เสน่ห์คมดาบ - เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 161
ม่านตาของแคลร์ขยายออกหัวใจก็เย็นเยียบ
นั่นคือผู้มีตำแหน่งสูงสุด!เรื่องความฉลาดจึงไม่ใช่แค่ธรรมดา!
ร้ายกาจ เจ้าแผนการ!
ไม่แปลกใจที่นี่คือแผนการที่เขายอมรับ!
รัชทายาทต้องมาจากการคัดเลือกแต่ไม่มีทางยินยอมให้อำนาจเทพเจ้าเหนือกว่าอำนาจราชวงศ์ตระกูลฮิลล์ที่นับวันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาอยู่เฉยไม่ได้ครั้งนี้เขาเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ ที่จริงคือคิดใช้มือขององค์ชายใหญ่และวิหารแห่งแสงมาทำให้ตระกูลฮิลล์อ่อนแอลง เมื่อแพ้ทั้งสองนี้ก็จะออกมาตัดสิน
แต่แคทเธอรีนผู้เข้าใจเรื่องนี้อย่างดี เป็นผู้ที่ฉลาดยิ่งกว่า
แคลร์มองหญิงที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนตรงหน้าราวกับว่าได้รู้จักนางเป็นครั้งแรกนี่ก็คือลูกหลานของตระกูลหลี่อันเลื่องชื่อ! หากไม่ใช่เพราะว่าพ่อในนามผู้นั้น หญิงตรงหน้านี้จะทำอย่างไรอยู่ที่ลากัคนะ? แคลร์ไม่อยากจะคิดเลย
“แคลร์บางครั้งชีวิตก็ไม่มีทางเลือกเช่นนี้เจ้าเห็นความจริงทั้งหมดอย่างชัดเจนแล้วแต่กลับเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้และยังต้องทำตามขั้นตอนต่อเนื่องไปอีก” แคทเธอรีนลูบหัวของแคลร์ใบหน้าสวยมีความกังวลเกิดขึ้น “ตอนนี้ คนที่แม่อดห่วงไม่ได้ที่สุดก็คือเจ้าตัวตนสองด้านของเจ้าไม่ใช่เรื่องดีต้องมาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้นี้วิหารไม่ปล่อยเจ้าไปแน่พี่รองของเจ้า…” แคทเธอรีนพูดถึงตรงนี้สายตาก็ดูกังวล
“พี่รองทำไมหรือ?” แคลร์รู้สึกได้ทันทีว่าเรื่องนี้ดูไม่ปกติ
“พี่รองของเจ้าอยู่ฝั่งเดียวกับองค์ชายใหญ่อยู่ตรงกันข้ามกับตระกูลฮิลล์” แคทเธอรีนถอนหายใจออกมาเบาๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล “แม่ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเจ้า”
“ข้าไม่เหมือนพี่รองหรอกข้าไม่เป็นปรปักษ์กับตระกูลฮิลล์” แคลร์ตะลึงการกระทำของพี่รอง ท่านแม่ยังไม่ลังเลที่จะพูดออกมานางไม่มีทางเป็นปรปักษ์กับตระกูลฮิลล์พูดให้ถูกก็คือ จะไม่เป็นศัตรูกับท่านแม่แน่นอน
“ไม่แคลร์เจ้าเข้าใจความหมายของแม่ผิดไปแล้ว” แคทเธอรีนยิ้มอบอุ่นให้แคลร์
แคลร์รู้สึกไม่แน่ใจ
“แม่ไม่อยากให้เจ้าอยู่ฝั่งตระกูลฮิลล์แล้วเป็นศัตรูกับวิหาร” แคทเธอรีนถอนหายใจออกมาเบาๆ “พลังของวิหารไม่ได้ธรรมดาอย่างที่ใครๆคิด พลังของพวกเขาคาดเดาไม่ได้เลย”แคทเธอรีนกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านแม่…”แคลร์ทำราวกับจะพูดแล้วหยุดไป
