แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1172
“ปาณี!”
นภดลรู้สึกเพียงว่าราวกับหัวใจของเขาถูกคนบีบแน่น และมันเจ็บอย่างสาหัส
เขากอดปาณีไว้แน่น ดวงตาชื้นเล็กน้อย
“ทำไม?”
เขาพึมพำกับตัวเอง ราวกับไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ปาณีมองไปยังชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ตรงหน้าเธอ และเมื่อเห็นว่าเขากำลังร้องไห้เพื่อเธอ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
พอแล้ว!
อย่างนี้ก็เพียงพอแล้วละ!
ปาณีเป็นลมก่อนที่จะพูดอะไร
บุริศร์เตรียมพร้อมมาเป็นเวลานาน แต่เขากลับไม่คิดว่าคนของกล้าณรงค์จะกล้าลงมือทำอะไรคุณท่านตนุวรที่นี่ เขาโบกมืออย่างโกรธเคือง ให้คนของตระกูลโตเล็กไล่ตามไป
“รีบไปส่งเธอที่โรงพยาบาล!”
นรมนเป็นห่วงปาณี ดวงตาเธอชื้นเล็กน้อย
คนโง่เอ๋ย!
เธอรู้ความรู้สึกของปาณีที่มีต่อนภดล ขอเพียงแต่ว่าครั้งนี้ปาณีจะไม่เป็นไร ขอเพียงแต่ว่าครั้งนี้นภดลจะถนอมปาณี รู้ใจตัวเองเสียที
นภดลไม่รักปาณีหรือ?
ไม่!
เขารัก!
นรมนสามารถมองเห็นได้จากสายตาของเขาตอนนี้
นภดลเก็บความรู้สึกของเขาไว้ในใจ
เพราะว่าฐานะของตัวเอง เพราะว่าตั้งแต่เล็กจนโตคุณค่าในทางการรักษาทำให้เขาเก็บตัวเกินไป ถ้าหากบอกว่าฉัตรยาเป็นเหมือนแสงสว่างของนภดล หลังจากฉัตรยาตายไป ปาณีก็เป็นเหมือนอากาศของเขา
พระอาทิตย์ส่องแสงสว่างจ้า ไม่ว่าคุณจะยอมหรือไม่ก็ตาม เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาทุกวัน แสงอาทิตย์จะสาดแสงอันอบอุ่นมายังร่างกายคุณ ทำให้นภดลที่ถูกบังคับให้อยู่ในความมืดมิดสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความหวัง
แต่ปาณีเป็นเหมือนอากาศ แทรกซึมอยู่ในชีวิตของนภดลอย่างเงียบๆ ปกติไม่รู้สึกอะไร จะมีหรือไม่มีคนนี้ก็อยู่ได้ แต่เมื่ออากาศหายไป นภดลรู้สึกเจ็บปวดไปถึงกระดูกและไม่คุ้นชิน
บุริศร์ไม่อนุญาตให้นรมนตามไปด้วย
“วันนี้เป็นวันแต่งงานของเจตต์ คุณออกไปไม่ได้ เชื่อผม ปาณีจะไม่เป็นไร”
นรมนรู้ว่าเมื่อบุริศร์พูดอย่างนี้เขามีวิธีจัดการแน่ และจะจัดการมันได้อย่างดี แต่เธอก็ยังเป็นห่วง ,
มือเล็กคู่หนึ่งจับมายังฝ่ามือของนรมน
“หม่ามี้ พี่ปาณีจะไม่เป็นไรครับ แม้ว่ากระสุนจะทะลุไหล่ของเธอ แต่โชคดีที่มันไม่ทำร้ายเส้นเลือดใหญ่ เรารู้จักหมอหลายคน ตราบใดที่การช่วยเหลือยังทันเวลา ก็จะไม่เป็นไร”
นรมนมองไปยังท่าทางใจเย็นของกิจจา เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้าเด็กคนนี้ถูกลักพาตัวไป แต่ตอนนี้กลับมาคอยปลอบหม่ามี้ของเขา จึงอดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดใจขึ้นมา
“กิจจา เป็นความผิดของหม่ามี้ที่ไม่ได้ป้องกันมันให้ดี”
“ถ้าอย่างนั้นหม่ามี้ก็กอดผมเถอะ”
กิจจาเหยียดแขนออกไปทางนรมน
เมื่อบุริศร์เห็นระหว่างนมนและกิจจาเป็นเช่นนี้ก็ไม่พูดอะไร แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะโทรหาอรรณพ
“ฉันรู้ว่าตอนนี้นายไม่ได้อยู่ที่เมืองชลธี แต่ภรรยานายน่าจะอยู่นี่ อรรณพ นายให้รมิดามาช่วยหน่อย ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตามต้องช่วยคนๆนี้ไว้ให้ได้ กลับไปฉันจะตอบแทนให้อย่างาม”
เมื่อได้ยินบุริศร์โทรหาอรรณพ เพื่อขอให้รมิดามาช่วย นรมนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
มีศัลยแพทย์มือหนึ่งระดับโลกอยู่ ปาณีจะต้องไม่เป็นอะไร
รถขับออกไปอย่างเร็ว ยกเว้นคราบเลือดบนพื้นแล้ว ที่นี่ก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง แต่ดวงตาของนรมนกลับมีความโกรธแค้นพาดผ่านอยู่
“กล้าณรงค์! คนๆนี้ มันน่าขยะแขยงเกินไป”
“ใช่ ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเหมือนหนู คอยรบกวนชีวิตเราเป็นระยะๆ น่าขยะแขยงเสียจริง ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะลากคอมันออกมาหลังวันปีใหม่”
บุริศร์จับไหล่ของนรมน
พายุหิมะข้างนอกตกค่อนข้างหนัก
บุริศร์มองไปยังภรรยาและลูกในอ้อมแขน ก่อนพูดเสียงอ่อนโยนว่า “มีรมิดาผ่าตัดให้ปาณี เธอจะต้องไม่เป็นอะไรแน่ ผมรู้ว่าคุณกังวล แต่คุณไม่รู้สึกว่าครั้งนี้เป็นโอกาสหรือ? ถ้าหากนภดลสามารถเผชิญหน้ากับหัวใจตัวเองได้ เป็นเรื่องดีที่จะให้ดินแดนแห่งความเพ้อฝันของการอยู่ร่วมกันแก่พวกเขาไหม?”
“คุณหมายถึงอย่าไปรบกวนพวกเขา แต่ว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์… …”
นรมนนึกถึงคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ พลันดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความรังเกียจ
บุริศร์กลับยิ้มหยันก่อนพูด “ผมมีวิธีกันเธอออกไปชั่วคราว ไม่มีทางที่เธอจะมารบกวนนภดลได้”
“อย่าทำเกินไปนะคะ คุณก็รู้ คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ สามารถรังแกนภดลได้ตลอดชีวิต โดยอ้างว่าอยู่ในฐานะแม่ของฉัตรยา ถ้านภดลรู้ว่าคุณทำอะไรคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ละก็ เขาน่าจะรับไม่ได้นะคะ”
นรมนถอนหายใจเมื่อนึกถึงคำสัญญาของนภดลที่มีต่อฉัตรยา
บุริศร์กลับยิ้มก่อนจะพูด “ไม่หรอก นภดลเปลี่ยนไปนิดหน่อยแล้ว ไม่เห็นเหรอ? เขาเคยใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมายราวกับไม่มีอุดมการณ์ ใช้ชีวิตไปวันๆ ตอนนี้เขามีความรู้สึกมีเลือดและน้ำตา แม้ว่าเขาจะดูแลคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เพื่อฉัตรยา โดนเธอกดขี่ แต่วันนี้เพื่อเขาแล้ว ปาณีก็ยอมสละชีวิต คุณคิดว่านภดลเป็นคนใจแข็งหรือ?”
เมื่อถูกบุริศร์พูดอย่างนี้เข้า นรมนก็ก็ยังเข้าใจได้บ้าง
การตายของฉัตรยาเป็นเรื่องที่น่าเสียใจของนภดลอย่างไม่มีอะไรมาเปลี่ยนได้ เขาจะไม่ยอมให้ปาณีเป็นอะไรไปเพราะตัวเองอีก
ดังนั้น ปาณีจะเป็นชีวิตใหม่ของนภดล
เมื่อคิดถึงจุดนี้เหมือนกัน นรมนก็หัวเราะออกมา
“ดีจริง ฉันชอบเห็นคนรักกันได้แต่งงานกัน”
“โง่น่า”
บุริศร์ยื่นนิ้วออกมาลูบจมูกนรมนอย่างรักใคร่
กิจจาถูกบังคับให้เห็นคนพลอดรักกัน เขาไร้คำพูด แต่ก็ไม่ขัด เพราะจะได้เห็นพวกเขามีความสงบสุขอย่างนี้มันไม่ง่ายเลย ก่อนจะพูดเสียงต่ำว่า “หม่ามี้ พวกเราเข้าไปข้างในเถอะ ผมหิวแล้ว”
ใช่สิ ถูกลักพาตัว แล้วหนีออกมาอีกครั้ง กิจจาหิวมากจริงๆ
เมื่อได้ยินลูกชายพูดแบบนี้ นรมนก็รีบอุ้มลูกชายของเธอเดินเข้าไปข้างใน
บุริศร์เห็นว่าในอ้อมกอดว่างเปล่า ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่นออกมาไม่ได้
เมียเขา!
ตอนนี้ไม่สนใจเขาแล้ว
บุริศร์ส่ายหน้า ก่อนจะตามนรมนเข้าไป
ภายในบ้านยังคงคึกคัก ไม่รู้สักนิดว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก
นรมนพากิจจากลับมายังที่นั่ง กิจจาหิวจนไม่สนใจใคร ยกตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารทันที
เมื่อเห็นลูกชายกินอย่างรวดเร็วอย่างนี้ ใจเธอพลันเจ็บปวด
“กินช้าๆหน่อยลูก เดี๋ยวสำลักนะ ดื่มน้ำหน่อย”
ความคิดของนรมนอยู่ที่กิจจาทั้งหมด ทำให้บุริศร์อิจฉานิดหน่อย
เมื่อพวกเจตต์ชนแก้วเสร็จ เขาก็มาชนแก้วแสดงความเคารพที่โต๊ะของนรมรและบุริศร์อย่างรวดเร็ว
นรมนมองไปยังขวัญตาตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะอวยพรอย่างจริงใจว่า “พี่สะใภ้ ขอให้คุณกับลูกผู้พี่อยู่ไปด้วยกันจนแก่เฒ่าและมีลูกไวๆนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ขวัญตามีความสุขจริงๆ
สามารถมาถึงวันนี้ได้ ยังรู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย ในขณะนี้ ได้มีแขนที่แข็งแกร่งคู่หนึ่งได้โอบเอวเธอเข้าโดยตรง และกลิ่นอายที่คุ้นเคยก็โอบล้อมเธอในทันที
เจตต์มองไปยังขวัญตาด้วยความรัก จากนั้นจึงยิ้มและพูดกับนรมนว่า “ขอบคุณที่ตอนแรกคุณไม่ชอบผม ไม่อย่างนั้นตลอดชีวิตนี้ของผม คงไม่สามารถหารักแท้ที่เป็นของผมได้”
นรมนยิ้มอย่างจริงใจ
“อย่าคิดเข้าข้างตัวเองเลย ดวงใจและดวงตาของเมียฉันอย่างไรก็ไม่มองแกหรอก”
ก่อนที่นรมนจะพูดอะไร บุริศร์ก็ชิงพูดเสียแล้ว,
ด่าเจ้าบ่าวในวันมงคล มีเพียงบุริศร์เท่านั้นที่ทำได้
นรมนดึงเขาออกมาอย่างไม่พูดอะไร ก่อนจะหันไปยิ้มกับเจตต์และขวัญตา ก่อนจะพูดว่า “ขอโทษนะ เขาดื่มมากไปแล้วละ”
“ผมดื่มมากไปที่ไหนกัน? ผมยังต้องไปปลุกห้องเจ้าสาวอีกนะ”
บุริศร์ไม่พอใจกับรอยยิ้มที่นรมนมอบให้เจตต์
เขาไม่หล่อเหรอ?
เขาไม่หอมเหรอ?
ทำไมถึงยิ้มอย่างสดใสให้เจตต์ขนาดนั้น?
ถึงแม้จะเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแล้วมันอย่างไร?
เขาแค่อารมณ์เสีย เขาแค่อิจฉาไม่ได้เหรอ?
