แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 736
บทที่ 736 ถ้าเป็นเพื่อนชายก็ช่วย
นี่เป็นเบอร์เจ้าพ่อตลาดมรกต
เจตต์เคยออกแรงตามล่าเบอร์นี้ แต่เขาไม่รับสายแปลกหน้า คิดไม่ถึงว่านิตาจะมีเบอร์
เจตต์เห็นแววตานิตาซับซ้อน
ดูท่านิตาไม่ธรรมดาจริงๆ
รู้จักคนระดับนี้ยังต้องไปเป็นพนักงานบริษัทท่องเที่ยวอีกเหรอ
คำตอบคือไม่แน่นอน
บวกกับท่าทีของนิตาเอง เจตต์ยิ่งต้องครุ่นคิด
หลังจากที่นิตาโทรศัพท์ติด ฝ่ายตรงข้ามก็รับอย่างว่องไว
“นิตา ทำไมถึงมีเวลาโทรหาผมล่ะ เมื่อก่อนเชิญยังไงก็ไม่ออกมา”
คำพูดสนิทสนมของฝ่ายตรงข้าม ทำให้นิตาไม่ชอบใจ
นิตายิ้มพลางพูด“คุณอาชาญ ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งทำตลาดมรกต ก็เลยนึกได้ว่าคุณลุงทำมรกตด้วยค่ะ อยากขอความช่วยเหลือคุณลุงเล็กน้อยค่ะ”
“เพื่อนที่ไหนกัน เพื่อนชายรึ ถ้าเป็นเพื่อนชายลุงช่วยแน่นอน”
เจ้าพ่อมรกตโม้
นิตากระดากเล็กน้อย เธอมองเจตต์ เห็นเจตต์ไม่ได้มีท่าทีอะไรเป็นพิเศษ จึงยิ้มแล้วพูดว่า“คุณอาชาญ ล้อฉันเล่นอยู่เรื่อยเลย”
“ลุงพูดจริง ถ้าเป็นแฟนหนู ลุงช่วยทุกเรื่องเลย ถ้าไม่ใช่ ลุงต้องขอคิดหน่อย ตอนนี้ตลาดมรกตเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ วัตถุดิบน้อยลงเรื่อยๆ ต่อไปราคาก็จะยิ่งสูง ถ้าจะมาเล่นๆก็อย่ามาเลย”
คำพูดของคุณอาชาญ ทำให้นิตาเหมือนลงจากหลังเสือไม่ได้
เธอมองดูเจตต์ รู้สึกกระดากเล็กน้อย พูดขึ้น“คุณอาชาญ ถ้าฉันบอกว่าเป็นเพื่อนชาย คุณลุงจะช่วยใช่ไหมคะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“งั้นถ้าคุณลุงว่าใช่ก็ใช่ค่ะ”
คำพูดของนิตาทำให้แววตาเจตต์เป็นประกาย แล้วสงบลง
“งั้นคุยกันง่าย หนูมาเขามาพบลุง เพื่อนชายของหนู ลุงจะต้องสกรีนดีๆ”
พูดจบ คุณอาชาญจึงวางสาย
นิตามองเจตต์อย่างเขินอาย พูดขึ้น“โทษทีนะคะ เมื่อกี้ถ้าไม่พูดแบบนี้ คุณอาชาญคงจะไม่ช่วยแน่ เขาเป็นคนดูแลตลาดมรกตที่นี่ จะหาใครก็ไม่สู้หาคุณลุง คุณแกล้งทำเป็นเพื่อนชายฉัน ก็จะได้แหล่งข้อมูลมาเพียบ”
“ผมพูดมาตลอด ไม่เคยรังเกียจที่จะเป็นเพื่อนชายของคุณ ผมพูดจริงๆ”
เจตต์พูดจบก็เตรียมลุกขึ้นจากไป
จู่ๆเขาก็รู้สึกอึดอัด
ใช่ว่าเขาจะต้องทำธุรกิจนี้เสียเมื่อไหร่กัน ใช่ว่าเขาจะต้องเข้าธุรกิจมรกตซะเมื่อไหร่ นิตาทำให้เขามองไม่ออก ในใจมีคำพูด ไม่สบอารมณ์ เขาอยากรู้เหลือเกินว่านิตาจะแสดงอย่างไรต่อ
