แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 764
บทที่ 764 ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเราไม่มีคนโง่
หรือสิ่งที่ตัวเองคิดจะผิดกัน?
อันที่จริงเรณุกาตายไปแล้วจริงๆ?
นรมนคิดไม่ตก
“เอาละ ไม่ต้องคิดเรื่องนี้แล้ว ให้บุริศร์หัวหมุนไปเถอะ ในเมื่อเขาอยากจัดการตระกูลโตเล็ก ถ้าอย่างนั้นก็ชำระสะสางไป ช่วงเวลานี้หนูก็อยู่ในบ้านเป็นเพื่อนตาแก่สองคนหน่อยนะ”
คำพูดของธรรศทำให้นรมนหัวเราะขึ้นมา
“ตาแก่อะไรกันคะ? พวกอาอายุแค่สามสิบกว่าๆเท่านั้นเอง”
“ใกล้สี่สิบแล้ว”
ธรรศถอนหายใจ พลางพูด “คาดว่าพวกเราคงไร้หนทางมีทายาทสืบทอดตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้ว หนูดูสิ ใครจะยินยอมแต่งงานกับคนแก่แบบเรากัน”
“ฉันมีคนที่ชอบ ไม่เหมือนนาย”
คำพูดของธรณีทำให้นรมนหัวเราะ
“อาเล็กมีความรัก?”
“เขามีความรักกับผี”
ธรรศรื้อที่ยืนของธรณีโดยเฉพาะ
ทั้งสองพูดคุยกันจุกกะจิก
นรมนยิ้มและหัวเราะ ก่อนจะหันไปเห็นภาพวาดของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา
“อาสาม อาเล็ก หนูสามารถไปไหว้คุณย่าได้ไหมคะ?”
“ได้แน่นอนสิ”
ธรรศพานรมนไปยังศาลบรรพบุรุษ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นรมนมาที่ศาลบรรพบุรุษของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แต่แค่ครั้งนี้รู้สึกจิตใจหนักอึ้งเป็นพิเศษ
คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก่อนหน้าไม่ค่อยจะเป็นที่ชอบพอหรือรักใคร่ แต่สุดท้ายเธอกลับตายเพื่อนรมน ด้วยเหตุนี้เพียงอย่างเดียวนรมนไม่สามารถโทษอะไรเธอได้อีกต่อไป
นรมนคุกเข่าต่อหน้ารูปภาพของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ก่อนจะกระแทกศีรษะของเธอลงไปสามครั้ง
ดวงตาของเธอคลอไปด้วยหยาดน้ำตา
“คุณย่า หนูขอโทษ”
นี่เป็นครั้งแรกที่นรมนกล่าวขอโทษต่อคุณนายทวีทรัพย์ธาดา แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ยิน
ธรรศที่ยืนอยู่ข้างๆ เมื่อเขาเห็นว่านรมนเศร้ามาก เขาอดไม่ได้ที่จะพูด “นรมน ไม่ต้องเศร้าไปหรอก หนูเป็นลูกสาวของพี่ใหญ่ เป็นพี่ชายของอาที่รู้สึกเสียใจกับแม่มากที่สุดในชีวิต ถ้าเธอไม่ยืนกรานที่จะให้พี่ใหญ่ไปเป็นทหารก็คงไม่เป็นเช่นนั้นตอนนี้หนูเป็นสายเลือดของพี่ใหญ่ คุณแม่ของอายินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อคุณ ตราบใดที่หนูสบายดี พวกเราตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็สบายดี”
“แต่เป็นเพราะหนูที่ทำร้ายคุณย่า ถ้าไม่ใช่เพราะหนู คุณย่าคงไม่… …”
“มันจบไปแล้ว พวกเรารู้เจตนาของคุณย่าดี อย่าโทษตัวเองเลย ร้องไห้จนร่างแหลกสลาย อาและอาเล็กของหนูจะปวดใจเสียเปล่า”
ธรรศดึงนรมนขึ้นมา
นรมนเช็ดหน้า และออกมา จุดธูปเคารพคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเสร็จแล้ว ก็ออกมาจากศาลบรรพบุรุษ
เด็กๆ ยังคงเล่นอยู่ในสนาม
นรมนอดไม่ได้ที่จะยกริมฝีปากขึ้น ขณะที่ดูพวกเขาเล่นอย่างมีความสุข
ไม่กี่วันมานี้กิจจาอึดอัดใจมาก แต่ตอนนี้ที่กำลังเล่นขี่ม้าไม้กับกมล รอยยิ้มที่มีความสุขนั้นช่วยเยียวยาความเศร้าได้มากมายจริงๆ
นรมนรู้สึกว่า แค่ดูเด็กแสนบริสุทธิ์ทั้งสองเล่นกันอย่างมีความสุข เธอรู้สึกถึงความสุขที่อธิบายไม่ได้
“หม่ามี๊ มาเร็ว! มาเล่นกับพวกเรา!”
ตาที่แหลมคมของกมลมองเห็นนรมน เธอรีบโบกมือให้นรมนอย่างรวดเร็ว
นรมนยิ้ม เธอส่ายหัวและพูดว่า “พวกหนูเล่นเถอะ หม่ามี๊เหนื่อยนิดหน่อย”
“หม่ามี๊ป่วยหรือเปล่า? ทำไมช่วงนี้รู้สึกเหนื่อยบ่อยจัง?”
กมลถามนรมนราวกับผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ แล้วพูดว่า “หยา หม่ามี๊ คงไม่ใช่ว่าจะให้น้องสาวและน้องชายกับหนูและพวกพี่ๆหรอกนะ? ในทีวีบอกว่า ง่วงนอนบ่อย หรือมักจะเหนื่อยเป็นไปได้ว่าจะมีลูก”
นรมนตกไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือร้องไห้ดี
“นี่หนูไปเรียนเรื่องอะไรเลอะเทอะมาเนี่ย? หม่ามี๊ไม่ได้จะมีน้อง ตลอดชีวิตนี้คงไม่มีแล้ว”
“หม่ามี๊ เพราะท้องของหม่ามี๊ไม่แข็งแรงหรือ เลยคลอดไม่ได้?”
คำพูดอย่างเด็กไม่รู้สาของกมล แต่กลับแทงเข้าไปในหัวใจของนรมนราวกับมีดคม
จู่ๆ เธอก็ยิ้มอย่างขมขื่น
เมื่อนึกถึงลูกคนก่อนของเธอ เธอบอกตัวเองว่าอย่าไปโทษอะไร แต่เธอแค่รู้สึกเศร้าเสียใจมาก
ธรณีได้ยินกมลพูดแบบนี้ จึงรีบเข็นวีลแชร์เข้าไปหา
“กมล หม่ามี๊กับแด๊ดดี้มีพวกหนูแค่สามคนก็โอเคแล้ว มีเยอะแล้วหม่ามี๊จะเหนื่อยมาก”
“จริงไหมคะ? แต่หนูเป็นน้องเล็กสุด หนูอยากเป็นพี่สาว”
ปากเล็กๆ ของกมลขมุบขมิบ
กมลเศร้าเล็กน้อย แต่กลับรู้ว่าไม่สามารถให้เด็กพบว่าตัวเองเสียใจได้ เธออดไม่ได้ที่จะยิ้ม “กมลยังคงเป็นพี่สาวได้นะ น้าโพนี่ของหนูกำลังตั้งครรภ์ เมื่อถึงตอนที่น้องคลอดออกมา ก็จะเป็นน้องสาวหรือน้องชายของกมลแล้ว”
“จริงไหมคะ?”
กมลดูมีความสุขมาก
“จริงค่ะ หม่ามี๊เคยโกหกหนูไหม?”
คำพูดของนรมนทำให้กมลกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข
“ระวังหน่อย”
กิจจาเตือนเธอทันทีเมื่อเห็นว่าเธอไม่ระวัง
นรมนที่อยู่เคียงข้างเมื่อเห็นกมลท่าทางมีความสุข ก็อดไม่ได้ที่จะเอามือวางไว้บนท้อง
มันคงดีมากถ้าตัวเองสามารถตั้งครรภ์ได้
ธรณีรู้ว่านรมนกำลังคิดอะไรและเขากระซิบว่า “อีกสักพักเด็กๆก็ลืมมันไปแล้ว อย่าเอามาใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นถ้ามีเด็กๆเยอะหนูจะเอามาไม่หมดนะ จะเหนื่อยเอา แบบนี้แหละดีแล้ว”
“อาเล็ก อย่าปลอบหนูเลยค่ะ หนูรู้ว่าอากำลังปลอบหนูอยู่ ถ้าทำได้ หนูก็หวังให้ตัวเองสามารถตั้งท้องลูกให้บุริศร์ได้หนึ่งคน เขาไม่เคยมีส่วนร่วมในการเกิดและเติบโตของกานต์และกมลเลย นี่เป็นความเสียใจสำหรับชีวิตของเขาแม้ว่าเขาจะไม่พูด แต่ฉันก็เข้าใจ”
เสียงของนรมนต่ำลงเล็กน้อย
“เด็กโง่เอ๋ย ผู้ชายคนหนึ่งถ้าหากรักหนูจริง แม้จะไม่ท้องให้เขา เขาก็ยังวางหนูไว้บนฝ่ามือ ถ้าหากผู้ชายคนหนึ่งไม่รักหนู ถึงแม้หนูท้องให้เขาก็ไม่มีประโยชน์ อย่าไปคิดมากเลย มีเวลาเลือกคณะของตัวเองจะดีกว่า คิดพิจารณาถึงปริญญาหรือรางวัลที่จะได้กลับมา”
“หืม?”
