CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 144

  1. Home
  2. เสน่ห์คมดาบ
  3. ตอนที่ 144
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ขณะที่แคลร์กำลังคิดอยู่นั้น เสียงเย็นๆ ก็ดังมาจากด้านหลัง “แคลร์”

แคลร์ไม่หันกลับไป แค่ได้ยินเสียงนางก็รู้แล้วว่าใคร เอเรคพี่ชายคนรองที่ไม่เคยแสดงสีหน้าดีๆ กับแคลร์เลยนั่นเอง!

“หืม? มีอะไรหรือ?” แคลร์ถามโดยไม่หันกลับไปมอง

“ท่าทีของเจ้านี่คืออะไร? ท่าทีของเจ้าที่มีต่อท่านพ่ออีก มันคืออะไร!” มีความโกรธจางๆ ในน้ำเสียงเย็นชานั้น

“ขอโทษนะ เจ้ากำลังสอนข้าในฐานะอะไร?” แคลร์หาวอย่างเกียจคร้านและถาม แคลร์เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพี่ชายคนรองที่หยิ่งผยองผู้นี้ดูเหมือนจะมีข้อดีก็คือมีความกตัญญูกตเวทีมาก พี่ชายคนรองผู้นี้มาสอนนางเพราะนางมีท่าทีหยาบคายต่อท่านพ่องั้นหรือ?

“ข้าเป็นพี่ชายของเจ้า!” เสียงนั้นเข้มขึ้นเล็กน้อย

“ตลกนะ ตอนนี้มาอ้างความเป็นพี่ชาย เจ้าได้เคยทำหน้าที่ของการเป็นพี่ชายแล้วหรือยัง?” แคลร์ยิ้มอย่างเหยียดหยามและค่อยๆ หันกลับมามองคนตรงหน้าอย่างเย้ยหยัน

ใบหน้าที่โกรธของเอเรคเริ่มเปลี่ยนเป็นตกใจ

“พี่ชายที่เคารพของข้า ข้าขอแนะนำให้เจ้าอย่าเลียนแบบพ่อของเจ้าที่ไม่เคยทำหน้าที่ของพ่อเลยจนกระทั่งลูกสาวอย่างข้าประสบความสำเร็จจึงได้ออกมาแสดงความคิดเห็น เจ้าไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องไร้สาระและไร้ยางอายหรอกหรือ?”แคลร์เอนตัวพิงเสาอย่างเกียจคร้านและหัวเราะเยาะ “ข้าไม่กลัวที่จะสู้กับเจ้าตอนนี้หรอกนะ”

ใบหน้าของเอเรคนิ่งไปทันที หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่คนขี้ขลาดที่เขาสามารถทำให้กลัวด้วยคำพูดที่รุนแรงได้อีกต่อไปแล้ว

“แต่เจ้าต้องคิดให้ดีถึงความเสียหายก่อนที่จะมีเรื่องกับข้านะ ข้าอาจฆ่าเจ้าโดยไม่กะพริบตาเลยก็ได้ ตอนนี้เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ของข้าหรือไม่?” ใบหน้าของแคลร์เปลี่ยนเป็นเย็นชาและไม่มีความอบอุ่นในดวงตาของนางเลย เสียงนั้นเยือกเย็นมากและพูดออกมาอย่างน่ากลัว พลังที่ยิ่งใหญ่และน่ากลัวระเบิดออกมาเช่นนี้แล้วก็หายวับไป

จู่ๆ เอเรคก็รู้สึกหนาวสั่น หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขารู้สึกหนาวสะท้านจนน่ากลัว

“อีกอย่าง ข้าขอแนะนำเจ้าอีกครั้ง ไม่ว่าเจ้าจะสนับสนุนองค์ชายใหญ่หรือเป็นสายลับที่องค์ชายสองส่งไปหาองค์ชายใหญ่ ไม่ว่าพวกเจ้าจะทะเลาะกันอย่างไร อย่าดึงท่านแม่ไปยุ่งด้วยเด็ดขาด หากเจ้าทำร้ายนาง ไม่ว่าจะเป็นใคร ข้าก็จะฆ่าพวกเจ้าอย่างไร้ความปราณีเลยล่ะ” จู่ๆ แคลร์ก็ยิ้มและพูดเบาๆ ด้วยท่าทางเกียจคร้าน ความเยือกเย็นนั้นบอกกับเอเรคว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้ล้อเล่นแน่นอน!

“จำสิ่งที่ข้าพูดไว้ให้ดี” แคลร์หัวเราะเบาๆ แล้วเดินผ่านเอเรคไป

“องค์ชายใหญ่สิที่จะได้เป็นรัชทายาทอันดับแรกของประเทศ!” เสียงของเอเรคดังขึ้นข้างหลังแคลร์อย่างมั่นใจ

แคลร์ชำเลืองมองจากหางตาของนาง แต่นางเห็นว่ามีความเดือดดาลในแววตาของเอเรค

“ก็แล้วแต่ ถึงอย่างไรก็จำสิ่งที่ข้าพูดไว้แล้วกัน” แคลร์โบกมืออย่างไม่สบอารมณ์และทิ้งคำพูดไว้เท่านั้น

เอเรคยืนอยู่ตรงนั้นแล้วมองแผ่นหลังของแคลร์ ดวงตาของเขาซับซ้อน เมื่อหันไปมองที่เรือนดอกไม้ เขาเห็นองค์ชายใหญ่ผู้อ่อนโยนและยิ้มแย้ม ดวงตาของเอเรคก็ดูอ่อนโยนลง จากนั้นเขาก็กำหมัดแน่น องค์ชายใหญ่คือความศรัทธาของเขา องค์ชายใหญ่สิคือรัชทายาทอันดับหนึ่ง! องค์ชายใหญ่จะต้องได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดและได้ทำตามความปรารถนาอย่างแน่นอน!

เมืองหลวงเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างช้าๆ

ลมหนาวพัดมาเบาๆ ทำให้รู้สึกหนาวขึ้นเล็กน้อย

ในตอนกลางคืน แคลร์เดินไปตามทางเดิน นางไปหาราเซียและมอบแหวนมิติขนาดเล็กที่นางเคยใช้มาก่อนให้ พื้นที่แค่ นั้นเพียงพอสำหรับราเซียแล้ว

เมื่อเดินไปตามทางเดิน สายลมก็พัด แคลร์ขมวดคิ้วและมองออกไปนอกลานบ้าน แต่ทันใดนั้นคิ้วของนางก็คลายออกนางเข้าไปในลานบ้าน จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนหลังคา

จินเหยียนเดินออกมาจากที่มุมเสาเงียบๆ เขามองร่างของแคลร์ที่หายไปในยามค่ำคืน แต่ไม่ได้ตามไป

“จิ๊บๆ?”

“ฮู่ๆ!”

ไป๋ตี้และเฮยหยู่นั่งบนไหล่ซ้ายและขวาของจินเหยียน ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไรกัน

จินเหยียนมองค่ำคืนที่เงียบเหงาโดยไม่ขยับไปไหน

นั่นคือเหลิ่งหลิงยวิ๋น คนที่อยู่ในสนามคือเหลิ่งหลิงยวิ๋น จินเหยียนจึงไม่ตามไป

คนผู้นั้นมีเหตุผลอะไรที่มาหาคุณหนูนะ?

จินเหยียนมองความมืดมิดยามค่ำคืนและนิ่งเงียบเป็นเวลานาน

เหลิ่งหลิงยวิ๋นบินนำหน้าแคลร์ นางไล่ตามเขาไปตลอดทาง และออกจากเมืองไปยังที่เงียบสงบช้าๆ แคลร์ค้นพบว่าสถานที่ที่เหลิ่งหลิงยวิ๋นพามานั้นคือที่ที่นางถูกอลิซและลูกพี่ลูกน้องซุ่มโจมตีหลังจากการบรรลุครั้งที่แล้ว ในที่สุดเหลิ่งหลิงยวิ๋นก็หยุดและยืนอยู่ตรงนั้น เงียบๆ ลมพัดผมสีเงินยาวของเขาราวกับเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบ

“เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?” แคลร์ถามอย่างแผ่วเบา ทัศนคติของแคลร์ที่มีต่อเหลิ่งหลิงยวิ๋นนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

“แคลร์…” เหลิ่งหลิงยวิ๋นหันไปมองแคลร์ ดวงตาของเขาดูเศร้าเล็กน้อย

“ข้ารู้สึกขอบคุณมากที่วันนี้เจ้าปลุกข้าเสียงดังจนทำให้ข้าสามารถควบคุมอารมณ์ของข้าได้ ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพระสันตปาปาเลย ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยข้า” น้ำเสียงของแคลร์เย็นชามาก

เหลิ่งหลิงยวิ๋นฟังคำพูดของแคลร์ แต่รู้สึกราวกับว่าโดนต่อยจนทำให้รู้สึกตื่นตระหนก

“เจ้าอย่าคิดว่าข้าเยาะเย้ยเจ้านะ ข้ากำลังพูดความจริงอยู่” แคลร์พูดเบาๆ และมองการแสดงออกของเหลิ่งหลิงยวิ๋น

“เชคกับหญิงสาวผู้นั้น ข้าปล่อยพวกเขาไปแล้ว ข้าบอกพวกเขาให้หนีไปยิ่งไปไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี อย่าให้โดนจับได้อีก ถ้าจับได้อีกครั้งอาจจะไม่ใช่ตอนที่ข้าอยู่คนเดียว แล้วข้าจะไม่สามารถปล่อยพวกเขาไปได้อีก” เหลิ่งหลิงยวิ๋นกัดริมฝีปากของเขาจนแทบหายใจไม่ออก

แคลร์ตกตะลึงแล้วมองไปที่ดวงตาสีม่วงของเหลิ่งหลิงยวิ๋น นางเห็นความขัดแย้งและความเจ็บปวดในตัวเขา

“ทุกคนมีคนที่พวกเขารักและห่วงใยมากที่สุด คนที่ข้าห่วงใยที่สุดคือซวนซวน ข้าสามารถทำให้มือของข้าเต็มไปด้วยเลือดและปล่อยให้จิตวิญญาณของข้าตกลงไปในเหว เพื่อซวนซวนได้ แต่ข้าหวังว่าซวนซวนจะรักษาความไร้เดียงสาของนางไว้ได้เสมอ” น้ำเสียงของเหลิ่งหลิงยวิ๋นสั่นเล็กน้อยและความเจ็บปวดก็ฉายผ่านดวงตาของเขา

“เมื่อเจ้าพบอัศวินและเด็กสาวผมดำ เจ้าไม่ได้ลงมือทำ แต่เทพธิดาเป็นคนที่ลงมือทำ ใช่หรือไม่?” สิ่ง หนึ่งแวบเข้ามาในความคิดของแคลร์และนางก็เข้าใจทันที

เหลิ่งหลิงยวิ๋นนิ่งเงียบ เขาขมวดคิ้วและค่อยๆ พูด “ข้าช่วยพวกเขาไม่ได้ ข้าไม่สามารถทิ้งซวนซวนเพื่อพวกเขาได้…”

แคลร์เงียบและเข้าใจทันที เหลิ่งซวนซวนจำเป็นต้องพึ่งพายาที่ทางวิหารจัดเตรียมไว้เพื่อประทังชีวิตของนางและทุกสิ่งที่เหลิ่งหลิงยวิ๋นทำก็เพื่อให้ซวนซวนมีชีวิตที่ดีขึ้น เหลิ่งหลิงยวิ๋นเข้าใจความเจ้าเล่ห์ของวิหาร แต่เขาก็อดทนเพื่อซวนซวนและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะชดเชยมัน

“เจ้าใช้ชีวิตอย่างเหนื่อยยากจริงๆ” แคลร์ถอนหายใจเบาๆ ความเศร้าจางๆ เข้ามาในใจนาง

ทุกคนมีคนหรือสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับพวกเขามากที่สุดและเพื่อคนหรือสิ่งที่มีคุณค่าเหล่านั้น ผู้คนก็สามารถทำเรื่องที่ยากเกินกว่าโลกหรือผู้อื่นใดจะเข้าใจได้

“แคลร์ อันที่จริงเจ้าน่าจะเข้าใจถึงความเจ้าเล่ห์ของวิหาร ข้าไม่อยากให้เจ้าเกิดเรื่องและข้าไม่ต้องการให้เจ้าเผชิญหน้ากับวิหารตรงๆ เลย” เหลิ่งหลิงยวิ๋นพูดจุดประสงค์ที่เรียกให้แคลร์ออกมาวันนี้

“ข้ารู้ว่าข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพระสันตปาปา คนอย่างพระสันตปาปานั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้เลยจริงๆ” แคลร์ขมวดคิ้วและพึมพำ “บางทีความแข็งแกร่งของเขาอาจจะเหนือกว่าอาจารย์ไปมาก แม้ว่าตอนนี้อาจารย์จะบรรลุไปแล้ว แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ดี…”

“ความแข็งแกร่งของพระสันตปาปาไม่ใช่สิ่งที่จะหยั่งรู้ได้เลย” เหลิ่งหลิงยวิ๋นถอนหายใจเบาๆ “มีบิชอปและคาร์ดินัลมากมายอยู่ด้วย ข้าไม่อยากให้เจ้าเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง” ความหมายของเขาคือไม่ต้องการให้มีเรื่องเกิดขึ้นกับนาง

“ขอบคุณนะ ข้าจะไม่หุนหันพลันแล่นเหมือนวันนี้อีก” น้ำเสียงของแคลร์ในตอนนี้ไม่เย็นชาเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่นางขอบคุณเขาอย่างจริงใจ

