แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 747
บทที่ 747 เราต่างคนต่างดูแลตัวเองให้ดี
“คุณเนี่ยน้า กลัวแต่จะทำร้ายเจตต์ ผมก็เสียใจนะ”
นรมนเอียงหัวมองบุริศร์ ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “เสียใจเหรอ? ให้ฉันดูใจของคุณหน่อยว่าปวดไหม?”
ระหว่างที่พูดมือของเธอก็ลูบๆอยู่บนอกของบุริศร์ แล้วก็หยิกอย่างแรงหนึ่งที
“โอ๊ย!”
บุริศร์เจ็บจนร้องออกมา แล้วก็พิงไปบนเบาะทันที: “ไม่ไหวแล้ว ผมบาดเจ็บ ขับรถไม่ได้”
“อย่ากวนสิ บุริศร์ เร็วๆ มดลูกเธอได้รับบาดเจ็บ ชักช้าจะเป็นอันตรายได้นะ ต่อให้ไม่ทำเพื่อเจตต์ ก็นึกถึงโสธรหน่อย”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์นั่งตัวตรง
“คุณน่ะ ปากร้ายใจอ่อนจริงๆเลย”
“ฉันทำเพื่อทดแทนบุญคุณของเจตต์ ชีวิตนี้เขาต้องเดินต่อไปให้ได้”
บุริศร์ส่ายๆหน้า แต่ทว่าก็เลี้ยวรถกลับมา
นิตาปวดจนร่างกายสั่นเทิ้ม แต่เห็นรถเลี้ยวกลับมา ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
นรมนลงมาจากรถ พูดอย่างเย็นชา: “ขึ้นรถ ฉันจะส่งเธอไปโรงพยาบาล”
“ฉันไม่ต้องการความเสแสร้งทำดีของเธอ”
นิตาปวดจนหน้าถอดสี แต่ยังคงมองนรมนอย่างดื้อรั้น ปฏิเสธความช่วยเหลือ
นรมนเองก็สีหน้าไม่ดีนัก
“ฉันไม่ได้ทำเพื่อเธอ ฉันทำเพื่อเจตต์ ถ้าเขาฟื้นขึ้นมา แล้วเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันจะอธิบายไม่ได้ อีกอย่างเธอเป็นแฟนเจตต์ไม่ใช่เหรอ? ไม่ควรคอยอยู่ดูแลเขาหรือไง? ถ้าสุขภาพเธอพังแล้วใครจะคอยดูแลเขา? รอให้เจตต์ฟื้นก่อน พวกฉันก็จะไป ดังนั้นในเมื่อเธอแน่ใจว่าตัวเองเป็นแฟนของเขา ก็รีบๆขึ้นรถ อย่ายืดยาด ฉันไม่มีเวลามากมายมาต่อปากต่อคำกับเธอ”
คำพูดของนรมนทำให้นิตางงงัน
“เธอจะไปแล้ว? เธอไม่สนใจเจตต์แล้วงั้นเหรอ?”
“เขามีเธอแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันจะอยู่ทำอะไรล่ะ?”
นรมนพูดอย่างเมินเฉย
นิตาโดนตอกกลับมาในทันที
“ฉัน ฉันไม่มีอำนาจอย่างเธอ แล้วฉันก็ต่อต้านชาญไม่ไหวด้วย ถ้าหากชาญทำอะไรเจตต์อีกจะทำยังไง?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของเธอ ชาญก็ไม่หาเรื่องเจตต์อยู่แล้ว ดังนั้นแค่เธอไม่ทำเรื่องแย่ๆ เจตต์ก็จะไม่มีปัญหา อีกอย่างเจตต์เป็นคนยังไง? เรื่องนี้เขาจัดการเองได้อยู่แล้ว ไม่ต้องให้พวกฉันช่วยเหลือหรอก เธอประเมินเขาต่ำเกินไป รีบๆขึ้นรถเถอะ”
นรมนพูดจบก็ขึ้นรถ
นิตากำลังเปิดประตูด้านหลัง ก็ลังเลขึ้นมา
แต่ความเจ็บปวดทำให้เธอตาสว่างอย่างฉับพลัน
ไม่ว่านรมนจะช่วยเธอเพราะอะไร เธอก็ต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้ เธอยังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังไม่ได้ทำ
นึกถึงตรงนี้ นิตาจึงรีบขึ้นรถ แล้วปิดประตู
“เธออย่าคิดว่าฉันจะขอบคุณเธอนะ”
“ฉันก็ไม่กล้าเพ้อฝันขนาดนั้นหรอก”
นรมนพูดอย่างเมินเฉย แล้วจึงพิงเบาะพักสายตา
บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร เพียงขับรถไปโรงพยาบาล
นิตาโดนส่งเข้าไปในโรงพยาบาล โดยที่นรมนไม่ได้ตามไปด้วย แต่ไปหาเจตต์ที่ห้องคนไข้กับ บุริศร์เป็นอย่างแรก
“โย่ว ตื่นแล้วเหรอ? เอาตัวรอดเก่งพอตัวเลยนะ”
นรมนเห็นเจตต์ตื่นแล้ว จึงรีบเดินเข้าไปใกล้ๆ ใช้มือจิ้มๆตามบาดแผลบนร่างกายของเจตต์
“โอ๊ย เจ็บ! นรมน เธอจงใจใช่ไหมเนี่ย?”
