CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล - ตอนที่ 103 รักใคร่

  1. Home
  2. เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล
  3. ตอนที่ 103 รักใคร่
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เฉินลั่วได้ยินแล้วในใจพลันรู้สึกไม่ค่อยยินดีนัก 

 

 

ยศถาบรรดาศักดิ์ต้องเสี่ยงถึงได้มา วังหลวงใช่จะเข้าได้อย่างง่ายดาย ในเมื่อท่านหมอหวังผู้นั้นกล้าเข้ามาเป็นตัวเลือก ก็ต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจว่าอาจติดร่างแหไปด้วยอยู่แล้ว 

 

 

หวังซีมิใช่คนไม่เข้าใจหลักการและเหตุผล กลับเห็นใจท่านหมอหวังขึ้นมา 

 

 

หรือว่าเรื่องของเขามิได้สลักสำคัญกว่า? 

 

 

เวลาเฉินลั่วขาดการระแวดระวังตัว อีกทั้งมิใช่คนยอมปกปิดความรู้สึกของตัวเอง เวลาที่คิดเช่นนี้ จึงแสดงออกมาทางสีหน้าหลายส่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 

 

หวังซีรีบกล่าว “แน่นอนว่าข้าเชื่อใจเจ้า มอบคนให้เจ้าใช้งานนั้นข้าวางใจ” 

 

 

แต่หากเป็นผู้อื่น นางไม่กล้าพูดเลยจริงๆ ว่าอาจเกิดอะไรขึ้นบ้าง 

 

 

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องลับเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ประเภทนี้เลย แค่ตระกูลหวังของพวกนาง พี่ชายใหญ่กับพี่ชายรองของนางยามกระทำสิ่งใดนั้นฝีมือห่างชั้นกันมาก คนที่ติดตามอยู่ข้างกายก็ใช่ว่าจะลงไปจัดการให้ได้ทุกคน 

 

 

เฉินลั่วรู้สึกว่าหัวใจราวกับถูกนาบด้วยเตารีด เป็นสุขยิ่งนัก นอกจากสีหน้าจะสงบขึ้นมากแล้ว น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นอบอุ่นกว่าเมื่อครู่หลายส่วน กล่าวว่า “เจ้าวางใจ ข้ารู้จักความเหมาะสม” 

 

 

เขากล่าวเช่นนี้ หวังซีรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย ครุ่นคิดแล้วกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “ท่านปู่ข้าบอกว่า มนุษย์ทำเรื่องดี มีสิ่งดีๆ หลงเหลือ หากมนุษย์ทำเรื่องชั่ว ก็หลงเหลือสิ่งแย่ๆ ไว้ บางครั้งมองไม่ออกว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องชั่ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะปรากฏออกมาให้เห็นเอง หาไม่จะมีคำกล่าวที่ว่าคนรุ่นก่อนปลูกต้นไม้ให้คนรุ่นหลังได้ใช้ร่มเงาพักผ่อนนั่นได้อย่างไร ดังนั้นมนุษย์ไม่ควรทำสิ่งชั่วร้าย ตัวเองอาจไม่ได้รับผลกรรม แต่ผลกรรมนั้นอาจตกไปอยู่ที่คนรุ่นหลัง จิตใจมุ่งร้ายต่อผู้อื่นไม่ควรมี จิตใจระแวดระวังผู้อื่นก็ห้ามขาด” 

 

 

เจื้อยแจ้วไม่หยุดราวกับเป็นคนแก่ 

 

 

เฉินลั่วยิ้ม รู้สึกว่าหวังซีช่างน่าสนใจยิ่ง หน้าตางดงามดุจดอกไม้ที่ได้รับการทะนุถนอมเอาไว้อย่างดี กลับมีฝีปากเหมือนสตรีออกเรือนแล้ว อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงของนางไพเราะน่าฟัง แม้นพูดมากไปบ้าง แต่ก็เพราะหวังดีต่อเขา เขาไม่รู้สึกรังเกียจก็พอ 

 

 

