แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1092
บทที่ 1092 คนที่เธอรักที่สุดคือตัวเธอเอง
ตอนนั้น เธอโดนจับไปขายที่ต่างประเทศ ทั้งคนทั้งสถานที่ล้วนแปลกหน้า แถมยังโดนจับตัวไว้ และกิมจิเป็นคนมาช่วยเธอไว้ และยังให้ความห่วงใยและความอบอุ่นกับเธอมากด้วย
เขาเป็นเพื่อนที่มากกว่าเพื่อนของเธอ
ถ้าหากไม่มีการหักหลังในตอนหลังของกิมจิ บางทีถึงตอนนี้ทั้งสองคนก็อาจจะยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกันอยู่ แต่น่าเสียดายโชคชะตาไม่ได้อยู่ในกำมือเรา จะโทษเขาก็ไม่ได้หรอก
เรณุกาเก็บเขามาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก และอบรมสั่งสอนเขา สำหรับเขาแล้ว เรณุกาเป็นทั้งครูและเป็นทั้งแม่
เขาไม่มีทางเลือก
แต่สุดท้ายกิมจิต้องกลายมาเป็นสภาพอย่างตอนนี้ก็เพราะเธอ เธอยังจะมีอะไรติดค้างอีกล่ะ? ยังจะโกรธเคืองอะไรอีก?
ระยะเวลาเพียงไม่กี่ก้าวที่เดินเข้ามานี้ หัวสมองของนรมนคิดอะไรได้มากมาย
กิมจิเห็นนรมนเดินเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งขึ้นมา
“นายหญิง ผม……”
“ขาดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
น้ำเสียงของนรมนแฝงไว้ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยเสี้ยวหนึ่ง ทำให้น้ำตาร้อน ๆ ของกิมจิเอ่ยขึ้นมาเต็มดวงตา
ถึงแม้ว่าคราวที่แล้วที่ล้อมปราบปรามเรณุกา นรมนจะเคยพูดแล้วว่าเธอได้ให้อภัยตัวเองแล้ว แต่ว่ากิมจิก็มักจะรู้สึกว่ามันไม่จริงทั้งหมด พอมาวันนี้ที่ตามมาด้วยยังกลัวว่านรมนจะเฉยชาต่อตัวเอง แต่คิดไม่ถึงเธอกลับเปิดปากพูดกับตัวเองแล้ว
“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่แล้ว”
คำพูดของกิมจิทำให้หัวคิ้วของนรมนขมวดขึ้นเล็กน้อย
“ไม่เจ็บไม่ใช่เรื่องดี เดี๋ยวกลับไปฉันจะให้คนถามอาการของนายดู ดูซิว่ายังจะสามารถรักษาให้หายได้หรือเปล่า”
นรมนพูดขึ้นเสียงต่ำ
กิมจิกัดริมฝีปากล่างเอาไว้และเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว”
“ดีอะไรดีล่ะ? ยังไม่แต่งงานเลย เป็นแบบนี้จะไปหาแฟนได้ยังไงกัน? ฉันจำได้ว่าตอนที่นายอยู่อเมริกาหล่อเหลาและเป็นอิสรเสรีแค่ไหน ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อยซะก่อน”
พอได้ยินนรมนพูดขึ้นอย่างนี้ กิมจิก็สะอื้นขึ้นมาทันที
“ครับ”
“นายหาที่สักแห่งนั่งไปก่อน ไว้ฉันจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้ว ค่อยมาคุยกันต่อ”
นรมนตบบ่าของกิมจิเล็กน้อย จากนั้นก็ถามพฤกษ์ขึ้นว่า “ธิดาอยู่ห้องไหน?”
“406ครับ”
หัวคิ้วของนรมนค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน
ทั้งสองคนขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสี่โดยตรง
หน้าประตูห้อง406ไม่มีอะไรผิดแผกไป บางทีอาจจะเพราะกลัวคนอื่นให้ความสนใจมากเกินไป ประตูห้องของธิดาวีร์จึงเป็นเหมือนห้องธรรมดาทั่วไป
โรงแรมนี้ก็ไม่ใช่โรงแรมระดับห้าดาว พูดให้ตายก็แค่สามารถถึงมาตรฐานของโรงแรมได้เท่านั้น
ชลิตา
นี่เธอยังกล้าตั้งนามแฝงให้ตัวเองจริง ๆ ด้วยนะ
นัยน์ตาของนรมนเยือกเย็นลงหลายองศา จากนั้นก็เดินไปเคาะประตู
“ใครคะ?”