“ไม่ต้องเป็นห่วงแม่องค์ชายสองและองค์หญิงแมริสจะปกป้องความปลอดภัยของแม่เอง” แคทเธอรีนยิ้มปลอบใจแคลร์
สายตาของแคลร์นิ่งและเย็นชา
องค์ชายสอง…หึดูเหมือนเจ้าจะลืมเรื่องที่รับปากกับข้าไปนะ
“ข้าจะช่วยท่านออกไปท่านแม่และก็ในแบบที่ท่านแม่อยากจะเห็นด้วย”แคลร์สาบานอย่างหนักแน่นอันที่จริงหลังจากที่ฟื้นฟูพลังได้อย่างเต็มที่แล้วแคลร์พาแคทเธอรีนออกจากที่นี่ได้ แต่ว่า ผลที่จะตามมาล่ะ? แคลร์รู้ดีอยู่แล้วว่าตระกูลฮิลล์เผชิญอยู่กับอะไร แล้วก็หากเป็นเช่นนี้คงต้องพาแคทเธอรีนหนีไปตลอดเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้แคลร์ไม่มีทางทำอย่างแน่นอน
“แคลร์จะหุนหันพลันแล่นไม่ได้นะหากทำได้แม่อยากให้เจ้าหลบเลี่ยงไปตระกูลหลี่ที่ลากัคชั่วคราว แม่ไม่อยากให้เจ้ามาเข้าร่วมการต่อสู้นี้ ตัวตนของเจ้าพิเศษมากเกินไป”แคทเธอรีนเตือนอย่างร้อนใจ
หลบเลี่ยงไปชั่วคราว?
แคลร์ยิ้มออกมาเบาๆ รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจและดุดัน
ตั้งแต่วันนี้ทุกคนจะได้รู้อะไรที่เรียกว่าความสามารถที่แท้จริง
“ท่านแม่ท่านไม่ต้องกังวลข้ามีขีดจำกัดของข้า ท่านรักษาสุขภาพด้วย พบกันอีกครั้งหน้า จะต้องอยู่ที่ตระกูลฮิลล์แล้วข้าขอตัวไปก่อน” แคลร์ค่อยๆ ยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ
เพียงแค่แคทเธอรีนกะพริบตาก็ไม่เห็นแคลร์อีกแล้ว
แคทเธอรีนเปิดหน้าต่างท่ามกลางความมืดยามราตรีไม่มีเงาของแคลร์แล้วแคทเธอรีนยังคงกังวลเพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นมันไปไกลเกินกว่าที่แคทเธอรีนคาดความรุนแรงของสถานการณ์ไม่มีใครคาดเดาได้เลย!
แคลร์แอบดูท่ามกลางความมืดระหว่างคิ้วเย็นเยียบ
แม้ว่าสถานกาณ์เช่นนี้ท่านแม่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ว่าบัญชีแค้นครั้งนี้ต้องได้รับการชำระ!
แคลร์ตรงไปที่พระราชวัง
ที่พระราชวังห้องนอนขององค์ชายสองสว่างไสวด้วยแสงไฟ
ในห้องหนังสือองค์ชายสองยืนอยู่ข้างหน้าต่างมองออกไปด้านนอกแววตาดูสับสน ลมพัดผมปรกหน้าเขาเขานึกย้อนกลับไปเมื่อวันนั้นแคลร์ไล่ตามเขาจนตกม้าได้รับบาดเจ็บ เขามองตรงไปข้างหน้า หญิงผู้ที่มีดวงตาสดใสกลับไม่มีเงาของเขาตอนนี้จึงนึกขึ้นได้ ว่าตั้งแต่ตอนนั้นแคลร์ก็ไม่ใช่แคลร์อีกต่อไป
องค์ชายสองถอนหายใจหญิงสาวที่สดใสผู้นั้นเข้ามาอยู่ในใจของเขาตั้งแต่เมื่อใดกัน? ตั้งแต่เมื่อไรที่เขามองไปที่นางโดยไม่ละสายตาตั้งแต่เมื่อไร ที่เขาเริ่มคิดถึงนาง
องค์ชายสองขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจยาวหากคราวนี้ได้พบแคลร์อีก ตนเองจะพูดอย่างไรดี? จะเผชิญหน้ากับนางอย่างไรดี?
“ท่านพี่ท่านพี่คิดถึงนางอีกแล้วหรือ?” เสียงขององค์หญิงแมริสดังมาจากด้านหลัง
องค์ชายเงียบแค่คิดเงียบๆ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเท่านั้น
“ท่านพี่ครั้งนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายพวกเราไม่มีทางเลือกแล้ว” องค์หญิงแมริสถอนหายใจออกมาเบาๆ
องค์ชายยังคงเงียบเหมือนเดิม
“ทางเลือกสุดท้ายแล้ว!” ทันใดนั้นเสียงอันเยือกเย็นก็ดังขึ้นในห้องหนังสือชัดเจนในหูของพวกเขาทั้งสอง เสียงนี้เป็นเสียงที่พวกเขาคุ้นเคยอย่างที่สุด
องค์ชายสองและองค์หญิงแมริสใจสั่นทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมองหาที่มาของเสียงพร้อมกับที่กริชเงินจ่อที่คอองค์ชายสอง
“แคลร์!” องค์หญิงแมริสมองแคลร์ที่ปรากฏตัวข้างหลังองค์ชายสองอย่างประหม่า กระซิบเสียงสั่น
“องค์ชายสอง องค์หญิง” แคลร์ยิ้มน้อยๆเสียงนั้นไม่มีความนุ่มนวลอยู่เลยในมือถือกริชอยู่ที่เดิม
องค์ชายสองไม่ขยับแววตานิ่งลง
“แคลร์อย่าอย่าทำร้ายท่านพี่” องค์หญิงแมริสรีบตะโกนบอกประหลาดใจมากว่าแคลร์แอบเข้ามาได้อย่างไร?พระราชวังมีทหารยามคุ้มกันเข้มงวดและประตูก็มีกองทัพทหารยืนยามกลุ่มทหารนี้แข็งแกร่งกว่าอัศวินหลวงทำไมถึงไม่รู้ว่าแคลร์แอบเข้ามาแคลร์เป็นเพียงแค่นักรบเวทจริงๆ หรือ?
“องค์หญิงเกิดเหตุอะไรขึ้นพะย่ะค่ะ?” แม้องค์หญิงแมริสจะพูดเสียงเบาแต่ทหารองครักษ์ข้างนอกก็รู้สึกได้ว่าข้างในไม่ปกติจึงตะโกนถามหากว่าเป็นนักฆ่าที่องค์ชายใหญ่ส่งมาคงแย่แน่
“ไม่มีอะไรเจ้าออกไปเถอะ” องค์หญิงแมริสขึ้นเสียงและออกคำสั่งสีหน้าเคร่งเครียด
“พะย่ะค่ะ” เสียงนอกประตูไม่รีรอ แล้วถอยกลับไปอยู่ด้านข้าง
แมริสพูดจบก็มองไปที่แคลร์อย่างกังวลหากออกแรงเพียงเล็กน้อยกริชก็แทงทะลุคอองค์ชายสองได้เลย
“แคลร์ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของข้าเองท่านพี่ไม่เกี่ยวเจ้าปล่อยเขาไปแล้วมาที่ข้าเถอะท่านพี่เป็นอะไรไปไม่ได้ อันพาแกรนด์ขาดท่านพี่ไปไม่ได้” แมริสพูดเสียงเบาอย่างร้อนใจ
“องค์หญิงคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าท่านหรือ?” แคลร์พูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา
เพียงแค่ประโยคนี้ใจของแมริสก็เหมือนจมลงในความหนาวเหน็บทันทีทุกอย่างชัดเจนแล้วมิตรภาพที่ผ่านมาไม่มีทางหวนกลับมาเป็นดังเดิมได้อีกต่อไป
“หากเจ้าฆ่าข้าแล้วได้ระบายความเกลียดชังเจ้าก็ทำเถอะแต่อย่าทำร้ายท่านพี่อันพาแกรนด์ขาดท่านพี่ไปไม่ได้จะปล่อยให้อำนาจเทพเจ้ามาแทนอำนาจกษัตริย์ไม่ได้” องค์หญิงแมริสเอ่ยอย่างหดหู่ทั้งหมดนี้นางเป็นผู้ทำขึ้นมา หากแคลร์จะเอาชีวิตนาง นางก็ไม่มีคำพูดใดๆ
“แมริส…” องค์ชายสองสีหน้าเจ็บปวดเขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นเช่นนี้
เวลานี้องค์ชายสองรู้สึกว่าความเย็นที่อยู่ตรงคอหายไปจากนั้นก็เห็นสีหน้าประหลาดใจของแมริส
องค์ชายสองหมุนตัวกลับทันทีแต่ด้านหลังไม่มีเงาของแคลร์แล้ว
องค์ชายสองรีบมองที่นอกหน้าต่างอย่างร้อนใจค่ำคืนอันมืดมิดไม่เห็นแม้แต่เงาของแคลร์เลย
“ท่านพี่…” แมริสเดินมาช้าๆ และถอนหายใจเบาๆ “ท่านพี่ข้าขอโทษข้าทำให้ท่านเจ็บปวดเช่นนี้”
“ไม่หรอกแมริส” องค์ชายสองหลับตาลงช้าๆ และลืมตาขึ้นแล้วพูดอย่างจริงจัง “ข้าไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจวันนั้นเลย”
“ท่านพี่…” แมริสมองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างประหลาดใจ ในใจรู้สึกทรมานการเกิดมาในราชวงศ์เป็นชะตากรรม
ตอนกลางคืน
ค่ำคืนดูสงบราวกับผืนน้ำ
ยามเช้าตรู่ แสงอาทิตย์สาดส่องทั่วทุกมุมเมือง
ขณะนี้แคลร์กำลังนั่งจิบชาอยู่ในห้องลับสุดหรูในมือถือถ้วยชาพลางฟังชายวัยกลางคนร่างอ้วนที่นั่งอยู่ตรงหน้านางวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ด้วยสีหน้านิ่งเฉย และสีเฉ่าซื่อรินชาให้แคลร์อย่างเงียบๆ สีเฉ่าฉีก็เอียงหัวมองแคลร์ในใจรู้สึกสงสัยแคลร์พบการค้าในตลาดทาสจึงเรียกพวกเขาทั้งสองพี่น้องนางทำอะไรกันแน่?
“ตอนนี้ขั้นต่อไปของวิหารแห่งแสงก็คือจะลงโทษแม่ของท่านและปราบปรามองค์ชายสองตระกูลฮิลล์คงจะไม่ถูกตัดสินลงโทษตอนนี้จะต้องหาวิธี”ชายวัยกลางคนร่างอ้วนพูดอย่างเรียบๆ “ตอนนี้องค์ชายสองได้รับการสนับสนุนจากเหล่าทหารและตระกูลฮิลล์องค์ชายใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากวิหารและทีมกริฟฟอน ดูจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ถือว่าองค์ชายใหญ่เป็นฝ่ายได้เปรียบ”
แคลร์ฟังอย่างเงียบๆชายวัยกลางคนร่างอ้วนตรงหน้านี้ชื่อเฟล็ปส์เป็นเถ้าแก่ของตลาดค้าทาสแล้วก็เป็นคนของวิหารแห่งความมืดเขาไม่มีตำแหน่งในวิหารแห่งความมืดแต่บารมีของเขาสูงมากแม้แต่พระสันตะปาปาก็ยังต้องเกรงใจชายผู้นี้ฉลาด มองการณ์ไกลและเป็นผู้สนับสนุนวิหารแห่งความมืดตอนนี้เขาได้รับคำสั่งให้ช่วยแคลร์
“พูดต่อสิ” แคลร์วางถ้วยชาลงสีหน้าของนางยังคงเย็นชา
“อีกครึ่งเดือนจะมีพิธีสวนสนามทางการทหารแล้วก่อนที่จะถึงแม่ของท่านจะต้องถูกตัดสินข้อกล่าวหาหลังจากนั้นทหารจะรายงานข้อสรุปทั้งหมดก็จะเป็นสิ่งที่สรุปล่วงหน้าไว้แล้ว” เฟล็ปส์ขมวดคิ้วประเทศที่ถูกครอบงำโดยอำนาจเทพเจ้าแห่งแสง อำนาจนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแก่วิหารแห่งความมืดเป็นแน่
“ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าจักรพรรดิกำลังคิดอะไรอยู่” สีเฉ่าซื่อพูดเย็นชา“เป็นจักรพรรดิจะยอมให้อำนาจเทพเจ้าเข้ามาแทนที่อำนาจกษัตริย์ได้ได้อย่างไร? เหตุใดเขาถึงต้องยอมเช่นนี้?”