เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก - ตอนที่ 37
“วิ่ง! ทุกคนวิ่ง!”
บรรดาผู้คนแถวนั้นต่างก็รีบไปที่บ้านของตัวเองเพื่อเอาสิ่งของมีค่าที่หลงเหลืออยู่ของเขา แล้ววิ่งหนีออกไปจาก ประตูมิติสีเหลืองที่ปรากฏขึ้น
แวนส์ยังพิจารณาว่าเขาควรจะหนีไปหรือไม่ หัวใจของเขาเต้นเร็วมากจนมันแทบจะกระโจนออกจากร่างของเขาได้ สิ่งมีชีวิตในประตูมิติ สัตว์ประหลาดกำลังจะออกมาจากประตูมิติ เขาเพิ่งได้ปลดล็อกระบบของเขาการพยายามต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตจากประตูมิติอาจจะเท่ากับการฆ่าตัวตาย
…เขาควรวิ่งไหม?
แต่ทันทีที่เขาเห็นเด็กที่พ่อแม่ทิ้งไว้ ใบหน้าของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยโคลน ขณะที่พวกเขาสะดุดลงบนพื้นดินที่สกปรกเพราะขาของพวกเขาวิ่งได้ไม่เร็ว
…แวนส์มีทางเลือกของเขาทันที
ตอนนี้เขาเป็นผู้ควบคุมระบบ ความหมายของมันอาจถูกลดคุณค่าลงสำหรับแวนส์เนื่องจากคนอย่างเจอรัลด์ แต่สำหรับเด็กๆเหล่านี้แวนส์คือความหวังเดียวของพวกเขา เขาหายใจเข้าลึกๆหลายๆครั้งและพยายามสงบสติอารมณ์ พยายามกลบเสียงกรีดร้องของผู้คนพร้อมกับเสียงหอบหายใจของเขา
และในไม่ช้าเสียงดังก้องในอากาศก็หยุดลง ขาของแมลงก็เผยตัวออกมาจากประตูอย่างรวดเร็ว ขาของมันยาวเกือบเท่าแขนของแวนส์ขาของมันเต็มไปด้วยขนที่กระเซิงเล็กๆที่ยื่นออกมาจากแขนขาสีดำของมัน
และด้วยการขยับขาเพียงเล็กน้อยก็เผยให้เห็นตัวของมัน
“นั่น…แมงมุมปีศาจงั้นหรอ?” แวนส์อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ในขณะที่เขาถอยห่างจากสิ่งมีชีวิตที่กำลังคลานออกจากประตูมิติ และในไม่ช้าเส้นขนทั้งหมดในผิวหนังของแวนส์ก็ลุกขณะที่แมงมุมเผยตัวออกมาอย่างสมบูรณ์
“นั่นมันอะไรกัน!” เป็นคำพูดเดียวที่ออกมาจากปากของแวนส์ ขณะที่เขาจ้องไปที่ใบหน้าของแมงมุม ใบหน้าที่ไม่ควรมีมาตั้งแต่แรก ใบหน้าของเด็กทารก
สิ่งมีชีวิตในประตูมิติ…หน้าตาแบบนี้เหรอ? แวนส์เคยเห็นพวกมันจำนวนหนึ่งจากพื้นที่แห่งความตาย แต่มันอยู่ห่างออกไปเพียงหนึ่งไมล์และเป็นเพียงภาพเงาเท่านั้น เขาเคยเห็นจากหนังสือเล่มหนึ่ง และพระคัมภีร์ แต่ก็ไม่เคยใกล้ขนาดนี้…และลักษณะแบบนี้ไม่ใช่คนอย่างแน่นอน
ลองคิดดูสิว่าเนื้อเสียบไม้ที่ฮาร์วีย์ซื้อมาจากตลาดหลายๆครั้งนั้นมาจากเนื้อสัตว์จากประตูมิติ หนึ่งในไม้เสียบนั้น…เป็นแมงมุมตัวนี้ด้วยหรือเปล่า?