เหลิ่งหลิงยวิ๋นเข้าใจความหมายของคำพูดแคลร์ นางจะไม่หุนหันพลันแล่นเหมือนวันนี้ซึ่งหมายความว่านางจะมีมาตรการอื่นๆ มาแทน

“แคลร์ เจ้าต้องจำไว้ว่าความแข็งแกร่งของพระสันตปาปาไม่อาจหยั่งรู้ได้” เหลิ่งหลิงยวิ๋นเตือนอีกครั้งอย่างไม่สบายใจ

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก” แคลร์พยักหน้า

“นอกจากนี้การต่อสู้ระหว่างองค์ชายใหญ่และองค์ชายสองก็กำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ วิหารแห่งแสงจะสนับสนุนหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอนในท้ายที่สุด” เหลิ่งหลิงยวิ๋นพูดด้วยเสียงทุ้ม “ตระกูลฮิลล์ย่อมจะเลือกสนับสนุนข้างใดข้างหนึ่งเช่นกัน ถ้าทั้งสองฝ่ายสนับสนุนคนเดียวกัน ก็โอเค แต่ถ้าไม่ใช่คนเดียวกัน ตำแหน่งของเจ้าจะบอบบางและน่าอึดอัดมากขึ้นด้วย”

แคลร์เงียบคิด ดยุกกอร์ตั้นส่งจินเหยียนไปช่วยองค์ชายสองอย่างลับๆ แต่เอเรคพี่ชายคนรองสนับสนุนองค์ชายใหญ่อย่างเปิดเผย อีกทั้งดยุกกอร์ตั้นก็ไม่มีท่าทีที่จะต่อต้านเลย มันหมายความว่าอะไรกัน?

“ตระกูลฮิลล์ได้ตัดสินใจแล้วหรือไม่ว่าจะสนับสนุนใคร?” เหลิ่งหลิงยวิ๋นอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อเขาเห็นแคลร์ตกอยู่ในความคิด

“ข้าไม่รู้” แคลร์ส่ายหัวเบาๆ แล้วนั่งลงบนหินข้างๆ เขา นางตบที่ข้างๆ แล้วพูด “นั่งลงสิ ข้ามีอะไรจะถามเจ้า”

เหลิ่งหลิงยวิ๋นสะดุ้งเล็กน้อยแต่ยังคงนั่งลงข้างๆ นาง

“เจ้า เจ้าคิดอย่างไรกับท่านปู่ของข้า ดยุกกอร์ตั้น ข้าต้องการฟังความคิดเห็นของเจ้า” แคลร์ถามอย่างจริงจัง

เหลิ่งหลิงยวิ๋นมองการแสดงออกที่จริงจังของแคลร์ เขารู้ว่าแคลร์ไม่ได้ล้อเล่น เขาจึงคิดเรื่องนี้และพูดอย่างจริงจัง “เขาไม่ใช่คนธรรมดา เขาสามารถทำให้ตระกูลฮิลล์ยืนในจุดที่สูงได้ขนาดนี้และทำให้จักรพรรดิเกรงใจได้ เขาเหมือนไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาเลย” เหลิ่งหลิงยวิ๋นหยุดและพูดอย่างลังเล”คนผู้นี้มีแผนการไม่ธรรมดา “

“วิหารแห่งแสงยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะสนับสนุนองค์ชายองค์ไหนหรือ?” แคลร์เปลี่ยนหัวข้อออกไป “พูดอีกอย่างคือพระสันตปาปากำลังรออยู่ รอให้องค์ชายเผย เงื่อนไขแล้วค่อยตัดสินว่าจะสนับสนุนใครใช่หรือไม่?”

“คงจะเป็นเช่นนั้น” เหลิ่งหลิงยวิ๋นพยักหน้า

“ท่านปู่ก็คงจะรอด้วยเช่นกัน” แคลร์ขมวดคิ้ว นางดึงหัวข้อกลับมาแล้วกระซิบ“ ท่านปู่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดเลย”

“แต่มีการกล่าวกันว่าเอเรค กัปตันทีมกริฟฟอนพี่ชายคนรองของเจ้าดูเหมือนจะใกล้ชิดองค์ชายใหญ่มาก และยังมีข่าวลือว่าเจ้าและองค์ชายสองใกล้ชิดกันมากด้วย” เหลิ่งหลิงยวิ๋นบอกแคลร์ในสิ่งที่เขาได้ยินมาทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถระบุได้ว่าตระกูลฮิลล์สนับสนุนองค์ชายใหญ่หรือองค์ชายสองกันแน่

…………………………………………………………………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 144"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์