ข้างในมีน้ำเสียงที่คุ้นเคยของธิดาลอยมา
ถ้าเกิดว่าเมื่อกี้นรมนยังสงสัยอยู่ว่าคนคนนี้จะใช่ธิดาหรือเปล่า งั้นวินาทีนี้ก็มั่นใจแล้วจริง ๆ
นัยน์ตาของเธอมีแววเยือกเย็นพาดผ่านเสี้ยวหนึ่ง แต่กลับพูดเสียงแหลมขึ้นว่า “พนักงานโรงแรมเองค่ะ มาส่งอาหารให้คุณค่ะ”
ตอนนี้ธิดาวีร์ยังเป็นคนท้องอยู่ และเหมือนกับว่าท้องจะพังไปแล้ว แน่นอนว่าต้องรู้สึกหิวอยู่แล้ว พอได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ก็ไม่ได้เป็นกังวลมากเท่าไหร่ แล้วก็เดินไปเปิดประตูห้องให้เลย
ตอนที่เธอเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือนรมนนั้น ธิดาวีร์ก็จะปิดประตูลงอย่างอัตโนมัติ แต่กลับโดนนรมนแตะประตูทีหนึ่งเปิดออกเลย
“เป็นอะไรเหรอ? เห็นฉันแล้วแปลกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”
นรมนยิ้มอ่อน ๆ ขึ้น แต่ว่ารอยยิ้มกลับไม่ได้มาจากใจจริง
ใจของธิดาวีร์เต้นโครมครามขึ้นมา
ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอกับนรมนเข้าแบบนี้
นรมนมาอยู่ที่นี่ได้ยัง?
นรมนรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
หัวสมองของธิดาวีร์หมุนอย่างรวดเร็ว แต่ว่ากลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“ใช่ซิ ฉันก็อยากจะถามเธอเหมือนกัน เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัง? ไหนว่านาวินอยู่เป็นเพื่อนเธอบำรุงครรภ์อยู่ที่สถานพักฟื้นไม่ใช่เหรอ? แล้วตัวนาวินล่ะ?”
นรมนพูดไปแล้วก็จะเดินเข้าไปไปค้นหา แต่กลับโดนธิดาวีร์ยื่นแขนออกมาขวางเอาไว้ทันที
“พี่สะใภ้ คุณทำแบบนี้คงจะไม่ดีมั้ง? ยังไงฉันก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวบ้างใช่ไหม?”
“ความเป็นส่วนตัว!”
นรมนเน้นย้ำคำนี้เป็นพิเศษ แล้วก็หัวเราะอย่างเยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย
“ความเป็นส่วนตัวของเธอคืออะไร? แอบติดต่อกับโสธรคนของฉันอย่างลับ ๆ งั้นเหรอ? กะว่าจะทำอะไรกันล่ะ? หรือว่าฉันเปลี่ยนวิธีถามอีกแบบหนึ่งละกัน ลูกพี่ลูกน้องกล้าณรงค์ของเธอติดต่อเธอมาแล้วใช่ไหม? เขาให้เธอกับโสธรร่วมมือกันทำอะไร? แล้วเธอก็คิดจะแก้แค้นให้แม่เธอ ด้วยการทำอะไรกับพี่ชายแท้ ๆ ของเธอล่ะ”
นรมนถามออกไปประโยคหนึ่ง แล้วก็เดินหน้าไปอีกก้าวหนึ่ง บีบคั้นจนธิดาวีร์อดไม่ได้ที่จะต้องถอยไปข้างหลัง
หัวใจของเธอบีบเป็นเกลียวอย่างแรงขึ้นมา
นรมนรู้ได้ยังไงกัน?
“คุณส่งคนมาสะกดรอยตามฉันเหรอ? หรือจะบอกว่าคุณคอยจับตาดูฉันอยู่ตลอด? นรมน ฉันเป็นน้องสาวของบุริศร์นะ คุณกล้าเฝ้าจับตาดูฉันเลยเหรอ!”
ธิดาวีร์ร้องตะโกนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
แต่นรมนกลับยิ้มแล้วจ้องมองเธอและพูดขึ้นว่า “เฝ้าจับตาดูเธองั้นเหรอ? ถ้าเธอมีการกระทำที่ซื่อตรง ใครจะไปเฝ้าจับตาดูเธอ? ธิดาวีร์ เธอไม่รู้สึกว่าตัวเธอน่าขำมากเลยเหรอ?”
