แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1013
“ใครนะ?”
นรมนวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเห็นเด็กชายตัวเล็กๆ ลุกขึ้นจากพื้น ดูท่าจะตกลงมาจากกำแพงด้านบน
เขารู้สึกเก้อเขินเล็กน้อยเมื่อเห็นนรมน ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขาแดงก่ำ
“คุณน้า ขอโทษฮะ ผมไม่ทันระวังเลยตกลงมา”
เด็กชายตัวเล็กอายุประมาณเจ็ดหรือแปดขวบ หน้าตาของเขาสวยมาก ถ้าหากไม่สวมชุดเด็กผู้ชาย นรมนคงจะคิดไปเองจริงๆ ว่าเด็กตรงหน้าคือเด็กผู้หญิง
“ทำไมหนูมาอยู่ตรงรั้วบ้านเราล่ะ”
“ผมเป็นเพื่อนบ้านฮะ”
เด็กน้อยอธิบาย
นรมนไม่รู้ว่าใครอาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ คุณท่านตนุวร แต่พวกเขาอาศัยอยู่ในเขตทหาร แน่นอนว่าเขาต้องเป็นลูกของทหาร
เธอตกหลุมรักเด็กน้อยตั้งแต่แรกเห็น
“หนูชื่ออะไร?”
“ดนัย ทวาทสิน”
ดนัยตอบกลับ
นามสกุลทวาทสิน นั้นค่อนข้างหายากในเมืองชลธี นรมนไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าเขาจะเป็นลูกของครอบครัวไหน เธอยิ้มและพูด “ให้น้าส่งหนูกลับออกไปทางประตูหลักไหม?”
“ไม่เป็นไรฮะ”
ดนัยโบกมืออย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้เอง ทางอีกฝั่งของกำแพงได้มีเสียงอ่อนใสของเด็กสาวแว่วมา
“ดนัย! พี่! ไปไหนอีกละ? ปีนกำแพงไปหากมลอีกเหรอ? บอกแล้วนะ ถ้าพี่ไม่กลับมา หนูจะไปฟ้องแด๊ดดี้ ให้พี่ถูกทำโทษไปเกณฑ์ทหารอยู่ในเขตทหารสะ!”
มุมปากของดนัยกระตุก
“รู้แล้วน่า กำลังกลับไง ยัยขี้ฟ้อง”
ดนัยตอบกลับอย่างไม่เต็มใจ
ทันใด ทางนั้นก็ไม่มีเสียงอะไรกลับมาอีก
แต่นรมนก็สามารถฟังความหมายบางอย่างจากบทสนทนาระหว่างพี่ชายและน้องสาวได้
อืม?
หนุ่มหล่อคนนี้มาหา กมลลูกสาวของเธอ?
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน!
เด็กตะกละไปหาแฟนที่แสนหล่อเหลาอย่างนี้มาได้อย่างไรกันนะ?
นรมนมองไปยังดวงตาของดนัย ท่าทางราวกับแม่สามีมองไปที่ลูกเขย
ดนัยรู้สึกไม่สบายใจในทันใด
“คุณน้า ผมไปก่อนนะฮะ!”
เด็กน้อยพูดพลางจะหนีและปีนไปทางกำแพง แต่เขาถูกนรมนดึงคอเสื้อไว้ก่อน
“ไปที่ประตูเถอะ ปีนกำแพงไม่ใช่วิถีของลูกผู้ชายนะ”
“ฮะ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอีก”
ดนัยดูเหมือนเด็กที่ทำอะไรผิด ไม่สบายใจจนต้องก้มหน้า
นรมนยิ้มและพูดว่า “กมลออกไปเรียนวาดรูป ไม่อยู่บ้าน หนูรู้ไหม?”
ดนัยเงยหน้าขึ้นทันที
“ผมอยู่ในเขตทหารมาโดยตลอด วันนี้วันหยุดเลยเพิ่งได้กลับมาฮะ”
คงเหมือนกับกานต์ลูกชายเธอสินะ
อายุยังน้อยแต่สามารถอยู่ในเขตทหารได้ ดูท่าว่าเด็กคนนี้คงจะมีความสามารถ
นรมนยิ้มพลางพูดไปด้วย “รอเธอกลับมา น้าจะบอกหนู ดีไหม?”
“ไม่ต้องหรอกฮะ ไว้ผมมีเวลาค่อยไปเยี่ยมเธอก็โอเคแล้ว”
ใบหน้าของดนัยเผยรอยยิ้ม ลักยิ้มลึกบนแก้มทำให้นรมนตกหลุมรักอย่างเสียไม่ได้
เทพเทวดา นางฟ้าที่ไหนคลอดเด็กคนนี้ออกมากัน?
