CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล - ตอนที่ 19 ตอบโต้

  1. Home
  2. เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล
  3. ตอนที่ 19 ตอบโต้
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

หวังซีและฉังเคอพูดจ้อกันอยู่ตรงนั้น ชิงโฉวกลับกระซิบเรียก คุณหนูใหญ่ สองรอบอย่างตื่นเต้น หวังซีถึงได้สติกลับมา เบนความสนใจไปที่ชิงโฉว 

“ท่านผู้นั้น คุณชายรองเฉินเป็นอย่างที่ท่านกล่าวเอาไว้ ย้อนกลับมาอีกครั้งจริงๆ” นางกล่าว “กำลังถือกล้องส่องทางไกลยืนส่องมาทางพวกเรา ท่าน…ท่านอยากดูสักหน่อยหรือไม่” 

หวังซีรู้สึกเหนื่อยใจ 

นางไม่อยากดู 

บุรุษผู้นี้ เจ้าเล่ห์เหมือนกระต่ายตัวหนึ่ง 

“ไม่ต้อง!” หวังซีกล่าวอย่างอ่อนแรง “พวกเรานั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปก่อนก็แล้วกัน เจ้าช่วยพวกข้าดูด้านบนเอาไว้ก็พอ ข้าเดาว่าเขายังมีอุบายอื่นที่ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อยู่อีก” 

ชิงโฉวพยักหน้าหงึกๆ 

ฉังเคอกล่าวเย้าหวังซี “ตอนนี้เจ้ามองเฉินลั่วแล้วยังรู้สึกว่าเขาเป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งในใต้หล้าอีกหรือไม่” 

หวังซีขบคิดอย่างละเอียด กล่าวจริงจังว่า “ข้ายังคงรู้สึกว่าเขาเป็นบุรุษที่หล่อเหลาที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา แม้นกล่าวว่าเขามีพฤติกรรมน่ารังเกียจก็ตาม…” 

ไม่ถูกต้อง! 

พฤติกรรมน่ารังเกียจทุกอย่างของเฉินลั่ว ล้วนเป็นฉังเคอเล่าให้ฟัง นางไม่เคยเห็นกับตาแล้วก็ไม่เคยได้ยินกับหูมาก่อน แน่นอน นางเชื่อว่าฉังเคอไม่จำเป็นต้องโกหกนาง แต่ความเข้าใจของแต่ละคนต่อเรื่องแต่ละอย่างล้วนไม่เหมือนกัน สิ่งที่ฉังเคอกล่าวมาก็อาจจะไม่ถูกต้องก็ได้ 

แต่คนมีปัญญาไม่ยืนใต้กำแพงอันตราย เพื่อความปลอดภัยของตัวเองแล้ว ไม่ว่าสิ่งที่ฉังเคอกล่าวมาจะมีเหตุผลหรือไม่ เวลานี้ นางควรวางแผนเผื่อเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด คิดว่าเฉินลั่วอำมหิตจริงๆ เอาไว้ก่อนดีกว่า 

หวังซีคิดตกแล้ว อารมณ์ผ่อนคลายลงมา จึงมีกะจิตกะใจสนทนากับฉังเคอต่อ “ข้ากับเจ้าไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนเจ้าเห็นเขาเป็นดั่งพี่ชาย เขาปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดี เจ้าย่อมผิดหวัง ทว่าข้าเพียงชอบเขาที่รูปร่างหน้าตาภายนอก ขอเพียงเขาดูดี ดูแล้วสบายตาก็พอ เขาจะมีจิตใจดีงามดังพระโพธิสัตว์หรือชั่วร้ายดังอสูร สำหรับข้าแล้วมิได้สลักสำคัญอะไร” 

“เจ้าก็แค่ทำปากแข็งต่อหน้าข้า!” ฉังเคอไม่เชื่อคำพูดของนาง โต้เถียงกับนางว่า “รอให้วันไหนที่เจ้าเสียเปรียบเฉินลั่ว อย่ามาโทษข้าก็แล้วกันว่าไม่เตือนเจ้า” 

