เสน่ห์คมดาบ - เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 12
“ทำไมข้าต้องบอกท่าน” แคลร์ตอบอย่างเย็นชา
ร่องรอยของความกังวลปรากฏในดวงตาของจินเหยียนที่อยู่ด้านข้าง คนผู้นี้ต้องไม่ทำให้เขาไม่พอใจเด็ดขาด แม้แต่จักรพรรดิก็เอาใจเขาอย่างมากเนื่องจากกลัวว่าเขาจะไม่พอใจ นั่นก็เพราะเขาคือผู้ที่มีพลังในการทำลายเมืองได้ในตำนานไง!
“ถ้าเช่นนั้นข้าขอเดา สิบสอง? สิบสาม? สิบสี่? สิบห้า? …” ชายชราไม่สนใจท่าทีของแคลร์และเริ่มคาดเดา แคลร์รู้สึกเพียงว่าเหมือนนางมีแมลงวันนับไม่ถ้วนบินอยู่รอบหูเท่านั้น
“แคลร์ เจ้าเป็นนักเวทย์หรือไม่” ชายชรายังคงพูดไม่หยุด แต่แคลร์ก็ไม่สนใจ ในเวลานี้ชายชราได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปอีกครั้งแล้ว
“ไม่ใช่” แคลร์ตอบออกมาอย่างเย็นชาแค่สองคำ
“แคลร์เพิ่งเข้าเรียนที่โรงเรียนไรซิ่งซัน ยังไม่ได้เข้าไปที่สภานักเวทย์เพื่อประเมินผลเลยครับ” จินเหยียนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาพูดสิ่งนี้ขึ้นมาเองหรือว่าเขาตั้งใจแนะนำแคลร์? ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วแคลร์จะโชคดีแค่ไหนนะ! เพราะเขาผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เขาคือจอมเวทย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอันพาแกรนด์ที่เดินทางไปทั่วทุกที่ และเป็นอาจารย์ของอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนไรซิ่งซันด้วย… คลิฟ! ชื่อของเขาได้รับการกล่าวขานจากชาวโลกมาตลอด เขาเป็นตำนาน จอมเวทย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ประเทศอื่นก็มีจอมเวทย์เช่นนี้ แต่เขาเป็นผู้เดียวที่สามารถกลายเป็นจอมเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ได้ตั้งแต่อายุยี่สิบหก! อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะอีกทีก็คือเขานั่นเอง แต่ว่าทุกคนรู้ดีว่าชายในตำนานผู้นี้มีข้อบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่ง นั่นก็คือ…ความหื่น! ไม่ใช่หื่นธรรมดานะ แต่น่ากลัวเลยล่ะ!
“อืม เช่นนั้นเจ้ามีอาจารย์หรือยัง? ” คลิฟถามอย่างมีความสุข
คำพูดเหล่านี้ทำให้จินเหยียนตกใจจนกรามแทบหลุด! คลิฟหมายถึงอะไร? เขาต้องการจะรับแคลร์เป็นศิษย์งั้นหรือ?! ไม่มีทางน่า? ศิษย์ของเขามีเพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคืออาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนไรซิ่งซัน! จะมาถูกใจแคลร์งั้นหรือ? ราเซียมีพรสวรรค์และเก่งกว่าแคลร์มาก แต่นางไม่เคยอยู่ในสายตาคลิฟ ตอนนี้เขามาถามแคลร์เช่นนี้งั้นหรือ?
“มีแล้ว” คำตอบที่ไม่แยแสของแคลร์ทำให้จินเหยียนเกือบตกม้า นางรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านางคือโอกาสครั้งยิ่งใหญ่!
“แล้วหากข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์ล่ะ?” คลิฟไม่สนใจคำตอบของแคลร์ และยังคงถามด้วยรอยยิ้ม
จินเหยียนรู้สึกตื่นเต้นราวกับเหมือนหัวใจของเขาพุ่งสูงขึ้นไปบนอากาศแล้วหล่นวูบ แล้วพุ่งกลับขึ้นไปอีกครั้ง
“ไม่เอา” แคลร์ปฏิเสธอย่างไม่แยแส คนหนึ่งคนสามารถมีอาจารย์ได้เพียงคนเดียว แคลร์รู้ดี
หัวใจของจินเหยียนหล่นวูบอีกครั้ง เขารู้สึกว่าวันนี้หัวใจของเขาเต้นแรงจริงๆ
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?” คลิฟทำหน้ามุ่ยอย่างรำคาญ มีคนมากมายที่อยากเป็นศิษย์ของเขา? แต่คิดๆ ดูแล้ว สาวสวยตรงหน้านี้ไม่รู้ว่าตนเองคือใคร นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางจึงเป็นทัศนคติแบบนี้
“ชายชราผู้น่าสมเพช” ปากของแคลร์พ่นพิษ สีหน้าของจินเหยียนเปลี่ยนไปอย่างมาก แม้ว่าแคลร์จะพูดความจริง แต่คนตรงหน้าคือคลิฟนะ!
“แค่กๆ …” คลิฟกระแอมไอ แต่ไม่มีความอายหรือความโกรธอยู่บนใบหน้าของเขา เขารีบเปลี่ยนหัวข้อ “ข้าคือคลิฟ”
“ปรมาจารย์คลิฟ ท่านนี่เอง! ในฐานะที่ท่านเป็นจอมเวทศักดิ์สิทธิ์เพียงผู้เดียวในประเทศของเรา ท่านเป็นตำนานมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ท่านจึงมาปรากฏตัวที่นี่ล่ะครับ? ” จินเหยียนระบุตัวตนของคลิฟในทันที เขาต้องการบอกแคลร์ว่านางไม่สามารถทำให้ชายชราผู้นี้ไม่พอใจได้ และควรเคารพบูชาเขาในฐานะอาจารย์
แคลร์เลิกคิ้วเล็กน้อย คลิฟ? ตำนานความอัจฉริยะของอัจฉริยะน่ะหรือ? อาจารย์ของอาจารย์ใหญ่โรงเรียนไรซิ่งซัน? จอมเวทย์ศักดิ์สิทธิ์เพียงผู้เดียวในอันพาแกรนด์? นี่คือความเป็นจริง! หน้าด้าน ลามก เลวร้ายมาก
จินเหยียนสงสัยอยู่ในใจ ทำไมตำนานอย่างคลิฟถึงมองเห็นแคลร์? ต้องการรับแคลร์เป็นศิษย์? หากเป็นเพียงเพราะรูปลักษณ์ของแคลร์ ก็ไม่น่าจะใช่เหตุผลที่ถูกต้องเสียเท่าไหร่ นั่นก็เพราะนักเวทย์หญิงที่สวยงามมีอยู่มากมาย เหตุผลเดียวคือแคลร์มีบางอย่างที่ไม่ธรรมดายิ่งกว่าผู้อื่น ซึ่งตนเองไม่รู้ แต่คลิฟมองเห็น!
ในใจของแคลร์ นางจำคำพูดที่ดยุกฮิลล์เคยบอกว่านางไม่ควรแสดงความสามารถพิเศษของนางต่อหน้าผู้อื่น ก่อนที่จะได้พบกับคนผู้นั้นก็ยิ่งห้ามโดยเด็ดขาด บุคคลผู้นั้นเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์ของนาง หรือท่านปู่จะหมายถึงคนผู้นี้หรือเปล่า? แคลร์เดาในใจ
ดูจากตัวตนของชายชรา ก็มีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นเขาจริง
ถ้าเป็นเช่นนั้น…
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นในดวงตาของแคลร์
“ท่านอยากเป็นอาจารย์ของข้าหรือไม่?” แคลร์ถามพลางหันหน้าไปมองคนขี่ม้าข้างๆ ที่ยังคงมองหน้าอกของนางด้วยสายตาที่น่ารังเกียจอยู่
