แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1055
“ไปกันเถอะ.”
นรมนรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อไปอีก
ภาพฉากตลกนี้ได้จบไปแล้ว ตอนจบลงเอยอย่างไรได้ชัดเจนแล้ว
บุริศร์มองดูท่าทางเธอที่อ่อนเพลีย จึงถามขึ้นเบาๆ“ไม่คิดจะช่วยเนตราหน่อยเหรอ”
นรมนจ้องเเขาเขม็งแล้วพูดขึ้น“คิดว่าฉันเป็นพระแม่มารีหรือไง เธอแทบอยากจะฆ่าฉันให้ตาย ฉันจะช่วยเธออีกเหรอ ฉันส่งเธอมารับการรักษาในฐานะมนุษยธรรมแล้ว ค่ารักษาของเธอฉันเป็นคนออก สำหรับเรื่องอื่น ฉันจนปัญญา คงจะไม่ใช่ให้ฉันบริจาคไตให้กับเธอนะ อาการบาดเจ็บที่หลังของฉันยังไม่หายดีเลย”
บุริศร์ยิ้มขึ้นทันใด
“ผมคิดว่าคุณจะจิตใจดี”
“อย่างนั้นก็ต้องดูเป็นใคร อีกอย่างเรื่องนี้เกินความสามารถของฉันจริงๆ ไปกันเถิด”
นรมนคล้องแขนของบุริศร์แล้วทำท่าจะจากไป กลับถูกแม่นรมนรั้งไว้
“นรมน หนูดูสิ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความเข้าใจผิด แม่กับพ่อของหนูก็ถูกเนตราสารเลวนั่นหลอก หนูอย่าถือโทษโกรธเคืองพวกเราเลยนะ ความสัมพันธ์ในเมืองชลธีของบุริศร์นั้นแน่นแฟ้นมาก พ่อของหนูอายุก็ปูนนี้แล้ว หนูให้คนช่วยเขาออกมาทีเถอะ อย่างน้อยก็เคยเป็นพ่อลูกกันไม่ใช่เหรอ”
นรมนเคยเห็นคนหน้าด้าน แต่ไม่เคยเห็นหน้าด้านขนาดนี้
“สองสามวันก่อนที่ท่านอยากจะฆ่าฉันนั้นทำไมถึงจำไม่ได้ว่าอย่างน้อยพวกเราก็เคยเป็นแม่ลูกกันล่ะ”
นรมนสะบัดแม่นรมนทิ้ง จากนั้นก็ยกเท้าก้าวเดิน
ถ้าอยู่ต่อไปมีหวังหงุดหงิดตาย
บุริศร์แค่ส่งสายตา ก็มีบอดี้การ์ดเข้ามาจับตัวคุณท่านคุณนายตระกูลธนาศักดิ์ธนไว้
เขาโอบเอวบางของนรมนแล้วพูดอย่างอ่อนโยน“อย่าไปโมโหคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกับเรา มันไม่คุ้ม”
“ฉันไม่ได้โมโห แค่รู้สึกเหนื่อยและเมื่อยเท่านั้นเอง คุณว่าความรักของพ่อแม่จะต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเหรอ คุณดูคู่สามีภรรยาของป้องที่มีต่อปวีราสิ แทบจะรักเธอเข้ากระดูกแล้ว ทำไมคุณท่านคุณนายตระกูลธนาศักดิ์ธนถึงไม่มีหัวใจแบบนี้บ้าง ความจริงจะใช่หรือไม่ใช่ลูกแท้ๆของตัวเองก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ขอเพียงมีวาสนาต่อกัน ทุกคนก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้ไม่ใช่เหรอ”