ทั้งสองคนสนทนากันไป ด้านชิงโฉวมีความเคลื่อนไหวขึ้นมาอีกครั้ง 

เฉินลั่วถือกล้องส่องทางไกลสอดส่องอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หายไปจากบริเวณหน้าต่างของเรือนวสันต์สราญอีกครั้ง แต่หนึ่งเค่อ[1]ต่อมา เขาก็ปรากฏตัวออกมาอีก เป็นเช่นนี้อยู่สองสามครั้ง พระอาทิตย์เคลื่อนไปทางทิศตะวันตก เห็นว่าถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว หวังซีอดปรึกษากับฉังเคอไม่ได้ว่าจะหาทางให้คุณชายสามฉังไปเยี่ยมเฉินลั่วได้หรือไม่ ล่อเสือออกไปจากภูเขา ให้พวกนางมีโอกาสออกไปจากสวนร่มหลิว โชคดีที่ในที่สุดครั้งนี้เฉินลั่วไปแล้วก็ไม่ย้อนกลับมาอีก 

หวังซีและฉังเคอราวกับหนีออกมาจากถ้ำเสือได้ รีบวิ่งกลับไปที่สวนหิมะงามอย่างรวดเร็ว 

ฉังเคอกล่าวกับหวังซีอย่างรู้สึกเสียใจภายหลังว่า “ต่อไปเจ้าอย่าไปแอบดูเขารำกระบี่อีกเลย หากรู้สึกเบื่อจริงๆ ข้าจะเล่นกระโดดเชือกหรือไม่ก็แข่งโยนลูกธนูเป็นเพื่อนเจ้าก็แล้วกัน” 

นับว่านางดูออกแล้วว่าหวังซีไม่ค่อยถนัดเรื่องงานฝีมือสักเท่าไร 

หวังซีเองก็ไม่อยากละเมิดกฎอีกเหมือนกัน จึงรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว ทั้งคิดว่าตามปกติเวลานี้ฮูหยินผู้เฒ่าจะให้คนมาเชิญนางไปรับประทานมื้อเย็น นางจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปที่เรือนหยกวสันต์พร้อมกับฉังเคอ 

ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นหวังซีกับฉังเคอปรากฏตัวพร้อมกัน ให้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย 

หวังซีคิดว่าถ้าฉังเคอไปอยู่เป็นเพื่อนนางได้ ก็จะได้ไม่ต้องถูกกักขังอยู่ข้างกายฮูหยินผู้เฒ่า และไม่ต้องฟังคำประชดประชันของฉังหนิงเวลามาคารวะฮูหยินผู้เฒ่าบ่อยๆ ด้วย จึงยิ้มกล่าวว่า “คิดไม่ถึงว่าฝีมือเย็บปักของพี่สาวเคอจะดีถึงเพียงนี้ ข้าเชิญพี่สาวเคอไปสอนข้าปักดอกไม้เจ้าค่ะ” 

ฉังเคอไม่มีเงินเก็บส่วนตัวอะไร สิ่งของที่มอบให้คนในบ้านล้วนเป็นผลงานเย็บปักที่ทำด้วยตัวเองทั้งสิ้น และหวังซีนั้นถึงแม้จะมาจากตระกูลพ่อค้า แต่หลายวันที่เข้ามาอยู่ในจวนนี้พวกนางล้วนมองออกว่าเป็นเจ้านายที่ใช้เงินเหมือนสายน้ำไหลอย่างแท้จริงผู้หนึ่ง ไม่ว่าของอะไรล้วนแล้วแต่เอ่ยปากว่า ‘ซื้อ’ คำเดียว ฝีมือเย็บปักเป็นอย่างไรนั้น พวกนางไม่รู้จริงๆ ประกอบกับจวนหย่งเฉิงโหวเพิ่งได้รับเงินแปดพันตำลึงก้อนนั้นของหวังซีมา กำลังคิดหาวิธีทำให้หวังซีดีใจอยู่พอดี ฮูหยินผู้เฒ่าจึงรีบกล่าวโดยไม่ต้องคิดว่า “หากเจ้าชอบ ก็ให้อาเคอไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าบ่อยๆ” กล่าวพร้อมกับหันไปมองฉังเคอครั้งหนึ่ง 