คลิฟได้สติคืน เลิกคิ้วมองไปที่แคลร์ คลื่นเวทย์แปลกๆ แผ่ออกมาจากเขา เสียงของคลิฟดังขึ้นในหัวของแคลร์โดยที่จินเหยียนไม่ได้ยิน “สาวสวย ความสามารถของเจ้าหาได้ยากยิ่งในรอบหลายพันปี หึหึ มาเป็นศิษย์ของข้าเถอะ ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี” เสียงที่น่ารังเกียจนั้นดูเหมือนผู้ค้ามนุษย์กำลังลักพาตัวเด็กสาวไปเลย
แคลร์เข้าใจว่านี่คงจะเป็นเวทย์ขั้นสูง ซึ่งสามารถพูดคุยกับผู้อื่นได้โดยตรงในจิตใจของมนุษย์ ชายชราแสดงสิ่งนี้เพื่อบอกแคลร์ว่าเขายังมีดีอีกมาก
“สิ่งนี้หรือ…” แคลร์ขมวดคิ้ว ดูเหมือนนางกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ยังลังเลที่จะแสดงออกมา
ท่าทางลังเลของนางทำให้คลิฟรู้สึกกังวล
เขามองเห็นแคลร์ผู้สวยงามที่ประตูเมืองได้แวบเดียว จากนั้นก็ต้องประหลาดใจเมื่อค้นพบพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ของแคลร์ ล้ำค่าเช่นนี้จะยอมแพ้ได้อย่างไร? เขาต้องรับนางเป็นศิษย์ของตัวเองให้ได้! ถ้าเป็นหญิงสาวผู้นี้ รับรองได้ว่านางจะได้รับวิชาจากตนเองไปอย่างแท้จริง! เทียบกับศิษย์ของเพื่อนเก่าคนนั้นได้แน่นอน! หึ ตาแก่ที่ไร้ยางอายเสแสร้ง น่ารังเกียจ! คอยดูเถอะ ตาแก่!
แคลร์ไม่ใช่คนใจดีอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ชายชราคลิฟกระวนกระวายใจอย่างยิ่งเพราะจะรับนางเป็นศิษย์ จึงไม่ได้สังเกตเห็นในจุดนี้ จินเหยียนชะลอตัวลง เมื่อทั้งสองขึ้นไปข้างหน้า เขาก็ตามอยู่ด้านหลัง
“ทำไมข้าถึงต้องเป็นศิษย์ของท่าน” แคลร์ขมวดคิ้วมองอย่างกลุ้มใจ
“เป็นศิษย์ของข้า เจ้าจะเดินไปไหน” คลิฟดูมั่นใจมากเพราะนี่คือความจริง! คลิฟไม่เพียงแต่ใจดี แต่เขายังปกป้องศิษย์อีกด้วย แม้ว่าศิษย์ของเขาจะผิด แต่เขาก็จะคอยหนุนอยู่อย่างหนักแน่น! แน่นอนว่าการเป็นศิษย์ของเขาไม่ใช่เรื่องง่าย จนถึงตอนนี้เขามีลูกศิษย์เพียงสองคน แคลร์คือคนที่สามที่เขาหมายตา
“นี่มีอะไรดีล่ะ? ” แคลร์มองอย่างเหยียดหยาม “ข้าไม่เห็นประโยชน์เลย พูดสิ่งที่ใช้ได้จริงหน่อยสิ”
คลิฟอ้าปากค้าง แล้วกลอกตา แต่เขาก็มีความสุขอยู่ในใจ ในเมื่อสาวสวยพูดเช่นนี้ เขาก็มีโอกาสแล้ว
“นี่สำหรับเจ้า แม่หนูคนสวย สิ่งนี้เมื่อบดขยี้แล้ว เจ้าจะสามารถเรียกร่างวิญญาณของทูตสวรรค์สองปีกมาปกป้องเจ้าได้” สร้อยคอปรากฏขึ้นมาทันทีในมือของคลิฟ จี้ของสร้อยคอนี้เป็นจี้รูปหยดน้ำคริสตัล ส่องแสงเป็นประกายกับแสงอาทิตย์ ของชิ้นนี้เป็นสิ่งที่เขาชนะพนันได้มาจากชายชราที่ไร้ยางอายคนนั้น การพนันครั้งนั้นถือว่าเขาได้รับชัยชนะครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ เหมือนในที่สุดเขาก็ได้ต่อลมหายใจ เพราะคลิฟไม่มีศิษย์ที่สามารถเทียบได้กับศิษย์ของเขาผู้นั้นเลย