หล่อเหลาเกินไปแล้ว!
หน้าตาอย่างนี้รับประกันเลยว่าจะทำให้ผู้หญิงทั่วทุกสารทิศรักจนแทบบ้า
นรมนยอมรับว่าตัวเองถูกเขาโปรยเสน่ห์เข้าแล้ว แต่น้ำเสียงกลับยิ่งอ่อนโยน
“น้าจะไปส่งหนูเอง”
“ฮะ”
รอบนี้ดนัยไม่ขัดขืน
ดีที่ตอนเที่ยงไม่มีใครอยู่ เมื่อนรมนพาดนัยออกมาทางห้องนั่งเล่น โตษินก็ตกใจ
“คุณชายดนัย?”
“รู้จักเขาเหรอ?”
นรมนมองไปยังโตษิน
โตษินพยักหน้า “ลูกชายของผู้บัญชาการคริชณะครับ”
เมื่อได้ยินคำว่า คริชณะ นรมนก็ประทับใจเล็กน้อย ดูเหมือนสี่คุณชายแห่งเมืองชลธี ก็ยังเป็นพี่น้องของสามีเธอบุริศร์อีกด้วย เพียงแต่เธอไม่ค่อยเห็นเขา
ตอนเพิ่งแต่งงาน บุริศร์ยุ่งทั้งวัน และมองไม่เห็นถึงน้ำใจของเธอ ก็เลยไม่พาเธอไปเข้าร่วมงานเลี้ยงพี่น้อง เป็นเวลาห้าปีแล้วที่เธอถูกกดขี่ให้ไปต่างประเทศ จนกระทั่งกลับมาอีกครั้ง และเต็มไปด้วยเหตุการณ์มากมาย ก็ไม่เคยเห็นบุริศร์ติดต่อพวกเขา
ตอนนี้ที่เธอเห็นมากที่สุดคือ ป้อง จากนั้นก็คืออรรณพ ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เห็นลูกชายของคริชณะที่นี่
ที่สำคัญเลยคือ หล่อมาก!
นรมนต่อให้อีกประโยค
เมื่อดนัยเห็นโตษิน จึงรีบวันทยาวุธทันที
“สวัสดีครับอาโตษิน!”
“สวัสดี!”
โตษินก็วันทยาวุธกลับ
ดวงตาของนรมนแตกต่างกันเล็กน้อย
โตษินไม่ใช่คนธรรมดา เขาตามคุณท่านตนุวรมาหลายปีแล้ว ใครเห็นเขาก็ต้องเคารพ?
แต่เขาก็ยังปฏิบัติต่อดนัยอย่างสุภาพ และยังวันทยาวุธกลับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานะของดนัยในกองทัพไม่ได้ต่ำ ’
เพียงเด็กอายุแค่เจ็ดขวบ แต่เขาประสบความสำเร็จแล้ว?
นรมนคิด แต่ไม่ได้แสดงออกมา
หลังจากส่งดนัยกลับบ้านแล้ว นรมนก็ยิ่งคิดถึงกานต์มากยิ่งขึ้น
ลูกชายของเธอ เจ้าตัวน้อยที่รักของเธอ
ในขณะที่กำลังคิด ธรรศก็ขับรถจี๊ปที่กองทัพใช้เข้ามา
“หลานอา!”
ทันทีที่ธรรศขานเรียกออกมา มุมปากของนรมนก็กระตุก
ไม่ชินกับการมีลุงที่อายุน้อยแบบนี้จริงๆ
“อาเข้าไปทักทายท่านหัวหน้าหน่อย”
ธรรศพูดพลางจะลงจากรถ แต่กลับถูกนรมนขวางเอาไว้
“อย่าเลยค่ะ ตาของหนูเพิ่งหลับไป อย่าไปรบกวนเขาเลย เร็วเข้า หนูอยากเจอลูกแล้ว”
นรมนคว้าธรรศไว้ และขึ้นรถ
ธรรศยิ้มจางๆ ก่อนจะสตาร์ทรถ
นรมนต้องยอมรับเลยว่าเมื่อผู้ชายสวมเครื่องแบบแล้วดูหล่อจริง
ความหล่อเหลานั้นไม่ใช่เพียงผิวเผิน มันมีความเคารพยำเกรงและความมีเกียรติแฝงมาด้วย
เธออดไม่ได้ที่จะคิดว่าบุริศร์เคยเป็นทหารมาก่อน แต่เธอไม่เคยเห็นรูปบุริศร์สวมเครื่องแบบทหารที่บ้านมาก่อนเลย
“อาสาม หนูขอถามอะไรหน่อย”
“อะไรเหรอ?”
