แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1122
“เป็นอย่างไรครับ?”
นภดลรออยู่ที่นี่ตลอด อยากจะรู้ผลลัพธ์ ครั้งที่แล้วเป็นเพราะเลือดของเขาที่ช่วยนรมนไม่ใช่หรือ? ครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับเลือดของเขาด้วยไหม?
รมิดาและโพนี่ส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง
“ไม่ใช่”
“ถ้าอย่างนั้นพิษของคุณนายนั่น… …”
นภดลตกตะลึงและกังวลในคราวเดียวกัน
ใบหน้าของทุกคนหม่นแสงลง
ไม่พบเจอว่าสารพิษคืออะไร แต่ตอนนี้สารพิษนั้นหายไปโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้พวกเธอที่เรียนแพทย์มา
กานต์ไม่ได้พูดอะไร แต่ดวงตาหงส์ที่สวยงามของเขาหรี่ลง
เขาออกไป ก่อนจะโทรวิดีโอหากิจจา
พวกกิจจาได้ถูกจัดให้มาอยู่ข้างกายอรรณพ และตอนนี้กมลก็ได้หลับลงไปแล้ว
เขาเห็นวิดีโอของกานต์โทรมา ก่อนจะกดปุ่มรับสายอย่างเร็ว
“หม่ามี้เป็นยังไงบ้าง?”
ตั้งแต่กานต์ถามตัวเองว่าจะลงโทษใครโดยไม่ตายได้บ้าง กิจจาก็รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับนรมน แต่เขาไม่สามารถกลับไป โดยทิ้งกมลไว้ได้ เขากลัวกมลจะกลัวการอยู่คนเดียวที่นี่ และจะยิ่งกลัวเมื่อกมลพบเจออันตรายเมื่ออยู่คนเดียว
ตอนนี้หม่ามี้ป่วย และแด๊ดดี้คงกังวลมาก กานต์ยังอยู่ข้างกายพวกเขา ไม่น่าจะมีเรื่องอะไร แต่กมลอยู่คนเดียว เขาไม่สบายใจ
เมื่อเห็นท่าทางกังวลใจของกิจจา ทันใดเขาก็ถามว่า “นายอ่านหนังสือแพทย์มามาก นายรู้บ้างไหม ว่าพิษอะไรจะกำจัดหายไปด้วยตัวเองอย่างลึกลับบ้าง?”
กิจจานิ่งไปครู่หนึ่ง คิ้วขมวดแน่น
“พิษบนโลกนี้ไม่สามารถกำจัดหายไปด้วยตัวเองได้ แค่จะละลายเข้าไปในเลือดและเกาะที่ไขกระดูกเท่านั้น”
เมื่อได้ยินสิ่งที่กิจจาพูด กานต์ก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที
“แต่ก่อนหน้านี้ไข้ของหม่ามี้สูงไม่หยุด ทุกคนต่างก็หาวิธี แต่ไม่คิดว่าหม่ามี้จะไข้ลดด้วยตัวเอง ไม่เพียงแค่นั้น ทั้งคุณน้าโพนี่และคุณน้ารมิดาก็ตรวจไม่พบปัญหาอะไรในเลือดเลย”
กานต์พูดช้าๆ สีหน้าของกิจจาหม่นลงทันที
“ฉันจะไปหาหนังสือแพทย์”
แต่ก่อนกิจจาคิดว่าเขาได้อ่านหนังสือทางการแพทย์มาเพียงพอแล้ว แต่ในตอนนี้เขาพบว่าเขายังคงไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้ได้
“ตรวจดูหนังสือโบราณนั่นสิ”
คำพูดของกานต์ ทำให้กิจจานิ่งไปนิด
หนังสือโบราณที่หมู่บ้านดารายนนำกลับมามอบให้ป้องศึกษาวิจัย เพื่อรักษาอาการโรคเส้นประสาทของบุริศร์ แต่ก่อนที่จะส่งหนังสือออกไป กานต์ได้ทำสำเนาไว้และมอบไว้ให้กิจจา
กิจจาก็อยากศึกษาหนังสือโบราณนั่น แต่เขาไม่รู้จักตัวหนังสือบางตัวในนั้น
หนังสือโบราณเล่มนี้เป็นหนังสือโบราณจริงๆ กิจจายังคงเป็นเด็ก ตัวหนังสือบนนั้นสำหรับเขาเป็นเหมือนความเรียงที่อ่านยากและยากที่จะเข้าใจ
ดังนั้นกิจจาจึงได้ศึกษาตัวอักษรนี้ตลอดมา เมื่อตอนนี้ได้ยินกานต์พูดเช่นนี้ เขาจึงพูดอย่างเศร้าใจว่า “ขอโทษนะกานต์ ตัวอักษรบนหนังสือนั่น ฉันไม่ค่อยเข้าใจ ฉันนี่ไม่มีประโยชน์เลย”
ในขณะนี้ กิจจาช่วยอะไรไม่ได้และรู้สึกเศร้ามาก
เมื่อตอนที่หม่ามี้ต้องการตัวเองมากที่สุด เสียงซุบซิบจากโลกภายนอกบอกว่า เขาเป็นเด็กอัจฉริยะในวงการแพทย์ แต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรเลย
กานต์ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างนี้ ก่อนจะนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นจึงพูดว่า “นายถ่ายรูปหนังสือโบราณส่งมาให้ฉัน ฉันจะดูว่าจะสามารถใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อแปลงตัวอักษรได้ไหม”
“โอเค”
ดวงตาของกิจจาเป็นประกายขึ้นมาทันที
เขาลืมไปว่ากานต์เป็นแฮ็กเกอร์
แฮ็กเกอร์น่าจะแปลงตัวอักษรได้ใช่ไหม?
กานต์ไม่รู้ แต่เขาอยากจะลองดู
หนังสือโบราณเล่มนั่นถูกกิจจาพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ตอนนี้กานต์ต้องการมัน ดังนั้นเขาจึงหยิบมันออกมา ก่อนจะใช้มือถือถ่ายสองสามรูปและส่งให้กานต์
เมื่อกานต์ถือโทรศัพท์เดินผ่านห้องนอนของนรมน เขาอดไม่ได้ที่จะหยุดมอง
ประตูปิดสนิท แต่ดูเหมือนเขาจะได้ยินเสียงคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด
หัวใจของกานต์กระตุก เขารีบเปิดประตูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเห็นบุริศร์นั่งยองอยู่บนพื้นอย่างรวดร้าว สองมือจับหัว หยาดเหงื่อเม็ดโตไหลออกมาจากหน้าผากของเขา ก่อนจะหยดลงบนพื้น
เพราะกลัวที่จะกระทบต่อนรมน เขายังคงดันทุรังแบกเอาไว้
“คุณบุริศร์!”
กานต์รีบเดินไปข้างหน้า “ผมจะโทรหาอาป้อง”
เขาพูดพลางลุกขึ้น แต่กลับถูกบุริศร์จับเอาไว้
“ไม่ต้องหรอก อย่างรบกวนหม่ามี้พักผ่อน”
บุริศร์พูดออกมาทีละคำอย่างทนฝืนต่อความเจ็บปวด
นานแล้วที่อาการปวดเส้นประสาทของเขาไม่กำเริบ จนเกือบจะทำให้เขาลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นโรคนี้อยู่ ตอนนี้กลับปวดอย่างมาก จนทำให้เขาทนไม่ไหว
ดวงตาของกานต์เป็นสีแดงเล็กน้อย
“คุณบุริศร์… …”
เสียงของเขาสะอึกสะอื้น แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองตอนนี้ต้องทำอะไร
กานต์ยื่นมือเล็กๆ ของตัวเองออกมา ก่อนจะโอบกอดศีรษะของบุริศร์แน่น ก่อนจะพูดเสียงต่ำ “คุณบุริศร์ หม่ามี้จะต้องไม่เป็นอะไร จะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”
เสียงของเขาสั่นเครือ
บุริศร์รู้ว่าเขากำลังกลัว อันที่จริงเขาเองทำไมจะไม่กลัว?