เจตต์เจ็บจนหน้าเหยเก เห็นบุริศร์ที่ด้านหลังของนรมน จึงพูดขึ้น: “บุริศร์ นายดูแลผู้หญิงของนายหน่อยได้ไหม?”
“ผู้หญิงของฉันแตะนายถือเป็นเกียรติของนายนะ อย่าคร่ำครวญ”
คำพูดนิ่งๆของบุริศร์เกือบจะทำให้เจตต์ควันออกหูแล้ว
“ให้ตายเถอะ ตอนนี้เธอสองคนเป็นพวกเดียวกัน รวมหัวกันรังแกฉันที่หัวเดียวกระเทียมลีบสินะ?”
“นายหัวเดียวกระเทียบลีบที่ไหนล่ะ? ยังมีนิตาแฟนของนายอยู่เป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดของนรมนทำให้เจตต์กังวลขึ้นมาทันที
“ใช่สิ พวกเธอเห็นนิตาไหม? เธอเป็นไรหรือเปล่า? คนพวกนั้นทำร้ายเธอไหม?”
ระหว่างที่พูดเจตต์ก็จะลุกขึ้น แต่โดนนรมนกดเอาไว้ทันที
“นายยังมีใจจะห่วงคนอื่นอีก? ตัวเองเป็นอย่างนี้แล้ว คิดจะย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆเหรอ? นิตามีปัญหา ฉันเคยเตือนนายแล้วใช่ไหม? ทำไมนายถึงโง่ทำเพื่อเธอจนแทบจะไม่เอาแม้แต่ชีวิตตัวเองแล้ว? เจตต์ นาย……”
“เธอช่วยฉัน ก็แทบจะไม่เอาชีวิตเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดของเจตต์ทำให้นรมนชะงัก
“เธอจงใจเข้าใกล้นาย นายไม่ชัดเจนเหรอ?”
“ต่อให้จงใจ มอบโอกาสให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่จะได้เป็นแม่คนในชีวิตนี้ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วไหม?”
เจตต์ฝืนยิ้มพูดขึ้น
นรมนเข้าใจอะไรขึ้นมาทันที
“นายหลงรักเธอจริงๆงั้นเหรอ? แม้ว่าจิตใจของเธอจะเต็มไปด้วยความไม่ถูกต้อง แม้ว่าเธอจะมีแผนการอื่นกับนาย นายก็ยังจะถลำลึกลงไปใช่ไหม?”
เจตต์หายใจเข้าลึกๆ พูดขึ้น: “นรมน ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงฉัน แล้วฉันก็รู้ว่า พวกเธอกลัวฉันโดนหลอก รู้สึกว่านิตาไม่จริงใจ ฉันยอมรับ ตอนที่ฉันรู้ว่าเธอเข้าใกล้ฉันเพราะมีจุดประสงค์อื่น ฉันก็โกรธมาก ฉันถึงกับคิดจะหาหลักฐานมาทำให้เธอขายหน้า แต่ตอนที่ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นใช้มีดจี้ไว้ที่คอของเธอ ตอนที่ฉันเห็นเลือดของเธอไหลออกมาในวินาทีนั้น ใจของฉันก็อึดอัดไปหมด ตอนนั้นฉันก็รู้เลยว่าฉันแย่แล้ว”
พูดถึงตรงนี้ เจตต์ก็ฝืนยิ้มอีกครั้ง: “ฉันไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โดนผู้หญิงคนนี้ดึงดูดเอาไว้ อาจจะเป็นตอนแรกเริ่มที่เธอไม่ได้เสแสร้ง อาจจะเป็นคืนวันนั้นที่ได้นั่งคุยกันยาวๆ อาจจะเป็นอาจจะที่หลายครั้งมากๆ ฉันรู้แค่ว่า ถ้าเธอยังยินยอมที่จะเล่นละครกับฉันต่อไป ถ้ายังยินยอมที่จะอยู่ข้างกายฉันต่อไปอย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นแผนการเลวร้ายอะไร หรือจุดประสงค์อื่นๆ ฉันก็ยอม”
นรมนตะลึงงัน
เธอไม่คิดว่าเจตต์จะถลำลึกลงไปขนาดนี้
บุริศร์เดินเข้ามาตบไหล่เขาเบาๆ: “ยินดีด้วยนะ นายมีความรักแล้ว”