“ทำไมที่บุริศร์ไม่มีรูปเขาสวมเครื่องแบบทหารเลยละ?”
ธรรศคิดว่าเธอจะถามอะไรเสียอีก เมื่อได้ยินเธอถามเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มก่อนพูดว่า “ตอนนี้ที่เขตทหารมีกฎ ยกเว้นในกองทหารแล้ว ไม่อนุญาตให้มีรูปถ่ายเครื่องแบบทหารรั่วไหลออกไป ดังนั้นหนูจึงไม่สามารถเห็นได้ตามปกติ”
“อ่า? น่าเสียดายจัง! หนูอยากดูรูปบุริศร์สวมเครื่องแบบทหาร”
นรมนผิดหวังนิดหน่อย
ธรรศกลับยิ้มและพูดต่อ “รูปถ่ายของบุริศร์ที่สวมเครื่องแบบทหารมีอยู่ทุกหนทุกแห่งบนกำแพงเกียรติยศในเขตทหาร ถ้าหนูอยากดู ก็ไปดูได้ แต่ห้ามถ่ายรูป มันเป็นกฏนะ”
เมื่อนรมนได้ยิน ก็ดีใจขึ้นมาทันที
“หนูไปดูได้จริงเหรอคะ?”
“แน่ละสิ”
“เย้!”
นรมนไม่คิดมาก่อนเลยว่าการมาเยี่ยมลูกชายครั้งนี้ จะมีความสุขที่คาดไม่ถึงมาด้วย
รถถูกขวางเมื่อขับเข้าไปในเขตทหาร แต่เมื่อเห็นว่าเป็นรถของธรรศ ผู้คุมรักษาความปลอดภัยจึงทำความเคารพและพูดอย่างสุภาพ “ผู้บัญชาการทวีทรัพย์ธาดา คุณพาคนนอกเข้ามา ต้องลงทะเบียนก่อนนะครับ”
“อืม แม่ของกานต์นะ มาเยี่ยมลูกชาย”
ธรรศขอให้นรมนนำบัตรประจำตัวประชาชนออกมาเพื่อลงทะเบียน
รถถูกปล่อยให้เข้ามาได้
นรมนยิ้มก่อนพูด “อาสามคะ เขตทหารนี่ก็ไม่ได้เข้ายากขนาดนั้นนะคะ”
“ลองเข้ามาด้วยตัวเองดูสิ ถ้าเข้ามาได้อายอมแพ้”
ธรรศเรียกว่าความภาคภูมิใจ
นรมนเบะปาก ไม่โต้เถียงกับเขาต่อ เมื่อคิดว่าอีกไม่นานก็จะได้เจอลูกชายแล้ว หัวใจของเธอก็ปั่นป่วนอย่างอธิบายไม่ถูก
รถควรจะจอดที่ห้องรับแขก แต่ธรรศพานรมนไปที่กำแพงแห่งเกียรติยศแทน
ที่นี่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ แขวนรูปถ่ายของทหารที่มีคุณงามความดีเอาไว้
หลังจากที่นรมนลงจากรถ อารมณ์สนุกสนานก็หายไปอย่างสมบูรณ์ แทนที่ด้วยความเคารพอย่างเคร่งขรึมเงียบเชียบ
หลังจากที่ธรรศลงจากรถ เขาจัดการเสื้อผ้าตัวเองให้ดีเป็นครั้งแรก นี่เป็นการเคารพวีรบุรุษ
นรมนก็จัดการเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย แต่ทันใดนั้นรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กมากเมื่ออยู่ที่นี่
หลังจากที่ธรรศเข้าไปในห้องแห่งเกียรติยศ ภาพทหารบนกำแพงทำให้เธอตาพร่า แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นบุริศร์สวมเครื่องแบบทหาร
นรมนสะเทือนอารมณ์ทันที
เธอจินตนาการถึงบุริศร์ที่สวมชุดทหารมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอไม่เคยเห็นการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน
บุริศร์หล่อเหลา เธอรู้ถึงจุดนี้มาโดยตลอด
แต่บุริศร์ที่สวมเครื่องแบบทหาร มีความเคร่งขรึมและน่านับถือ
เห็นได้ชัดว่าผิวของเขาเข้มกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ดวงตาของเขากำลังคมกริบ ราวกับว่าสามารถมองทะลุผ่านหัวใจของผู้คนได้
เขาสวมเครื่องแบบทหารสีเขียว เป็นครั้งแรกที่นรมนเหมือนถูกตรึงเอาไว้
“นี่คือบุริศร์?”
“อืม เขามีชื่อเสียงมากในเขตทหาร แล้วก็โดดเด่นมากด้วย แต่กลับโดนสั่งให้เปลี่ยนงาน แต่น่าจะเป็นการพิจารณาของเบื้องบน ชื่อเสียงของบุริศร์ค่อนข้างกังวานมากในเขตทหาร ถ้ากานต์อยากจะสะบัดชื่อเสียงของพ่อตัวเองออกไปได้ คาดว่าจะต้องทำงานให้หนักกว่าเดิมเล็กน้อย”
ธรรศรู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับกานต์
นรมนพูดเสียงเบาว่า “พ่อเป็นเสือลูกไม่เป็นหมาหรอก หนูเชื่อว่าลูกหนูเขาทำได้ค่ะ”
“มาดูก็พอแล้ว ที่นี่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะ”
ธรรศกำชับอีกรอบ นรมนรู้แล้ว แม้เธออยากจะถ่ายแล้วเก็บไว้ในมือถือมากก็เถอะ
“ทำไมถึงมีกฎนี้ละคะ?”
“เพื่อความปลอดภัยของทหาร”
เมื่อได้ยินคำพูดของธรรศ ความคิดที่จะระมัดระวังตัวของนรมนก็ดับลงอย่างสมบูรณ์
คนสองคนอยู่ในห้องแห่งเกียรติยศชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะมีคนจากข้างนอกเข้ามารายงาน
“รายงานผู้บังคับบัญชาว่า กานต์ถูกส่งมายังห้องรับแขกแล้ว”
เมื่อได้ยินว่าลูกชายของเธอมาถึงห้องรับแขก นรมนก็รีบดึงแขนเสื้อของธรรศ ก่อนพูด “ไปเถอะ ไปหาลูกชายกัน”
“ไม่ดูสามีแล้วเหรอ?”
“ภาพลักษณ์ที่กล้าหาญของสามีหนู ได้แทรกซึมเข้าไปในหัวใจเรียบร้อยแล้วค่ะ”
ท่าทางหลงใหลของนรมน ทำให้ธรรศรังเกียจเล็กน้อย
“เป็นผู้หญิงที่แสดงออกมากจริงๆเลยนะ!”
“ฮ่าฮ่า อาสาม ทางที่ดีควรภาวนาว่าอนาคตขอให้ไม่มีลูกสาวนะคะ”
นรมนโต้กลับ แต่กลับไม่เคยคิดว่าคำพูดของเธอจะเป็นจริง ในอนาคตธรรศจะได้ให้กำเนิดลูกสาว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพ่อที่หวงลูกสาว ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในภายหลัง
ทั้งสองเดินออกจากห้องแห่งเกียรติยศ นรมนรีบวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นทันที
ลูกชายจ๋า!
หม่ามี๊มาแล้ว!
นรมนได้ยินเสียงของลูกชายของเธอก่อนที่ตัวเองจะเข้ามาในห้องนั่งเล่นเสียอีก
“โปรแกรมนี้ไม่ได้เขียนแบบนี้นะ! ผมบอกคุณไปกี่รอบแล้ว? ว่าเขียนโค้ดผิด ที่เหลือก็เปล่าประโยชน์ สมองคุณคิดอะไรอยู่?”
ฝีเท้าของนรมนหยุดลงกะทันหัน
หือ?
เด็กน้อยของแม่กำลังฝึกสอนคนอยู่เหรอ?
เธอย่องไปที่ห้องนั่งเล่น และเห็นกานต์สวมชุดทหารขนาดเล็กนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในมือถือแล็ปท็อปทหารอยู่ในมือ และกำลังวิดีโอกับใครบางคน
คิ้วของกานต์ขมวดแน่น สีหน้าของเขาจริงจัง ออร่ารอบกายเขา มันเหมือนบุริศร์ขนาดย่อส่วน
นรมนตกตะลึงทันที
ทำไมจู่ๆเธอถึงรู้สึกเจ็บปวดใจกับเด็กน้อยของเธอขนาดนี้? เห็นได้ชัดว่าลูกชายของเธอยังเล็กนัก!