“คนเรานั้นต่างกัน คุณอย่าคิดมากเลย ดูภาพฉากละครไปหนึ่งตอนคงเหนื่อยแล้วสินะ ปะผมจะพาคุณออกไปเดินเล่น”
บุริศร์เห็นภรรยาอารมณ์ไม่ค่อยดี จึงอดไม่ได้ที่จะหาวิธีทำให้เธอมีความสุข
นรมนกลับพูดอย่างไม่มีอารมณ์ “ไม่มีที่ที่อยากจะไป ฉันอยากไปหาลูกชายที่ค่ายทหาร ไปได้ไหม”
บุริศร์รู้สึกว่าภรรยานั้นตั้งใจทำให้เขาลำบากใจ
“เขตทหารเป็นสถานที่กวดขัน ตอนนี้ผมเองก็ไม่ได้กลับ แน่นอนว่าต้องเข้าไปไม่ได้อยู่”
พูดอย่างกับว่าถ้าคุณกลับแล้วฉันจะสามารถเข้าได้อย่างนั้นแหละ กฎระเบียบค่ายทหารฉันเข้าใจดี”
ท่าทางนรมนที่กระปลกกระเปลี้ยทำให้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย
“หรือผมพาคุณไปยิงปืนสักสองสามนัดที่สโมสรยิงปืนดี”
คำแนะนำของบุริศร์ทำให้นรมนเกิดความสนใจ
“สโมสรยิงปืนเหรอ เมืองชลธีมีสโมสรยิงปืนแบบนี้ด้วยเหรอ”
ตอนนั้นเพราะกานต์ถูกคุมตัวอยู่ในสโมสรยิงปืนจนเกือบจะเกิดเรื่องขึ้น บุริศร์จึงสั่งปิดสโมสรยิงปืนทั้งหมดในเมืองชลธี ตอนนี้ได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ นรมนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
บุริศร์ยิ้มแล้วพูด“ผมรู้ว่าคุณชอบไง ก็ย่อมเก็บไว้หนึ่งสโมสรอยู่แล้ว ถูกผมซื้อไว้แล้ว คนที่อยู่ด้านในล้วนเป็นคนกันเอง คุณวางใจได้ ไม่เกิดอะไรขึ้นอย่างแน่นอน”
นรมนมองบุริศร์ ไม่รู้ว่าเขาแอบทำอะไรมากมายขนาดนี้ ตอนนี้รู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย และได้ซัดความหงุดหงิดเมื่อสักครู่ลงไปไม่น้อย
“ก็ได้ เห็นแก่หน้าคุณ ไปสนุกกัน”
“ขอบคุณภรรยาที่เห็นแก่หน้าครับ ไปกันเถอะ”
บุริศร์เห็นเธออารมณ์ดีขึ้นจึงได้ถอนหายใจออกมา
เมื่อทั้งคู่ขึ้นรถไปแล้วนรมนก็ถามขึ้นฉับพลัน “คำพูดของกล้าณรงค์คุณได้อัดเสียงไว้แล้วใช่ไหม”
“อัดไว้แล้ว ถึงแม้เคยคิดว่าไตวายฉับพลันของเนตราไม่น่าจะเกิดขึ้นกะทันหัน แต่คิดไม่ถึงว่ากล้าณรงค์จะเผยข้อมูลออกมา ผมต้องอัดเสียงไว้อยู่แล้ว นี่เป็นหลักฐานเลยเชียวนะ”
บุริศร์พลางพูดพลางยิ้ม
นรมนจึงหยุดหัวข้อนี้ขึ้น สำหรับผลลัพธ์ของเนตรานั้นจะเป็นอย่างไร เธอไม่ได้สนใจอีกแล้ว