หวังซีเองก็มองฉังเคอเช่นกัน 

เพียงแต่ว่าสายตาของฮูหยินผู้เฒ่าเข้มงวดจริงจัง ทว่าหวังซีกลับหันไปขยิบตาให้นางอย่างซุกซน 

นางจึงรู้ได้ในทันทีว่าหวังซีกำลังช่วยเหลือนางอยู่ 

ความอบอุ่นสายหนึ่งพลันแผ่ซ่านอยู่ในใจของนาง หันไปอมยิ้มให้หวังซี 

ฉังเคอได้รับอนุญาตแล้วจึงมาเที่ยวหาหวังซีที่สวนหิมะงามบ่อยๆ หวังซียังพูดต่อหน้าฮูหยินผู้เฒ่าอีกสองสามประโยค ฮูหยินผู้เฒ่าจึงทำอย่างที่นางปรารถนาจริงๆ ตัดสินใจแบ่งสวนร่มวสันต์ออกเป็นสองส่วน ให้คุณหนูพานพักอยู่ลานบ้านทิศใต้ ส่วนฉังเคอพักอยู่ลานบ้านทิศเหนือ ยังเอ่ยกับฉังเคอแบบที่หาได้ยากยิ่งว่า “เจ้าเป็นคนในครอบครัว คุณหนูพานเป็นแขกเดินทางมาไกล จำต้องให้เจ้าลำบากแล้ว” 

หลายปีขนาดนี้ นี่นับเป็นครั้งแรกที่คนในบ้านรู้สึกว่านางได้รับความลำบาก 

นางตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่าไม่ลำบาก หมุนกายไปกระซิบกล่าวกับหวังซีอย่างอดไม่ได้ว่า “เจ้าพูดถูก เด็กร้องไห้เป็นมีลูกกวาดกิน เมื่อก่อนข้าอดทนมาโดยตลอดก็ไม่มีใครคิดว่าข้าดี คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายข้ากลับได้รับอานิสงส์ของเจ้า” 

หวังซีรู้สึกว่าบางเรื่องนางไม่ควรยื่นมือเข้าไป ถนนอยู่ใต้ฝ่าเท้า ต้องเดินเองถึงจะใช้ได้ 

นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “สุดท้ายได้ผลลัพธ์ดีก็พอแล้ว” จากนั้นถามนางว่า “คุณหนูพานมาถึงเมื่อใดหรือ รอนางมาถึงก่อนแล้วพวกเจ้าค่อยย้ายเข้าไปพร้อมกันหรือว่าเจ้าจะย้ายเข้าไปก่อน? ลานบ้านทางนั้นจัดเก็บไปถึงไหนแล้ว ต้องการให้ข้าส่งคนไปช่วยเจ้าหรือไม่” 

ฉังเคอขลุกอยู่กับหวังซี ทุกๆ วันหากมิใช่ขนมหวานของซูโจวก็เป็นขนมหวานของจิงเฉิง ถ้าอยากเปลี่ยนรสชาติก็ยังมีขนมหวานของก่วงตงด้วย ถึงได้ค้นพบว่าแค่แม่ครัวนางก็มีหกถึงเจ็ดคนแล้ว ยังรังเกียจที่สาวใช้ของจวนหย่งเฉิงโหวไม่ขยันขันแข็ง จึงซื้อหญิงรับใช้ใหม่มาอีกสิบกว่าคน การทำความสะอาดหน้าต่างที่จวนหย่งเฉิงโหวต้องใช้เวลาทำสองชั่วยาม เมื่อมาที่เรือนของนางอย่างมากที่สุดเพียงสองเค่อก็ทำความสะอาดเสร็จแล้ว ใช้คำพูดของหวังซีมากล่าว เจ้าชอบที่ตื่นเช้ามาแล้วเดินไปทางไหนก็มีแต่คนทำความสะอาดอย่างนั้นหรือ เพิ่งสวมเสื้อผ้ามาใหม่ๆ ก็ต้องโดนฝุ่นอีกแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าข้างกายหวังซีไม่ขาดคนปรนนิบัติรับใช้ แต่นางยังคงตอบว่า “ไม่รู้ว่าคุณหนูพานจะมาถึงเมื่อใด แต่ท่านแม่ของข้าปรึกษากับท่านป้าสะใภ้ใหญ่และดูวันมงคลเรียบร้อยแล้ว อีกสองวันข้าก็ย้ายเข้าไปอยู่ได้ ส่วนเรื่องทำความสะอาด ข้าจะไปหาท่านแม่ของข้าก่อน ถ้าหากแม่ข้าไม่สนใจ และข้าก็จัดการเองไม่ไหว ค่อยมาหาเจ้า” 

หวังซีพยักหน้า ยิ่งรู้สึกว่าฉังเคอเป็นคนที่น่าคบหาผู้หนึ่ง 

ฉังเคอกล่าวอย่างเฝ้ารอคอยว่า “รอข้าย้ายไปอยู่สวนร่มวสันต์ ก็อยู่ใกล้เจ้ามากขึ้นแล้ว” 

สวนร่มวสันต์คั่นกับสวนหิมะงามด้วยทางเดินเส้นหนึ่ง อยู่ตรงกลางระหว่างสวนหิมะงามกับสวนร่มหลิว สวนร่มหลิวอยู่ไกลออกไปเล็กน้อย นอกจากทางเดินแล้ว ยังมีสวนต้นไม้ดอกไม้คั่นเอาไว้อีกหนึ่งผืน จากสวนหิมะงามไปสวนร่มหลิวต้องใช้เวลาเดินประมาณหนึ่งถ้วยชา แต่จากสวนร่มวสันต์ไปสวนร่มหลิวนั้นสะดวกมาก 

ตอนเด็กหวังซีมักจะได้รับรางวัลจากท่านปู่ท่านย่าหรือแม้กระทั่งจากท่านปู่ท่านย่าพี่ชายของปู่และท่านปู่ท่านย่าน้องชายของปู่บ่อยๆ นอกจากนี้โดยมากมักจะได้มากกว่าพี่น้องชายหญิงในรุ่นเดียวกัน ทุกครั้งที่นางได้รับของเหล่านี้ พวกผู้อาวุโสล้วนกระซิบย้ำกำชับนางว่า อย่าบอกผู้อื่น เพราะฉะนั้นนางจึงกลายเป็นคนปิดประตูนับเงินมาตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุนี้ก็เลยไม่ชอบให้ผู้อื่นรู้ว่าในเรือนของนางเกิดอะไรขึ้นบ้าง 

สำหรับผู้อื่นสวนร่มหลิวอาจไกลไปสักหน่อย แต่สำหรับนางกลับกำลังพอดี 

แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนฉังเคอย้ายบ้าน คล้ายกับมีเรื่องพิพาทอะไรขึ้นอีกครั้ง แต่เป็นเรื่องอะไรนั้นฉังเคอมิได้เล่าให้ฟัง หวังซีเองก็ไม่ได้ถาม สุดท้ายฉังเคอก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ที่ลานบ้านทิศเหนือตามกำหนดเดิม แล้วก็มิได้มาขอให้หวังซีไปช่วยด้วย 

หวังซีเตรียมอักษรภาพหนึ่งภาพกับชุดถ้วยน้ำชาหนึ่งชุดเป็นของขวัญแสดงความยินดีให้นาง 

ฉังเคอจึงเชิญนางไปดื่มชายามบ่าย บอกว่าทำขนมหวานด้วยตัวเอง 

หวังซีไปหาด้วยความยินดี ค้นพบว่านอกจากฉังเคอจะทำความสะอาดบ้านหลังไม่ใหญ่ขนาดหนึ่งทางเข้าจนสะอาดเอี่ยมอ่องแล้ว ยังปลูกต้นไม้ดอกไม้ใหม่เอาไว้ไม่น้อย ข้างๆ ดอกไม้สร้างซุ้มดอกไม้ วางโต๊ะและม้านั่งหินเอาไว้ เปลี่ยนบ้านรกร้างที่ไม่มีคนอยู่มานานก่อนหน้านี้ให้มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของชนบท 

“หากรู้ว่าเจ้าชอบเช่นนี้แต่แรก ข้าก็คงไม่มอบภาพสำหรับติดห้องโถงให้เจ้า น่าจะมอบเตาเซวียนเต๋อให้เจ้ามากกว่า” หวังซีชอบมาก นั่งยองลงมาดูดอกไม้ป่าและหญ้าป่าที่โผล่พ้นออกมาจากแผ่นหิน “เจ้าคิดได้อย่างไรว่าต้องตกแต่งเช่นนี้ พบเห็นได้น้อยจริงๆ” 

นี่มิใช่เพราะไม่มีเงินหรอกหรือ 

ฉังเคอคิดอยู่ในใจ ทว่าไม่ได้พูดกับหวังซี เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้หวังซีส่งของมาให้นางอีก 

นางเชิญหวังซีไปนั่งใต้ซุ้มดอกไม้ กล่าวว่า “ข้าทำขนมถั่วลันเตาเหลืองกับขนมลาม้วนตัว เจ้าลองชิมดูว่าถูกปากเจ้าหรือไม่” 

หวังซีลองชิม 

แป้งถั่วลันเตาของขนมถั่วลันเตาเหลืองโม่ได้ละเอียดมาก แป้งข้าวเหนียวของขนมลาม้วนตัวก็เหนียวนุ่มเป็นพิเศษ ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทั้งหมดไม่หวานจนเกินไป ทว่ารสชาติกลับติดลิ้นนาน 

“อร่อยมาก!” ดวงตาทั้งสองข้างของหวังซีเป็นประกาย “เป็นขนมหวานของจิงเฉิงที่อร่อยที่สุดเท่าที่ข้าเคยกินมาแล้ว” 

ฉังเคอหัวเราะร่า พลางกล่าว “ข้าปรับเปลี่ยนตามรสชาติที่เจ้าชอบ หากเจ้าชอบกิน อีกสองวันข้าค่อยทำไปให้เจ้าอีก” 

หวังซีถามนาง “ปักดอกไม้ง่ายกว่าหรือว่าทำขนมหวานสองชนิดนี้ง่ายกว่า?” 

ฉังเคอรู้ความคิดของนาง กล่าวยิ้มๆ ว่า “มอบงานเย็บปักไม่ค่อยเกิดข้อผิดพลาด ขนมหวานเป็นของกิน ไม่ค่อยดีเท่าไร มอบงานเย็บปักดีกว่าเล็กน้อย” 

หวังซีคิดไม่ถึงว่าฉังเคอกลายเป็นคนหวาดหวั่นง่ายประหนึ่งนกที่หวาดกลัวตั้งแต่ง้างสายธนูไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนจวนหย่งเฉิงโหวเคยเกิดเรื่องน่าละอายขึ้นไม่น้อยเลย 

นางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เอ่ยถึงสวนร่มหลิวขึ้นมา “หวังสี่บอกว่าอีกสองเดือนก็ย้ายเข้าไปอยู่ได้แล้ว แต่หวังว่าพวกเขาจะทำงานให้เสร็จอย่างราบรื่นได้” 