“น้อยๆหน่อย นายคิดว่านายไม่มีภัยคุกคามแล้วล่ะสิ? บุริศร์ฉันบอกนายไว้เลยนะ อย่าคิดว่าต่อไปฉันจะไม่ใส่ใจนรมนแล้ว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่ฉันหวั่นไหว แล้วก็เป็นเพื่อนสนิทของฉันตลอดไป ถ้านายกล้าทำไม่ดีต่อเธอ ฉันจะพาเธอหนีไปได้ตลอดเวลา”
คำพูดของเจตต์ทำให้บุริศร์ยิ้มขึ้นมา
“ดูแลตัวนายเองให้ดีเถอะ นรมนมีฉัน เราจะไปแล้ว ยังมีเรื่องอีกมากมายรอให้พวกฉันไปจัดการ ในเมื่อนายไม่เป็นไรแล้ว เรื่องที่เหลือพวกเราคิดว่านายรับมือได้ แต่ถ้านายต้องการความช่วยเหลืออะไร โทรหาเราได้ตลอดนะ ไม่ว่าจะพูดยังไง นรมนยกให้นายเป็นเพื่อนสนิท ฉันก็ยอมรับด้วย”
คำพูดของบุริศร์ทำให้เจตต์ชะงัก
“พวกนายจะไปแล้ว? เร็วขนาดนี้เลย?”
“ไม่เร็วหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะนายเข้าโรงพยาบาล เราก็ไม่ได้จะมาอยู่แล้ว”
บุริศร์มองเจตต์ด้วยสีหน้าเอือมระอา
เจตต์ก็ไม่แคร์หรอกว่าเขาจะพูดอะไร
เขากำลังมองนรมน แล้วถามขึ้น: “นิตาล่ะ?”
“เธอ……”
“ฉันอยู่นี่ เพิ่งจะออกไปซื้อผลไม้มานิดหน่อย ก็ประธานนรมนกับประธานบุริศร์มาแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันจะไม่ให้พวกเขากินอะไรเลยได้ยังไง? อีกอย่างค่าผ่าตัดอะไรต่างๆ ประธานนรมนก็เป็นคนจ่าย เจตต์ ในเมื่อคุณตื่นแล้ว ก็คืนเงินประธานนรมนไปเถอะ”
นิตาผลักประตูเข้ามาทันที ในมือกำลังถือถุงผลไม้อยู่
นรมนได้ยินเธอพูดอย่างนี้ ก็เบื่อหน่ายขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าที่เธอกับบุริศร์ยังไม่ไป อยู่รอเจตต์ฟื้นขึ้นมาก็เพื่อเงินเล็กน้อยอย่างนั้น
เจตต์ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยน่าฟัง ขมวดคิ้วเล็กน้อยพูดขึ้น: “นรมนกับบุริศร์ไม่ใส่ใจเงินเล็กน้อยนี่หรอก”
“ใช่ ประธานนรมนไม่ใส่ใจ แต่คุณจะไม่คืนให้เธอไม่ได้ อีกอย่างจะพูดยังไง ในช่วงเวลาสำคัญประธานนรมนให้เงินช่วยชีวิตคุณ น้ำใจนี้พวกเราต้องคืน ขอโทษนะ เพราะฉันไม่ดีเอง หลายปีนี้ก็ไม่ได้เก็บเงินไว้เลย คุณเกิดเรื่อง จนต้องเข้าโรงพยาบาล ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ฉันหมดหนทางจริงๆจึงต้องโทรหาประธานนรมน”
นิตาพูดๆแล้วก็ก้มหน้าลง ท่าทางจะร้องไห้อยู่ตลอด
นรมนก็ไม่เคยเจอผู้หญิงที่แสดงละครเก่งขนาดนี้มาก่อน เธอโมโหจนอยากจะเข้าไปพูดอะไร แต่กลับโดนบุริศร์ดึงเอาไว้
“ไม่เป็นไร พอดีพวกฉันอยู่ใกล้ๆ อีกอย่าง เจตต์ก็เคยช่วยเหลือพวกฉัน”
บุริศร์พูดขึ้นอย่างพอดีๆไม่แข็งกร้าวและไม่ถ่อมตนเกินไป
เจตต์ชะงักเล็กน้อย แล้วหยิบบัตรใบหนึ่งส่งให้นิตา
“เอาไปเก็บไว้ รหัสคือเลขแปดแปดตัว เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน”
“ฉันไม่เอา ฉันไม่ได้เข้าหาคุณเพื่อเงินนะ แล้วฉันก็ลาออกกับประธานนรมนแล้วด้วย ช่วงนี้จะได้ดูแลคุณให้เต็มที่ คุณสบายใจได้”
นิตาไม่ได้รับบัตรของเจตต์ แต่ทว่าคำพูดกลับทำให้นรมนชะงักงัน
ไม่นึกว่าเธอจะไม่บอกเจตต์ว่าตัวเองเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเอง แต่กลับบอกว่าตัวเองลาออก นี่หมายความว่าไงกันแน่?
