แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1043
แค้นรักสามีตัวร้าย
บทที่ 1043 รอฉันก่อนเถอะ
“ผมไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูด? อรอุรชามุ่งร้ายไปที่นรมน คุณแน่ใจเหรอ?”
เจตต์มึนงง
เขาไม่คิดว่านักศึกษามหาวิทยาลัยอย่างอรอุรชาจะมีเหตุผลใดที่จะมุ่งร้ายต่อนรมน และอีกอย่าง เธอไปรู้จักนรมนที่ไหนกัน?
เมื่อมองไปที่การแสดงของเจตต์ เมื่อรู้ว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำ หรือบางทีเขาอาจไม่รู้ธาตุแท้ของอรอุรชา บุริศร์ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
“ยังจำนิตาได้ไหม?”
นี่ก็ผ่านมานานแล้ว อยู่ๆ บุริศร์พูดถึงนิตา ทำให้สีหน้าของเจตต์ไม่ดีนัก
สำหรับเขานิตาเป็นหนามในหัวใจ แม้ว่าเธอจะตายไปแล้ว แต่หนามนั้นกลับฝังอยู่ที่หน้าอกของเจตต์
“คุณต้องการเตือนผมว่าอรอุรชาไม่สามารถเป็นนิตาคนที่สองได้ใช่ไหม?”
“คุณรู้ก็ดี ผมไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้ ผมมาที่นี่เพื่อบอกคุณว่าทุกอย่างที่อรอุรชาทำกับนรมน ผมต้องการให้เธอชดใช้ในราคาที่เหมาะสม ถ้าเธอยังดื้อดึงไม่ยอมรับผิด ก็โทษที่ผมไร้ความปรานีล่ะกัน”
บุริศร์ลุกขึ้นและจากไปหลังจากพูดจบ
เจตต์พูดขึ้นเมื่อตอนที่เขากำลังจะไปว่า “ผมไม่ได้สนิทกันเธอ คุณอยากทำอะไรก็ทำเถอะ ไม่ต้องสนใจผม และผมก็จะไม่ออกหน้าให้คนที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“เป็นอย่างนั้นก็ดีครับ”
บุริศร์ออกไป แต่เจตต์กลับขมวดคิ้ว
ในตอนแรกเขาเห็นว่าอรอุรชาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเลยช่วยเธอ ใครจะคิดว่าจะมาสร้างปัญหาให้นรมนล่ะ?
เจตต์รีบโทรหาผู้ช่วยของเขา
“ช่วยตรวจสอบการติดต่อระหว่างอรอุรชาและนรมนให้ผมที ผมต้องการข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด ส่งมาที่โทรศัพท์มือถือผม”
“ค่ะประธาน”
หลังจากวางสายแล้ว ขวัญตาก็กลับมาพอดี และนำอาหารมาให้เจตต์ด้วย
เจตต์ขมวดคิ้วแน่น และไม่รู้ถึงการมาของเธอ
“เกิดอะไรขึ้น? ประธานบุริศร์มาทำอะไรคะ?”
ขวัญตาเปลี่ยนดอกไม้ที่เพิ่งซื้อมาให้กับเจตต์
“นี่ก็ดึกแล้ว คุณจะเปลี่ยนมันทำไมครับ”
เจตต์รู้สึกว่าขวัญตาว่างจนหาอะไรมาทำ
ขวัญตายิ้มและพูดว่า “คุณไม่รู้สึกดีที่ได้เห็นดอกไม้ที่สวยงามพวกนี้เหรอคะ?”
“ผมไม่คิดอย่างนั้น และผมก็แพ้เกสรดอกไม้ด้วย”
“พูดอะไรอย่างนั้น! ถ้าคุณแพ้เกสรจริงๆ ดอกไม้นี่วางไว้หนึ่งวันแล้ว คุณคงแพ้ไปตั้งนานแล้ว ถ้าไม่อยากพูดว่าประธานบุริศร์มาทำอะไรก็ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ ฉันก็ไม่อยากฟังขนาดนั้น”
ขวัญตาพ่นลมและเดินไปเก็บของอื่นๆ
เจตต์มองไปที่เธอและถามทันทีว่า “คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับอรอุรชา?”
“อรอุรชา? นักเรียนที่ยากจนคนนั้นน่ะเหรอคะ?”
