แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1120
บุริศร์คิดไม่ออก และไม่เข้าใจ
แต่ในเมื่อป้องไม่ต้องการให้เขาอยู่ เขาจึงทำได้เพียงออกจากห้องนอนไปสูดอากาศ
เห็นบุริศร์ออกไป สีหน้าของป้องเคร่งขรึม
“จากผลการตรวจเลือด เธอมีเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงสูงมาก เหมือนจะเป็นหวัดแต่ก็ไม่ใช่ ผมไม่สงสัยความชำนาญในการรักษาของรมิดา ในเมื่อรมิดาตรวจว่าเป็นการอักเสบติดเชื้อ แล้วเพราะอะไรการอักเสบจึงไม่ลดลง?”
รมิดากล่าวอย่างไม่สบายใจ “ยาทั้งหมดที่ฉันใช้ไปคือยาลดการอักเสบ แต่ไม่ได้ผลเลย”
หลังจากโพนี่ตรวจทั้งร่างกายของนรมนจึงกล่าวเสียงเบาว่า “นรมนมีอาการอักเสบติดเชื้อ แต่กลับรุนแรงมาก ลักษณะแบบนี้ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่ใช่อาการอักเสบติดเชื้อจากภายในของผู้หญิง”
“คุณมีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง?”
ป้องรู้ว่าภรรยาของตนเองทำวิจัยทางด้านนี้ จึงรีบถาม
หัวคิ้วของโพนี่ขมวดแน่น
“ฉันสงสัยว่านี่ไม่ใช่การอักเสบติดเชื้อที่เกิดขึ้นจากภายในร่างกายของนรมน”
“เธอหมายถึงปัจจัยภายนอกเหรอ?”
รมิดามีปฏิกิริยาตอบสนองทันที
“แต่ฉันถามพี่รอง แล้ว นรมนไม่เคยออกไปไหนคนเดียว เพียงแต่คุณท่านตนุวรเป็นลมไป เธอจึงไปโรงพยาบาลแค่นั้นเอง หรือจะติดเชื้อจากระบบทางเดินหายใจ?ตอนนี้ภูมิต้านทานของเธอต่ำ และแบบนี้อาจจะไม่มี”
โพนี่ส่ายหัวให้กับคำพูดของรมิดา
“ไม่เหมือนกับการติดเชื้อจากระบบทางเดินหายใจ พวกเราตรวจทั้งร่างกายของเธออีกรอบ ดูว่ามีตรงไหนได้รับบาดเจ็บภายนอกไหม”
โพนี่พูดออกมา ป้องก็รู้ว่าตนเองควรจะออกไปข้างนอก
เขามองโพนี่อย่างเป็นห่วง “ถ้าคุณเหนื่อยก็พักสักหน่อย เพียงแต่พยายามหาเหตุผลให้เจอ ไม่อยากนั้นผมกลัวว่าพี่รองคงจะอยู่ต่อไปไม่ไหว”
โพนี่และรมิดาต่างเข้าใจคำพูดของป้อง ทั้งสองคนพยักหน้า
มองเห็นป้องออกไปจากห้อง โพนี่กล่าว “ถอดเสื้อของนรมนออก ฉันจะตรวจท่อนบน ส่วนเธอตรวจท่อนลง”
“ได้”
รมิดารู้สึกกังวลอยู่ตลอด
นรมนเป็นไข้มานานขนาดนี้ ถ้าหาเหตุผลไม่เจอ ลดไข้ลงมาไม่ได้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้นรมนเป็นไข้จนสมองเสื่อม
โพนี่กับรมิดาแบ่งงานกันชัดเจน โพนี่พบจุดสีแดงขนาดเท่าเข็มบริเวณหลังมือของนรมน
“รมิดา เธอรีบมาดูเร็ว นี่คืออะไร?”
รมิดารีบก้าวขึ้นมา คิ้วขมวดแน่น
“เกิดจากปัจจัยภายนอกจริง ๆ ด้วย”
ถึงแม้จะหาปัจจัยภายนอกเจอ แต่พวกเธอไม่รู้ว่าปัจจัยภายนอกที่นรมนได้รับมาเป็นอะไร ตอนนี้ทำได้เพียงเจาะเลือดของนรมนไปตรวจอย่างละเอียด แต่การตรวจนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ประมาณสี่ถึงห้าชั่วโมง ซึ่งตอนนี้ใครก็ไม่กล้ารับรองว่านรมนจะเป็นอย่างไร
รมิดากับโพนี่ตึงเครียดทันที
“ทำไงดี ควรบอกพี่รองไหม?”
โพนี่อยากจะร้องไห้ด้วยความทุกข์ใจ
ระหว่างนรมนกับบุริศร์ต้องเจอกับอะไรมาเยอะเกินไป ตอนนี้ยังต้องมาแบกรับสิ่งนี้อีก พวกเขาจะทนได้อย่างไร?
รมิดาก็อึดอัดใจเช่นกัน แต่กลับพูดอย่างแน่วแน่ “ต้องบอกพี่รอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่รองอยู่กับนรมนตลอด พวกเขาสัมผัสกับใครมา ใครน่าสงสัยพี่รองรู้ดีที่สุด พวกเรามาเตรียมตัวกันเถอะ พี่สะใภ้สามเธอตรวจสอบส่วนประกอบเลือดของนรมนไป ส่วนฉันกับพี่รองจะไปตามหาปัจจัยภายนอก ไม่ว่าใครจะหาผลลัพธ์ได้ก่อน นั่นคือวิธีการเดียวในเวลานี้”
โพนี่ก็ยอมรับว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด แต่รู้สึกกลัดกลุ้มใจ อยากร้องไห้
ทั้งสองคนลงมืออย่างรวดเร็ว
หลังจากรมิดาออกมาก็รีบไปหาบุริศร์ เล่าผลการตรวจให้เขาฟัง
ทั่วทั้งตัวของบุริศร์เยือกเย็นขึ้นมาทันที
“คุณพูดอะไรนะ? คุณบอกว่ามีคนแอบทำร้ายนรมน เธอจึงเป็นแบบนี้?”
“ใช่”
คำพูดของรมิดาทำให้แววตาบุริศร์ปรากฏความดุร้ายอย่างไม่อาจควบคุมได้
“ตุลยา”
ถ้าบอกว่าใครเป็นผู้ตกสงสัยที่สุด นอกจากตุลยาแล้วจะมีใครอีก?
ตอนอยู่ในโรงพยาบาล ตุลยายั่วยุนรมน นรมนดึงคอเสื้อของเธอ ทั้งสองคนยื้อกันไปมาสักพัก ดูจากระดับความจงเกลียดจงชังของตุลาที่มีต่อนรมน ต้องเป็นตุลยาแน่นอนไม่ต้องสงสัย
มิน่าล่ะนรมนจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติมาตลอด
การเป็นลมของคุณท่านตนุวรเป็นแค่เพียงชนวน ล่อให้นรมนเข้าไป ตุลยาจะได้มีโอกาสทำร้ายนรมนในระยะประชิด
คิดถึงตรงนี้ บุริศร์หันตัวทันที พูดด้วยความโกรธ “ผมจะไปจับตัวเธอมาเอง กานต์ แกเฝ้าหม่ามี้นะ มีเรื่องอะไรให้โทรมา”
“ครับ”
ดวงตาคู่สวยของกานต์ก็มืดมนลงเช่นกัน
เป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะฆ่าคนทำ
นรมนไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอรู้สึกเหมือนถูกทอดอยู่ในกระทะ เจ็บปวดทรมานทุกวินาที
เธอคิดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงตะโกนเรียกชื่อบุริศร์ไม่หยุด หมดหนทางและสิ้นหวัง
โพนี่ไปทำการตรวจสอบ ส่วนรมิดากับบุริศร์ไปหาตุลยา ป้องทำได้เพียงให้น้ำเกลือนรมนอีกถุง
ถึงแม้จะไม่มีผลอะไร แต่อุณหภูมิร่างกายยังคงรักษาระดับอยู่ที่สี่สิบองศาไม่เพิ่มขึ้น เขาทำได้เพียงภาวนาให้น้ำเกลือยังพอควบคุมผลของยาได้
เมื่อบุริศร์กับรมิดาไปถึงตระกูลพรโสภณ คุณท่านตนุวรกำลังให้ปาณีเข็นมาเดินเล่นที่ห้องรับแขก
“นี่มันอะไรกัน?”