สำหรับเธอเนตราถูกทรยศทอดทิ้งแบบนี้ถือว่าเป็นการลงโทษแล้ว
ความแค้นระหว่างพวกเธอนั้นจบสิ้นกัน
ทั้งคู่ขับรถไปที่สโมสรยิงปืน
สโมสรตั้งอยู่ในเขตชานเมือง ที่นี่มีพื้นที่กว้างขวาง ดูดีมาก ทำให้คนเห็นรู้สึกผ่อนคลายมีความสุข
“ใช้ได้ สภาพแวดล้อมแบบนี้ดีสุดๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสนามยิงปืนจริงๆ”
“แน่นอน ผมสร้างตามแบบสนามฝึกยิงปืนของค่ายทหารเลยนะ”
บุริศร์อธิบายด้วยความภาคภูมิใจ
“ดูคุณดีใจเข้าซิ”
นรมนปรายตามองเขา ยิ้มแล้วพูด “มาประลองกัน”
“เอาสิ ยากนักที่ภรรยาจะมีกะจิตกะใจ ผมขอน้อมถวายชีวิตเพื่อภรรยา”
บุริศร์เองก็อยากประลองเช่นกัน
ทั้งคู่สวมชุดอุปกรณ์ความปลอดภัยเสร็จสรรพ ก็หยิบปืนแล้วเข้าไปในสนามยิงปืน
นรมนเริ่มก่อน ได้เก้าคะแนน
บุริศร์เห็นสีหน้าที่ค่อนข้างแย่ของนรมน จึงครุ่นคิดแล้วยิงที่แปดคะแนน
“อ้าวคุณชายบุริศร์เป็นอะไรไป ไม่ใช่เกิดในค่ายทหารเหรอ ทำไมยังสู้มือสมัครเล่นอย่างฉันไม่ได้”
นรมนพูดจาอวดเบ่ง
บุริศร์วางปืนลงข้างๆแล้วพูดเบาๆ“ไม่ได้ฝึกซ้อมนาน ก็เลยรู้สึกไม่ชิน”
“เหรอ งั้นลองอีกที”
“เอาสิ”
สองสามีภรรยาเกิดแรงฮึกเหิมขึ้น
เวลาทั้งช่วงบ่ายได้ใช้อยู่ในสโมสร แต่ทว่าบุริศร์นั้นแต่ละครั้งมักจะได้คะแนนน้อยกว่านรมนหนึ่งคะแนน
หากนรมนยังดูไม่ออกว่าบุริศร์นั้นอ่อนข้อให้กับเธอ อย่างนั้นก็คงจะฉลาดน้อยแล้วจริงๆ
เธอนั่งพักอยู่เก้าอี้ข้างๆ แล้วถอนหายใจพูดขึ้น“คุณบอกไม่ใช่เหรอว่าตอนฝึกซ้อมหากอ่อนข้อให้จะเป็นการทำร้ายฉัน นี่คุณชายบุริศร์เป็นอะไรไป”
บุริศร์วางปืนลงแล้วนั่งเขยิบเข้ามาแล้วจับมือของเธอวางไว้ที่มือของตัวเอง จากนั้นนวดเบาๆ
นรมนรู้สึกผ่อนคลายลงมาก
“ฝึกซ้อมส่วนฝึกซ้อม ตอนนี้เป็นการเล่นเป็นเพื่อนคุณ อย่างไรก็ต้องยอมอ่อนให้ภรรยามีความสุขไม่ใช่เหรอ”
“อ้าว ลำบากคุณชายบุริศร์แล้ว”
ถึงแม้นรมนจะพูดเช่นนี้ แต่มุมปากนั้นยกขึ้น
มีผู้หญิงที่ไหนที่ไม่ชอบให้สามีตามใจ
เธอก็เป็นผู้หญิงธรรมดาเช่นกัน
“เล่นต่ออีกไหม”
บุริศร์ถามขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น
“ไม่เล่นแล้ว ถูกคุณอ่อนข้อให้ตลอด เล่นไปก็ไม่สนุก ตุ๋นซุปเป็ดไว้ไม่ใช่เหรอ กลับบ้าน!ทานซุปกัน!”