“ฉันนี่นะน่าขำ? ฉันจะไปน่าขำได้ยังไง? ทั้ง ๆ ที่เขาก็รู้ว่าชีวิตนี้ฉันต้องการอะไรมากที่สุด? แต่เพราะอะไรทำไมยังต้องทำกับแม่ฉันแบบนี้ด้วย? ทำไม? คุณรู้ไหมว่าแม่ฉันตายยังไง? เธอโดนคนเชือดเฉือนทีละครั้งทีละครั้งจนตาย! คุณรู้หรือเปล่า?”
อยู่ ๆ ธิดาวีร์ก็ควบคุมตัวไม่อยู่ขึ้นมา
การปรากฏตัวมาของนรมนเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายมาก และก็ยังดูบีบบังคับคนมากขนาดนี้
หลายวันมานี้ธิดาวีร์ลังเลอยู่ตลอด พอมาวันนี้เห็นนรมนที่มีท่าทางเหมือนสงสัยในตัวเอง เธอก็ระเบิดออกมาทันที
“ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่อยากคิดว่าพวกคุณเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ แต่ว่าพวกคุณทำอะไรกับแม่ฉันบ้างล่ะ? ห๋า?”
“ในขณะที่เธอถามฉันนั้น ทำไมถึงไม่ถามแม่ของเธอบ้างล่ะว่าทำอะไรไปบ้าง?”
นรมนจ้องมองธิดาวีร์ ดวงตาเยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย
“เธอเอาแต่โทษพี่ของของเธอและฉันมาตลอด แต่กลับหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงการกระทำของแม่เธอ ยังไงล่ะ? แม่ของเธอมีคุณธรรมสูงส่งมากงั้นเหรอ? เป็นผู้บริสุทธิ์งั้นเหรอ? แล้วแม่คิมของฉันโดนจุดไฟที่เดียวเผาไม่เหลือซากตอนที่อยู่บนเกาะ เรื่องนี้แม่ของเธอก็เป็นคนทำ แต่ฉันเคยถามไถ่บ้างไหม? ฉันเคยแก้แค้นบ้างไหม? ก็เพราะว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของบุริศร์ไง เพราะว่าเธอต้องการความรักของแม่มาตั้งแต่เด็กไง ฉันก็เลยต้องข่มความคิดถึงที่มีต่อแม่ของฉันเอาไว้ ต้องข่มความโกรธเกลียดทั้งหมดที่มีต่อแม่เธอเอาไว้ แล้วให้โอกาสเธอได้อยู่กับแม่ครั้งหนึ่ง เพราะว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของบุริศร์! ถ้าเธอไม่มีความสุข บุริศร์ก็จะไม่มีความสุข พ่อแม่ของฉันต่างก็ตายไปหมดแล้ว ตอนแรกฉันคิดว่าครอบครัวสงบสุขก็เป็นเรื่องที่สุขที่สุดแล้ว ฉันก็เลยไม่เอะอะโวยวายเอาแต่จะแก้แค้น หนำซ้ำฉันยังคิดกับเธอว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันจริง ๆ แต่ว่าแม่ของเธอทำอะไรลงไปบ้างล่ะ?”
น้ำเสียงที่ตะคอกต่ำ ๆ ของนรมนทำให้ธิดาวีร์อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นทีหนึ่ง
เธอกัดริมฝีปากล่างเอาไว้และไม่พูดอะไร แต่นรมนกลับอดกลั้นไว้ในใจไม่อยู่
“ฉันเคยให้โอกาสกับแม่ของเธอแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าแม่ของเธอจะยังไม่พอใจ สิ่งที่แม่ของเธอต้องการไม่ใช่ได้อยู่กับเธอ แต่เป็นตระกูลโตเล็กทั้งตระกูล และยังมีชีวิตของฉันกับบุริศร์ด้วย จะต้องให้ฉันกับบุริศร์เอาชีวิตไปมอบไว้ในมือแม่ของเธออย่างงั้นใช่ไหม สำหรับเธอพวกเราถึงจะเป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ดี? ต้องให้พวกเราตายไป แล้วให้แม่ของเธอทำสำเร็จ ให้กล้าณรงค์มายึดตระกูลโตเล็กไป และทุกอย่างเปลี่ยนไปนับตั้งแต่นี้ พวกเราถึงจะถือเป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ได้มาตรฐานใช่ไหม?”
