แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 748
บทที่ 748 คุณสิถึงจะเป็นปัจจุบันของผม
“เจตต์ อาการบาดเจ็บของคุณต้องการการพักผ่อนนะ คุณรีบนอนลงเถอะ”
นิตารีบเดินเข้าไปใกล้ๆ ยืนอยู่ระหว่างเจตต์กับนรมน ขวางสายตาของเจตต์ที่มองนรมนเอาไว้
นรมนรู้ว่านิตาตั้งใจ แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไร เหมือนกับที่เจตต์พูดเอาไว้ ระหว่างพวกเขาบางทีต่อไปอาจจะไม่เหมือนเดิม
พวกเขาคงไม่สามารถนั่งทะเลาะกันตามอำเภอใจได้อีกแล้ว ไม่ใช่เพราะความรู้สึกพวกนั้นไม่อยู่แล้ว แต่เป็นเพราะต่างคนต่างก็มีคนรัก จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงความระแวง ต้องนึกถึงความรู้สึกของพวกเขา
จู่ๆนรมนก็รู้สึกเสียใจ
บุริศร์ดึงเธอเข้ามาใกล้ๆอ้อมอกของเขา พูดอย่างอ่อนโยน: “ไม่ค่อยสบายใช่ไหม? หรือเหนื่อยเกินไป? ตอนที่นั่งเครื่องบินมาที่นี่คุณก็ไม่ได้พักเลย ไม่งั้นเรากลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่า”
เจตต์ได้ยินว่านรมนไม่ได้พักผ่อน จึงรีบพูดขึ้น: “นรมน เธอไม่ต้องสนใจฉันหรอก ฉันน่ะหนังหนา เหมือนแมว เธอก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ กลับไปพักผ่อนเถอะ บุริศร์ ดูแลเธอให้ดี ถึงฉันจะไม่สามารถใช้ฐานะของคนที่ตามจีบพาเธอหนีไปได้ แต่ถ้านายทำให้เธอน้อยใจอีก ฉันจะใช้ฐานะของเพื่อนสนิทพาเธอหนีไป นายก็รู้ว่า ฉันทำได้”
“ฉันรู้ ใช้ชีวิตของนายให้ดีเถอะ เจตต์ ฉันกับนรมนหวังว่านายจะมีความสุข ถ้าภายในความสุขของนายไม่ต้องการพวกฉัน เราก็จะถอยออกมา แค่หวังว่านายจะใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น”
คำพูดของบุริศร์ทำให้เจตต์งุนงง
“หมายความว่าไง?”
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันว่าประธานบุริศร์คงไม่อยากจะรบกวนพวกเรา”
นิตามองบุริศร์ด้วยความกังวล
เธอเอาแต่ระวังว่านรมนจะพูดอะไรออกมา กลับไม่ได้คิดว่าบุริศร์จะเป็นฝ่ายพูด
ในสายตาของนิตา บุริศร์เป็นคนนิ่งๆ เป็นผู้ชายที่เงียบขรึม ปกติจะไม่ยุ่งเรื่องของผู้หญิง แต่ตอนนี้คำพูดเหล่านั้นของเขาทำให้นิตาหวาดหวั่น
นรมนกำลังมองนิตาอยู่ อยากจะให้เจตต์รู้หน้าตาที่แท้จริงของนิตาเหลือเกิน แต่เธอยังต้องอดทนเอาไว้
เจตต์ถลำลงไปแล้ว เขาถึงกับอภัยให้กับเจตนาร้ายของนิตาได้ งั้นเธอจะพูดอะไรได้ล่ะ?
นรมนจับมือบุริศร์เอาไว้แน่น พูดกับเจตต์ด้วยรอยยิ้ม: “เจตต์ พวกเราไปก่อนนะ ต่อไปนายต้องมีความสุขนะ ฉันขออวยพรให้นายมีความสุขจากใจจริง ตอนที่กลับไปเมืองชลธี อย่าลืมมาบอกลาพวกเราล่ะ”
“อื้ม”
เจตต์ก็มองออกว่านรมนทำใจไม่ได้และเศร้าใจ
พอใจแล้ว!
เพียงพอแล้ว!
แม้ในใจของนรมน เขาจะไม่ได้สำคัญเหมือนบุริศร์ แต่ในนาทีนี้ เจตต์รู้สึกว่าในใจของนรมนตนเองก็ไม่ได้ด้อยค่าขนาดนั้น เธอเป็นห่วงเขา แคร์เขา แม้จะไม่ใช่ความรัก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาปิดฉากรักข้างเดียวของตนเองด้วยความพึงพอใจแล้ว
“ฉันก็ขอให้พวกเธอตั้งแต่นี้ต่อไปสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขตลอดไปนะ”
“ขอบใจ”
บุริศร์ยิ้มๆ พานรมนออกไป
ต่อไปนิตากับเจตต์จะเป็นอย่างไร พวกเขาไม่รู้หรอก แต่ในตอนนี้ พวกเขารู้ว่า พวกเขาเป็นส่วนเกิน
อย่างน้อยที่สุดในโลกของนิตากับเจตต์ พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องปรากฏตัวออกมาอีกแล้ว
นรมนออกมาจากโรงพยาบาลกับบุริศร์ รู้สึกอึดอัดใจมาก
“บุริศร์ ฉันรู้สึกไม่ดีเลย ไม่ใช่เพราะเจตต์เจอกับความรักแล้ว แต่เพราะฉันรู้สึกว่านิตาไม่ใช่คนดีของเขา ฉันกลัวเขา……”
“ใครจะบอกได้ว่าใครเป็นคนดีของใครล่ะ? ตอนที่ยังไม่ได้เจอกับโฉมหน้าที่แท้จริงของนิตา คุณก็รู้สึกว่านิตากับเจตต์เหมาะสมกันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ที่รู้สึกว่าไม่เหมาะสม ก็เป็นเพราะคุณรู้เรื่องราวบางอย่าง เจตต์เองก็รู้ถึงเจตนาที่ไม่ดีของนิตา แต่ยังคงยินยอมที่จะอยู่กับเธอ นี่เป็นสิ่งที่เขาเลือก นรมน ไม่ว่าคุณจะเป็นห่วง ไม่ว่าคุณจะเสียใจ ก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่เจตต์รักนิตาไม่ได้ ต่อไปถ้าชีวิตของเขามีความสุขชื่นมื่นแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าวันหนึ่งเจตต์โดนทำร้ายจนถลอกไปหมดทั้งตัว ผมกับคุณค่อยพาเขาไปรักษาอาการบาดเจ็บด้วยกัน เขาไม่ได้ตัวคนเดียว ด้านหลังเขายังมีเรา เขาเป็นห่วงคุณ ให้ผมดีกับคุณสักหน่อย บอกว่าถ้าผมไม่ดีกับคุณจะพาคุณหนีไปด้วยฐานะของเพื่อนสนิท ลองกลับมาคิดดู เขาก็เคยบอกคุณไม่ใช่เหรอ ว่าคุณเป็นคนสนิทของเขา เป็นที่หลบภัยสุดท้ายของเขา”
คำพูดนี้ของบุริศร์ทำให้นรมนตาแดงขึ้นมาทันที
“ใช่เหรอ? ใช่ความหมายนี้เหรอ?”
“เชื่อผม ไม่มีใครเข้าใจเจตต์ไปมากกว่าผม เขาดูเหมือนยอมแพ้พวกเรา แต่ในความเป็นจริงก็อยากจะเดิมพันกับความรักที่เป็นของตัวเองสักครั้ง ถ้าชนะ ทุกคนก็มีความสุข ถ้าแพ้ เขายังมีเรา เราควรจะอวยพรเขา พูดจากอีกมุมหนึ่ง ในที่สุดเขาก็มีความรักแล้วไม่ใช่เหรอ?”
นรมนกำลังมองบุริศร์ เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าเขาพูดเกลี้ยกล่อมเก่งจริงๆ
“แต่ในใจของฉันยังรู้สึกไม่ดีเลยจะทำยังไง?”
นรมนเม้มปากออดอ้อน
อายุขนาดนี้แล้ว ยังจะอ้อนอีก เธอเองก็รู้สึกเคอะเขินขึ้นมา แต่บุริศร์กลับยิ้ม: “งั้นให้ผมเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อไหม?”
“นี่ต้องมีอยู่แล้วสิ ฉันอยากกินของอร่อยๆหลายอย่างเลย ฉันยังอยากซื้อของเยอะๆ ใช่สิ ฉันลืมเอาหยกที่ได้มาจากชาญให้พวกเขา ถือเป็นของขวัญแสดงความยินดีของพวกเขา”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ส่ายหน้า
“พวกเขาจะไปด้วยกันได้ไหมยังไม่แน่นอนเลย รอให้พวกเขาตัดสินใจแต่งงานกันก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกทีเถอะ”
“ก็ดี ไปกันเถอะ ประธานบุริศร์ เราไปหาอะไรกินกัน”
นรมนคล้องแขนของบุริศร์เอาไว้
ด้วยการอบรมของบุริศร์ ตอนนี้เธอสบายใจแล้ว พิงอยู่ข้างกายของบุริศร์ราวกับนกน้อยที่พึ่งพิงความอ่อนโยนจากมนุษย์
บุริศร์พบว่า เพียงแค่นรมนมีความสุข เขาก็จะมีความสุข ความรู้สึกอย่างนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ ทำให้เขามีความสุขเสมอเลย
ทั้งสองคนไปกินของอร่อยด้วยกัน แล้วบุริศร์ก็พาเธอไปชอปปิ้ง ซื้อของตามอำเภอใจ
เจตต์ได้เห็นนรมนกับบุริศร์ท่าทางมีความสุขเบิกบานใจจากในวีแชทโมเมนต์ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น: “ในที่สุดเธอก็สมปรารถนาแล้ว แปดปีก่อนเธอก็ปรารถนาชีวิตแบบนี้ ในที่สุดวันนี้ก็ได้รับการดูแลทุ่มเทสุดหัวใจจากผู้ชายคนนี้ หวังว่ารอยยิ้มของเธอจะมีความสุขชื่นมื่นอย่างนี้ไปโดยตลอดจริงๆ”
นิตาเห็นสีหน้าท่าทางของเจตต์ ก็เดินเข้าไปใกล้ๆเก็บมือถือของเขาด้วยความอิจฉา
“เธอมีความสุขก็เป็นเรื่องของเธอ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เธอไม่ใช่คนรักที่คุณจะให้ความสนใจอีกแล้ว เจตต์ คุณเคยบอกว่า คุณเป็นแฟนของฉัน มองผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าฉันที่เป็นแฟนของคุณนี่ดีจริงๆงั้นเหรอ?”
เจตต์งุนงงเล็กน้อย แล้วจึงยิ้มออกมา: “คุณหึงเหรอ?”
“ฉันไม่โหดร้ายกับตัวเองหรอกนะ ฉันจะหึงทำไม? ก็แค่เห็นคุณทำท่าทำทางลึกซึ้งแล้วมันขัดตาก็แค่นั้น”
เจตต์ยิ่งยิ้มอย่างอวดดี
“หึงก็หึงสิ ทำไมถึงต้องไม่ยอมรับด้วย? นิตา ที่ผมเจ็บไปทั้งตัวนี่เพื่อใครกัน? คุณยังสงสัยอะไรผมอีก? นรมนเป็นอดีตไปแล้ว ตั้งแต่แรกผมเป็นคนที่กวนใจเธอ ตอนนี้ปล่อยเธอไป เธอดีใจแทบจะไม่ทัน คุณสิถึงจะเป็นปัจจุบันของผม”
เจตต์กอดนิตาเอาไว้
นิตาชะงักงันขึ้นมาทันที
“ฉันไม่มีอะไรเลย แล้วฉันก็เป็นลูกกำพร้าด้วย ฉัน……”
“งานแต่งงานของผมอิสระ ไม่ต้องมีผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย แล้วก็ไม่ต้องมีพ่อแม่สามีมาคอยบงการคุณ อยู่กับผม คุณสามารถใช้ชีวิตได้ตามที่คุณต้องการ นิตา ไม่ว่าจะมีสถานการณ์ที่ยากลำบากอะไร ผมสามารถจัดการให้คุณได้ แค่หวังว่าคุณจะไม่หลอกลวงผม คนอย่างผมคุณก็รู้ ถ้าให้ใจไปแล้ว ก็ไม่ง่ายที่เอาคืนกลับมา ผมให้คุณได้ทุกอย่างในสิ่งที่คุณต้องการ แม้จะเป็นชีวิตของผม สิ่งเดียวที่ผมขอร้องจากคุณก็คือ อย่าหลอกผม!”
เจตต์กำลังมองนิตา พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
นิตาประหม่าขึ้นมาทันที แล้วจู่ๆก็เบือนหน้าหนี
“ฉันไม่ได้หลอกอะไรคุณ”
เธอกัดริมฝีปาก สีหน้าท่าทางยุ่งเหยิง
เจตต์กำลังมองเธอ มองอยู่พักใหญ่ ไม่ใช่ไม่ผิดหวัง เขาเคยให้โอกาสนิตาแล้ว แต่เพราะอะไรเธอถึงไม่สารภาพกับเขาล่ะ?
เพียงแค่เธอสารภาพ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร จุดประสงค์อะไร เขาก็จะให้อภัยเธอ
ทำไมไม่พูดล่ะ?
ในใจของเจตต์กำลังร้องตะโกน แต่กลับทนไม่ได้
นิตาไม่กล้ามองตาเจตต์ นั่งอยู่ด้วยความอึดอัดใจ จึงรีบลุกขึ้นพูด: “ฉันจะไปตามหมอให้มาดูคุณหน่อย”
พูดจบ เธอก็วิ่งออกไปราวกับจะหลบหนี
นิตาที่วิ่งออกมาพิงกำแพงพักหายใจอยู่บนทางเดิน
หลอกเขางั้นเหรอ?
พูดได้เหรอ?
ถ้าบอกได้ เธอก็บอกไปตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้เธอจะทำอย่างไรดี?
เธอก็ชอบเจตต์เข้าแล้ว
ตอนที่เจตต์พุ่งเข้ามาช่วยเธอโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองอย่างนั้น เธอก็ตกหลุมรักเขาแล้ว
ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะต้านทานความอ่อนโยนของเจตต์ได้หรอกใช่ไหมล่ะ?
แต่เธอ……
นิตาร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดอยู่เงียบๆ
น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของเธอ เธอทำได้เพียงร่ำไห้โดยไม่ส่งเสียง
บางบาดแผล เธอไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้ บางความเจ็บปวด เธอทำได้เพียงแบกรับไว้ด้วยตนเอง ในเมื่อคนๆนั้นเป็นคนที่เธอรักที่สุด ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่อยากให้เขารู้ว่าตนเองไม่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากให้เขารู้ถึงด้านมืดของตนเองที่ต่ำช้าไร้ยางอาย
นิตากัดปากร้องไห้อยู่สักพัก ถึงเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วเดินไปที่ห้องทำงานหมอ
ไม่ว่าจะอย่างไร เธอจะอยู่ข้างกายเขา เธอจะอยู่เป็นเพื่อนเขา ไม่ว่าจะนานขนาดไหน เธอแค่อยากอยู่กับเขา
แล้วเจตต์จะมีความสุขจริงๆเหรอ?
เขารอคอยให้นิตาสารภาพกับตนเองมาโดยตลอด วันนี้พูดถึงขนาดนี้แล้ว เธอยังไม่ยอมพูดอีก เพราะพูดไม่ได้ หรือว่ามีความในใจอย่างอื่น?
เจตต์ไม่รู้เลย
เขารู้สึกได้ถึงความใส่ใจที่นิตามีต่อเขา แต่ภายในความใส่ใจนี้มีความจริงใจอยู่เท่าไหร่กันแน่?
เจตต์เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึก เขาสามารถมอบความทุ่มเททั้งใจให้ได้ โดยที่อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องตอบสนองเขา แต่อย่างน้อยที่สุดอีกฝ่ายต้องมีความจริงใจ
ก็เหมือนกับนรมน เธอไม่รักเขาก็บอกไม่รัก ไม่ให้โอกาสใดๆกับเขาเลย แต่สำหรับนิตา เขาจะทำอย่างไรดีล่ะ?
เจตต์พิงอยู่ที่หัวเตียง จุดบุหรี่มวนหนึ่งขึ้นมาด้วยความวุ่นวายใจ
ตอนที่นิตากลับมา ก็เห็นเจตต์กำลังสูบบุหรี่
เธอจึงแย่งบุหรี่มา
“คุณไม่อยากอยู่แล้วเหรอ? หรือว่าบ้าไปแล้ว? สถานการณ์ของตัวเองเป็นยังไงไม่รู้หรือไง? ไม่คิดว่าคุณจะสูบบุหรี่ เจตต์ คุณรู้ไหมว่าคุณเสียเลือดไปเท่าไหร่? คุณรู้ไหมว่าบนตัวคุณมีกี่บาดแผล? คุณรู้ไหม……อือ……”
นิตายังพูดไม่จบ ก็โดนเจตต์ดึงเอาไว้ พลิกตัวเธอกดลงบนเตียง จูบที่ป่าเถื่อนก็เข้ามาหยุดไว้ทันที
เธอดิ้นอยู่ชั่วครู่ แล้วก็ยอมแพ้ มือทั้งคู่โอบล้อมอยู่บนคอของเจตต์ ค่อยๆจมลงไป