ฉังเคอถามนางว่าชอบอะไร “ถึงเวลาข้าจะมอบเป็นของขวัญแสดงความยินดีให้เจ้า” 

ตอนเอ่ยถ้อยคำนี้นางหน้าแดงเล็กน้อย 

นางรู้ว่าหวังซีนั้นดูสบายๆ เหมือนไม่ใส่ใจ แต่ความจริงแล้วปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง นางถามเช่นนี้ หวังซีรู้ว่านางไม่มีเงิน ย่อมไม่ตำหนิว่านางมอบของขวัญไร้ราคาเกินไปอย่างแน่นอน 

หวังซีกลับไม่ได้คิดอะไรมาก ในใจของนางยังพะวงถึงเรื่องอยากไปดูศาลากวางร้องของบ้านข้างๆ อีกครั้ง อยากรู้ว่าเฉินลั่วจะเข้าหายากเหมือนอย่างที่ฉังเคอกล่าวเอาไว้จริงๆ หรือไม่ 

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่อาจให้ฉังเคอรู้เรื่องนี้ได้ 

ฉังเคอรู้แล้วจะต้องคิดว่านางโง่เขลามากเป็นแน่ 

นางให้หงโฉวจับตาดูความเคลื่อนไหวของเฉินลั่วต่อไป 

แต่นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเฉินลั่วราวกับหายสาบสูญไป ตอนเช้าไม่ไปรำกระบี่ที่ป่าไผ่อีกเลย แล้วช่วงบ่ายก็ไม่ไปฝึกยิงธนูด้วย 

หรือว่าเป็นเพราะค้นพบพวกนางก็เลยเปลี่ยนสถานที่? 

หวังซีตรึกตรองอยู่ในใจ บ่ายวันหนึ่งหงโฉวกลับวิ่งหน้าซีดเข้ามา กล่าวอย่างตื่นตระหนกว่า “คุณหนูใหญ่ คุณชายรองเฉินต้องรู้แล้วแน่ๆ ว่าพวกเราแอบดูเขา วันนี้ข้าไปดู พบว่าข้างๆ ป่าไผ่ที่คุณชายรองเฉินฝึกกระบี่นั้นมีดาบปักอยู่หนึ่งเล่มเจ้าค่ะ!” 

“อะไรนะ” หวังซีตกใจ กว่าครู่ใหญ่ถึงได้สติกลับมา 

นางเคยได้ยินบิดาพูดว่าในภาคตะวันตกเฉียงเหนือนั้น หากค้นพบว่ามีคนต้องการมารุกรานเขตแดนของตน จะปักดาบเล่มใหญ่ไว้ตรงชายแดนเป็นการส่งสัญญาณเตือน หากผู้รุกรานกล้าไปดึงดาบเล่มนั้น ถือว่าเป็นการยอมรับการทำศึก ทั้งสองฝ่ายจะทำการรบเพื่อตัดสินแพ้ชนะ 

ไม่เจอเพียงไม่กี่วัน เฉินลั่วคงมิได้ไปสืบประวัติของนางมาหรอกกระมัง 

หวังซีรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกคนมองทะลุปรุโปร่ง 

“ไป!” นางลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าเคร่ง “พวกเราไปดูสักหน่อย!” 

“คุณหนูใหญ่!” ชิงโฉวและหงโฉวต่างห้ามนาง “เรียกหลงจู๊ใหญ่เข้ามาหารือที่จวนดีกว่า หลงจู๊ใหญ่อยู่จิงเฉิงมาหลายปี คุ้นเคยกับจิงเฉิงยิ่งนัก” 

ไม่แน่ว่าอาจหาคนสนิทสนมสักคนมาช่วยไกล่เกลี่ยให้ได้ 

หวังซีขมวดคิ้ว ยืนกรานจะไปดู กล่าวว่า “ดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที” 

………………………………………………………………….. 

 

[1] เค่อ สิบห้านาที 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 19 ตอบโต้"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์