คุณท่านตนุวรมองเห็นบุริศร์มีท่าทางโกรธ จึงอดถามไม่ได้
ถึงแม้บุริศร์จะโกรธมาก แต่ยังคงปฏิบัติต่อคุณท่านตนุวรด้วยความเคารพ
เขาระงับความเกลียดชังของตนเอง “คุณตา ตุลยาล่ะครับ?”
“อยู่ในห้อง เธอจะหาหล่อนทำไม?”
“ผมมาหาเธอเพราะมีเรื่องนิดหน่อย”
บุริศร์ไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร
ตอนนี้ร่างกายของคุณท่านตนุวรไม่แข็งแรง ถ้ารู้ว่าตอนนี้นรมนอยู่ในระหว่างความเป็นความตายอีก ไม่รู้ว่าจะเป็นห่วงขนาดไหน
แต่วันนี้จำเป็นต้องพาตัวตุลยาไป
“คุณตา ผมต้องการพาตัวตุลยาไป ตอนนี้เลย”
น้อยมากที่บุริศร์จะพูดกับคุณท่านตนุวรอย่างแข็งกร้าว
คุณท่านตนุวรรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร วันนี้บุริศร์ต้องการพาตัวตุลยาไปอย่างไม่ยอมแพ้เช่นนี้ หัวใจของคุณท่านตนุวรกระตุกอย่างห้ามไม่ได้
“โตษิน ไปเรียกตุลยามา”
ถึงแม้คุณท่านตนุวรจะงงงวย แต่เขาก็ไม่ถามเยอะ สั่งให้โตษินไปพาตุลยามาทันที
ณ จุดนี้บุริศร์ถอนหายใจโล่งอก
เขากลัวว่าคุณท่านตนุวรจะไม่ยินยอม ถึงตอนนั้นตนเองคงต้องโกรธกับเขา
โตษินได้ยินคุณท่านตนุวรพูดแบบนี้ จึงไปที่ห้องของตุลยาทันที
เมื่อตุลยาถูกโตษินหิ้วออกมา เธอยิ้มอย่างใจเหี้ยม
“นรมนตายหรือยัง?”
ทันทีที่เธอพูดออกมา บุริศร์ต่อยเข้าไปทันที
บุริศร์ทำร้ายผู้หญิงน้อยมาก แต่ตุลยาเป็นกรณีพิเศษ
ถ้าสามารถจัดการตุลยาได้เร็วกว่านี้ บางทีคงจะไม่เกิดเรื่องขึ้นกับนรมน
ไม่มีใครคิดว่าตุลยาคนที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามจะสามารถทำร้ายนรมนอย่างไม่คาดฝัน
เป็นพวกเขาเองที่ประมาท!
หมัดเดียวของบุริศร์ทำให้ตุลยาเลือดกบปาก เธอเหมือนกับตุ๊กตาเศษผ้าที่จะโบยบินออกไป
คุณท่านตนุวรหน้าเปลี่ยนสีทันที
“เกิดอะไรขึ้นกับนรมน?”
“คุณตา เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง ผมขอพาผู้หญิงคนนี้ไปก่อน เธอจะอยู่หรือตายคุณตาไม่ต้องสนใจ”
ความเกลียดชังเต็มไปทั่วร่างกายของบุริศร์ เหมือนผู้ส่งสารจากนรก
ตุลยารู้สึกว่าคางจะหลุด ในปากมีกลิ่นสนิม
เธอถุยเลือดออกมา พูดด้วยรอยยิ้มบ้าคลั่ง “นรมนใกล้ตายแล้วใช่ไหม?นานขนาดนี้แล้ว มันควรจะตายได้แล้ว! บุริศร์ ฉันชนะแล้ว!”