นรมนอึ้งไปทันใด
“อาเล็กหมายความว่าอะไร?”
เมื่อเห็นท่าทางตกใจของนรมน ธรณีก็ส่ายหัวและพูดว่า “หนูน่ะ ถึงแม้จะเล่นสนุกเป็นเพื่อนบุริศร์ ตัวเองเรียนคณะอะไรมาลืมไปแล้วรึ? ”
“ไม่มีนี่คะ”
“ยังพูดว่าไม่ ตอนนี้เดือนที่เท่าไหร่? การแข่งขันรางวัลนักออกแบบยังเหลืออีกหนึ่งเดือนจะเปิดแล้ว ยังไม่สมัครชื่อของตัวเองลงไปใช่ไหม? หรือว่าเจตนาหนูจะอยู่ในบ้านเป็นคุณนายย่าตระกูลโตเล็กกัน?
เมื่อได้ยินคำพูดของธรณี นรมนก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
“ไม่ค่ะ หนูอยากพัฒนาธุรกิจของตัวเอง หนูไม่อยากเป็นแม่บ้านเต็มตัว”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปลงสมัคร เดี๋ยวไม่ทันการ”
เมื่อได้ยินธรณีพูด นรมนก็รีบกลับไปที่ห้องและเปิดโทรศัพท์
จริงที่ว่าการแข่งขันรางวัลนักออกแบบจะปิดตัวลงในอีกไม่กี่ชั่วโมง
นรมนเปิดหน้าเว็บอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกรอกข้อมูลของตัวเองลงไป จากนั้นเข้าร่วมการแข่งขัน
หลังจากทำทั้งหมดเสร็จแล้ว เธอก็พบว่าธรณีนั่งอยู่บนรถเข็นข้างประตู มองมาที่เธอและยิ้มด้วยความพึงพอใจ
“ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเราไม่มีคนโง่ พวกเราจะรอหนูได้เหรียญทองกลับมา”
“โอเคค่ะ”
ทันใดนั้นนรมนก็หัวเราะออกมา
ธรรศยังคงลงมือทำอาหารเอง โดยบอกว่าเป็นการเฉลิมฉลองที่นรมนพาเด็กๆ กลับมายังบ้านเก่าของเธอ
นรมนดื้อรั้นไม่ยอม จำใจต้องเป็นลูกมือให้เขา แต่กลับโดนธรรศผลักออกมา
“รอกินดีกว่า”
ธรณีดูเหมือนจะคุ้นชินกับชีวิตแบบนี้ ก่อนจะหัวเราะคิกคักก่อนพูด
เมื่อเปรียบเทียบกับธรรศแล้ว นรมนจะสนิทกับธรณีมากกว่า
“อาเล็ก ถ้าหากช่วงนี้หนูถอยจากปัญหาไป จะไม่เป็นไรหรือ?”
“มีอะไรไม่ดีกัน? หนูแค่ถอยไปเพื่อรีบเรียน เรื่องอื่นยังมีอาและอาสามนะ อาได้ยินมาว่า บ้านของเจตต์มีเรื่อง อารู้ความรู้สึกของเจตต์และหนู เจตต์เกือบจะสละชีวิตเพื่อหนูในตอนแรก สบายใจเถอะนะ ความรู้สึกนี้ พวกเราตระกูลทวีทรัพย์ธาดายังอยู่ อาพูดกับบุริศร์และเจตต์แล้ว หากสามตระกูลพบข่าวคราวของนิตา หนูก็จะมีสมาธิในการเรียน พวกเด็กๆมีอาคอยช่วยดูแล ”
เมื่อได้ยินคำพูดของธรณี นรมนรู้สึกอุ่นอกอุ่นใจขึ้นมาทันใด
“อาเล็กดีจังค่ะ”
“ตอนนี้เพิ่งรู้เหรอว่าอาดี? งั้นทำไมเวลาตั้งนานไม่กลับมา? อายังไม่รู้ว่าหนูประสบพบเจอเรื่องอะไรมาบ้าง บุริศร์พูดกับอา อาถึงเพิ่งจะรู้ เด็กโง่เอ๋ย หนูเป็นใบ้ กล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมขนาดนั้น ตอนแรกทำไมถึงไม่โทรมาหาอาหรืออาสามเล่า? หนูไม่คิดว่าพวกเราเป็นครอบครัวหรือ? ดูสิ ถ้าหากไม่พบเจอคมทิพย์ ตอนนี้หนูจะเป็นอย่างไรใครจะรู้ ถ้าหากเกิดอะไรไม่ดีขึ้นหนู จะให้อาและอาสามบากหน้าไปพูดกับพ่อของหนูได้อย่างไร?”
ธรณีพูดพึมพำ แต่ทันใดนรมนก็จำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“แย่แล้ว!”
“เกิดอะไร? มีอะไร!”
“อาเล็ก หนูไม่คุยกับอาแล้ว กลับห้องก่อนนะคะ”
นรมนรีบพุ่งเข้าไปในห้องของตัวเองอย่างรวดเร็ว
ธรณีก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ และทำเพียงปล่อยให้เธออยู่คนเดียว ถึงอย่างไรก็อยู่ในบ้าน มีเรื่องอะไรเขาและพี่สามก็สามารถจัดการช่วยได้
หลังจากที่นรมนรีบเข้าไปในห้องตัวเอง เธอก็โทรศัพท์หาคมทิพย์ สองพี่น้อง
มันนานมากแล้วและเธอไม่ได้ข่าวคราวจากคมทิพย์ ที่นั่นคือชายแดนจีนพม่า ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นจะทำอย่างไร?
ช่วงนี้มีเรื่องมากมายเหลือเกิน จนกระทั่งทำให้ร่างกายนรมนอ่อนล้า ตอนนี้เหนื่อยเสียจนไม่คิดถึงเรื่องนี้
โทรศัพท์สายไม่ว่างตลอด
นรมนยังคงโทรต่อไปโดยไม่ยอมแพ้ แต่ทางนั้นกลับเป็นเวลานานที่ไม่รับสาย
จู่ๆ เธอก็รู้สึกกังวล
คงไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกนะ?
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ นรมนก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
ไม่มีทางเลือก เธอต่อสายหาพฤกษ์โดยตรง
“พฤกษ์ คุณได้ติดต่อกับคมทิพย์ช่วงนี้ไหม? ฉันเพิ่งโทรหาเธอแต่ไม่มีคนรับสาย คุณรู้ไหมว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”
นรมนสอบถามอย่างร้อนรนใจ
พฤกษ์ถอนหายใจ ก่อนพูดว่า “คุณนาย ผมเพิ่งโทรศัพท์คุยกับคมทิพย์เมื่อมานานมานี้ แต่เธอไม่มีเวลาคุยกับผมมากนัก พูดอะไรเร่งรีบ แถมยังบอกว่าเป็นภารกิจที่คุณนายมอบให้ คุณนายครับ ถึงแม้ประธานบุริศร์จะบีบคั้นผม อารมณ์ของคมทิพย์ คุณไม่ต้องให้ภารกิจเธอแล้วนะครับ ผมกลัวเธอทำมันพัง”
เมื่อได้ยินพฤกษ์พูดเช่นนี้ ภายในใจของนรมนก็สงบลง
“ขอโทษนะ ตอนนั้นฉันสลัดไม่พ้นตัวจริงๆ เลยทำได้เพียงให้คมทิพย์คู่พี่น้องนั้นไป ตอนนี้ฉันติดต่อพวกเขาไม่ได้ ถ้าหากคุณติดต่อคมทิพย์ได้ รบกวนโทรหาฉันนะ ได้ไหม?”
นรมนขอร้อง
พฤกษ์รับปาก แต่เขาก็ถามต่อ
“คุณนายครับ เทย่าคุณแม่ของเจตต์หายตัวไป เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับคุณแม่ของผมไหม? พวกคุณอย่างไรก็อย่าปิดบังมันจากผมนะครับ”