เจตต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับน้ำเสียงที่เยาะเย้ยของขวัญตา
“คุณหยุดพูดว่านักเรียนที่ยากจนได้ไหม? บ้านของเธอไม่ได้ตั้งใจจะจนนะ”
“เรื่องที่เธอจนไม่ได้น่าละอายอะไร แต่ที่น่าละอายคือข้ออ้างที่เธอหลอกคนอื่นโดยปลอมตัวเป็นคนจน ฉันก็เลยไม่ชอบ”
เจตต์ดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ขวัญตากล่าว
“เดี๋ยวก่อน อะไรคือข้ออ้างที่เป็นคนจน คุณรู้อะไรมา?”
“แน่นอนฉันรู้ อรอุรชาหลอกคนรวยหลายคนให้มาสนับสนุนค่าเล่าเรียนของเธอ และมีเพียงคุณที่โง่เขลาเท่านั้นที่จะถูกหลอกโดยรูปลักษณ์ที่น่าสมเพชของเธอ ฉันเคยเห็นนักเรียนหลายคนที่มีสภาพครอบครัวยากจน แต่พวกเขาไปเรียนในตอนกลางวันและทำงานในตอนกลางคืน พวกเขายังสามารถจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในชีวิตได้ คนอื่นๆ ก็ทำได้ แล้วทำไมอรอุรชาจะทำไม่ได้ล่ะคะ? เป็นนักศึกษา บทเรียนไม่ได้เครียดมาก ทำไมเธอต้องขอให้คนอื่นช่วยเหลือตลอด? และคนที่ช่วยสนับสนุนเธอก็อายุ 50-60 ปี หรือแก่กว่านี้ มีคุณคนเดียวที่ยังหนุ่มและหล่อ บางทีนี่อาจเป็นความหวังที่คุณให้ไว้กับเธอ”
เจตต์ไม่อยากจะเชื่อเมื่อฟังคำพูดของขวัญตา
“อะไรที่บอกว่าผมให้ความหวังเธอ? ผมให้ความหวังอะไรกับเธอ? ถ้าพวกคุณไม่พูด ผมแทบไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ”
“ช่างเถอะค่ะ ไม่รู้จักเธอ แล้วคุณหมอจะโทรหาเธอเป็นคนแรกที่คุณประสบอุบัติเหตุทำไม? เจตต์ ตัวคุณเองเชื่อคำพูดนี้ไหม?”
ขวัญตาพูดอย่างไม่พอใจ
ดวงตาของเจตต์หรี่ลงเล็กน้อย
อุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย และเขาทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ไว้เพราะตอนแรกที่บริจาคต้องเก็บไว้ แต่เขาไม่มีการติดต่อใดๆ กับ อรอุรชา
วันนี้ที่ได้ยินขวัญตาพูด โดยเฉพาะเรื่องที่ อรอุรชารู้เป็นคนแรกว่าเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เรื่องนี้ทำให้เจตต์รู้สึกไม่พอใจ ราวกับว่าชีวิตของเขาถูกติดตามและรายงานได้ตลอดเวลา และไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย
เขาสร้างปัญหาใหญ่ให้กับตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
คิ้วของเจตต์ขมวดแน่นขึ้น
เมื่อขวัญตาเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูดว่า “คุณอย่ากังวลและรู้สึกหดหู่ใจเลย มีฉันอยู่ อรอุรชาไม่กล้ามาหลอกลวงคุณที่นี่หรอก ไม่ต้องกังวล”
“เธอไม่ได้มาหลอกลวงผม แต่เธอไปหานรมน”
“หืม? ไปหาลูกพี่ลูกน้องคุณทำไมคะ?”
ขวัญตารู้สึกสับสนเล็กน้อย
เจตต์ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มีบุริศร์อยู่ คงไม่ไม่มีอะไร
ผู้ช่วยใช้เวลาไม่นานในการส่งข้อมูลของ อรอุรชา รวมถึงจำนวนผู้สนับสนุนเธอ
เจตต์ตกใจในทันที
อรอุรชาคนนี้น่าทึ่งจริงๆ ครึ่งหนึ่งของคนดังในชนชั้นสูงของเมืองชลธีได้บริจาคเงินให้กับเธอ
เจตต์ขมวดคิ้ว
เมื่อเขาเห็นวิดีโอที่จอดรถ ใบหน้าของเจตต์ก็เปลี่ยนไป
อรอุรชาขับรถตรงไปที่รถของนรมน จากนั้นขับไปข้างหน้า และก็ถอยกลับ ทำอยู่อย่างนั้นสี่ห้าครั้งที่ตำแหน่งเดิม
เขาอดไม่ได้ที่จะขยายดูสีหน้าของอรอุรชา มันดูน่ากลัวและเย็นชา
เด็กผู้หญิงอายุสิบแปดสิบเก้าปี นี่มันเกินไปไหม?
ขวัญตาเห็นท่าทางของเขาก็รู้ว่าต้องพบบางอย่าง เธอก้าวไปข้างหน้าและมองดู ทันใดนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ดูสิ ฉันบอกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ไม่ได้เจตนาอะไร ยี่มันหาเรื่องชัดๆ แต่รถชนแบบนี้ ลูกพี่ลูกน้องคุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”
หลังจากพูดจบ เธอก็ตระหนักว่าเธอถามเรื่องไร้สาระ
“อ่อใช่ ถ้าไม่มีธุระอะไรฉันห้ามมาหาคุณ ฉันลืมไปเลย เจตต์ แล้วคุณคิดจะทำอย่างไร?”
เจตต์ชะงักเมื่อฟังคำพูดของขวัญตา แล้วก็ปิดโทรศัพท์
“นรมนมีบุริศร์อยู่ คงไม่ต้องให้ผมช่วยอะไร”
“เดี๋ยวนะ นรมนเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณ! คุณเคยชอบเธอมาก และตอนนี้ยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอีก ลูกพี่ลูกน้องของคุณถูกผู้หญิงเสแสร้งรังแก คุณจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ? เจตต์ คุณเป็นผู้ชายรึเปล่า?”
สีหน้าของเจตต์ดูไม่ดีเท่าไหร่
“ผมเป็นผู้ชายรึเปล่าไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องของฉัน มันเป็นเรื่องของความสุขในชีวิตฉัน”
คำพูดของขวัญตาทำให้เจตต์สำลัก
“คุณเป็นผู้หญิงรึเปล่า?”
“คุณอยากตรวจสอบไหมล่ะคะ?”
ในขณะที่ขวัญตาพูด เธอก็กำลังจะถอดเสื้อผ้า เจตต์ตกใจมากจนโบกมืออย่างรวดเร็ว
“หยุด คุณมีความคิดอะไร?”
ขวัญตารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่กล้าที่เล่นเกินไป เพราะกลัวว่าเจตต์จะโยนตัวเองออกไปจริงๆ
“เรื่องของผู้หญิงก็ต้องแก้โดยผู้หญิง อรอุรชามุ่งเป้าไปที่นรมนลูกพี่ลูกน้องของคุณ บางทีเธออาจรู้ว่าคนที่คุณชอบคือนรมน คุณคิดสิว่าถ้าคนที่คุณชอบกลายเป็นฉัน คนที่เธอมุ่งเป้าจะเปลี่ยนมาเป็นฉัน? ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงไม่ไปสร้างความยุ่งยากกับนรมนหรอกค่ะ”
คำพูดของขวัญตาทำให้คิ้วของเจตต์ขมวดแน่นขึ้น
“แต่ถ้าเธอมุ่งเป้ามาที่คุณ คุณจะไม่เดือดร้อนด้วยเหรอ?”
“แล้วยังไงล่ะคะ คนที่เธอชอบคือคุณ ก็เป็นคู่แข่งกับฉันเป็นธรรมดา แม้ว่าเธอจะไม่สร้างความยุ่งยากกับฉัน ฉันก็จะไปสร้างความยุ่งยากกับเธอ แต่ถ้าคุณให้ความร่วมมือ ก็คงจะดี”
ขวัญตาพูดด้วยรอยยิ้ม
เจตต์ไม่เข้าใจวงจรสมองของเธอ แต่ก็ถามเสียงต่ำว่า “จะร่วมมืออย่างไร?”