บุริศร์ก้าวขึ้นมา ถีบไปที่หน้าอกของเธอ มือขวากระชากผมยาว บังคับให้เธอต้องปะทะกับใบหน้าดุร้ายของเขา
เขากล่าว “ถ้านรมนตายขึ้นมาจริง ๆ ฉันจะหั่นแกเป็นชิ้น ๆ”
“ฉันไม่สน ฉันตายแล้วก็สามารถลากมันไปด้วยกันได้ ฉันยังคงได้กำไร พวกแกไม่ชอบฉันไม่ใช่เหรอ? ต่างก็ชอบนรมนผู้หญิงคนนั้นกันหมดใช่ไหม? ฉันจะต้องให้มันตายไปกับฉันด้วย!เจ็บใจใช่ไหม?ทรมานใช่ไหม? ฮา ๆ ๆ ฉันมีความสุขจังเลย เพียงแค่นรมนตาย ฉันก็มีความสุข”
ตุลยาหัวเราะเสียงดังเหมือนคนบ้า แต่หัวเราะได้ไม่นานก็ถูกบุริศร์บีบคอ
เธอหายใจไม่ออกทันที จนแม้แต่รู้สึกหวาดกลัว
ในเวลานี้ ในที่สุดเธอก็รู้ตัวว่าบุริศร์ต้องการฆ่าเธอจริง ๆ
แววตาของตุลยาหวาดกลัว
เธอพยายามดิ้น กลับดิ้นไม่หลุด รู้สึกแค่เพียงพลังชีวิตในร่างกายถูกคนสูบออกไปเล็กน้อย
คุณท่านตนุวรคิ้วขมวดแน่น
เขาเคยอย่างคิดไร้เดียงสาว่าตุลยาจะดีขึ้น จนถึงตอนนี้เขาถึงรู้ตัวว่าไร้เหตุผลขนาดไหน
การเป็นลมของตนเองไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!
นี่เป็นเรื่องเดียวที่เขาคิดได้ในเวลานี้
ตุลยาไม่มีโอกาสเข้าใกล้นรมน โอกาสเดียวคือช่วงเวลาในโรงพยาบาลหลังจากตนเองเป็นลม
ถ้าตุลยาลงมือกับนรมน ช่วงเวลานั้นคือโอกาสที่ดีที่สุด
ส่วนเขา ในฐานะคุณตาของนรมน คุณตาที่รักนรมนสุดหัวใจ คิดไม่ถึงว่าช่วยตุลยาทำแผนการชั่วร้ายอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อเข้าใจแบบนี้ทำให้หน้าอกของคุณท่านตนุวรปั่นปวน รสชาติของเลือดพุ่งขึ้นมาที่ลำคอทันที
“คุณท่าน”
โตษินสังเกตเห็นสีหน้าคุณท่านตนุวรผิดปกติ จึงรีบเข้ามา
ปาณีสัมผัสบริเวณตับอ่อนของคุณท่านตนุวรเป็นอย่างแรก จากนั้นกระซิบว่า “พี่โตษิณ ไปเอาสมุนไพรมา เร็ว”
“ได้”
ปาณีเป็นคนของนรมน แน่นอนว่าโตษิณเชื่อใจ
บุริศร์มองเห็นคุณท่านตนุวรเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกผิดไม่น้อย แต่เพื่อนรมน เขาจึงไม่อาจสนใจได้
“คุณตา ตอนนี้นรมนยังไข้สูงไม่ลด ถ้าคุณเป็นอะไรไปอีกคน ถึงแม้นรมนจะฟื้นขึ้นมาก็จะโทษตัวเอง ดังนั้นได้โปรดดูแลตัวเองเพื่อนรมนด้วยครับ”
เสียงของบุริศร์แหบแห้ง
คุณตาพยักหน้า กลืนกลิ่นคาวเลือดลงไป
ตุลยากลอกตามองบน
รมิดารีบพูด “พี่รอง อย่าฆ่าเธอนะ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องถามว่าเธอใช้อะไรกับนรมน เพียงแค่ตามหาสิ่งนั้นพวกเราก็จะสามารถถอนพิษได้”
ใช่แล้ว
ในตอนนี้ รมิดาแน่ใจว่านรมนถูกวางยา
บุริศร์อยากจะหั่นตุลยาให้เป็นชิ้น ๆ แต่รมิดาก็พูดถูกต้อง เพื่อนรมน เขาไม่สามารถฆ่าเธอได้
เขาโยนตุลยาไปด้านข้างอย่างโหดเหี้ยม
ตุลยาหายใจเฮือกใหญ่ เหมือนกับปลาที่ขาดน้ำ แต่แววตาของเธอกลับยังคงบ้าคลั่งและดุร้าย
“พวกแกอย่าคิดว่าจะได้รู้ว่านรมนถูกฉันวางยาอะไร!ชาตินี้อย่าคิดว่าจะได้รู้!”