นิตาเห็นเจตต์เดินออกไป คิดว่าเขารับไม่ได้ที่ใช้วิธีแบบนี้ในการได้มาซึ่งธุรกิจ
“เจตต์คะ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนเปิดเผย แต่ว่าบางเรื่องก็ต้องมีมาตรการบ้าง”
“เช่นอะไรล่ะ”
เจตต์มองนิตา แววตาเฉียบคมทำให้เธอรับไม่ไหว
นิตาชะงัก รู้สึกว่าคำพูดของเจตต์มีนัยยะ แต่ไม่รู้ว่าทำไม เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น“คุณอยากจะฟังตัวอย่างไหนล่ะคะ”
“ช่างเถอะ ผมออกไปสูดอากาศหน่อย คุณไม่ต้องตามมานะ”
เจตต์พูดจบจึงเดินออกไป
นิตามองตามเงาหลังของเขา ไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ จึงได้เดินกลับห้องโดยลำพัง
หลังจากเจตต์ออกไปแล้ว สายลมอ่อนก็โชยเข้ามา แต่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย ในใจยังคงขมุกขมัว แผดเผาเขาจนร้อนรุ่มเหลือกำลัง
เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีเพื่อนเลยจริงๆ คนที่เขาคิดถึงในตอนนี้คือบุริศร์กับนรมน
เจตต์โทรหานรมนทันที
บุริศร์ตื่นแล้ว ปวดหัวเหลือประมาณ
นรมนรีบไปชงชาให้เขา
ในเวลานี้เอง มือถือนรมนดังขึ้น
สายเรียกเข้าขึ้นชื่อเจตต์ บุริศร์มุ่นคิ้ว จากนั้นรับสาย
“นรมน นิตามีปัญหา คุณรู้มั้ย หล่อนรู้จักเจ้าพ่อมรกต คนที่จะรู้จักเจ้าพ่อมรกตได้ จะอยู่ในบริษัทท่องเที่ยวเล็กๆของคุณได้ไง คุณไม่คิดว่าควรตรวจสอบสักหน่อยเหรอ”
“มีปัญหาทำไมคุณไม่ตรวจสอบล่ะ”
บุริศร์เอ่ยออกไป เจตต์ตกตะลึง
เขาหยิบมือถือมาตรงหน้า เป็นของนรมนนี่นา!
“บุริศร์ สนุกนักเหรอ ผมโทรหานรมนคุณยุ่งอะไรด้วย ความเป็นส่วนตัวคุณรู้จักไหม คุณได้รับอนุญาตจากนรมนหรือยัง คุณถึงไปยุ่งกับมือถือเธอ”
เดิมทีเจตต์อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นบุริศร์มารับโทรศัพท์นรมนยิ่งอารมณ์ไม่ดี
บุริศร์ไม่ได้แสดงอาการโกรธใดๆ พูดเสียงเรียบ“นรมนชงชาให้ผมที”
“แหมๆๆ ความสุขของคุณนี่นะ!เมาแล้วยังหาเหตุผลอีก ต้องชงชาให้ดื่มสร่างเมา!บุริศร์ คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า ใช้ผู้หญิงแบบนี้ หน้าไม่อายเหรอ”
“ฟังแล้วรู้สึกคุณอิจฉานะเจตต์ คุณกำลังอิจฉาผมหรือเปล่า”
บุริศร์ยิ้มเรียบพูดขึ้น
เจตต์โมโหแทบระเบิด
“ผมอิจฉาเหรอ ล้อเล่นมั้ง!พี่เป็นใครครับ พี่เป็นคุณชายเจตต์เจ้าสำราญ!ผู้หญิงที่ผมเอาด้วยเยอะกว่าผู้หญิงที่คุณเคยเห็นอีก ยังมีหน้าพูดว่าผมอิจฉา อิจฉาบ้าบออะไร!”
“ไม่ต้องอิจฉาบ้าบอหรอก อิจฉาผมก็พอ ไม่เป็นไร ผมไม่ถือ”
“ถุย!กระดากบ้างไหมวะ บุริศร์ ผมค้นพบแล้ว ว่าดวงผมกับคุณไม่สมพงศ์กัน เท่านี้นะ!นรมนกลับมาแล้วให้โทรหาผมแล้วกัน”
เจตต์พูดจบจึงวางสาย
บุริศร์จ้องมองโทรศัพท์ รู้สึกสนุกใจ
เมื่อก่อนนึกเสมอว่าเจตต์คือตัวอันตราย ตอนนี้ผ่านอะไรต่อมิอะไรกับนรมนมาเยอะ ถ้ายังอ่านใจนรมนไม่ออก คงโง่เต็มทน
บุริศร์วางสาย นรมนก็กลับมา
“หัวเราะอะไร สบายอารมณ์ขนาดนี้”
“เจตต์โทรมา ผมรับสาย”
บุริศร์รับน้ำชาจากนรมนมาจิบ
อืม อุ่นๆ ช่างอุ่นใจเหลือเกิน
นรมนชะงัก มองท่าทียิ้มอ่อนของบุริศร์แล้วถามขึ้น“พวกคุณคงไม่ได้ทะเลาะอะไรกันใช่ไหม”
“แล้วผมจะไปทะเลาะกับเขาทำไม มีเขาฝ่ายเดียวที่ระเบิดอารมณ์ พอได้ยินว่าคุณไปชงชาให้ผม ก็โมโหจนตัวสั่น”
บุริศร์พูดเสียงเรียบ นรมนฟังแล้วรู้สึกชวนขัน
“คุณไปว่าอะไรเขาอีก”
“ผมจะไปว่าอะไรได้”
นรมนนั่งข้างบุริศร์ โอบแขนเขา“เจตต์มีความรักค่ะ เพราะงั้นคุณไม่ต้องระแวงอะไรแล้ว”
“ผมเปล่า เปล่าจริงๆนะ และถ้าเดาไม่ผิด คนรักของเขารู้สึกจะชื่อนิตา”
“คุณรู้ได้ไง”
นรมนประหลาดใจนัก
เห็นทีท่านรมนน่ารักขนาดนี้ บุริศร์จึงได้แต่ยิ้ม
เขาบีบจมูกนรมนเบาๆ พูดขึ้น“คุณบ้าไปแล้วหรือไง เจตต์เคยกลุ้มกับผู้หญิงคนเดียวซะที่ไหน พูดถึงปัญหาของนิตา ว่ารู้จักเจ้าพ่อมรกตอะไรสักอย่าง ให้คุณช่วยตรวจสอบ ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วๆไป เขาคงไม่ให้ความสำคัญ จะว่าไป ถ้าเขาคิดเผื่อคุณ ไปตรวจสอบเอง ยังจะต้องโทรหาคุณอีกเหรอ เห็นได้ชัดว่าว้าวุ่นใจ ไม่รู้ว่าควรทำไง ถึงได้โทรมาขอคำปลอบใจ”
พอฟังตรรกะของบุริศร์ นรมนรู้สึกว่าบุริศร์เชี่ยวชาญไปเสียทุกอย่าง
“คุณทำให้ฉันรู้สึกว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก ยังไง ประธานบุริศร์ จีบสาวมากี่คนแล้วคะ”
“แค่คุณคนเดียว ใช่ว่าไม่รู้สักหน่อย”
นรมนอมยิ้มขึ้น
“ฉันไม่เชื่อ”
“ต้องให้ผมสาบานไหมล่ะ?”