นรมนตะคอกเสียงต่ำออกไป นัยน์ตามีแววโกรธเกลียดโชกโชนขึ้น
ธิดาวีร์นั่งลงบนเตียงทันที แล้วพูดอย่างเจ็บปวดอยู่บ้างว่า “ไม่ใช่นะ ไม่ใช่แบบนั้นนะ! แม่ฉันเธอดีกับฉันมาก แล้วก็ดีกับพี่มากด้วย เธอไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูดนะ!”
“นี่เธอกำลังหลอกฉันอยู่หรือว่าหลอกตัวเอง? ธิดาวีร์ แม้แต่หลอกตัวเองเธอก็คงจะหลอกผ่านหรอกมั้ง เรื่องที่แพรวาวางยาพิษให้นาวิน เธออย่างบอกฉันนะว่าเธอไม่รู้เรื่อง! แม้แต่คนที่เธอรักมากที่สุดแม่ของเธอก็ยังไม่สนใจ เธอรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่แม่คนหนึ่งควรกระทำเหรอ?”
ธิดาวีร์ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากไว้แน่น
“ไม่ว่าจะพูดยังไง พวกคุณก็ไม่ควรที่จะทำกับเธอแบบนั้น!”
“โง่เขลายิ่งนัก”
นรมนขี้เกียจที่จะต่อความยาวสาวความยืดกับเธอแล้ว
ตอนนี้สิ่งที่ธิดาวีร์ให้ความสำคัญที่สุดก็คือรู้สึกว่าการตายของแพรวานั้นเป็นเพราะเธอกับบุริศร์ทำให้เกิดขึ้น พูดอะไรมากไปก็ไม่มีประโยชน์
พอคิดมาถึงตรงนี้ แววตาที่นรมนใช้มองธิดาวีร์ก็เยือกเย็นลงมาเล็กน้อย
“ธิดา เธอขาดความอบอุ่นจากครอบครัวมาตั้งแต่เด็กทั้งฉันและพี่ชายของเธอต่างก็เข้าใจ และเพื่อให้เธอได้สมปรารถนา ฉันกับพี่ชายของเธอต้องเสียสละมากแค่ไหนก็ไม่เป็นไร แต่ว่าก่อนอื่นเธอก็ต้องคุ้มค่าพอที่จะให้พวกเราเสียสละด้วย แต่เธอกลับไม่ใช่แค่หักหลังพี่ชายครั้งเดียวแล้วละมั้ง? ก่อนหน้าครั้งนี้ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งไม่ใช่เหรอ? แต่พี่ชายเธอก็ยังให้อภัยเธอ และยังคิดกับเธอว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันจากใจจริงด้วย แต่ว่าเธอได้ทำอะไรลงไป? เพื่อแม่ที่คิดวางแผนจัดการพี่ชายเธอทุกวิถีทางคนหนึ่งแล้ว แต่เธอกลับกล้าท้าทายมาเป็นศัตรูซึ่ง ๆ หน้ากับพี่ชายเธอ แล้วนี่เธอคิดจะร่วมมือกับกล้าณรงค์มาฆ่าพี่ชายเธอเพื่อแก้แค้นให้แม่เธองั้นเหรอ? หรือจะบอกว่ารวมทั้งฉัน ทั้งลูก ๆ ของฉัน ซึ่งเป็นหลานชายของเธอก็จะต้องโดนฆ่าทิ้งให้หมดด้วยงั้นเหรอ?”
“ไม่! ฉันไม่ได้คิดแบบนี้! ฉันไม่ได้คิด!”
“เธอคิด”
สีหน้าของนรมนเยือกเย็นลงมา
“ตั้งแต่วินาทีที่เธอยอมรับข้อเสนอของกล้าณรงค์ และร่วมมือกับเขา แล้วก็ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพี่ชายของเธอ เธอก็ได้คิดแบบนี้แล้ว อย่ามาปฏิเสธเลย ธิดาวีร์ ที่จริงเธอเป็นคนที่เห็นกว่าตัวมากกว่าใคร เธอคิดถึงแต่เพียงความรู้สึกของตัวเอง ความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเอง และรู้สึกว่าคนทั้งโลกต่างก็ควรจะคิดถึงความรู้สึกของเธอ ควรจะล้อมหน้าล้อมหลังเธอไว้ ฉันอดไม่ได้ที่อยากจะถามเธอสักประโยคจริง ๆ ว่า เธอเป็นเงินตราเหรอ? มีสิทธิ์อะไรให้ผู้คนมาห้อมล้อมเธอไว้? แล้วเธอเคยทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้างล่ะ? เธอพูดว่าเธอรักนาวิน แล้วตอนที่แพรวาวางยาพิษใส่นาวิน เธอเคยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนาวินบ้างไหม? หรือจะบอกว่าเธอรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว?”