นรมนตอนนี้รู้สึกอ่อนเพลีย อยู่ๆก็คิดถึงซุปเป็ดขึ้นมา
บุริศร์รู้สึกว่าวินาทีนี้นรมนดูคล้ายกับกมลผู้เห็นแก่กินมาก
“อืม กลับบ้านกัน”
บุริศร์จูงมือของนรมนแล้วเดินออกมาจากสโมสร
ตอนที่ออกมานั้นบังเอิญเจออรรณพกับรมิดา
“อ้าว พี่รองกับพี่สะใภ้รองก็มาด้วยเหรอ”
“พวกคุณก็มาเล่นที่นี่ด้วยเหรอ”
นรมนเห็นมองรมิดาแวบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ารมิดาดูฝืนๆ
“ใครบางคนอยากมา ฉันเองก็จนปัญญา”
รมิดาทำให้นรมนหัวเราะขึ้น
เมื่อทั้งคู่ขึ้นรถไปแล้ว ยังสามารถมองเห็นใบหน้าที่ไม่เต็มใจของรมิดาถูกอรรณพลากตัวเข้าไป
“แปลกจริงๆทำไมพวกเขาอยู่ด้วยกัน”
บุริศร์ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ถูกบังคับให้แต่งงาน”
“อรรณพบังคับรมิดาแต่งงานเหรอ”
“ไม่ใช่ รมิดาบังคับให้อรรณพขอเธอแต่งงาน”
“อ้าวเหรอ”
นรมนประหลาดใจ แต่บุริศร์กลับไม่ได้พูดต่อไปอีก
เธอเองก็ไม่ได้ถามต่อ แล้วค่อยกลับไปถามรมิดาเอา
ในเมื่อบังคับให้อรรณพขอตัวเองแต่งงาน แล้วทำไมถึงไม่ทำตัวดีๆกับคนอื่น ทำแบบนี้มาบอกว่าเธอบังคับ ใครจะไปเชื่อ”
หลังจากที่ทั้งคู่กลับไปถึงบ้านแล้ว ป้าหวานบอกคุณท่านตนุวรได้โทรศัพท์มา บอกว่ากมลวันนี้จะค้างคืนอยู่ที่นั่น ดนัยลูกของคริชณะวันนี้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ ได้เชื้อเชิญกมลให้ไปร่วมงาน
นรมนพูดด้วยความหงุดหงิด “คุณว่าอนานภลูกสาวเราจะถูกล่อลวงด้วยของกินไหม”
“ไม่หรอก กมลแยกแยะออก”
บุริศร์ไม่รู้สึกเป็นกังวล
ป้าหวานทำอาหารเสร็จ จากนั้นยกมาเสิร์ฟให้กับบุริศร์และนรมน
นรมนทานซุปเป็ด ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าในใจมีความสุขมากแค่ไหน
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ บุริศร์ก็ได้รับข้อความ บอกว่าเนตราไตวายฉับพลัน ช่วยเหลือไม่ทัน ได้เสียชีวิตลงแล้ว
เมื่อได้ยินข่าวนี้ก็ไม่รู้สึกแปลกใจ
นรมนกลับรู้สึกหน่วงๆ
“ทำไมเหรอ ไม่อยากให้เนตราตายเหรอ”
“ไม่ใช่ แค่รู้สึกว่าชีวิตนั้นเปราะบางเกินไป ฉับพลันชีวิตก็พลิกผันดิ่งลงเหว บุริศร์คุณจะต้องราบรื่นปลอดภัยนะ”
นรมนกอดบุริศร์ไว้แน่น
กลิ่นหอมของตัวเธอลอยอบอวลแตะเข้ารูโพรงจมูกของบุริศร์ ทำให้เขาเกิดอาการร้อนรุ่ม แต่ด้วยสิ่งต่างรอบข้างไม่เป็นใจ ทำให้เขาอึดอัดทรมาน
ลูกกระเดือกของบุริศร์เคลื่อนไหวขึ้นๆลงๆ จากนั้นกดนรมนลงโซฟาแล้วบรรจงจูบเธอ
นรมนจูบกลับอย่างเร่าร้อน
ให้ตายเหอะ!