รอยยิ้มของเขาเด่นชัดขึ้น กล่าวว่า “พอแล้ว! ข้ารู้แล้ว ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับท่านหมอหวัง มั่นใจได้ว่ามิใช่เป็นเพราะข้าอย่างแน่นอน เช่นนี้นับว่ายอมรับได้แล้วกระมัง” 

 

 

น้ำเสียงนั่น ไม่รู้ว่าแข็งกระด้างมากเพียงใด 

 

 

ช่างเป็นหมาแว้งกัดไม่รู้จักสำนึกบุญคุณจริงๆ 

 

 

หวังซีหันไปยู่ปากใส่เขา สุดท้ายไม่พูดมากอีก 

 

 

เฉินลั่วรู้สึกว่าตัวเองเบาใจลง โบกมือให้หวังซี เตรียมตัวแยกย้ายกันกลับบ้าน 

 

 

หวังซีกลับไล่ถามต่อ “เจ้าจะไปเจอบัณฑิตสองคนนั้นเมื่อไร” 

 

 

เฉินลั่วหันกลับมา เห็นนางมองตนด้วยแววตาสุกใส สว่างไสวกว่าแสงขอบฟ้ายามอาทิตย์อัสดงเสียอีก เต็มไปด้วยความคาดหวัง 

 

 

เขาตกใจมาก ฉับพลันนั้นเข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านหมอเฝิงถึงให้เขาพาหวังซีไปด้วยตอนที่แนะนำหมอหวังให้เขา แต่หลงจู๊ใหญ่กลับไม่เอ่ยถึงหวังซีเลยแม้แต่ประโยคเดียว 

 

 

ท่านหมอเฝิงและหลงจู๊ใหญ่ต้องรู้นิสัยชอบดูเรื่องสนุกของหวังซีอย่างแน่นอน ท่านหมอเฝิงรักใคร่นาง จึงตามใจนางทุกอย่าง หลงจู๊ใหญ่เองก็รักใคร่นางเช่นกัน แต่เพราะคนที่เขาจะไปเจอคือบัณฑิตสองคน กลัวว่าสองคนนั้นจะมีอคติกับสตรี คำพูดคำจาอาจดูหมิ่นดูแคลนนาง ทำให้นางต้องทุกข์ใจ 

 

 

เขาไม่เคยเห็นบ้านไหนตามใจเด็กสาวเช่นนี้มาก่อน 

 

 

เฉินลั่วอดกล่าวไม่ได้ว่า “ไม่อย่างนั้นตอนไปเจอสองคนนั้นข้าพาเจ้าไปด้วย? แต่ว่าเจ้าไม่อาจตามข้าไปเช่นนี้ได้ ต้องเปลี่ยนการแต่งกายก่อนถึงจะใช้การได้” 

 

 

แค่ได้ยินหวังซีก็เข้าใจแล้ว 

 

 

ให้เปลี่ยนการแต่งกาย นั่นก็ทำได้แค่แต่งตัวเป็นบ่าวชายหรือไม่ก็ผู้ติดตามเท่านั้นแล้ว แต่ไม่ว่าจะแต่งกายเป็นบ่าวชายหรือผู้ติดตามก็ตาม นางตามไปด้วยก็ทำได้แค่ปรนนิบัติอยู่ข้างๆ เท่านั้น ไม่แน่ว่าอาจไม่ได้เข้าประตูบ้านของผู้อื่นด้วยซ้ำ 

 

 

หากไม่ได้ฟังว่าพวกเขาพูดคุยอะไรกันบ้าง ตามไปด้วยจะมีความหมายอะไร 

 

 

นางอดยู่ปากไม่ได้ กล่าวว่า “ข้าไม่เปลี่ยนเครื่องกายไปเป็นเด็กรับใช้อยู่หลังม้าให้เจ้าหรอก ข้าจะกลับบ้านแล้ว รอเสร็จจากเรื่องงานเลี้ยงย้ายบ้านแล้ว ค่อยคุยกับเจ้าอีกที” 

 

 

ถึงเวลาเรื่องที่เฉินลั่วฝากฝังนางไว้ นางมั่นใจว่าก็คงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างไม่มากก็น้อยแล้ว 