นรมนรู้สึกว่าวันนี้บุริศร์กินยาผิดอะไรเข้าไปเสียแล้ว เธอจึงยิ้มและพูดว่า “อย่าไปสนใจเขาเลย”
แต่เจตต์กลับยิ้มอย่างสุขสมหวัง
“ปลุกห้องเจ้าสาว โอเค แต่ก็ไม่รู้ว่าประธานบุริศร์คิดจะปลุกอย่างไร ? ผมเจตต์จะคอยอยู่เป็นเพื่อนเอง”
“คำนี้นายพูดเอง อย่าร้องฮือฮือไม่กล้าต่อสู้เหมือนพวกผู้หญิงละกัน”
บุริศร์มองไปที่เจตต์อย่างสบประมาท
ขวัญตารู้สึกกังวลอย่างกะทันหัน
เธอคิดอยากจะสกัดเจตต์ที่มานี่ อย่างไรก็ตามตัวเจตต์เองก็ไม่ใช่คนที่ทนรับแรงยั่วยุได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังชอบแข่งขันกับบุริศร์เสมอ เขาตบหน้าอกทันทีก่อนพูด “ใครซ่อนคนนั้นเป็นหลาน”
“อืม ฉันก็หวังว่านายจะไม่กลายมาเป็นหลานฉัน หาไม่ได้ยากจริงๆ”
บุริศร์พูดจบก็หันหลังกลับไป
ขวัญตารู้สึกว่าเจตต์กระโดดลงไปในหลุมที่บุริศร์ขุดไว้ แม้ว่าจะไม่กล้ายืนยัน แต่ก็รู้สึกว่ามีเค้าลาง
เธอมองไปที่นรมนเล็กน้อยเพื่อขอความช่วยเหลือ
นรมนไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี
แท้จริงแล้วบุริศร์ก็ยืนรอเจตต์อยู่ที่นี่
เธอดึงแขนเสื้อของบุริศร์ ก่อนพูดว่า “เป็นวันแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องฉัน อีกนิดก็เสร็จแล้ว”
“แต่ผมเตรียมของขวัญให้เขาแล้วนี่ ไม่ปลุกห้องเจ้าสาวก็ไร้วิธีให้”
เสียงของบุริศร์ไม่ดัง แต่กลับให้ขวัญตาและเจตต์ได้ยินชัดเจน
ของขวัญ?
ต้องให้ตอนปลุกห้องเจ้าสาวด้วย?
ทำไมจู่ๆ พวกเขาถึงรู้สึกมืดมนกันอย่างนี้?
“พวกเราไปชนแก้วกันก่อนเถอะ พวกคุณดื่มกินกันให้สนุกนะคะ”
ขวัญตาลากบุริศร์ออกไปด้วยความหวาดกลัว
“คุณดึงผมออกมาทำไม?”
เจตต์หาคำตอบไม่ได้ ไม่รู้ว่าขวัญตาพูดอะไรข้างหูเขา เจตต์มองบุริศร์แวบหนึ่งก่อนจะจากไป
หลังจากที่พวกเขาจากไป นรมนก็พูดอย่างจนใจว่า “ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขานะ”
“ผมรู้”
บุริศร์ใบหน้ามืดมน เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างใจเย็น ก่อนจะคีบอาหารให้นรมน
“กินอะไรหน่อยสิ”
“บุริศร์ ฉันกับเจตต์มันเป็นไปไม่ได้ ทำไมคุณยังหึงอยู่ละ?”
นรมนคิดไปถึงท่าทางใจแคบของบุริศร์ ทันใดก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
แต่บุริศร์กลับไม่สนใจสักนิด ก่อนพูด “เป็นการดีที่จะกินน้ำส้มสายชู ลดความดันโลหิตและไขมันในเลือด”
“เพ้ย!”
นรมนยิ้มและด่ากับคำพูดจาเหลวไหลของเขา จากนั้นก้มตัวลงไปจูบเขาที่หน้า
คนอื่นๆ บนโต๊ะจะถูกทับตายหมดแล้ว โอเคไหม?
ถ้าถูกเจ้าสาวและเจ้าบ่าวอวดผัวอวดเมียออกสื่อก็พอเข้าใจได้ แต่อย่างไรวันนี้ก็เป็นวันมงคลของเขา แต่กลับถูกบุริศร์และนรมนโชว์ความรักให้คนอื่นอิจฉาแทน
กิจจายึดมั่นในหลักการไม่สนและไม่ฟังความชั่ว เขาก้มหน้ากินข้าวต่อไป
อาหารสุนัขไม่อร่อย แต่อาหารอร่อย
หลังจากที่นรมนเสร็จกิจ เธอก็เพิ่งตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พลันใบหน้าของเธอเองก็แดงขึ้นเล็กน้อย
“ฮะแฮ่ม ทุกคนทานอาหาร”
ทันทีที่เสียงของเธอพูดจบ บุริศร์ก็จับด้านหลังศีรษะของเธอ ชั่วพริบตาก็ใช้อำนาจดึงเธอเข้ามาจูบ
“อื้อ… …”
นรมนรู้สึกขายขี้หน้า
เพียงเพื่อระงับความหึงหวงของบุริศร์ จนลืมกาลเทศะ ตอนนี้สะท้อนให้เห็นแล้วว่า บุริศร์ไม่สนใจอะไรเลย