บุริศร์รู้สึกแต่เพียงว่าร่างกายนั้นเร่าร้อนเหลือเกิน จนแทบจะระเบิดแล้ว
วินาทีสำคัญ เขารีบผลักนรมนออกทันที แล้วไปห้องน้ำราวกับเป็นการหนี
นรมนชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นยิ้มขึ้นผยอง
“คุณชายบุริศร์ นี่คุณเป็นอะไรไป”
เธอถามขึ้นทั้งๆที่รู้
บุริศร์แทบจะกัดฟันตัวเองให้แหลกละเอียด
“คุณรอก่อนแล้วกัน!”
“ฉันรออยู่แล้ว คุณก็มาสิคะ บ่าวเหงาจังเลย!”
น้ำเสียงที่ยียวนยั่วเย้าของนรมนยิ่งเหมือนกระตุ้นอารมณ์ก็ไม่ปาน ทำให้ภายในใจบุริศร์คันยุกยิก
เธอจะต้องตั้งใจอย่างแน่นอน!
บุริศร์ถอนหายใจ แล้วทำการเปิดน้ำเย็น
น้ำเย็นๆราดลงสัมผัสตัว แต่กลับไม่สามารถทำให้ไฟร้อนรุ่มภายในใจเย็นลงได้
นรมนก็ไม่แกล้งเขาอีกต่อไป ไปหยิบคอมพิวเตอร์แล้วส่งวิดีโอคอลไปหาพริมา
“ทางฝั่งคุณสืบเรื่องไปถึงไหนแล้ว”
“ได้หลักฐานมาแล้ว ประมาณพรุ่งนี้เช้าสามารถเชิญผู้สื่อข่าวเปิดแถลงงานได้”
ใบหน้าพริมาที่เหนื่อยล้าจากการเดินทาง
“ทางฝั่งฝากคุณจัดการด้วยนะ ฉันคงไม่ไปแล้ว”
นรมนเชื่อมั่นในตัวพริมาเป็นอย่างมาก เพราะเป็นคนของบุริศร์
พริมาพยักหน้า ลังเลสักพักก่อนพูดขึ้น“ประธานนรมน เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ฉันได้ข้อมูลอย่างอื่นเพิ่มเติม แล้วจะส่งไปให้คุณนะคะ คุณจงระวังตัวด้วย”
“หือ”
นรมนชะงักงัน
ในหัวสมองของเขาผุดคำพูดของคมทิพย์
เธอบอกว่าทำไมถึงบังเอิญอะไรขนาดนั้น นักแสดงคนนั้นเพิ่งเซ็นสัญญากับบริษัทคุณก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว
ตอนนี้พริมาก็พูดแบบนี้ หรือว่ามีคนแอบทำร้ายเธอจริงๆ
นรมนรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นที่รังเกียจทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง
กว่าจะผ่านเรื่องราวทรมานจากตระกูลโตเล็กมาได้ ตอนนี้ต้องการทำธุรกิจเล็กๆเพื่อเลี้ยงครอบครัว กลับยังมีคนไม่ชอบเธอ
ช่างเหอะ
ทหารมาใช้ขุนพลต้าน น้ำมาใช้ดินต้านแล้วกัน
“โอเค ส่งมาแล้วกัน”
หลังจากที่นรมนวางสายวิดีโอคอลแล้ว บุริศร์ก็เดินออกมา
เขาออกมาด้วยความรีบร้อน ผมเผ้ายังไม่ทันเช็ดให้แห้ง หยดน้ำจึงได้ไหลตามปลายผมผ่านใบหน้าที่รูปงาม ไหลจากบนลงสู่ล่าง ผ่านกระดูกไหปลาร้าไปยังกล้ามเนื้อหน้าอกที่แน่นตึง
นรมนกลืนน้ำลายขึ้น
ข่มใจไว้!
จู่ๆเธออยากจะกระโจนไปหาผู้ชายคนนี้จัง ทำอย่างไรดี