แต่เจตต์กลับยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ลาออกก็ลาออก ถ้าคุณอยากจะทำ เดี๋ยวผมจะเปิดบริษัทให้คุณบริหารเอง”
นรมนแค่ได้ฟัง ก็กลุ้มใจขึ้นมาทันที
“เจตต์ นี่นายคิดจะแข่งกับฉันเหรอ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกหน่า ฉันแค่คิดว่า จะช้าจะเร็วเธอกับบุริศร์ก็ต้องกลับเมืองชลธี บริษัทท่องเที่ยวที่นี่ก็ไม่มีคนดูให้พวกเธอ เธอลองดูว่าแบบนี้ดีไหม ฉันลงหุ้นให้นิตา แล้วให้เธอเป็นคนดูแล ส่วนพวกเธอแค่รอรับส่วนแบ่งก็พอ ดีไหม?”
คำพูดของเจตต์ทำให้นรมนไม่รู้จะพูดยังไงดี
เธอมุ่งมั่นตั้งใจกับบริษัทท่องเที่ยวมากจริงๆ แต่ถ้าจะมอบบริษัทท่องเที่ยวให้นิตา เธอก็รู้สึกว่าไม่สบายใจ
“นายจะไม่กลับไปเมืองชลธีแล้วเหรอ?”
บุริศร์ถามคำถามที่นรมนอยากถามออกไปตรงๆ
เจตต์ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ฉันมันตัวคนเดียว อยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน พรรษายังมีลูกชายอีกคนไม่ใช่หรือไง? ถ้าอยากให้ลูกชายทำหน้าที่ลูกกตัญญูอยู่ข้างๆ ก็ไปหาพฤกษ์ได้ ฉันไม่อยู่เมืองชลธี พวกเขาสามคนถึงจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ส่วนแม่ของฉัน เดี๋ยวฉันจะหาสถานพักฟื้นที่ด้านนี้ดูอีกครั้ง แล้วให้เธอย้ายมา ที่นี่วิวทิวทัศน์ไม่เลวเลย อากาศก็ดี ฉันรู้สึกว่าอยู่ที่นี่ก็สงบสุขดี”
นรมนเข้าใจความหมายของเจตต์แล้ว
เพื่อนิตาผู้หญิงคนนี้ เขาจึงวางแผนจะอยู่ที่นี่
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆนรมนก็รู้สึกทนไม่ได้
“เจตต์ เมืองชลธีสิที่เป็นรากฐานของนาย”
“คนอย่างฉันเธอก็รู้ดี อยู่ที่เมืองชลธีฉันไม่มีความสุข กลับเป็นที่นี่ซะอีก ที่รู้สึกดีกว่า ดังนั้นไม่ต้องโน้มน้าวฉันแล้ว ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ นรมน บุริศร์ เราต่างคนต่างดูแลตัวเองให้ดีกันเถอะ”
จู่ๆเจตต์ก็รู้สึกเศร้าใจ
เขามองนรมน ยังคงมีความอาลัยอาวรณ์หลงเหลืออยู่บ้าง แต่เขารู้ว่า ต่อไปหัวใจของตนเองจะไม่อยู่ที่นรมนอีกแล้ว
เขามีเป้าหมายใหม่แล้ว ชีวิตนี้เขาอยากจะคว้าผู้หญิงที่เป็นของตัวเองเอาไว้
เขาทำใจไม่ได้ เขาเสียใจ ถึงกับเสียดายเล็กน้อย แต่เจตต์รู้ว่า เส้นทางชีวิตของเขากับนรมน คลาดเคลื่อนกันไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
สายตาของนิตาที่มองเจตต์ตอนที่กำลังมองนรมน จู่ๆก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา