เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก - ตอนที่ 10
“นั่นมันบ้าไปหน่อยมั้ย ในตอนท้ายเนี่ย?”
“…ใช่”
ในที่สุดการปฐมนิเทศที่ยาวนานก็สิ้นสุดลง และนักเรียนส่วนใหญ่ก็แยกย้ายกันไปหลังจากที่พวกเขาไปดูห้องเรียนที่ได้รับแล้ว
แวนส์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆในขณะที่เขาได้ยินสิ่งที่นักเรียนใหม่พูดกัน เมื่อมีการเปิดเผยว่าบริษัทนักสำรวจมักจะมาเป็นแขกรับเชิญในสถาบันการศึกษา และพวกเขาเต็มใจที่จะให้ของขวัญหรือสนับสนุนนักเรียนที่พวกเขาชื่นชอบ แน่นอนด้วยความหวังว่านักเรียนจะเซ็นสัญญากับพวกเขาเมื่อพวกเขาสำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษา
แน่นอนว่าแวนส์ก็ตื่นเต้นเช่นกัน มันเป็นโอกาสที่จะเติมเต็มความฝันของเขาในการเป็นเศรษฐีและอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่
อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเขาไม่ซับซ้อนอีกต่อไป เมื่อเขามองไปที่กระดานขนาดใหญ่ตรงหน้าเขา ชื่อของพวกเขาถูกระบุไว้ใต้ห้องเรียนที่พวกเขาควรจะอยู่
“นายอยู่ชั้นไหน”
เบียทริซถามแวนส์ขณะที่เธอพยายามหาชื่อของเธอเช่นกัน
“อืม…”
แวนส์เหล่ตาไปทางกระดาน แม้ว่าจะมีเพียง 100 ชื่อบนกระดาน และ 5 ห้องเรียน แต่แวนส์ก็ยังคงมีปัญหาในการหาชื่อของเขา
เขารู้ว่าชื่อของเขาหน้าตาเป็นอย่างไร เนื่องจากชื่อและตัวอักษรมีจำนวนมากเกินไป และใกล้กันจึงทำให้เขารู้สึกเวียนหัว
“…เธอช่วยฉันหาชื่อหน่อยได้ไหม”
แวนส์พูดอย่างอ่อนโยน
“…อีแวนส์สินะ”
“อืม…”
เบียทริซวางมือบนคางของเธอขณะที่เธอจดจ่ออยู่กับกระดาน ในที่สุดหลังจากหาไม่กี่วินาทีเธอก็สามารถหาชื่อของแวนส์เจอ
“อ๊ะ! นายอยู่นี่!”
น้ำเสียงของเบียทริซเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“และเราก็อยู่ในชั้นเดียวกัน!”
“ขอบคุณนะ”
แวนส์ก้มหัวเล็กน้อยไปทางเบียทริซ
“ฉัน…อ่านมันไม่ออกหนะ”
“ฉันเข้าใจ”
เบียทริซแค่ยักไหล่ตอบ
“ไม่เป็นไร ไว้นายค่อยเรียนรู้ทีหลังก็ได้”
“ห้ะ!?”
แต่ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันเสียงดังก็ดังมาจากด้านหลัง
“ฉันได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย?”
เจ้าของเสียงค่อยๆ เดินเข้ามาหาแวนส์และเบียทริซ เขาเป็นนักเรียนชาย
“ผู้ที่อ่านหนังสือไม่ออกไม่ควรเข้ามาเรียนในในสถาบัน!”
นักเรียนชายกล่าวขณะเลิกคิ้วและยิ้มกว้าง
“พวกเราไปเข้าชั้นเรียนกันไหม”
“ได้เลย”
“… “
อย่างไรก็ตามแวนส์และเบียทริซไม่สนใจเขาโดยสิ้นเชิง ทั้งสองเริ่มเดินจากไป
“…นี่ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ!?”
นักเรียนชายตะโกน แต่เป็นอีกครั้งที่เขาถูกเพิกเฉย
“…”
“…เดี๋ยวก่อน! ฉันอยู่ในชั้นเรียนนั้นด้วย!”
เขาพยายามเดินตามทั้งสองคนขณะที่ก้าวเดินอย่างเร่งรีบ
“ไปด้วยกันเถอะ!”
เป็นอีกครั้งที่เขาถูกเพิกเฉย จนในที่สุดเขาไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไป เขาพุ่งไปปิดกั้นเส้นทางของพวกเขา
“เดี๋ยวก่อนฉันต้องการเพื่อน!”
เขากล่าวในขณะที่เขาโค้งเข้าหาทั้งสองเล็กน้อย
เมื่อเห็นการแสดงออกที่จริงใจของนักเรียนชาย แวนส์และเบียทริซก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันและถอนหายใจ
“การดูถูกใครบางคนในการพบกันครั้งแรก ไม่ใช่วิธีที่จะหาเพื่อน”
เบียทริซจับแว่นตาของเธอขณะที่เธอมองไปที่นักเรียนชายด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็น
“…ขอโทษ”
นักเรียนชายเกาคางขณะมองไปที่แวนส์
“ฉันแค่อยากจะสร้างความประทับใจให้กับ…”
“หะ!?…”
เบียทริซแทบสำลักจากคำพูดของนักเรียนชายคนนั้น
“ฉันชื่อฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์ ลอเดอร์”
นักเรียนชายรีบพูดออกมาทัน
“เบียทริซ วิลเลียมส์”
เบียทริซตอบขณะที่เธอถอนหายใจออกมา
“แวนส์”
แวนส์พึมพำ
“แค่…แวนส์”
“ลอเดอร์?”