“ไม่ต้องขนาดนั้น”
นรมนหุบยิ้มไม่ลง
“อยากยิ้มก็ยิ้มเถอะ อย่าอั้นไว้เลย”
“บ้าเหรอ”
นรมนเล่นจ้ำจี้กับบุริศร์ครู่หนึ่ง ถามขึ้น“เจ้าพ่อมรกตอะไรนั่น ก่อนหน้าไม่เคยได้ยินเจตต์พูดถึงเลย”
“อยากไปดูมั้ย”
“คุณรู้จักเขาเหรอ”
นรมนตกตะลึง
“จะไปรู้จักได้ไง”
บุริศร์วางมือนรมนลงบนมือตน พูดเสียงค่อย“เจ้าพ่อมรกตคนนี้ชื่อชาญ เป็นทหารเกษียณ ข่าวว่าหลังบาดเจ็บ เบื้องบนให้เงินเขามาก้อนหนึ่ง พอเขากลับมาก็หาคนลงทุน ไปเหมามรกตมาจากพม่าจำนวนนึง จากนั้นได้ทองมาถังหนึ่ง ยิ่งทำยิ่งใหญ่โต แล้วเข้าครอบครองตลาดมรกต เรื่องนี้ผมได้ยินมาจากป้องอีกที ข่าวว่าเอกสารเกษียณผู้บังคับบัญชาการเป็นคนเซ็นด้วย”
นรมนไม่รู้ว่ายังมีเรื่องราวอีกมากแค่ไหน จึงถาม“แล้วเกี่ยวอะไรกับนิตาล่ะคะ”
“เรื่องนี้ต้องไปถามชาญแล้วล่ะ ผมไม่ใช่เขา ผมไม่รู้หรอก ถ้าคุณสนใจ พวกเราไปด้วยกันก็ได้”
“จริงหรือคะ คุณจะอยู่ฝังศพที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ไง แต่ไม่รีบ พรุ่งนี้พวกเราฝังป้าโอแล้ว ก็ให้คนงานฝัง พวกเราออกไปกัน”
ได้ยินบุริศร์กล่าว นรมนดีใจมาก
“ตกลงค่ะ พากานต์ออกไปเปิดหูเปิดตาด้วย”
บุริศร์เห็นนรมนดีใจ จึงพูดอย่างเซ็งๆ“ทำไมตอนนี้คิดถึงแต่ลูกเล่า”
“บ้าเหรอ นั่นลูกชายฉันนะ ฉันจะไม่คิดถึงเขาได้ไง อีกอย่าง กานต์เองต่อไปก็ไม่รู้จะทำไร พาเขาออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ดี”
“ได้ๆๆ คุณว่าไงว่ากัน ตอบโทรศัพท์เจตต์เถอะ ไม่งั้นเขาคงคลุ้มคลั่ง”
บุริศร์ยัดโทรศัพท์ใส่มือนรมน ยิ้มแล้วพูด“ผมไปดูลูกหน่อย!”
“อะไร ไปดื้อๆแบบนี้นะ ไม่กลัวเจตต์คิดว่าเรานินทาเหรอ”
“คุณไม่หรอก แต่ถ้าเจตต์พูดอะไร คุณก็ไม่ต้องสนใจ”
บุริศร์ยักคิ้ว หมุนตัวกลับเข้าห้อง
นรมนรู้สึกบุริศร์เปลี่ยนราวคนละคน เขามีเหตุผลมาก
เธอโทรกลับเจตต์อย่างสบายอารมณ์
“ฮัลโหล เจตต์คะ หาฉันมีอะไร เรื่องเจ้าพ่อมรกตฉันจะเล่าให้ฟัง ข่าวว่าเก่งมากเลย คุณต้องตั้งใจเรียนรู้นะ”
พอโทรติดนรมนก็เปิดปากพูดทันที แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ตอบอะไร
“ฮัลโหล เจตต์ ได้ยินมั้ยคะ”
นรมนคิดว่าสัญญาณไม่ดี จึงถามขึ้น
แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับเป็นเสียงนิตา
“สวัสดีค่ะ เลขาไพลินใช่มั้ย ฉันนิตาเป็นแฟนเขาค่ะ คุณมีธุระกับเขาหรือคะ เขาไปห้องน้ำ เดี๋ยวมาค่ะ”
คำพูดนิตาทำให้นรมนชะงัก
เลขาไพลินเหรอ
อะไรกันเนี่ย?