แวนส์ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่เวลาที่จะคิดถึงสิ่งที่ไม่จำเป็น แม้ว่าเขาจะแทบอยากจะอ้วกออกมาหลังจากที่เขาคิด แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสงบสติอารมณ์ในขณะที่เขามองหาอาวุธที่เขาสามารถใช้ได้ ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่สังเกตเห็นเขาดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เขาจะหาอาวุธ
แมงมุมปีศาจตรงหน้าเขาตัวใหญ่กว่าเขาเกือบครึ่งตัว แต่ถึงกระนั้นตราบใดที่มันไม่ใหญ่ไปกว่านี้มาก เขาก็ยังมีโอกาสที่จะทุบมันออกเป็นชิ้นๆ
แวนส์มองไปรอบๆอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่ตะขอของกริฟฟอน
‘นี่…มันหลุดออกมาเพราะความตื่นตระหนกก่อนหน้านี้หรือเปล่า’ แวนส์หยิบเหล็กปลายแหลมขึ้นมาบนพื้นอย่างรวดเร็ว
‘ตะขอของกริฟฟอน’
ตะขอของกริฟฟอนเป็นสร้อยข้อมือที่มีหนามแหลมโค้งงอ พวกเขาติดมันไว้ที่นิ้วเท้าของกริฟฟอนเพื่อใช้เป็นอาวุธ และการนำกริฟฟอนมาต่อสู้กันมันผิดกฏหมาย แวนส์คุ้นเคยกับเรื่องนี้เป็นอย่างดีเพราะนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในอดีตพ่อของเขา
มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แวนส์แปลกใจเล็กน้อยที่เขานึกถึงพ่อของเขาในเวลาแบบนี้
“ดีกว่าไม่มีอะไรเลย” เขากระซิบขณะที่เขาพยายามพันมันไว้รอบแขนซ้าย
“…โอ้” เป็นที่น่าแปลกใจพอสมควร เนื่องจากตะขอนั้นมันพอดีกับแขนเล็กๆของแวนส์
เขาไม่ชักช้าอีกต่อไปเขาเปิดใช้งานทักษะ [การรับรู้เวลา] ของเขาในขณะที่เขาพุ่งไปหาแมงมุมปีศาจที่มีใบหน้าเหมือนทารก และแม้ว่าจะมีการต่อต้านเล็กน้อย แต่อาวุธที่เพิ่งค้นพบของเขาก็เจาะเข้าไปในร่างกายของแมงมุมได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เขาชกผ่านมันด้วยความเร็วของเขา
แวนส์พยายามหลีกเลี่ยงใบหน้าของมัน เพราะมันไม่เหมาะสำหรับเขาที่จะเจาะใบหน้าที่ดูเป็นมนุษย์แบบนั้น
สามครั้ง แวนส์เจาะร่างของแมงมุมปีศาจสามครั้ง จากมุมที่แตกต่างกันก่อนที่เขาจะถอยห่างออกไปสองสามเมตร และยกเลิกการใช้ทักษะของเขา
หัวใจของแวนส์เต้นผิดจังหวะ ขณะที่เขาจ้องไปที่แมงมุมที่ไม่เคลื่อนไหว
“มันตายแล้วเหรอ” เขาพึมพำ การหายใจของเขาแทบจะควบคุมไม่ได้เหมือนกับการเต้นของหัวใจ
“!!!”
แต่แล้วแวนส์ก็อดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง เมื่อแมงมุมปีศาจพุ่งเข้ามาหาเขาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า เนื่องจากการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันแวนส์ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงถอยหลังกลับ ก้นของเขากระแทกพื้นแข็งๆ
“โอ้” แวนส์กำลังจะเปิดใช้งานสกิล [การรับรู้เวลา] ของเขาอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นแมงมุมปีศาจก็ร้องเสียงหลง ขณะที่มันตกลงสู่พื้นและไถลร่างของมันไปจนสุดหน้าเท้าของแวนส์
“นี่…” แม้จะมีรู 3 รูในตัวมันก็ยังขยับได้ชั่วขณะ แวนส์นึกไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฝูงของพวกมันพุ่งออกมาจากประตูมิติ จากความคิดนั้นของเขา เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นก็มีแมงมุมปีศาจอีกตัวคลานออกมาจากประตูมิติสีเหลืองนั่น
เช่นเดียวกับนักสำรวจประตูมิติก็มีอันดับเช่นกัน โดยแต่ละสีจะแสดงตำแหน่งที่แตกต่างกัน แวนส์ได้ยินในการบรรยายบางส่วนว่าอันดับถูกจัดเป็นตัวอักษรตั้งแต่ระดับ F ถึงระดับ S เขายังคงยุ่งอยู่กับการพยายามเรียนรู้วิธีอ่านย้อนหลัง ดังนั้นเขาจึงจำไม่ได้จริงๆว่าสีนั้นตรงกับระดับอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้คือถ้าไม่มีใครเข้าไปในประตูมิติ สิ่งมีชีวิตพวกนั้นก็จะออกมาไม่หยุดจากประตูมิตินั้น
สำหรับแวนส์คำเดียวที่ออกจากปากของเขาตอนนี้คือ
“บ้าเอ้ย!”
หลังจากคิดได้ตามนั้น แวนส์จึงเปิดใช้งาน [การรับรู้เวลา] ของเขาอีกครั้ง และพุ่งเข้าหาแมงมุมปีศาจและเจาะรูทะลุร่างของมันหลาย ๆ ครั้ง คราวนี้แวนส์ไม่ถอยกลับ เขาวิ่งไปที่ประตูมิติแทน
“ย๊า!”
แวนส์กรีดร้องจนสุดปอด ขณะที่เท้าของเขาก้าวผ่านประตู เขาไม่รู้ว่ามีอะไรรอเขาอยู่ข้างใน แต่เขายังคง…วิ่งต่อไป
[ภารกิจ: เอาชนะแมงมุมปีศาจ]