เบียทริซพูดออกมาตัดจังหวะของฮาร์วีย์ เธอวางมือของเธอไว้ที่คางในขณะที่เธอพูด
“หื้ม…คนในครอบครัวลอเดอร์เหรอ”
“…ใช่”
ฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ ขณะที่เขาได้ยินนามสกุลของเขาซ้ำ
“…อ๋อ?”
แวนส์เลิกคิ้วด้วยความอยากรู้
“พวกเขาเป็นตระกูลดังเหรอ”
เขาถาม
“ดังไหมยังงั้นหรอ พวกเขาเป็นเจ้าของอาวุธยุทโธปกรณ์ลอเดอร์!”
เบียทริซมองขึ้นไปในอากาศขณะยกมือขึ้น
“พวกเขาขายอุปกรณ์เกี่ยวกับประตูมิติที่ใหญ่ที่สุด…”
“…พอแล้ว”
ก่อนที่เบียทริซจะพูดจบฮาร์วีย์ก็เดินเข้าไปใกล้แล้วโบกมือของเขาเป็นเชิงว่าให้หยุดพูดได้แล้ว
“นายไม่มีนามสกุลเหรอ”
จากนั้นเขาก็พูดขณะที่มองไปที่แวนส์
“ไม่”
แวนส์ส่ายหัว
“ฉันมาจากสุสานของเก่า”
“ฉัน…ฉันเข้าใจแล้ว”
ฮาร์วีย์เกาคางของเขาขณะที่เขาค่อยๆหันไปด้านข้างอย่างช้าๆ เขาควรศึกษาเกี่ยวกับทักษะการเข้าสังคมจริงๆ
อารมณ์แวนส์เปลี่ยนไปทันทีเมื่อทั้งสองมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ นั่นเพราะเขาตัวเล็กและผอมมาก
เมื่อสังเกตเห็นสายตาที่ดูหดหู่ของทั้งสอง แวนส์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ
“ทั้งสองคนรู้จักประเภทระบบแล้วหรือยัง”
เขาถามด้วยความหวังที่จะเปลี่ยนอารมณ์ได้
“ของฉันคือ…”
“ของฉันเป็นระบบประเภทเพิ่มประสิทธิภาพ!”
ก่อนที่เบียทริซจะพูด ฮาร์วีย์ก็แย่งเธอพูดและชูมัดขึ้นไปในอากาศทันที
“ต่อจากนี้ไป ฉันจะเป็นที่รู้จักในนาม ฮาร์วีย์กำปั้นสูงสุด!”
จากนั้นเขาก็ทำท่าทางต่อยราวกับว่าเขากำลังซ้อมกับใครบางคน
“ของฉัน เป็นระบบประเภทนักเวทย์”
เบียทริซขยับตัวไปด้านข้างผลักฮาร์วีย์ออกไปเบาๆ
“พวกนายควรจะบอกฉันงั้นหรอเรื่องนี้?”
แวนส์เลิกคิ้ว อาจารย์ใหญ่บอกว่าพวกเขาไม่ควรเปิดเผยทักษะให้คนอื่นรู้ง่ายๆ
“หื้ม? โอ้ มันเป็นเพียงแค่ความรู้พื้นฐานหนะ นายจะรู้ได้ในไม่ช้า เพราะเราอยู่ในชั้นเรียนเดียวกัน”
เบียทริซงงในตอนแรกว่าทำไมแวนส์ถึงถามแบบนั้น
“แล้วนายล่ะ นายคิดออกแล้วหรือยัง ว่านายเป็นประเภทไหน?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้แวนส์ก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาไม่สามารถทำได้อีกแล้ว แต่เขารู้ว่าเขาสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงน่าจะเป็นประเภทเพิ่มประสิทธิภาพ
แต่เมื่อเขาคิดถึงทักษะการใช้งานของเขาดีๆแล้วทั้ง [การรับรู้เวลา] และ [แอร์สเต็ป] มันดูเหมือนจะเป็นทักษะประเภทนักเวทย์มากกว่า
“ฉันอาจจะ…”
“อา!”
แวนส์กำลังจะบอกว่าเขาอาจจะเป็นระบบไม่ซ้ำใคร แต่แล้วเสียงตะโกนดังก็ดึงดูดความสนใจของพวกเขาทั้งหมด
“ฉันเจอนายแล้ว!”
พวกเขาทั้งหมดมองไปในทิศทางของเสียงตะโกน พวกเขาเห็นนักเรียนหญิงคนหนึ่งชี้นิ้วไปทางแวนส์อย่างก้าวร้าว
เธอคือเจมม่า นักเรียนหญิงที่เห็นเขาเลือดไหลและถูกทุบตีบนเวที