เขากลัวว่านรมนจะผล็อยหลับไปแบบนี้ และเขากลัวว่าเขาจะไม่เห็นรอยยิ้มของนรมนอีก แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่แค่สามีเท่านั้น แต่เขายังเป็นพ่อคน
บุริศร์อดทนต่อความเจ็บปวดอันมหาศาลและกอดกานต์กลับ “ใช่ จะไม่เป็นอะไร หม่ามี้ของลูกไม่อยากจากพวกเราไปหรอก”
“อืม หัวของคุณ… …”
“ไม่เป็นไร เอายาแก้ปวดให้หน่อย อย่าไปรบกวนเขา ให้น้าโพนี่และอาป้องศึกษาวิจัยอาการป่วยของหม่ามี้อย่างตั้งใจเถอะ”
ลมหายใจของบุริศร์ยุ่งเหยิงเล็กน้อย
กานต์ขมวดคิ้วแน่น
เขารู้สึกว่านี้มันไม่ดีแล้ว อาการเส้นประสาทของบุริศร์อันตรายมาก แต่เมื่อเห็นท่าทางของคุณบุริศร์ตอนนี้ เกรงว่าจะไม่ต้องการไปรบกวนป้องและคนอื่นจริงๆ
กานต์พยักหน้าอย่างหนัก
เขารีบออกห่างตัวของบุริศร์ เมื่อเจอยาแก้ปวดจึงกลับมา
อาการปวดของบุริศร์ค่อยบรรเทาลงเล็กน้อยหลังจากทานยาแก้ปวดไปแล้ว แม้ว่าความเจ็บปวดจะยังคงอยู่ แต่มันก็ไม่รุนแรงนัก
กานต์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นท่าทางเขาเป็นเช่นนี้
“คุณบุริศร์ ผมมีธุระนิดหน่อยต้องไปห้องหนังสือ”
“ไปเถอะ”
ตอนนี้บุริศร์ไม่มีแรงมากนัก
ความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาถูกทรมานด้วยความเจ็บปวด แต่โชคดีที่ปัจจัยเสี่ยงขณะนี้อยู่ในขอบเขตการควบคุม ดังนั้นเขาจึงสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้
หลังจากที่กานต์จากไป บุริศร์ก็นอนลงบนเตียงและกอดนรมนไว้แน่น
อุณหภูมิร่างกายของเธอฟื้นคืน มันนุ่มนวล ด้วยอุณหภูมิที่สบายนี้ ทำให้บุริศร์ที่เหนื่อยล้ามาเป็นเวลานาน หลับตาลงโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่นานนักก็ได้ยินลมหายใจของเขาที่คงที่เป็นระยะ
กานต์กลับมายังห้องหนังสือ เขาเปิดคอมพิวเตอร์ นิ้วเรียวเคาะแป้นพิมพ์ เมื่อเคาะรหัสก็กะพริบ ไม่นานนัก แบบอักษรโบราณและเข้าใจยากที่ส่งมาโดยกิจจา ก็ปรากฏบนคอมพิวเตอร์ด้วยตัวอักษรที่เข้าใจง่าย
เขารวบรวมอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงส่งภาพเหล่านี้ไปหากิจจาพร้อมกับพิมพ์ออกไปในระยะเวลาเดียวกัน
กิจจาอ่านมันอย่างรวดเร็วหลังจากได้รับการแปลจากกานต์
กานต์รู้สึกว่าเขาไม่สามารถรอได้ ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและเดินออกไปหาตุลยา
เนื่องจากเข็มเงินของกานต์ ตุลยาเจ็บปวดราวกับจะเป็นบ้า แต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะสวดอ้อนวอนขอให้ตาย
ตุลยาหดตัวลงโดยไม่รู้ตัว เมื่อเธอเห็นกานต์
เธอกลัวกานต์!
แม้ว่าเด็กคนนี้จะยังเป็นเด็ก แต่เขาก็โหดเหี้ยม ยิ่งกว่าบุริศร์และนรมนเสียอีก!
ดวงตาที่หวาดกลัวของตุลยา ส่องประกายผ่านดวงตาของกานต์
เขาพูดอย่างเย็นชา “ฉันจะให้โอกาสแก บอกมาว่าให้ยาพิษอะไรกับหม่ามี้ของฉัน? ถ้าแกสารภาพ บางทีฉันอาจจะช่วย”
ตุลยานิ่งไปชั่วครู่
กานต์ก็เป็นแค่เด็กที่ยังไม่โต แต่จิตสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาตอนนี้กลับยับยั้งเธอ
เธอตอบโต้เป็นอากัปกิริยาโกรธเคือง
ก็เป็นแค่เด็ก มีสิทธิ์อะไรมาข่มขู่เธอ?
แถมยังเป็นลูกของนางนรมนด้วย!
ยิ่งตุลยามองกานต์มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกเคืองสายตามากขึ้นเท่านั้น
เด็กวัยแค่นี้เมื่อเจอเรื่องแบบนี้ต้องร้องไห้ออกมาไม่ใช่หรือ? ทำไมเจ้าตัวประหลาดนี้จึงแตกต่างมาก?
“โอ้ ชั่วชีวิตนี้แกไม่ต้องคิดอยากรู้หรอกว่าฉันให้ยาพิษอะไรกับแม่ของแก ถึงแม้แกจะฆ่าฉันแต่ฉันก็ยังมีนรมนตายไปด้วย ฉันไม่เสียเปรียบ!”
