เสน่ห์คมดาบ - เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 159
“ที่นี่มันเขตแดนของเมืองเฟิงฮัวไม่ใข่หรือ?” แคลร์จำสถานที่นี้ได้ในทันที
“หึ ใช่” เฟิงอี้เซวียนพยักหน้า เขาเคยมาที่นี่หลายครั้งเลยจำได้
ทั้งสองมองหน้ากันและพบว่าเสื้อผ้าบนร่างกายของพวกเขาได้รับความเสียหายมาก มีเลือดเปื้อนเต็มไปหมด พวกเขาดูเละเทะมาก
“เราไปหาที่อาบน้ำด้วยกันก่อนเถอะ” เฟิงอี้เซวียนพูด
“เจ้ามีม้วนกระดาษกลับบ้านหรือไม่ ครั้งที่แล้วแม่เจ้าพาข้ากลับไปที่อยู่ในห้องลับของบ้านเจ้า” แคลร์ไม่ได้โกรธกับคำพูดที่คลุมเครือของเฟิงอี้เซวียน แล้วถามอย่างจริงจัง
“มีๆ” เฟิงอี้เซวียนรีบหยิบม้วนเวทย์ออกมาจากแหวนมิติ ม้วนเวทย์เหล่านี้มีค่ามากเพราะท่านลมใช้พลังงานไปมากเพื่อสร้างมันขึ้นมา มีเพียงแม่ของเขาเท่านั้นที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่ สิ่งที่เฟิงอี้เซวียนถือเป็นม้วนเวทย์เคลื่อนย้ายที่สามารถเคลื่อนย้ายคนได้เพียงคนเดียว
“อื้ม อย่างนี้นะ เจ้าจับม้วนเวทย์ให้แน่น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าปล่อยมันนะ” แคลร์มองม้วนเวทย์ในมือของเฟิงอี้เซวียนและพูดอย่างจริงจัง
“อืม” เฟิงอี้เซวียนไม่เข้าใจว่าแคลร์จะทำอะไร แต่เขาก็จับม้วนเวทย์ไว้อย่างเชื่อฟัง ท่าทางจริงจังของแคลร์เช่นนี้เห็นได้ไม่บ่อยนัก เฟิงอี้เซวียนจึงเชื่อฟัง
“ให้ข้าดูหลังมือขวาและเล็บมือซ้ายของเจ้าหน่อย” แคลร์ก้มลงมองไปที่มือของเฟิงอี้เซวียนและพูดต่อ
“ได้สิ” เฟิงอี้เซวียนรีบบิดมือไปในทิศทางอย่างเชื่อฟังทันทีโดยที่ยังคงถือม้วนไว้ในมือ
แสงสีขาวสว่างวาบก่อนที่เฟิงอี้เซวียนจะร้องออกมา ร่างนั้นก็เคลื่อนย้ายกลับไปที่บ้านตระกูลเฟิงแล้ว
“ช่างเป็นเด็กที่น่ารักและไร้เดียงสาจริงๆ ” แคลร์ยักไหล่และพูดด้วยน้ำเสียงสงบ นางมีแผน อยู่ในใจแล้ว หลังจากที่เฟิงอี้เซวียนได้ผ่านความยากลำบากกับนางมาครั้งนี้ เขาก็ได้บรรลุขั้นที่สิบเอ็ดของสายลมเทียนกังแล้ว เขาก็ควรจะกลับไปที่บ้านและควรกลับไปบอกท่านลมเทียนกังด้วย แต่แคลร์รู้ว่าถ้านางบอกให้เฟิงอี้เซวียนทำตามเช่นนี้ เขาจะไม่มีวันตกลง นางเลยต้องหลอกให้เขากลับไป
“คิก…” เสียงหัวเราะที่อดกลั้นไม่ได้หลุดออกมา
