แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1038
“อรอุรชา ยังไงเจตต์ยังออกมาเร็ว ๆ นี้ไม่ได้ หรือไม่คุณลองไปดูหน่อย ไปช่วยพวกเราซื้อน้ำสักสองขวดได้ไหม”
นรมนตั้งใจแยกอรอุรชาออกไปเลย
“อ๋อ ได้ค่ะ”
อรอุรชารีบพยักหน้า แต่กลับไม่ขยับ
“นี่คือเงินค่าซื้อน้ำ คุณรับไว้นะ”
บุริศร์รีบล้วงแบงก์ร้องใบหนึ่งออกมายื่นให้กับอรอุรชาจากกระเป๋า
หัวคิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันแน่นทีหนึ่ง
หลังจากที่อรอุรชาไปแล้ว นรมนก็พูดขึ้นเสียงต่ำว่า “ทำไมอยู่ ๆ ฉันก็ไม่ค่อยชอบเด็กผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาแล้ว?”
“แค่เพราะว่าเธอรอเอาเงินค่าซื้อน้ำเหรอ?”
คำพูดของบุริศร์ทำให้หัวคิ้วของนรมนขมวดกันแน่นมากยิ่งขึ้น
“ก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกว่าเธอก็ดีมาก แต่คุณว่าบนตัวเธอจะไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียวเลยเหรอ? แค่ซื้อน้ำขวดหนึ่งจะต้องใช้เงินสักเท่าไหร่กัน? วันนี้ตอนเที่ยงเธอยังเลี้ยงน่องไก่กมลหนึ่งอันอยู่เลยนะ แต่ตอนนี้แม้แต่น้ำขวดเดียวยังจ่ายไปก่อนไม่ได้? ฉันยังจะโกงเงินค่าซื้อน้ำเธอเหรอ? และอีกอย่างคุณดูเมื่อกี้ เจตต์ยังอยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่ แล้วคุณบอกว่ารีบมาเลยไม่ได้พกเงินมา แต่เธอกลับยังยึกยักว่าไม่สามารถใช้เงินของเจตต์ได้อีก อยู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่านิสัยของเธอแบบนี้ไม่น่าจะเป็นแบบที่เจตต์ชอบหรอก”
หรือว่าจะเป็นสัญชาตญาณของผู้หญิง นรมนกลับรู้สึกว่าระหว่างอรอุรชาและเจตต์นั้นไม่เหมือนอย่างที่บุริศร์พูดเลย
อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่เธอสามารถมั่นใจได้ก็คือเจตต์ไม่มีทางชอบอรอุรชาแน่
บุริศร์กลับพูดขึ้นเสียงเรียบว่า “คุณจะไปสนใจทำไมว่าพวกเขาคิดยังไง ตอนนี้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาดูแลเขาแบบนี้ก็ไม่เลวเลยไม่ใช่เหรอ หรือไม่งั้นคุณยังคิดจะมาดูแลเขาอีกเหรอ?”
“บุริศร์ เมื่อกี้คุณกำลังคิดแผนชั่วอะไรอยู่?”
อยู่ ๆ นรมนก็เปิดปากพูดขึ้น ทำให้บุริศร์ตกใจจนสะดุ้งทีหนึ่งเลย
“ผมจะไปคิดแผนชั่วอะไร? แน่นอนว่าต้องหวังว่าเจตต์กับอรอุรชาคนนั้นจะสามารถเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาได้หน่อยนะซิ”
“เรื่องนี้ฉันว่าพวกเราอย่างยื่นมือเข้าไปยุ่งเลยดีกว่า ฉันไม่เห็นชอบด้วยกับพวกเขาสองคน”
ก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้เรื่องอรอุรชากับเจตต์ นรมนยังรู้สึกว่าอรอุรชาเด็กผู้หญิงคนนี้ยังถือได้ว่าดี แต่พอตอนนี้มาคิดดูแล้ว เจตต์เกิดเรื่องขึ้น แล้วหมอโทรศัพท์ให้เธอ แต่เธอกลับโทรศัพท์หาตัวนรมนเอง นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?
พอมาถึงแล้วก็แสดงออกว่าตัวเองไม่มีเงินอีก แล้วอยากจะให้เธอกับบุริศร์ออกเงิน ถ้าหากว่ารักเจตต์จริง ๆ ไม่มีทางที่จะสนใจเงินพวกนี้หรอก
แต่ว่าการกระทำของอรอุรชานั้นทำให้นรมนรู้สึกไม่สบายใจมากเลย
บุริศร์ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งมาอย่างร้อนอกร้อนใจ
“ขอโทษค่ะ ขอถามหน่อยว่า คนไข้ที่ผ่าตัดอยู่ข้างในคือเจตต์ใช่ไหมคะ?”
หญิงสาวที่มาหน้าตาสะสวยมาก ทำให้คนความรู้สึกสง่าผ่าเผยมาก
นรมนจ้องมองเธอทีหนึ่ง เสื้อผ้าที่ตัวเธอสวมใส่อยู่ กระเป๋าที่ถืออยู่ในมือล้วนเป็นแบบลิมิเต็ด อิดิชั่นทั้งนั้น แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นคุณหนูจากตระกูลผู้ดี
“คุณเป็นใครคะ?”
“ฉันเป็นแฟนของเขา ฉันชื่อขวัญตา”
คำพูดของขวัญตาทำให้บุริศร์และนรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง
“แฟน? ของเจตต์เหรอ?”
นรมนรู้สึกว่าหัวสมองของตัวเองไม่ค่อยพอใช้แล้ว
“ใช่ค่ะ ทำไมเหรอ? ไม่เหมือนเหรอคะ? แล้วพวกคุณเป็นใคร? มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาคะ?”
หัวคิ้วของขวัญตาขมวดเข้าหากันทันที แล้วยังมีความจงใจมองมาที่นรมนอยู่หน่อยหนึ่งด้วย
บุริศร์ไอขึ้นคำหนึ่ง แล้วดึงนรมนมาโอบไว้ในอ้อมกอด
“นี่คือภรรยาของผม นรมน”
แล้วขวัญตาถึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าบุริศร์ก็อยู่ด้วย
“ประธานบุริศร์นี่เอง บังเอิญจังเลยนะคะ”
“อืม บังเอิญจริง ๆ เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะได้พบกับคุณพ่อของคุณไป คิดไม่ถึงว่าตอนบ่ายก็จะเจอกับคุณเข้าแล้ว ยังไง? เจตต์เป็นแฟนของคุณเหรอ? เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินคุณพ่อคุณพูดถึงมาก่อนเลย”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ขวัญตาอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “นี่ฉันก็กำลังตามจีบอยู่ไง แต่ว่าผู้ชายที่ฉันขวัญตาต้องตาแล้วไม่มีทางวิ่งหนีได้หรอก ฉันก็แค่ประกาศสิทธิ์ความเป็นเจ้าของก่อนก็เท่านั้น”
นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง
จีบคนยังมีการจีบแบบนี้ด้วยเหรอ?
“พวกคุณรู้จักกันเหรอคะ?”
บุริศร์รีบพูดกับนรมนขึ้นว่า “บุตรสาวของประธานโยธิน หลายปีมานี้ตระกูลปวนะฤทธิ์มาลงทุนด้านขนส่งในเมืองชลธีอยู่ตลอด มีเส้นทางการเดินเรือที่เป็นของตัวเอง และการขนส่งทางเรือมากมายที่คนอื่นเดินไม่ได้ แต่ตระกูลปวนะฤทธิ์กลับเดินได้ และที่สำคัญยังรับประกันความปลอดภัยอีกด้วย แล้วหลายปีมานี้ก็ประกอบกิจการได้เจริญใหญ่โต แล้วก็ถือได้ว่าเป็นผู้กล้าทางทะเล โยธินมีลูกสาวที่เป็นหัวแก้วหัวแหวนนี้แค่คนเดียว รักอย่างกับเป็นแก้วตาดวงใจของตัวเองเลย นี่ถ้ารู้ว่าลูกสาวตัวเองจะหาผู้ชายแล้วละก็ คาดว่าจะต้องหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วแน่ ๆ”
บุริศร์อธิบายประวัติครอบครัวของตระกูลปวนะฤทธิ์กับนรมนไปอย่างมีความอดทน
ขวัญตากลับพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า “ประธานบุริศร์ คุณอย่าบอกกับพ่อฉันเชียวนะ นี่ถ้าให้พ่อฉันรู้เข้า ฉันก็คงยังจีบคนไม่ติดก็ทำให้คนตกใจหนีไปซะแล้ว แล้วชาตินี้ฉันจะได้แต่งงานได้ยังไงกัน”
อยู่ ๆ นรมนก็หัวเราะขึ้นมาเลย
ขวัญตาเห็นท่าทางสวยงามของเธอตอนที่หัวเราะขึ้นมา ก็พูดขึ้นอย่างอกผายไหล่ผึ่งว่า “ฉันรู้จักคุณ คุณนรมนใช่ไหม? พลอยล้ำค่าเม็ดหนึ่งในดวงใจของเจตต์”
“พูดจาระวังหน่อยนะ นี่คือภรรยาของผม”
สีหน้าของบุริศร์ขรึมลงมาหลายส่วนทันที
“อ๋ายหยา รู้แล้วน่ะ รู้แล้วว่าคุณรักภรรยาของคุณ ฉันก็ไม่ได้พูดอย่างอื่นสักหน่อย ฉันก็แค่อยากจะพูดว่า ถึงคุณจะเคยเป็นพลอยล้ำค่าเม็ดหนึ่งที่อยู่ในดวงใจของเจตต์ ฉันก็มีความมั่นใจที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นอดีต ต่อไปชีวิตของเจตต์จะมีฉันมารับผิดชอบเอง”
ขวัญตาพูดขึ้นอย่างมั่นใจเต็มที่
“ดีเลย ถ้าคุณสามารถมาเป็นพี่สะใภ้ฉันได้จริง ๆ ละก็ ฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งเลย”
คำพูดของนรมนทำให้ขวัญตาอึ้งไปเลย
“พี่สะใภ้อะไร?”
บุริศร์จ้องมองดูเธออย่างขำขันเล็กน้อย “จะตามจีบคนยังไม่สืบประวัติเบื้องหลังของเขาให้ชัดเจนเหรอ? แล้วคุณยังกล้ามาข่มขู่ภรรยาผมอีก คุณรู้หรือเปล่า ว่าเจตต์กับภรรยาผมนั้นมีความสัมพันธ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน”
“ห๋า? คนรักสุดท้ายกลายเป็นพี่น้องกันหรอกเหรอ? ถึงว่าเจตต์ถึงจีบคนไม่ติด”
คำพูดของขวัญตาทำให้บุริศร์ไม่ชอบฟังเล็กน้อย
“คนรักอะไรกัน? คนที่ภรรยาผมรักคือผมต่างหาก”
“อ๋ายหยา รู้แล้ว รู้แล้ว ไม่ได้มีคนจะแย่งกับคุณสักหน่อย”
ขวัญตาสะบัดมือเล็กน้อย หลังจากที่รู้สถานะของนรมนแล้ว เธอก็รีบคล้องแขนของนรมนไว้ ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คือว่า น้องนรมน ช่วยอะไรหน่อยซิ”
มุมปากของนรมนคลี่ขึ้น แล้วรู้สึกคำว่าน้องนี่ช่างน่าฟังจริง ๆ
“ฮือ?”
“ช่วยเป็นแม่สื่อให้ฉันกับเจตต์หน่อยซิ”
“ไหนคุณมีความมั่นใจในการจีบเขามากเลยไม่ใช่เหรอ?”
นรมนจ้องมองดูขวัญตาอย่างขำขัน
ขวัญตารีบพูดขึ้นว่า “ใช่ ฉันมีความมั่นใจ แต่ว่าถ้าเกิดมีความช่วยเหลือจากคุณอีกงั้นก็ใช้แรงเพียงครึ่งหนึ่งแต่ได้ผลสองเท่าแล้วไม่ใช่เหรอ”
“แล้วคุณไม่กลัวเจตต์จะลืมความรู้สึกเก่ากับฉันเหรอ?”
“นั่นไม่มีทางเป็นไปได้แน่! ก็ยังมีฉันอยู่ทั้งคน เขาจะยังมีเวลาไปคิดถึงคุณอีกเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง?”
ขวัญตาแหงนหน้าขึ้นมา ดูภาคภูมิใจและมั่นใจในตัวเองมาก
นรมนกลับยิ้มขึ้นมาทันทีเลย
“ได้”
“งั้นก็ตกลงตามนี้เลยนะ ห้ามกลับคำล่ะ มา เกี่ยวก้อยสัญญากันหน่อย”
พูดแล้ว ขวัญตาก็ยื่นนิ้วก้อยของตัวเองออกมา
บุริศร์รู้สึกว่าขวัญตาเหมือนอย่างกับเด็กคนหนึ่งจริง ๆ
นรมนเองก็เกี่ยวก้อยสัญญากับเธออย่างน่าขำ ความในใจก็อดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายลงมาเยอะ
ในตอนนี้อรอุรชาที่ไปซื้อน้ำกลับมาพอดี ตอนที่เห็นขวัญตานั้นก็อึ้งไปเล็กน้อย
“คุณขวัญตา? คุณมาได้ยังไงคะ?”
ขวัญตาเหล่ตามองเธอทีหนึ่ง แล้วขึ้นเรียบ ๆ ว่า “ฉันมายังจะต้องรายงานเธอด้วยเหรอ? เธอเป็นอะไรของฉันเหรอ?”
คำพูดนี้ฟังดูกระทบกระแทก และที่สำคัญนรมนก็ได้กลิ่นดินปืนขึ้นมาเสี้ยวหนึ่งแล้ว
“คือว่าอรอุรชา เอาน้ำมาให้ฉันเถอะ”
อรอุรชารีบเอาน้ำส่งให้นรมน แล้วก็เอาเงินที่อยู่ในกระเป๋าออกมาด้วย
“คุณนรมน นี่คือเงินที่เหลือจากการซื้อน้ำค่ะ”
“โย่ว ช่วยซื้อน้ำให้คนอื่นขวดหนึ่งยังจะต้องเอาเงินอีกเหรอ? อรอุรชา เธอว่าเธอทำงานวันหนึ่งตั้งหลายที่ หรือแค่เงินซื้อน้ำขวดเดียวก็ยังไม่มีอีกเหรอ?”
การเยาะเย้ยของขวัญตาสีหน้าของทำให้อรอุรชาดูไม่ดีขึ้นมา
เธอกัดริมฝีปากไว้แน่น แล้วพูดขึ้นอย่างอึดอัดว่า “เงินเดือนของฉันยังไม่ออกค่ะ”
“โอเค โอเค แค่เห็นท่าทางที่ยากจนจนแทบไม่มีกินของเธอ ฉันก็อารมณ์ขึ้นแล้ว”
ขวัญตาสีหน้าทั้งขยะแขยงและรังเกียจ
ดวงตาของอรอุรชาเปียกชื้นขึ้นเล็กน้อย สองมือกำเข้าหากันแน่น จากนั้นก็ไปนั่งอีกข้างหนึ่งแล้วไม่พูดอะไรอีก
ไฟหน้าห้องผ่าตัดดับลง
ขวัญตาพุ่งเข้าไปเป็นอันดับแรก
“คุณหมอคะ เขาเป็นยังไงบ้างคะ?”
รมิดามองนรมนทีหนึ่ง แล้วใช้สายตาถามขึ้นว่าคนนี้เป็นใคร?
นรมนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “เธอแทนตัวเองว่าเป็นแฟนของเจตต์ แต่ความเป็นจริงยังต้องตรวจสอบก่อน เจตต์เป็นยังไงบ้างคะ?”
“ฉันเป็นคนผ่าตัดคุณยังไม่วางใจอีกเหรอ? ไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้ยังไม่ฟื้นจากยาสลบ อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก็น่าจะฟื้นขึ้นมา”
คำพูดของรมิดาทำให้นรมนค่อย ๆ วางใจลง
พอขวัญตาได้ยินว่าเจตต์ไม่เป็นอะไรแล้ว ถึงได้โล่งใจได้เปลาะหนึ่ง
“ทำฉันตกใจหมดเลย”
ตอนที่พยาบาลเข็นเจตต์ออกมานั้น อรอุรชาก็รีบรุกหน้าเข้าไป และอยากจะดูว่าเจตต์เป็นยังไงบ้าง แต่กลับโดนขวัญตาดึงตัวทีหนึ่ง แล้วก็มาปังสายตาที่เธอมองเจตต์ไว้
“ฉันได้จัดแจงห้องพักผู้ป่วยVIPเอาไว้แล้ว เข็นไปได้เลยค่ะ”
คำพูดของขวัญตาทำให้อรอุรชารู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย แล้วเธอก็พูดขึ้นอย่างเคือง ๆ ว่า “ฉันได้ทำเรื่องนอนโรงพยาบาลให้เจตต์ไว้แล้ว เขาน่าจะจัดห้องพักผู้ป่วยให้แล้ว”
“เธอคงจะไม่ได้เป็นอะไรมั้ง? เจตต์เป็นถึงประธานของบริษัทตระกูลรัตติกรวรกุล เธอจะให้เขาไปนอนห้องผู้ป่วยธรรมดาเหรอ? อรอุรชา เธอคิดยังไงกันนะ? ไม่ใช่คนในโลกเดียวกันก็รู้จักตำแหน่งของตัวเองซะบ้างเถอะ?”
ขวัญตาไม่ได้สนใจสักนิดว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้อรอุรชารู้สึกยากลำบากแค่ไหน แล้วเธอก็รับมือต่อจากพยาบาล แล้วก็เข็นเจตต์เข้าไปในห้องพักผู้ป่วยVIPไปเลย
น้ำตาของอรอุรชาหมุนวนอยู่ในดวงตา
นรมนรู้สึกว่าจะทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว พอเพิ่งจะอยากจะพูดอะไรก็โดนบุริศร์ดึงไว้ซะก่อน
บุริศร์ส่ายหัวให้กับเธอ เพื่อแสดงให้เธอว่าอย่ายื่นมือเข้าไปยุ่ง
นรมนรู้สึกทนไม่ไหวเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเบาขึ้นว่า “พวกเราเข้าไปดูเจตต์เถอะ”
บุริศร์จูงมือนรมนแล้วก็เดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย
อรอุรชาเดินตามเข้ามาเป็นคนหลังสุด
พอเธอเห็นความหรูหราของห้องพักผู้ป่วยVIP ชั่วขณะหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยมาก
ค่าห้องที่นี่คืนหนึ่ง คาดว่าคงจะมากกว่าเงินเดือนเธอทั้งเดือนเลยละมั้ง?
อยู่ ๆ เธอก็ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา
หลังจากที่ขวัญตาเข็นเจตต์เข้ามาแล้ว พอได้ยินเรื่องที่ต้องระวังจากพยาบาล ก็อดไม่ได้ที่จะเอาสมุดออกมาจดเอาไว้
“คุณพยาบาล ยังมีเรื่องอะไรที่จะต้องกำชับอีกไหมคะ?”
“ตอนนี้พอแค่นี้ก่อน”
“ขอบคุณค่ะ”
ขวัญตาพูดกับพยาบาลนั้นกลับมีมารยาทมาก
เธอหมุนตัวมาจ้องมองนรมนและบุริศร์ทีหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “พวกคุณกลับไปเถอะ ฉันอยู่ดูแลเขาที่นี่ก็พอแล้ว”
สีหน้าของอรอุรชาเปลี่ยนไปทันที
“คุณจะดูแล? คุณทำได้เหรอ? ฉันได้ให้อรอุรชาอยู่ดูแลที่นี่แล้ว หรือว่าให้เธอมาดูแลเถอะ คุณเป็นคุณหนูตระกูลผู้ดีคนหนึ่ง ทำเรื่องพวกนี้ไม่ได้หรอก”
นรมนรู้สึกว่าเพื่อเจตต์แล้วอรอุรชาถึงกับยอมลาออกจากงาน ตอนนี้มาบอกว่าอรอุรชาว่าไม่จำเป็นแล้วคงจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ว่าคำพูดนี้ฟังอยู่ในหูของอรอุรชาแล้ว กลับรู้สึกว่านรมนก็ดูถูกเธอเหมือนกับขวัญตา คิดว่าเธอเป็นคนใช้เอาไว้ใช้งาน
อยู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ในเมื่อคุณขวัญตาจะอยู่ที่นี่ นั้นฉันก็ไปก่อนนะคะ”
พูดจบเธอก็ไม่รอให้นรมนตั้งตัวได้ แล้วก็หมุนตัวออกไปจากห้องพักผู้ป่วยเลย
“ชิ เล่นตัว”
ขวัญตาหึเสียงเย็นคำหนึ่ง แล้วก็หันหลังกลับไปดูแลเจตต์ต่อ
บุริศร์จ้องมองแผ่นหลังที่จากไปของอรอุรชา แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง