แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1212
“อะไรนะ?”
คมทิพย์ได้ยินเสียงก็มองไปด้านหลัง ได้เห็นท่าทางโยนมือถือของบุริศร์พอดี อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากพูด “นรมน เธอต้องดูแลบุริศร์ของบ้านเธอหน่อยนะ แม้จะบอกว่าบ้านพวกเธอมีเงิน ก็ไม่ควรฟุ่มเฟือยแบบนี้ เธอบอกซิตอนนั้นเธอสนใจผู้ชายฟุ่มเฟือยแบบนี้ได้ยังไง?”
คิ้วของบุริศร์ขมวดเล็กน้อย เหลือบมองไปที่พฤกษ์ พฤกษ์รู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วร่าง
“อะแฮ่ม คมทิพย์ พูดเรื่องของพวกเธอเถอะ”
คมทิพย์เห็นพฤกษ์ถูกบุริศร์ขมขู่จนน่าสงสารเช่นนี้ ก็อดที่จะพูดไม่ได้ “นายหน้านิ่วคิ้วขมวดกับสามีฉันให้น้อยๆหน่อย ระวังฉันให้นรมนเตะนาย”
อารมณ์โมโหของบุริศร์เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
นรมนรู้ว่าอารมณ์ของบุริศร์ตอนนี้ไม่มั่นคง ทนต่อแรงกระตุ้นไม่ได้ รีบดึงคมทิพย์ไว้แล้วพูด “พอแล้ว คู่ข้าวใหม่ปลามันของเธอ อย่าไปโมโหอะไรมาก ถึงยังไงคุณบุริศร์ของบ้านเราเมื่อกี้ยังให้ฉันมอบบริษัทภาพยนตร์ให้เธอ ไว้หน้าเขาหน่อยหน่า”
“ก็ได้ เห็นแก่เธอหรอกนะ”
คมทิพย์พูดอย่างไม่กลัวตาย
แล้วทั้งสองก็พูดกระซิบกระซาบกันอย่างรวดเร็ว
พฤกษ์พูดขึ้นอย่างประหม่า “ประธานบุริศร์ นายก็รู้ คมก็นิสัยแบบนี้แหละ”
“ฉันไม่ได้รู้จักเธอโดยทั่วไป นอกจากเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคมทิพย์แล้ว ฉันก็ไม่คิดจะทำเรื่องที่ทำให้ภรรยาฉันไม่มีความสุข ฉันเพียงแต่นึกถึงคนคนนึงขึ้นมากะทันหัน”
“ใคร?”
“สมจิต”
เสียงของบุริศร์ไม่ดัง แต่กลับทำให้นรมนได้ยินในทันที
สมจิต!
นี่คือบอดี้การ์ดที่คุณปู่มอบให้เธอ ตอนนั้นเพราะเรื่องบางอย่างถูกเธอส่งออกไปตรวจสอบ ผลลัพธ์คือตอนตรุษจีนก็ยังไม่สามารถกลับมาได้
ถ้าบุริศร์ไม่พูด นรมนก็แทบจะลืมคนคนนี้ไปแล้ว
วันนี้ได้ยินบุริศร์พูดขึ้นมา เธอก็นึกถึงทัศนคติของบุริศร์ต่อคุณท่านตนุวรในตอนนี้ขึ้นมาได้ ในใจรู้ดีว่าเขาไม่ไว้วางใจคุณท่านตนุวรแล้ว
ในใจนรมนเชื่อว่าคุณท่านตนุวรจะไม่ทำอะไรบุริศร์ แต่มีบางเรื่องที่เธอยังไม่กล้าที่จะพูดออกมาเต็มที่เกินไป ในเมื่อบุริศร์มีช่องว่างต่อคุณท่านตนุวรแล้ว ถ้าอย่างนั้นบอดี้การ์ดสมจิตคนนี้จะต้องการไม่ได้เด็ดขาด
เธอถอนหายใจเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความไปให้สมจิตทันที
“หลังจากทำธุระเสร็จแล้วกลับมาก็ไปหาชัยยศ ดูแลเรื่องในบ้านด้วยกันกับชัยยศ ฉันออกมาท่องเที่ยวกับสามี ไม่สะดวกพาเธอมาด้วย รอฉันกลับไป”
ในตอนที่สมจิตได้รับข้อความก็ชะงักไปเล็กน้อย
ถูกเจ้านายของตัวเองทอดทิ้งแล้ว นี่มันรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ แต่คิดอย่างถี่ถ้วน ก็ไม่นับว่าทอดทิ้งอย่างสมบูรณ์ อย่างน้อยก็ให้เธอไปหาชัยยศไม่ใช่หรอ?
นึกถึงไอ้งั่งชัยยศนั่นแล้ว สมจิตก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอบกลับไปหนึ่งประโยค “โอเคค่ะ เดินทางปลอดภัย ต้องการเรียกใช้ดิฉันเมื่อไหร่บอกได้ทุกเมื่อ”
“โอเค”
นรมนแสร้งทำเป็นคุยโทรศัพท์
ทางฝั่งบุริศร์ยังไม่รู้ว่านรมนจัดแจงไว้แล้ว พูดกับพฤกษ์ “ให้คนไปดูเธอไว้ หลังจากกลับมาแล้วก็ให้ชัยยศมอบหมายงานให้เธอ ถ้าอยู่ในสายตาได้จะดีที่สุด”
ในจุดนี้ นรมนกับบุริศร์มีความคิดที่ตรงกันอย่างกะทันหัน
พฤกษ์พยักหน้า
ระหว่างที่พูดคุย รถก็ขับมาถึงลานจอดรถใต้ดินของอาคารแห่งหนึ่ง
นรมนกับคมทิพย์เงยหน้ามอง นี่คือเมืองที่ไม่เคยหลับใหล เป็นแลนด์มาร์คของเมืองชลธี มีแสงไฟเหล้ารำตลอดทั้งคืน แต่แตกต่างกับย่านโคมแดง คนที่นี่ล้วนแต่มาเพื่อผ่อนคลาย คล้ายๆกับคลับ แต่มีหลายหลากประเภทมากกว่าคลับ
“เชี่ย อย่าบอกฉันนะว่านี่ก็เป็นของคุณบุริศร์?”
คมทิพย์มีเกลียดความรวยเล็กน้อย
บุริศร์คนนี้จะรวยอย่างเลี่ยงไม่ได้เกินไปหรือเปล่า?
ว่ากันว่าเมืองที่ไม่เคยหลับไหลแห่งนี้มีการค้าขายมากกว่า100ล้านในคืนเดียว มันคือที่ลุ่มหลงในความฟุ้งเฟ้อที่แท้จริง
บุริศร์กลับโค้งมุมปากพูดว่า “เมืองที่ไม่หลับใหลนี้อยู่ในนามของพฤกษ์”
“อะไรนะ? ของสามีฉัน?”
คมทิพย์ประหลาดใจโดยสมบูรณ์
รู้ว่าพฤกษ์มีกองทุนอยู่บ้าง แล้วยังมีบริษัทร่วมกองทุน แต่คิดไม่ถึงว่าแลนด์มาร์กของเมืองชลธีจะเป็นของพฤกษ์ทั้งหมด นี่มันทำให้คมทิพย์รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ได้แต่งงานกับเศรษฐีที่ภาพลักษณ์ติดดินโดยไม่รู้ตัว?
มองเห็นสายตาที่เร่าร้อนของภรรยา พฤกษ์ก็พูดอย่างเก้อเขิน “เมืองที่ไม่หลับใหลนี้แม้ว่าฉันเป็นนิติบุคคล แต่ก็ยังเป็นของประธานบุริศร์ พวกเราแบ่งกันสามต่อเจ็ด”
“ใครเจ็ดใครสาม?”
แววตาคลั่งเงินของคมทิพย์ทำให้พฤกษ์รู้สึกขำ
“ประธานบุริศร์สาม พวกเราเจ็ด”
“อุ้ยตาย รวยแล้ว!”
คมทิพย์กระโดดโลดเต้นราวกับเด็กน้อย
“สามี รีบบอกฉันมาเลยนะว่านายยังมีแหล่งเงินที่ไหนที่ยังไม่ได้บอกฉันอีก?”
พฤกษ์คว้าคมทิพย์มากอด พูดยิ้ม “ดูท่าทางคลั่งเงินของเธอสิ เมืองที่ไม่หลับใหลนี้ประธานบุริศร์สร้างขึ้นมา ฉันเพียงแค่ดูแลนิดหน่อยเท่านั้น ประธานบุริศร์ให้กำไรพวกเราเจ็ดส่วน แล้วยังมีบริษัทร่วมทุนอื่นๆอีก ฉันเองก็ทำขึ้นมาตามประธานบุริศร์ ถ้าคำนวนอย่างไม่เฉพาะเจาะจง ทรัพย์สินภายใต้ชื่อของฉันน่าจะมีพันกว่าล้าน”
“อุ้ยตาย! สามี นายสุดยอดเกินไปแล้ว”
คมทิพย์กับพฤกษ์จู๋จี๋กัน บุริศร์กลับลงจากรถ จูงมือของนรมน พาเด็กๆไปที่หน้าประตูเมืองที่ไม่เคยหลับใหล พูดพลางยิ้ม “ชอบไหม?”
นรมนมองสิ่งก่อสร้างที่สูงระฟ้านี้ มีความรู้สึกช็อคจริงๆ
“ได้ยินมาว่าที่นี่ฟุ้งเฟ้อ คนจนเข้าไม่ได้ เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าที่นี่จะเป็นนายกับพฤกษ์ร่วมกันเปิด”
“ได้เงินหรือไม่ สำหรับฉันแล้วเป็นแค่จำนวนที่เพิ่มลด ดังนั้นฉันเลยให้พฤกษ์ไปเจ็ดส่วน ที่ฉันต้องการคือของที่อยู่ภายในเมืองที่ไม่หลับใหล”
เสียงของบุริศร์ไม่ดัง แต่กลับทำให้นรมนชะงัก
“เอ๋? เมืองที่ไม่หลับใหลนี้ยังมีประโยชน์อื่นอีก?”
“นี่คือเครือข่ายข่าวกรอง รวบรวมข้อมูลทั้งหมด ขณะเดียวกันก็เป็นเครือข่ายขนส่งใต้ดิน พวกเราออกจากเมืองชลธี ไม่ต้องผ่านทางทะเลบกอากาศ สามารถออกไปจากตรงนี้ได้”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนตะลึงอย่างมาก
“เบื้องบนของเมืองที่ไม่หลับใหลนี้รับรู้ไหม?”
“เธอคิดว่าฉันจะปล่อยให้เบื้องบนรับรู้หรอ? หลายปีขนาดนี้แล้ว ฉันไม่มีทางปล่อยให้คนอื่นรู้ไพ่ตายทั้งหมดของฉัน นอกจากพฤกษ์ ไม่มีใครล่วงรู้ถึงประโยชน์ที่แท้จริงของที่นี่”
บุริศร์พูดจบก็กุมมือของนรมนขึ้นมาเดินตรงเข้าไปข้างใน
พฤกษ์เห็นพวกบุริศร์เข้าไปแล้ว รีบพูดกับคมทิพย์ “เอาล่ะ รีบลงมา พวกเราไปส่งพวกประธานบุริศร์กันก่อน”
“พวกนรมนเจอปัญหาเข้าแล้ว?”
คมทิพย์ก็ไม่ใช่ไม่ตรวจสอบอะไร เพียงแต่ไม่อยากถาม ตอนนี้ความรู้สึกที่ต้องจากกันทำให้เธอรู้สึกทุกข์ใจ ในตอนที่กอดพฤกษ์ยังระงับไว้ไม่ไหว
พฤกษ์พยักหน้าพูด “ส่งพวกเขาออกไปก่อนเถอะ พวกเขาออกจากเมืองชลธีไปแล้ว จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้”
“จะกลับมาได้ ใช่ไหม?”
น้ำเสียงของคมทิพย์มีความสั่นเทา
พฤกษ์ลูบหลังของเธอเบาๆ พูดเสียงต่ำ “ได้สิ มีฉันอยู่ มีชัยยศอยู่ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร พวกเราก็จะทำให้ประธานบุริศร์กับคุณนายกับมาอย่างปลอดภัย”
“อืม”
คมทิพย์กระโดดลงมาจากอ้อมกอดของพฤกษ์ เดินตามพวกบุริศร์เข้าไปในเมืองที่ไม่หลับใหล
ในเมืองที่ไม่หลับใหลมีลิฟต์เฉพาะทาง
บุริศร์หลังจากพิมพ์ลายนิ้วมือและสแกนใบหน้าแล้ว ลิฟต์ถึงเปิดออก
“ลิฟต์ตัวนี้ระดับสูงขนาดนั้นเลยหรอ?”
คมทิพย์มีความสงสัย
พฤกษ์พูดเสียงต่ำ “นอกจากลายนิ้วมือกับสแกนใบหน้าของฉันกับประธานบุริศร์แล้ว ลิฟต์นี้คนอื่นเปิดไม่ได้”
“สุดยอดเลย”
คมทิพย์รู้สึกว่าความยากจนในสมัยก่อนจำกัดจินตนาการของตัวเองแล้ว
ลิฟต์มาถึงชั้น18
พวกบุริศร์เดินออกไป
ที่นี่มีกระจกอยู่ทุกหนแห่ง บนกระจกยังประดับด้วยอัญมณีและเพชรพลอย แสงที่สะท้อนออกมาทำให้คนเวียนหัว
“เชี่ย พวกนายอวดรวยเกินไปหรือเปล่า?”
คมทิพย์พูดขณะที่ก้าวออกไปหนึ่งก้าว แต่ถูกพฤกษ์ดึงกลับมา
“ทำไมหรอ?”
“เดินไปกับฉัน อยู่ที่นี่เดินมั่วซั่วไม่ได้”
น้ำเสียงของพฤกษ์มีความเคร่งขรึม
นรมนไม่ขยับเขยื้อน บุริศร์เองก็ไม่ขยับ เพียงแต่เผยรอยยิ้มมองไปที่นรมน เอ่ยถาม “มองอะไรออกหรอ?”
“ที่นี่คือเขาวงกต?”
ตอนแรกนรมนเองก็ดูไม่ออก แต่เมื่อมองดูอัญมณีและเพชรพลอยบนกระจกอีกครั้ง รู้สึกว่ามุมที่ประดับเพชรพลอยดูเหมือนกับแปดเหลี่ยม
รอยยิ้มของบุริศร์เผยออกมาอย่างชัดเจน
“ภรรยาฉันฉลาดจริงๆ เดินไปกับฉัน ถ้าเดินผิดก็ไม่รู้ว่าจะถูกส่งไปชั้นไหน ถ้าไปเจอใครไม่ดีเข้าจะเป็นปัญหา”
บุริศร์พูดจบก็จับมือของนรมนไว้แน่น
กานต์และกิจจาจูงกมลไว้ เดินตามหลังบุริศร์อย่างแนบแน่น ตลอดทางเด็กทั้งสามไม่พูดไม่จา
คมทิพย์เดินตามพฤกษ์
คนกลุ่มหนึ่งเดินตามกันผ่านทางเดินกระจกนี้ไป จากนั้นประตูบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
บุริศร์สแกนหน้าเข้าไปโดยตรง
ด้านในมีคนชุดดำกำลังทำงานอยู่
สถานที่ใหญ่ดตราวกับพระราชวังใต้ดิน อัญมณีทั้งที่ผ่านการแปรรูปและยังไม่แปรรูปมีอยู่ทั่วทุกที่ แสงที่แวววาวนั้นทำให้นรมนที่มองดูอยู่ตกตะลึง
“พวกนี้คือเพชรทั้งหมดเลยหรอ?”
“อืม ส่งมาจากแอฟริกา ยังแปรรูปไม่เสร็จ ด้านนี้เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ด้านนั้นคือที่ยังไม่ได้แปรรูป ด้านโน้นคือสินค้ามีตำหนิ แต่สินค้าที่มีตำหนิของเราเอาออกไปยังสามารถขายได้ราคาดี แล้วอันที่สภาพดี ก็จะนำไปประมูลขายบนชั้น21”
พฤกษ์อธิบายอยู่ด้านหลัง
นรมนรู้มาตลอดว่าบุริศร์มีเงิน แต่มีเงินมากถึงขนาดไหนนรมนยังไม่รู้จริงๆ
ตอนนี้ได้เห็นเพชรพลอยกองเท่าภูเขา เธอก็แทบจะเป็นลม
แต่บุริศร์กลับไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งของพวกนี้ พาภรรยาและลูกๆเดินผ่านไป
คนชุดดำรีบทำความเคารพบุริศร์ทันที
“สวัสดีประธานบุริศร์!”
“อืม เลือกสองสามคนมากับพวกเรา ปกป้องความปลอดภัยให้พวกเราตลอดเวลา”
พึ่งจะสิ้นเสียงของบุริศร์ ก็มีคนไปจัดการเรื่องบอดี้การ์ดแล้ว
เดินผ่านโกดังเพชรพลอยมา บุริศร์กับพวกนรมนก็มาถึงห้องทำงานห้องหนึ่ง
ห้องทำงานตกแต่งคล้ายกับรสนิยมของบุริศร์
กานต์มองแวบเดียวก็เห็นคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียจอใหญ่หลายเครื่องเชื่อมต่ออยู่
นี่คือห้องควบคุม?
ความตื่นเต้นแวบผ่านในตาของกานต์
บุริศร์พูดยิ้ม “ชอบ?”
“ชอบครับ”
กานต์ไม่ได้ปิดบังใดๆ
บุริศร์พูดยิ้ม “ถ้าชอบอีกเดี๋ยวยกให้ลูกหมดเลย ที่นี่มีเทคโนโลยีและข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดในโลก ลูกสามารถแฮ็คได้ทุกอย่างที่ลูกต้องการ”
“จริงหรอ?”
กานต์ไม่ค่อยเชื่อนิดหน่อย
“ลองดูสิ สัญญาณของที่นี่ ถูกรบกวนและป้องกันไว้แล้ว ด้านนอกตรวจจับเข้ามาไม่ถึงที่นี่ ต่อให้ถูกไล่ตามจากคนที่มีฝีมือ ที่อยู่ของเซิร์ฟเวอร์ก็อยู่ต่างประเทศ หาพวกเราที่นี่ไม่เจอเลย”
บุริศร์พูดจบก็นั่งลง แล้วยังเปิดคอมพิวเตอร์ ทันใดนั้นจอมอนิเตอร์ที่เชื่อมต่อไว้หลายเครื่องก็ถูกเปิดขึ้นโดยสมบูรณ์ ข้อมูลของแต่ละประเทศกระโดดขึ้นมา
กานต์มีความประหลาดใจ เดินเข้าไปอย่างคันไม้คันมือ ยังไม่ทันเริ่มทดลองก็เห็นบุริศร์เจาะระบบโดยตรงของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของประเทศM
ดวงตาของเขาหรี่ลงทันที
คุณบุริศร์คิดจะทำอะไร?