แคลร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันไปมอง นางก็เห็นชายผิวขาวในระยะไกล เขากำลังมองมาทางนี้ ในระยะดังกล่าวนั้นทั้งสองคนสามารถมองเห็นรูปลักษณ์และการเคลื่อนไหวของกันและกันได้อย่างชัดเจน แคลร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อกี้นางเอาแต่สนใจเฟิงอี้เซวียนจนไม่มีรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขา ตอนนี้นางมีสมาธิแล้วจึงรู้สึกถึงการมีอยู่ของคนๆ นั้นได้ คนๆนี้แข็งแกร่งมาก หากประมาท เขาจะเป็นศัตรูที่อันตรายเลยทีเดียว
เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นได้ยินสิ่งที่แคลร์พูดกับเฟิงอี้เซวียน เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
แคลร์ไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายสังหาร ดังนั้นคนๆ นั้นไม่น่าจะมุ่งร้าย แคลร์หันกลับมาและกำลังจะจากไป ตอนนี้นางต้องการหาที่อาบน้ำให้ สบายตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้า เสื้อผ้าบนร่างกายของนางเปียกโชกไปด้วยเลือดและติดอยู่กับร่างกายซึ่งทำให้นางอึดอัดมาก จบเรื่องนี้แล้วคงจะต้องไปกลับไปที่บ้านเสียหน่อย วิหารแห่งแสงที่น่ารังเกียจนั่นไม่ยอมปล่อยนางเลยจริงๆ
“เดี๋ยวก่อน! แคลร์!” แต่ในขณะที่แคลร์กำลังจะไป ก็มีสายเรียกมาจากด้านหลัง เขาคือคนที่หัวเราะเมื่อครู่นั่นเอง
แคลร์ขมวดคิ้วและหันกลับไปมองชายที่บินมาอย่างรวดเร็ว ในใจก็มีความสงสัย นางมั่นใจว่าไม่รู้จักคนๆ นี้เลย แต่เขารู้ชื่อนางได้อย่างไร?
ชายคนนั้นรีบไปตรงหน้าของแคลร์อย่างรวดเร็ว เขาคือกาดาร์ผู้นั้นเอง!
แคลร์มองชายตรงหน้า ใบหน้าที่หล่อเหลาและอ่อนเยาว์เต็มไปด้วยความดื้อรั้น ดวงตาของเขาดูสงบไม่เข้ากับอายุของเขาเลย เขาอยู่ในชุดขาวที่แคลร์ดูแล้วรู้สึกคุ้นเคย
“ข้าไม่รู้จักเจ้า” แคลร์มองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าและพูดออกมาอย่างเย็นชา
“แต่ข้ารู้จักเจ้า” กาดาร์ยิ้มและมองหญิงสาวตรงหน้า แม้ว่านางจะมี เลือดเต็มตัวไปหมด แต่ด้วยใบหน้าที่สดใสและดวงตาสีเขียวกาดาร์จำได้ว่านางคือหญิงสาวผู้เจิดจ้าในคริสตัลแห่งความทรงจำผู้นั้น ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้พบนางที่นี่เลยและไม่คาดคิดว่านางจะเป็นคนที่น่าสนใจขนาดนี้ นางหลอกคนอื่นได้อย่างง่ายดาย
แคลร์มองคนที่ยิ้มตรงหน้า แคลร์รู้สึกว่าเสื้อผ้าบนร่างกายของเขาดูคุ้นเคยราวกับว่านางเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง แต่เคยเห็นที่ไหนล่ะ?
“ข้าเคยเห็นเจ้าในบันทึกคริสตัลความทรงจำ ในการประลองของลากัค ตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งกว่าครั้งนั้นอีก” กาดาร์มองแคลร์ด้วยสายตาแผดเผา เขาอยากจะสู้กับผู้หญิงตรงหน้าจริงๆ เขาอยากรู้ว่าตอนนี้นางเข้มแข็งแค่ไหน เขากับนาง ใครจะเก่ง กว่ากันนะ แต่จะไปท้าทายนางในตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลย เลือดที่แห้งเกรอะกรังบนร่างกาย แสดงให้เห็นว่านางเพิ่งผ่านการต่อสู้ที่รุนแรงและยังไม่ฟื้นตัวเลย
“โอ้” แคลร์ส่งเสียง เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้า ดูคริสตัลความทรงจำในการประลอง แต่สิ่งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาง แคลร์จึงหันและเดินไปข้างหน้า
“เดี๋ยวก่อน” กาดาร์เดินมาที่ตรงหน้าของแคลร์และพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณหนูแคลร์ เจ้าช่วยสู้กับข้าได้หรือไม่ แน่นอนว่าไม่ใช่ตอนนี้ รอให้อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีก่อน”
ที่แท้ก็เป็นคนงี่เง่าที่อยากจะต่อสู้นี่เอง
แคลร์ไม่สนใจแล้วเดินไป
“คุณหนูแคลร์” กาดาร์รีบตามไป “ได้โปรดสู้กับข้าเถอะ”
แคลร์ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินต่อไป
“คุณหนูแคลร์ โปรดสู้กับข้าเถอะ” กาดาร์ส่งเสียงพึมพำอยู่ข้างหลังแคลร์ราวกับแมลงวัน
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” แคลร์ยืนนิ่งหันไปมองกาดาร์แล้วยิ้มเยาะ “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถสู้กับข้าตอนนี้ได้หรือไม่? คิดว่าจะเอาชนะข้าได้หรือ?”
“ ยังเร็วเกินไปที่จะบอกผลแพ้ชนะโดยที่ยังไม่ได้สู้” กาดาร์ดูท่าทางจริงจัง
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าแข็งแกร่งมากแค่ไหน?” แคลร์เริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย ดูเหมือนกับพระเจ้าแกล้งนาง ทุกครั้งที่นางแข็งแกร่งขึ้น ก็จะมีคนที่แข็งแกร่งกว่ามาหาเรื่องนาง พอมาคิดอย่างรอบคอบแล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ! ทุกครั้งที่นางบรรลุ นางจะต้องพบกับผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเสมอ! เช่นเดียวกับในสถานที่ทดลองเลย! นางบรรลุขั้นที่สิบของกระจกดอกบัว แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะการรวมกันของเจ้าเมืองเก้าเมืองได้ หากมีสองหรือสามคนอาจต่อสู้กันได้ แต่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสถานที่ทดลองทั้งหมดกลับเข้ามาล้อมนางและเฟิงอี้เซวียนไว้ นรกจริงๆ! ตอนนี้ต้องมาพบกับคนโง่เขลาที่น่ารำคาญนี้อีก หรือว่าใบหน้าของนางดูเป็นคนที่จะแพ้ใครง่ายๆ ได้งั้นหรือ?
กาดาร์ตะลึง ตามที่เขาเห็น ตอนนี้อาการบาดเจ็บของแคลร์ยังไม่หายดี ความแข็งแกร่งของนางจึงด้อยกว่าเขาเล็กน้อย แต่หากนางอาการดีขึ้น ความแข็งแกร่งของพวกเขาน่าจะเท่ากัน
“ถ้าเจ้าต้องการจะต่อสู้ เจ้าต้องรอให้ข้ารักษาตัวก่อน แล้วข้าจะอัดเจ้าให้หาทางกลับบ้านไม่เจอเลย เจ้าไปหาข้าที่บ้านตระกูลฮิลล์ที่อันพาแกรนด์แล้วกัน” แคลร์พูดแล้วเดินไป
ช่างยิ่งใหญ่! ช่างเป็นทัศนคติที่เย่อหยิ่งมาก!