 

 

หวังซีมั่นใจเรื่องความสามารถในการสานสัมพันธ์สร้างมิตรสหายของตัวเองเป็นอย่างมาก 

 

 

เฉินลั่วได้ยินที่นางพูดแล้วกลับประหลาดใจ 

 

 

หวังซีเฉลียวฉลาด เรื่องนี้เขารู้ดี แต่เขาไม่คาดว่านางยังทำให้เขาคาดไม่ถึงและประหลาดใจได้อีกเรื่อยๆ 

 

 

ขอแล้วไม่ได้ตามที่ขอแต่กลับระงับความปรารถนาเอาไว้ได้ การรู้จักยังยั้งจิตใจเช่นนี้ บุรุษสวมกวนแล้วจำนวนมากยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ นางที่เป็นเพียงเด็กสาวผู้หนึ่งกลับทำได้ 

 

 

เฉินลั่วมองหวังซี 

 

 

นางยังมีความลับอีกกี่ด้านที่ยังไม่เปิดเผยอีกนะ 

 

 

คุณหนูหวังคล้ายกับเป็นหนังสือหนึ่งเล่ม ขอเพียงเจ้าอ่านต่อไปเรื่อยๆ ย่อมจะอ่านเจอเนื้อหาและฉากเหตุการณ์ที่ไม่เหมือนกันอยู่เสมอ 

 

 

น้ำเสียงของเฉินลั่วเปลี่ยนเป็นบางเบาและอบอุ่นที่แม้แต่ตัวเขาเองก็นึกไม่ถึง กล่าวปลอบโยนหวังซีว่า “ไม่ว่าข้าจะขอผู้ใดมาเป็นผู้ช่วย เจ้าย่อมได้รู้จัก ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในเวลานี้” 

 

 

แน่นอนว่าหวังซีรู้ แต่สิ่งที่นางอยากรู้คือเมื่อเฉินลั่วเจอบัณฑิตสองคนนั้นแล้วจะพูดอะไรบ้าง 

 

 

ผู้อื่นกล่าวว่า ‘เยือนกระท่อมสามครั้ง[1]’ ไปกล่าวอะไรบ้างคือเรื่องที่น่าสนใจที่สุดนี่นา! 

 

 

สุดท้ายหวังซีก็ไม่ได้ดูความครึกครื้น แต่เมื่อนางกลับถึงจวนหย่งเฉิงโหว ยังไม่ทันได้เปลี่ยนอาภรณ์ ฉังเคอก็มาหาที่สวนร่มหลิว ดึงนางไปกระซิบกระซาบด้วย “ท่านย่าให้เจ้าช่วยพูดกับจวนชิ่งอวิ๋นโหวใช่หรือไม่” 

 

 

หวังซีไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้จากผู้อื่นมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ได้ยินแล้วก็พยักหน้ารับ 

 

 

ฉังเคอรีบถามต่อ “แล้วเจ้ารับปาก?” 

 

 

“เปล่า!” หวังซีเล่าเรื่องของวันนั้นให้ฉังเคอฟัง 

 

 

ฉังเคอได้ยินพรูลมหายใจยาวออกมาครั้งหนึ่ง ตบหน้าอกอย่างโล่งอก กล่าวว่า “โชคดีที่เจ้าไม่ได้รับปาก เจ้ารู้หรือไม่ว่าวันนี้ข้าได้ยินอะไรมา” 

 

 

นางไม่ได้ต้องการให้หวังซีตอบ กล่าวต่อว่า “ความจริงแล้ว…ความจริงแล้วญาติห่างๆ ของเซียงหยางโหวที่ชิ่งอวิ๋นโหวช่วยแนะนำให้ผู้นั้น บอกว่าเป็นญาติห่างๆ ของจวนเซียงหยางโหวก็จริง แต่ยังมีความสัมพันธ์กับตระกูลเจียงชวนป๋อด้วย คนที่ไปขอจวนชิ่งอวิ๋นโหวช่วยออกหน้าให้นั้น ความจริงแล้วมิใช่คนจวนเซียงหยางโหว แต่เป็นฮูหยินผู้เฒ่าของจวนเจียงชวนป๋อ จวนเซียงหยางโหวอยากได้หน้า จึงบอกผู้อื่นว่าพวกเขาเป็นคนช่วย” 

 

 

หวังซีประหลาดใจอย่างยิ่ง รู้สึกว่าจวนเจียงชวนป๋อนั้นดูคนน้อยไร้อำนาจ ทว่ากลับเหมือนจระเข้ตัวใหญ่ยักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลสาบ ทรงอิทธิพลมาก ลงมือเมื่อไรไม่เคยกลับมามือเปล่า 

 

 

นางถามอย่างสงสัยใคร่รู้ว่า “เหตุใดฮูหยินผู้เฒ่าจวนเจียงชวนป๋อต้องให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย” 

 

 

ฉังเคอกล่าว “ว่ากันว่าปู่ของคนผู้นั้นเคยช่วยชีวิตของเจียงชวนป๋อผู้เฒ่ามาก่อน ผู้อื่นนำของที่ระลึกของเจียงชวนป๋อผู้เฒ่าในปีนั้นมาหาถึงที่ เจียงชวนป๋อฮูหยินผู้เฒ่าก็ไปจัดการให้เลย ไม่เกี่ยวอะไรกับจวนเซียงหยางโหวแม้แต่นิดเดียว” 

 

 

จากนั้นนางถามหวังซีว่า “เจ้าลองเดาดูว่าข้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร” 

 

 

หวังซีเห็นดวงตาทั้งสองข้างของนางเป็นประกาย แสดงท่าทางที่บอกว่า ‘เจ้ารีบตอบข้ามา’ นั่นแล้วอดยิ้มไม่ได้ ส่ายศีรษะไปมาร่วมเล่นละครไปกับฉังเคอ ยังถามนางว่า “เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรหรือ” 

 

 

บางทีนี่ต่างหากคือสิ่งที่ฉังเคอให้ความสนใจ นางกล่าวอย่างเบิกบานว่า “ตอนที่น้องสาวสกุลพานกับท่านป้าสะใภ้ใหญ่คุยเรื่องนี้กันแล้วข้าบังเอิญไปได้ยินเข้า” 

 

 

ฉังเคอกับคุณหนูพานอาศัยอยู่ในลานบ้านหลังเดียวกัน มีสายลมพัดยอดหญ้าไหวเกิดขึ้นนางจะรู้มาบ้างก็มิใช่เรื่องแปลก แต่คุณหนูพานถึงกับรู้เรื่องวงในขนาดนี้ได้ ทำให้คนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจริงๆ 

 

 

หวังซีเร่งให้ฉังเคอรีบเล่า 

 

 

ฉังเคอเองก็ไม่ปล่อยให้คนฟังต้องอดใจรอ กล่าวว่า “ฟังจากความหมายของคุณหนูพานแล้ว การที่ท่านป้าสะใภ้ใหญ่และฮูหยินผู้เฒ่าไปสืบเรื่องนี้ทั่วทุกที่นั้น นางรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสมนัก จึงไปจวนหลิวมาครั้งหนึ่ง หาทางให้คนตระกูลหลิวช่วยไปถามมาให้” 

 

 

กล่าวถึงตรงนี้ นางอดทอดถอนใจไม่ได้ “พวกเจ้าล้วนเก่งกาจ เจ้านั้นไม่ต้องพูดถึง แต่ข้าคิดไม่ถึงว่าคุณหนูพานเองก็มีความสามารถขนาดนี้ เรื่องที่ท่านป้าสะใภ้ใหญ่และฮูหยินผู้เฒ่าสืบมาไม่ได้ นางกลับทำสำเร็จ” 

 

 

หวังซีเองก็รู้สึกคาดไม่ถึงเช่นกัน 

 

 

แต่คุณหนูพานช่วยโหวฮูหยินได้ ก็นับเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง พวกนางล้วนเป็นญาติของจวนหย่งเฉิงโหว หากจวนหย่งเฉิงโหวมีเรื่องน่าขบขันเกิดขึ้น พวกนางก็เสียเกียรติไปด้วย 

 

 

อย่างไรก็ตาม เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นตอนที่หวังซีไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่านั้น ฮูหยินผู้เฒ่าและโหวฮูหยินต่างปฏิบัติต่อนางอย่างกระตือรือร้นกว่าปกติสองสามส่วน 

 

 

หรือเป็นเพราะรู้แล้วว่ากระทำผิดต่อนาง? 

 

 

หวังซียิ้มน้อยๆ เพลิดเพลินกับความเอาใจใส่ของฮูหยินผู้เฒ่าและโหวฮูหยินอย่างมีสติ 

 

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้รับอิทธิพลมาจากฮูหยินผู้เฒ่าหรือเปล่า ด้านซือหมัวมัวก็ปฏิบัติต่อหวังหมัวมัวอย่างเอาใจใส่เช่นกัน เพียงไม่กี่วัน นอกจากจะส่งเทียบเชิญจนเสร็จเรียบร้อย และหวังหมัวมัวได้เข้าใจเรื่องพื้นฐานของตระกูลใหญ่ตระกูลโตในจิงเฉิงแล้ว ยังได้พูดคุยกับหมัวมัวที่พอจะมีหน้ามีตาของหลายๆ ตระกูลอีกด้วย 

 

 

จวนหย่งเฉิงโหวก็เริ่มวุ่นวายกับการจัดเตรียมงานเลี้ยงอีกครั้ง 

 

 

แต่แตกต่างจากงานเลี้ยงของซือจูเมื่อคราวที่แล้วเป็นอย่างมาก ตอนซือจูจัดงานเลี้ยงเชิญแขกนั้น คนจวนหย่งเฉิงโหวยุ่งกันมากจริงๆ แค่เรื่องกวาดบ้านทำความสะอาดก็มิใช่เรื่องง่ายแล้ว พวกน้ำชาขนมหวานและของคาวเหล่านั้นยิ่งไม่ง่าย แต่งานเลี้ยงของหวังซี พวกเขาต้องรับผิดชอบเพียงเรื่องกวาดบ้านทำความสะอาดเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆ มีคนของหวังซีมาจัดการเอง พวกเขาได้ผ่อนคลาย ระหว่างทำงานจึงมีอารมณ์มาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเตรียมการงานเลี้ยง 

 

 

“ฮูหยินผู้เฒ่าให้ซือหมัวมัวหยิบจานชามชุดกระเบื้องหยกขาวชุดนั้นมารอบรองบรรดาคุณหนูของแต่ละจวน แต่ข้าได้ยินป้าในเรือนครัวพูดว่า ตระกูลหวังตั้งใจจะใช้จานชามชุดนั้นตอนรับน้ำชาและของว่าง ส่วนตอนกินข้าวจะใช้ชุดกระเบื้องหลากสีที่คุณหนูใหญ่ของพวกเขานำมาด้วย” 

 

 

“ล้วนบันทึกกับป้ารับใช้ที่เรือนครัวทั้งสิ้น เกรงว่าเครื่องกระเบื้องหลากสีหลายชุดนั้นราคาไม่น้อยเลย” 

 

 

“แค่ใบชาก็เตรียมเอาไว้สิบกว่าชนิด ยังมีชาหลงจิ่นเก็บเกี่ยวก่อนวันเช็งเม้งและชากวาเพี่ยนจากลิ่วอานอีกด้วย” 

 

 

“สุราล้วนส่งมาจากจินหวาทั้งสิ้น ‘สุราซีชุน’ ที่คราก่อนคุณหนูซือย้ำกำชับพวกเราครั้งแล้วครั้งเล่าก็มีด้วยเช่นกัน แต่คนสกุลหวังกลับไม่เห็นเน้นย้ำอะไรเลย ตรงกันข้ามกลับให้คนที่ห้องน้ำชาเอาใจใส่สุราชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘ตงหยาง’ แทน เห็นบอกว่าขนส่งมาไม่ง่ายเลย สุราที่มีชื่อว่า ‘ตงหยาง’ นั่นต้องราคาแพงกว่า ‘สุราซีชุน’ อย่างแน่นอน” 