“ฉันไม่รู้! ฉันเปล่า!”
ธิดาร้องตะโกนเสียงแหลมขึ้นมาทันที
“นาวินเป็นคนรักของฉัน เพื่อเขาแล้วฉันสามารถเสียสละได้ทุกอย่าง!”
“แต่ว่าเธอกลับไม่ได้ปล่อยวางความดื้อดึงเกี่ยวกับการตายของแม่เธอเพื่อนาวิน! เธอต้องการที่จะแก้แค้นให้แม่ของเธอ และยังทิ้งนาวินไปอย่างไร้เยื่อใย แล้วตอนนี้จะมาพูดอะไรว่าคนที่เธอรักที่สุดคือเขา? ธิดาวีร์ ยอมรับมาซะเถอะ ว่าคนที่เธอรักที่สุดคือตัวเธอเอง ตอนนั้นที่เธอหักหลังบุริศร์เพื่อนาวิน ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพราะว่าตั้งแต่เล็กจนโตคนที่เธอพึ่งพาก็คือนาวิน ถ้านาวินตายไป เธอก็ไม่รู้ว่าจะตัวเองจะไปพึ่งพาใครได้ ต่อมาพอนาวินกลับมาแล้ว และได้รับการให้อภัยจากบุริศร์ แล้วเธอก็รู้สถานะที่แท้จริงของนาวินอีก เพราะว่าบุริศร์ติดค้างตระกูลนาคชำนานอยู่ เพราะฉะนั้นเธอก็เลยยอมแต่งงานกับนาวินอย่างไม่เกี่ยงงอน เพราะแบบนี้ เธอจะสามารถได้รับมากผลประโยชน์ยิ่งขึ้น และยังสามารถได้รับการปกป้องจากบุริศร์อีกด้วย”
นรมนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่งแล้วก็พูดต่อว่า “แล้วพอต่อมาเธอได้รู้ความจริงว่าตัวเองเป็นลูกสาวของเชษฐ์ เธอก็ยิ่งดีใจ ในเมื่อสามารถที่จะเป็นพี่น้องกับบุริศร์ได้ เพราะสำหรับเธอแล้วมันสามารถเป็นร่มที่คอยปกป้องเธอได้ตลอดชีวิต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการปรากฏตัวมาของแพรวา ตอนนั้นเธอจะต้องคิดว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกแน่ ๆ และดีใจที่ตัวเองเลือกนาวินมาตลอด แต่ว่าตอนที่แม่เธอกับนาวินเกิดความขัดแย้งกันขึ้นนั้น เธอกลับทอดทิ้งนาวินไปเพื่อที่จะแก้แค้นให้แม่ที่โหดเหี้ยมที่ตายไปแล้วของเธอ ถ้าพูดชัดเลย เธอก็แค่อยากจะร่วมมือกับกล้าณรงค์ เพื่อแย่งทุกอย่างของตระกูลโตเล็กกลับไปจากมือของบุริศร์เท่านั้น และยังอยากจะเหยียบบุริศร์ไว้ใต้ฝ่าเท้าด้วยอีกละมั้ง ในเมื่อระหว่างการมีคนหนุนหลังกับการกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เองสองตัวเลือกนี้ เธอยอมที่จะเลือกอย่างหลัง เพราะว่าเธอมีกล้าณรงค์เป็นเกราะกำบังให้เธออยู่! เพราะว่าแพรวาได้ปูทางให้เธอไว้เรียบร้อยแล้ว?!”
“ไม่! ไม่ใช่นะ!”
ธิดาวีร์อยากจะโต้เถียง แต่น่าเสียดายกลับเถียงไม่ออกสักคำ
นรมนเป็นเหมือนกับกระจกบานหนึ่ง ได้ส่องด้านสกปรกที่อยู่ก้นบึ้งหัวใจของเธอออกมา ที่ดูชั่วร้ายดูไม่ได้ขนาดนั้น และแผ่ซ่านความเน่าเหม็นออกมา ที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังรู้สึกสะอิดสะเอียน