ องครักษ์ที่ประตูก็ทักทายด้วยความเคารพและรีบเข้าไปรายงานทันที
เวลานี้ตัวตนและสถานะของแคลร์ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ตอนนี้นางเป็นนักบวชของวิหารแห่งแสง!
เมื่อแคลร์เข้ามาในห้องโถง แคทเธอรีนและราเซียก็รีบมาต้อนรับทันที
“แคลร์!” ใบหน้าของแคทเธอรีนมีรอยยิ้มสดใส นางรีบวิ่งเข้าไปหาแคลร์แล้วจับมือ
“พี่สาว! ในที่สุดพี่ก็กลับมาแล้ว!” ราเซียก็วิ่งไปอย่างตื่นเต้นและจับแขนของแคลร์ไว้เช่นกัน
“ท่านแม่ ราเซีย” แคลร์ยิ้ม หัวใจของนางรู้สึกอบอุ่นมาก
“พี่สาว พี่จะมากเกินไปแล้ว พี่ทำสิ่งที่เหลือเชื่อมากมายลับหลังพวกเรา!” ราเซียเขย่าแขนของแคลร์อย่างตื่นเต้น
“อะไรนะ?” แคลร์มองราเซียที่ตื่นเต้นอย่างสงสัย ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามือของแคทเธอรีนที่จับนางอยู่กำลังสั่น
“ยังจะทำมึนอีก! ก็พี่ออกไปเป็นตัวแทนการประลองให้ตระกูลหลี่ที่ลากัคไง แถมยังชนะด้วย พี่จัดการเจ้าฮว๋าอะไรนั่นไง! ชื่อเสียงพี่ดังไกลมากเลยนะ ท่านปู่รู้เรื่องนี้นานแล้ว จักรพรรดิก็รู้แล้วด้วย” ราเซียตื่นเต้นและกระวนกระวายใจ พูดแล้วก็เสียใจ “น่าเสียดายที่ข้าไม่เห็นเพราะไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย”
ทันใดนั้นแคลร์ก็เข้าใจสิ่งที่ราเซียกำลังพูดถึงแล้วยิ้มออกมาจางๆ “ไม่มีอะไรหรอก หลังจากที่ข้าได้รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลี่และท่านแม่ ข้าก็เลยตัดสินใจที่จะช่วยพวกเขาต่อสู้ ในท้ายที่สุดตระกูลเฟิงและตระกูลสุ่ยก็สละสิทธิ์ไป ทำให้ข้าโชคดี ได้ที่หนึ่งมา”
หลังจากแคลร์พูดคำเหล่านี้ออกมา แคทเธอรีนก็จับมือนางแน่นขึ้น
“แคลร์ แม่ แม่…ขอบคุณนะ… ” แคทเธอรีนตื่นเต้นจนไม่รู้จะพูดอะไร แต่หัวใจของนางอบอุ่นมาก มีบางอย่างสั่นไหวที่มุมตาของนาง
“ท่านแม่ไม่ต้องขอบคุณ พวกเขาคือครอบครัวของท่านแม่ ดังนั้นก็ถือว่าเป็นครอบครัวของเราด้วย” แคลร์บีบมือของแคทเธอรีนแน่น แคทเธอรีนนิ่งไปแต่ก็ยังคงยิ้มอยู่
ลาเกอร์พ่อของแคลร์ยืนอยู่เงียบๆ ที่ประตู เขามองมาทางด้านนี้อย่างซับซ้อน ย้อนกลับไปตอนนั้น แคทเธอรีนเสียสละครั้งใหญ่เพื่อเขา เขารู้สึกผิดมาตลอดแต่ไม่สามารถชดเชยให้นางได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาอยากทำมาตลอด แคลร์ได้ทำมันแล้ว เมื่อมองไปที่ทั้งสามคนในห้องโถงที่คุยและหัวเราะกันอย่างรักใคร่ ในใจของลาเกอร์ก็รู้สึกซับซ้อนมาก
“ท่านพี่ ตอนนี้ท่านปู่ยังไม่กลับมา ถ้าท่านปู่รู้ว่าพี่กลับมาเขาต้องดีใจมากแน่ๆ จริงสิ วันนี้พี่รองต้องกลับมานี่นา ดีมากเลย วันนี้พี่กลับมาบ้านแล้ว พี่รองก็กำลังจะกลับมา วันนี้ทุกคนจะได้กินข้าวด้วยกันเสียที” ราเซียจับแคลร์แล้วพูดอย่างมีความสุข
พี่รอง? แคลร์อึ้งไป จากนั้นก็จำได้ว่าพี่ชายคนที่สองดูเหมือนจะเป็นกัปตันทีมกริฟฟอนนะ นางเคยเจอเขาในการประลองครั้งนั้นและดูเหมือนว่าเขาจะปรากฏตัวในวันเกิดของนางด้วย ความทรงจำที่มีต่อเขาไม่ได้ลึกซึ้งมากนัก ความทรงจำเพียงอย่างเดียวคือเขาดูเย็นชาและดูถูกแคลร์มาโดยตลอด
“จริงสิคะ ท่านแม่ ทำไมวันนี้ถึงอยู่บ้านล่ะคะ?” แคลร์จำได้ว่าแม่ของนางเป็นหัวหน้าผู้ดูแลขององค์หญิงแมริสแล้ว
“ก็พี่จะกลับมานี่ ท่านแม่เลยขอลากลับมาเป็นกรณีพิเศษ” ราเซียเอียงคอแล้วพูดอย่างซุกซน “จินเหยียนเป็นคนกลับมารายงาน จากนั้นท่านพ่อก็ให้คนไปแจ้งท่านแม่และท่านปู่”
“อ๋อ” ทันทีที่แคลร์ได้ยินว่าพ่อ นางก็ส่งเสียงอ๋อออกมาแต่ไม่ได้พูดอะไรมาก
“อ้อ ราเซีย เสี่ยวเปียวล่ะ? จินเหยียนล่ะ?” แคลร์ถาม
“อยู่ในสวนหลังบ้าน ไปสิ ท่านพี่ เราไปดูเสี่ยวเปียวของพี่กัน ข้าเลี้ยงอย่างดีเลยนะ มันกินเก่งมาก กินเนื้อสดทุกวันเลย” ราเซียเกาะแขนชวนแคลร์ไปและกระพริบตาอย่างซุกซนไปให้แคทเธอรีน “ท่านแม่ ข้ากับพี่ไปที่สวนหลังบ้านก่อนนะคะ ถ้าพี่รองกลับมาเรียกเราด้วยนะคะ”
แคทเธอรีนยิ้มและพยักหน้าอย่างน่ารัก ตอนนี้นางมองสองพี่น้องที่เมื่อก่อนไม่ลงรอยกัน ตอนนี้มีความสัมพันธ์ของทั้งสอง ดีเช่นนี้ อารมณ์ของแคทเธอรีนก็ดีจนไม่จำเป็นต้องพูดเลย
ราเซียพาแคลร์เดินไปที่ประตูและก็ได้เผชิญหน้ากับลาเกอร์
“ท่านพ่อ” ราเซียตะโกนเรียกด้วยรอยยิ้ม
แคลร์มองอย่างเฉยเมย นางไม่แม้แต่จะมองไปที่ลาเกอร์ นางเดินผ่านด้านข้างแล้วก็เดินไปที่สวนหลังบ้านเลย
ความอึดอัดปรากฏบนใบหน้าของราเซีย จากนั้นนางก็รีบวิ่งตามแคลร์ไป
ลาเกอร์หันไปช้าๆ มองที่แผ่นหลังของแคลร์และถอนหายใจเบาๆ เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กที่ไม่เอาไหนที่สุดผู้นั้น ตอนนี้นางจะกลายเป็นเด็กที่มีหน้ามีตาที่สุดในบ้านไปแล้ว
“ลาเกอร์…” เสียงของแคทเธอรีนดังมาจากด้านหลังลาเกอร์อย่างแผ่วเบา
“แคทเธอรีน ข้ารู้ว่าข้าไม่มีสิทธิ์บ่นเกี่ยวกับท่าทีของแคลร์ที่มีต่อข้า ทั้งหมดนี้เกิดจากข้าเอง เป็นความขมขื่นของข้า” ลาเกอร์ยิ้มอย่างขมขื่นและหันหน้าไปมองภรรยาของตนเอง
แคทเธอรีนถอนหายใจเบาๆ “แคลร์ยังเด็ก เจ้าต้องค่อยเป็นค่อยไปนะ เดี๋ยวก็เปลี่ยนท่าทีของนางได้เอง ถึงอย่างไรเจ้าก็ใส่ใจนางน้อยเกินไปจริงๆ”
“ใช่ ข้าติดค้างนางมากเกินไปแล้ว…” ลาเกอร์ถอนหายใจเบาๆ และยื่นมือไปโอบแคทเธอรีน “ข้าติดค้างเจ้าเยอะกว่า หลายปีมานี้ข้าทำผิดต่อเจ้า ข้าไม่ได้เห็นเจ้ายิ้มสดใสอย่างวันนี้มานานแล้ว แคลร์ทำให้เจ้ามีรอยยิ้มเช่นนี้ได้”
“ข้าก็ไม่ได้คิดว่าแคลร์จะไปที่ลากัคจริงๆ แถมยังไปที่บ้านตระกูลหลี่เพื่อช่วยฟื้นฟูตระกูลหลี่อีก” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ใบหน้าของแคทเธอรีนก็มีรอยยิ้มสดใสอีกครั้ง
ลาเกอร์ถอนหายใจยาวพร้อมกับสีหน้าซับซ้อน
แคลร์ ไม่ได้เป็นหญิงบ้าผู้ชายอย่างแต่ก่อนแล้ว แต่ตอนนี้นางเป็นดาวที่พร่างพราว
เรื่องราวทั้งหมดนี้ทุกคนคาดไม่ถึงเลยรวมทั้งเขาที่เป็นพ่อด้วย
ตอนแคทเธอรีนให้คนเรียกแคลร์ไปที่ห้องโถง แคลร์ก็ไม่เคยคิดว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะซับซ้อนขนาดนี้
ดยุกกอร์ตั้นกลับมาแล้ว องค์ชายสองและองค์หญิงแมริสก็มาด้วย เอเรคพี่ชายคนรองและองค์ชายใหญ่อูริสก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน!
บรรยากาศในห้องโถงดูแปลกมาก…
“คำนับองค์ชายใหญ่ องค์ชายสองและองค์หญิงเพคะ” แคลร์และราเซียต่างก็เข้าไปต้อนรับ
“ไม่ต้องสุภาพมากนักหรอก” ทั้งสามคนพูดพร้อมเพรียงกัน
“ท่านปู่ พี่รอง” ราเซียเรียกดยุกกอร์ตั้นและเอเรคออย่างมีความสุขในห้องโถง
“ท่านปู่ ข้ากลับมาแล้ว” แคลร์กระซิบกับดยุกกอร์ตั้น
“เหอะๆ กลับมาก็ดีแล้ว นั่งลงเถอะ” ดยุกกอร์ตั้นยิ้มและแสดงท่าทางให้ทั้งสองนั่งลงพร้อมกับชี้ไปที่ที่นั่งข้างๆ เขา
แคลร์ไม่ได้มองเอเรคและก็ไม่ได้ทักทาย พี่ชายคนรองผู้นี้นอกจากสายตาที่รังเกียจและเหยียดหยามของเขาแล้ว เขาก็ดูเหมือนจะหยิ่งเป็นอย่างมากในความทรงจำของแคลร์
“แคลร์ องค์ชายสองและองค์หญิงรู้ว่าเจ้ากลับมาแล้วจึงยืนกราน ที่จะมาหาเจ้าให้ได้ ฮ่าๆ ดูสิว่าฝ่าบาทดีต่อเจ้าแค่ไหน” ดยุกกอร์ตั้นหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “อีกอย่าง เจ้าน่ะ ไปทำอะไรไว้ที่ลากัคไม่บอกปู่สักคำเลยทำให้ปู่ประหลาดใจมากจริงๆ”
“องค์ชายสองและองค์หญิงเพคะ” แคลร์ฟังคำพูดของดยุกกอร์ตั้นและพยักหน้าเบาๆ กับทั้งสองคน องค์ชายสองและองค์หญิงมาเยี่ยมตนเองนั้นไม่แปลกอะไร แต่ว่าองค์ชายใหญ่มาที่คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ทำไมกันล่ะ?
เอเรคมองน้องสาวของเขาแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ความแข็งแกร่งนั้นดีมาก แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้แยแสเขาเลย ทำราวกับว่าเป็นคนแปลกหน้ากัน ทางด้านองค์ชายใหญ่รับฟังทุกคนคุยกันด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอและไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
“แคลร์ ไม่ได้เจอเจ้ามาพักหนึ่งแล้ว ความแข็งแรงของเจ้าพัฒนาขึ้นอีกครั้งแล้วนะ” องค์ชายสองมองแคลร์และพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฝ่าบาทชมเกินไปแล้ว หม่อมฉันยังไม่ดีมากนักเลย แต่คลิฟผู้เป็นอาจารย์ของข้าได้บรรลุจนได้เป็นจอมเวทย์ชั้นเซียนแล้วเพคะ” แคลร์ไม่ต้องการให้ทุกคนสนใจตัวเอง นางจึงค่อยๆ พูดเรื่องที่น่าประหลาดใจนี้ออกไปช้าๆ
“อะไรนะ?!”
“จอมเวทย์ชั้นเซียน?!”
เสียงกระซิบของทุกคนดังขึ้น ในห้องโถงตกอยู่ในความอึ้งกันหมด
“ทำไมเราไม่ได้ยินข่าวเรื่องนี้เลยล่ะ” ลาเกอร์ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ข่าวการบรรลุของอาจารย์ยังไม่เผยแพร่ออกไปค่ะ พอเขากลับมา เขาก็ไปหาอาจารย์ราอูลเพื่อนเก่าของเขาที่วิหารแห่งแสงทันทีเลย” แคลร์ไม่ได้มองไปที่ลาเกอร์ แต่มองไปที่ดยุกกอร์ตั้นและพูดเบาๆ มีความลำบากใจจางๆ ฉายในแววตาของลาเกอร์ ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของเอเรค แล้วคิ้วของเขา ก็ขมวดแน่นขึ้น
“จริงหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็น่ายินดีจริงๆ! ประเทศนี้มีจอมเวทย์ชั้นเซียนคนแรกแล้ว! ข้าต้องรายงานให้จักรพรรดิทราบโดยเร็วที่สุด” ดยุกกอร์ตั้นตื่นเต้นและอารมณ์ของเขาก็ดีมากกว่าปกติ จอมเวทย์ชั้นเซียนเลยนะ หนึ่งเดียวในแผ่นดินใหญ่ตอนนี้! อีกทั้งจอมเวทย์ชั้นเซียนผู้นี้ก็คืออาจารย์ของหลานสาวตัวเอง! จะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้อย่างไรล่ะ?
ห้องโถงเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้น บรรยากาศแปลกๆ หายไปและมีการพูดถึงประเด็นนี้กันอย่างกระตือรือร้น ราเซียอยู่ติดแคลร์คอยถามนั่นถามนี่มากขึ้น แคลร์ยิ้มและบอกกับราเซียในบางเรื่อง แต่ยังปกปิดเรื่องนายน้อยและสมบัติล้ำค่าเหล่านั้นอยู่
ดยุกกอร์ตั้นเชิญทุกคนรับประทานอาหารกันอย่างสบายๆ
อาหารกลางวันเลิศรส ไวน์ชั้นดีและอาหารอันโอชะทำให้องค์ชายและองค์หญิงชมไม่ขาดปากเลย
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ทุกคนก็ยังไม่ได้กลับทันที ดยุกกอร์ตั้นเชิญทุกคนไปที่เรือนดอกไม้เพื่อเพลิดเพลินกับดอกไม้และดื่มชากันต่อ แคลร์หาข้ออ้างไปหาเสือดาวลม นางพิงเสาในสวนหลังบ้านมองดยุกกอร์ตั้นเดินนำทุกคนเข้าไปในเรือนดอกไม้ก็ยักไหล่และถอนหายใจ การต่อสู้ระหว่างองค์ชายใหญ่และองค์ชายสองเป็นอย่างไรบ้างแล้วนะตอนนี้? ท่านปู่แอบส่งจินเหยียนไปช่วยองค์ชายสอง แต่เอเรคพี่ชายคนรองกับองค์ชายใหญ่ใกล้ชิดกันเกินไปหรือไม่? สมาชิกในครอบครัวแบ่งออกเป็นสองฝ่าย เป็นเช่นนี้จะดีหรือ?
…………………………………………………………………………….