ตุลยาเป็นบ้าอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว
ดวงตาของเธอแดงน่ากลัว ใบหน้าของเธอดูน่าหวาดหวั่น แม้ว่าร่างกายของเธอจะปวดร้าวแทบระเบิด แต่เธอก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุขเมื่อคิดว่านรมนใกล้จะตาย
ยิ้มพลางร้องไห้
ตลอดชีวิตของเธอ เธอต่อสู้มาทั้งชีวิต และคิดถึงมาทั้งชีวิต เธอต้องการเพียงความรักของแม่ แต่ทำไมเรื่องง่ายๆ แค่นี้เธอถึงไม่ได้มันมา?
ไม่ตำหนิความดำมืดของเธอ ไม่ตำหนิวิธีการชั่วร้ายของเธอ จะตำหนิก็ตำหนิเพียงแค่ลูกของมารดา เหตุใดนรมนจึงสามารถดึงความสนใจของทุกคนไปได้ แต่เธอเป็นได้เพียงแค่เด็กน้อยต่ำต้อยถูกทอดทิ้งที่แสวงหาแค่สายตาของมารดา แค่มองแวบเดียวก็ยังดี
เธอดิ้นรนกับสิ่งที่เธอต้องการมาตลอดชีวิต แต่นรมนก็ได้มันมาโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม
ทำไม?
กานต์มองไปยังตุลยาซึ่งตอนนี้เหมือนหญิงบ้าด้วยดวงตาที่ลึกล้ำ
ผ่านไปนาน เมื่อตุลยาร้องไห้เสร็จและหัวเราะได้มากพอ ก่อนจะค่อยพูดอย่างเย็นชาว่า “นับจากวันนี้ไป หม่ามี้ของฉันไม่ตื่นมา ตัดเนื้อหนึ่งชิ้นจากร่างกายเธอแล้วให้สุนัขกิน ให้รีบตัดอย่าปล่อยให้เธอตาย หม่ามี้ของฉันตื่นมาได้จะดีที่สุด ถ้าไม่ตื่น หรือพลาดพลั้งเสียหาย ไม่ทันการ ฉันได้ยินมาว่าปีนั้นจักรพรรดินิซูสีไทเฮาประหารชีวิตด้วยการตัดมือและเท้าลูกไปหนึ่งคน สามปีหลังจากนั้นถึงจะตาย”
เมื่อพูดจบ กานต์ก็หันหลังกลับและจากไป
ตุลยาตกตะลึง
เธอกระทั่งสูญเสียความสามารถทางภาษาของเธอ
ปีศาจตนนี้คือใคร?
เขาเป็นเด็กอายุสี่หรือห้าขวบได้อย่างไร?
ไม่!
มันเป็นปีศาจจากนรก!
มันเป็นตัวประหลาดที่เกิดจากความวิปริตของนรมน
มันพูดโหดเหี้ยมอย่างสงบจิตใจได้อย่างไรกัน?
ตุลยายังไม่ได้สติ เธอก็รู้สึกเจ็บไปทั้งตัว และเธอก็กรีดร้อง แต่ปากของเธอกลับถูกปิดไว้
เธอมองดูมีดอันแวววาว ค่อยๆ กรีดไปยังใบหน้าของเธอ
เจ็บ!
มันเจ็บปวด!
น้ำตาจากความเจ็บปวดไหลทะลัก
น้ำตาเค็ม ไหลรดผ่านไปยังบาดแผลบนใบหน้า ราวกับโรยเกลือบนแผล เจ็บจนร่างกายกระตุก แต่กลับถูกคนนำเหล้าผสมยามาให้ดื่มเพื่อห้ามเลือด แต่ไม่ได้ห้ามความเจ็บปวด
ฆ่าเธอเถอะ!
ตุลยาต้องการตายอย่างว่องไวเป็นครั้งแรก
กล้าณรงค์ไม่ใช่บอกว่าจะส่งคนมารับตัวเองหรอกหรือ?
ไหนละ?
ทำไมถึงยังไม่มา
ถ้าเขายังไม่มาอีก เธอจะต้องตายที่นี่จริงๆ
ไม่!
เธอตายไม่ได้
กานต์เพิ่งพูดเมื่อกี้ ว่าเขาต้องการใช้เวลาสามปีเพื่อทรมานเธอ
ตุลยากลัว เธอรู้สึกกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ
คุณตาล่ะ?
คุณตาอยู่ที่ไหน?
เธอยังเป็นลูกสาวแท้ๆของคิมนะ คุณตาไม่สนใจความเป็นความตายของเธอหรือ
เขาไม่สน!