“แสดงความรักกับฉัน มา ถ่ายรูปคู่แล้วโพสต์ลงโซเชียลกัน”
ขวัญตาพูดแล้วทำเลย เธอโอบแขนไว้รอบคอของเจตต์ กดใบหน้าไปที่ใบหน้าของเขา และกดถ่าย
เจตต์ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกจับถ่ายแล้ว ทำให้เขาไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก่อนที่เขาจะโกรธ ก็ฟังขวัญตาพูดว่า “คุณไม่ต้องกังวล ถ้าฉันโพสต์ อรอุรชาต้องเห็นแน่นอน นรมนก็ถือเป็นรักเก่าของคุณ และยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคุณอีก ตอนนี้ฉันกลายเป็นรักใหม่ของคุณแล้ว คุณคิดว่าเธอจะจัดการกับฉันหรือนรมน?”
คำตอบนี้รู้โดยแทบไม่ต้องเดา
เจตต์มองไปที่ขวัญตาด้วยสายตาที่ซับซ้อนและพูดว่า “เราแค่แสดงเท่านั้น อย่าจริงจังล่ะ”
“เจตต์ คุณมันนิสัยไม่ดี! ฉันไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเอง และคุณยังจะเล่นแง่อีกเหรอ คุณเชื่อไหมว่าฉันสามารถลากคุณไปที่อำเภอและจดทะเบียนสมรสตอนนี้ได้เลย? พอถึงตอนนั้นถ้าฉันจะจัดการผู้หญิงคนนั้นก็ถือว่าไม่ผิด”
ขวัญตาพูดอย่างโกรธเคือง
เจตต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “โอเค”
“อะไรนะคะ?”
ขวัญตาคิดว่าตัวเองได้ยินผิด
เจตต์หัวเราะทันที
เขาดูหล่อมากเมื่อเขายิ้ม ทำให้ขวัญตามองอย่างใจลอย
“คุณเป็นผู้ชายที่ดึงดูดคนเกินไปแล้ว?”
“ขวัญตา ถ้าจะถือโอกาสตอนที่สับสนมึนงงพาผมไปจดทะเบียน ผมตกลงก็ได้ แต่ในเช้าวันพรุ่งนี้ผมก็ไม่รับปากนะว่าจะตกลง”
“เจตต์ คุณเล่นอะไร! ตอนนี้ดึกมากแล้ว อำเภอก็ปิดทำการแล้ว คุณจะให้ฉันไปจดทะเบียนที่ไหน?”
ขวัญตาร้องไห้ทันที
รู้อยู่แล้วว่าเจตต์เป็นแบบนี้ เธอควรลากเขาไปจดทะเบียนตั้งแต่ตอนบ่าย
เจตต์วางสองมือไว้ด้านหลังศีรษะพร้อมรอยยิ้ม มองดูขวัญตากระโดดโลดเต้น และพูดว่า “ช่วยไม่ได้ ถ้าคุณมีความสามารถ เราจะได้รับทะเบียนสมรสในคืนนี้ ถ้าคุณไม่มีความสามารถ ก็ห้ามมาพูดว่าเจตต์อย่างผมไม่ให้โอกาสคุณ”
“ได้! ถือว่าคุณใจร้ายมาก! รอฉันก่อนเถอะ!”
ขวัญตาเดินออกจากห้องผู้ป่วยด้วยความโกรธ และโทรหาบุริศร์ทันที
ไม่มีทาง พ่อของเธอไม่ได้ใหญ่ในเมืองชลธี ดังนั้นเธอจึงขอความช่วยเหลือจากบุริศร์
“ประธานบุริศร์ ช่วยฉันหน่อยค่ะ ฉันจะไปจดทะเบียนสมรสกับเจตต์ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ถ้าคุณทำให้ฉันได้ หลังจากนี้เส้นทางเดินเรือของบ้านฉันจะให้ตระกูลโตเล็กใช้ฟรีค่ะ”
ขวัญตาพูดโดยพลการ
บุริศร์เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ยังไม่ทันได้นอนลง ก็ถูกสายของเธอทำนรมนตื่นขึ้นมา
นรมนบังเอิญได้ยินคำพูดนั้นพอดี ก็เบิกตากว้างอย่างอดไม่ได้
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
จดทะเบียนสมรสกลางดึกขนาดนี้?
ต้องเร่งด่วนขนาดนั้นเลยเหรอ?