 

 

บ่าวไพร่ของจวนหย่งเฉิงโหวจึงอดเอาตระกูลทั้งสองมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ 

 

 

“จริงด้วย จริงด้วย! ข้ายังได้ยินมาอีกว่าแม่ครัวที่เรือนครัวของคุณหนูหวังรับผิดชอบแค่เรื่องขนมหวานเท่านั้น ส่วนอาหารเชิญอาจารย์ใหญ่ของหอสายลมวสันต์มาทำให้ รสชาติต้องดีมากแน่ๆ” 

 

 

แม่ครัวที่เรือนของหวังซีทำขนมหวานได้อร่อยมากเพียงใดนั้น ไม่มากก็น้อยพวกนางล้วนเคยกินมาหมดแล้ว จึงยิ่งคาดหวังกับฝีมือของอาจารย์ใหญ่จากหอสายลมวสันต์มากขึ้น 

 

 

พวกเขาไม่รู้ว่าฝีมือทำอาหารของแม่ครัวเรือนของหวังซีดีมากเช่นกัน แต่หอสายลมวสันต์เป็นกิจการของตระกูลพวกนาง โอกาสที่จะได้เป็นที่จับตามองเช่นนี้ นางย่อมต้องใส่ใจกิจการของตระกูลพวกนาง สร้างชื่อให้กิจการของตระกูลตัวเองสักหน่อย 

 

 

จวนหย่งเฉิงโหวใหญ่โต บ่าวไพร่ในจวนก็มาก ในหนึ่งวันสิบสองชั่วยามทุกคนล้วนอยู่แต่ในบ้านหนึ่งหมู่สามเฟินนี้ พอมีสายลมพัดยอดหญ้าไหวอะไรพวกเขาก็กระซิบกระซิบวิพากษ์วิจารณ์ไปได้ถึงสองสามเดือน 

 

 

จึงมีคนหันไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่สวนหิมะงามที่ซือจูอาศัยอยู่ในตอนนี้ กล่าวว่า “มิใช่หาว่าผู้อื่นมาจากบ้านนอก มาเกาะกินความมั่งคั่งหรอกหรือ หากข้าเป็นฮูหยินผู้เฒ่า ญาติเช่นนี้ยิ่งมีมากยิ่งดี อาศัยอยู่ในจวนยิ่งนานก็ยิ่งดี โหวฮูหยินกับนายหญิงรองเองต่างก็คิดจะใช้ประโยชน์จากลานบ้านที่ผู้อื่นอาศัยอยู่มิใช่หรือ ซ่อมแซมอย่างดี ต่อไปคุณชายน้อยหกกับคุณชายน้อยเจ็ดแต่งงาน หากได้ใช้ล่ะก็ ดีกว่าตอนที่ซื่อจื่อแต่งงานเสียอีก” 

 

 

ทุกคนต่างหัวเราะอย่างสนุกสนานแล้วก็ผ่านไป 

 

 

แต่เมื่อคำพูดเหล่านี้ไปถึงหูซือจู กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป 

 

 

ซือจูโกรธจนตัวสั่น อดกลั้นแล้วอดกลั้นอีก แต่ยังคงเขวี้ยงถ้วยชาสีแดงเงางามที่นางโปรดปรานมาก ซึ่งองค์หญิงฟู่หยางเป็นคนมอบให้นางจนแตกเป็นชิ้นๆ 

 

 

ตานหมัวมัวที่ติดตามนางมาจวนหย่งเฉิงโหวด้วยสงสารนางจับใจ เสนอความคิดให้นางว่า “วันที่คุณหนูหวังจัดงานเลี้ยงเชิญแขกมาในวันนั้น ท่านอยากเข้าวังไปเล่นกับองค์หญิงฟู่หยางหรือไม่เจ้าคะ” 

 

 

………………………………………………………………………. 

 

 

 

 

 

[1] เยือนกระท่อมสามครั้ง เปรียบเปรยถึงการไปขอความช่วยเหลือหรือเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจ 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 103 รักใคร่"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์