แคลร์รับสร้อยคอไปอย่างไม่เกรงใจใดๆ เมื่อเห็นว่าคลิฟไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร แคลร์ก็รู้ว่าสิ่งล้ำค่านี้อาจไม่ได้มีความหมายกับเขามากนัก
“ตอนนี้เรียกข้าว่าอาจารย์ได้หรือยัง?” คลิฟถามด้วยความดีใจ
แคลร์เขย่าสร้อยคอในมือแล้วพูด “สิ่งนี้ใช้ได้เพียงครั้งเดียว ถ้าถูกบดขยี้แล้วมันจะหายไปเลยสิ? หากคู่ต่อสู้มีพลังมากล่ะ เพียงแค่คู่ต่อสู้สามารถฆ่าสิ่งที่ข้าเรียกออกมาได้ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าข้าต้องตายอย่างงั้นหรือ? ศิษย์ของท่านที่เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนไรซิ่งซันมอบกำไลสายลมให้ลูกศิษย์ของเขาเชียวนะ” แคลร์สะบัดสร้อยในอากาศด้วยความดูถูก แล้วพึมพำในใจ จอมเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะมีสิ่งดีๆ แค่นี้งั้นหรือ? แค่ของเพียงเท่านึ้ก็คิดว่าจะชนะใจนางได้
คลิฟกระพริบตาและไม่รู้สึกผิดเสียด้วยซ้ำ ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมา “ของแบบนั้นมีอะไรดีล่ะ ข้ามีสิ่งนี้ให้เจ้า แล้วยังมีนี่อีก” คลิฟยกมือของเขาจับในอากาศ เอาของหลายอย่างออกมา แคลร์เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้มาจากที่เก็บของอวกาศ คลิฟต้องมีสิ่งของล้ำค่าในตำนานแน่ๆ แต่นางไม่ทราบว่ามันคือเป็นแหวนอวกาศหรือถุงอวกาศกันแน่
“ของพวกนี้มันอะไรกัน?” แคลร์ถามอย่างสงสัยในสิ่งของในมือคลิฟ
“นี่คือเสื้อคลุมล่องหน ที่สามารถซ่อนร่างกายของเจ้าไว้ได้ แต่ใช้ได้เพียงสิบนาทีนะ ส่วนนี่คือกำไลเคลื่อนย้าย แต่ด้วยเวทมนตร์ระดับสูงจึงไม่มีทางที่จะฝังเวทย์ได้อย่างสมบูรณ์ มันสามารถเคลื่อนย้ายกลับไปได้เพียงสิบห้าเมตรเท่านั้น แต่นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะหลบหนีในช่วงเวลาที่อันตรายแล้ว ส่วนคันธนูและลูกศรขนาดเล็กนี้เป็นอาวุธวิเศษ เพียงแค่เจ้าใส่พลังเวทย์เข้าไป ก็จะมีลูกศรเวทย์ออกมาตามคุณสมบัติเวทย์ของคนผู้นั้น เจ้าคือธาตุไฟ ดังนั้นการโจมตีจะมีการระเบิดของเปลวไฟ” คลิฟหัวเราะ สิ่งเหล่านี้มีค่ามากแน่นอน ดีกว่ากำไลสายลมของราเซียหลายเท่า ของสิ่งแรกมีค่ามาก เพราะหากตกอยู่ในมือของนักฆ่า แม้เพียงแค่สิบนาทีก็อันตรายมากแล้ว ของชิ้นที่สองสามารถเคลื่อนย้ายไปด้านหลัง 15 เมตรคือยังไง? เมื่อนักเวทย์เผชิญหน้ากับศัตรู การต่อสู้ในระยะประชิดเป็นเรื่องต้องห้าม การอยู่ห่างจากศัตรูเป็นประโยชน์มาก ส่วนคันธนูและลูกศรเล็กๆ นั้นดูสวยงามมาก ด้านบนมีดอกไม้สีทองแกะสลักอยู่ ดอกไม้นี้ให้กลิ่นอายที่มีมนต์ขลังจางๆ การสลักวงจรเวทย์มนตร์สลักบนดอกไม้แกะสลัก ต้องบอกว่าคนที่ทำคันธนูและลูกศรนี้มีความสามารถเป็นอย่างมาก
“อืม ขอบคุณ” แคลร์ยอมรับทุกอย่างอย่างไม่เกรงใจ นางพอใจกับความใจกว้างของชายชราผู้นี้อย่างมาก