ใบหน้าของกาดาร์นิ่งลงช้าๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดคำที่หยิ่งผยองเช่นนี้กับเขา
“ข้าจะไปส่งเจ้ากลับ ข้าจะปกป้องเจ้าและรอจนกว่าอาการบาดเจ็บของเจ้าจะหายดี! จากนั้นโปรดสู้กับข้าด้วยกำลังทั้งหมดของเจ้าเลย!” ความดื้อรั้นของกาดาร์ดังขึ้นและดวงตาของเขาดูนิ่ง
“ไม่สนใจ” แคลร์ไม่สนใจคนเพี้ยนๆ แบบนี้ หากไม่ใช่ว่าอาการบาดเจ็บยังไม่หายในตอนนี้ นางคงจะจัดการกับชายผู้นี้ไปแล้ว ยาของซือคงหลินสามารถหยุดเลือดได้ทันที แต่อาการบาดเจ็บยังไม่หายทั้งหมด
กาดาร์ไม่พูดอะไรและตามหลังแคลร์ไปอย่างใกล้ชิด
เมื่อแคลร์เข้าไปในโรงแรม ทุกคนก็มองนางด้วยสายตาแปลกๆ พวกเขามองกาดาร์ที่กำลังตามนางมา เสื้อผ้าของแคลร์เปื้อนไปด้วยเลือดในขณะที่เสื้อผ้าสีขาวของกาดาร์นั้นดูเรียบร้อยจนผิดปกติ คู่นี้แปลกเกินไป ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ปกป้องหญิงสาวเลยใช่หรือไม่? กาดาร์รู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่ไม่เป็นมิตรของผู้คนในโรงแรม เขาจึงก้มหน้าลงแล้วไปติดต่อขอเปิดห้องพักของตัวเอง
ตกดึก แคลร์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง เมื่อรู้สึกถึงพลังของดอกบัวในร่างกาย นางก็ประหลาดใจที่พบว่าพลังของดอกบัวทำงานได้ด้วยตัวเองจริงๆ แม้ว่จะช้ามากแต่พลังก็ไหลเวียนเพื่อรักษานาง แม้ว่าความคืบหน้าจะช้ามากแต่ก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
แคลร์ดีใจมาก นางไม่เคยคิดว่ากระจกดอกบัวจะมีผลที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ แคลร์กระตุ้นพลังดอกบัวในตัวและเร่งการทำงานของพลังนั้น หากดำเนินต่อไปเช่นนี้ การบาดเจ็บของนางจะหายเป็นปกติในสองสามวัน ดีจริงๆ!
ดอกบัวสีทองหลับไปอีกครั้งหลังจากที่ดูดซับสายฟ้า จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตื่นเลย
ไม่รู้ว่าเมืองหลวงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง จิตวิญญาณของแคลร์เข้าสู่สภาพว่างเปล่าอย่างช้าๆ ทุกสิ่งรอบตัวเงียบและดูเหมือนจะโปร่งใส
แคลร์รับรู้สภาพแวดล้อม รูปแบบของเสาเตียง ฝุ่นในรอยแยกของพื้น เครื่องประดับบนผนังและกลอนประตู จิตวิญญาณค่อยๆ ขยายตัวไปตามพื้นทางเดินบันได และด้านล่างมีคนนั่งดื่มและคุยกันอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม
ทุกอย่างชัดเจนมาก
แคลร์กำลังจะถอนการรับรู้ของนาง แต่เสียงต่ำก็ดังเข้าหูของนางเสียก่อน
“ข้าได้ยินมาว่าตระกูลฮิลล์กำลังมีปัญหาใหญ่ ตอนนี้ดยุกฮิลล์กำลังปวดหัวเช่นกัน”
“ก็ภรรยาของมาร์ควิสลาเกอร์พยายามที่จะสังหารองค์ชายใหญ่ นี่ไม่ใช่อาชญากรรมเล็กๆ น้อยๆ ข้าได้ยินมาว่านางถูกขังอยู่นะ”
“อา พูดตามตรง ข้าไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะง่ายขนาดนั้นนะ”
“แน่นอนเลย เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการสมคบคิด จักรพรรดิไม่เคยเลือกองค์รัชทายาทเลย ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชายทั้งสองไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องเปลี่ยนไป”
“พูดเบาหน่อย…”
แคลร์ไม่ได้ฟังคำพูดต่อไป หัวใจของนางบินกลับไปที่เมืองหลวงแล้วในเวลานี้! ท่านแม่ถูกขังจริงหรือ? นางถูกสงสัยว่าจะทำการสังหารองค์ชายใหญ่งั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร! นี่เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันอย่างเห็นได้ชัด เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นางจะต้องกลับไปถามท่านปู่ แล้ว
แคลร์ถอนการรับรู้ของนางทันที นางลืมตาขึ้นและหยิบเวทย์คลื่อนย้ายที่อูมาริมอบให้นางออกมาจากแหวนมิติ ในขณะนี้แคลร์รู้สึกกังวลอย่างมาก นางอยากกลับไปที่เมืองหลวงทันที
……………………………………………………………………………..