แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 766
บทที่ 766 คนริษยาอย่างฉันต้องการที่จะทำลายความสุขของพวกคุณ
หมายเลขที่โทรมาคือนิตา
นิตาไม่ได้โทรหาเจตต์ แต่กลับโทรหาเธอ นี่มันหมายความว่าอะไร?
“เกิดอะไรขึ้น?”
ธรณีรีบถามอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ปกติของนรมน
“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันจะไปข้างนอกหน่อย พวกอาช่วยดูเด็กๆให้หน่อยะคะ”
นรมนพูดจบก็นำมือถือใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง
“อาหารจะเสร็จแล้ว หนูจะไปไหน”
ธรรศถือจานเดินออกมาจากในห้องครัว
นรมนบิอาหารออกมาชิม รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว
“ไปข้างนอกหน่อยค่ะ มีธุระ ช่วยหนูดูแลเด็กๆหน่อยนะ”
“ล้างมือ!”
ธรรศปัดมือของนรมนออก สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เห็นด้วย
“ดูหนูสิ เป็นแม่ของลูกแล้ว สักนิดก็ไม่ทำเป็นแบบอย่างให้กับเด็กๆ เอ่อ ว่าแต่ เรื่องอะไร? ต้องออกไปเวลานี้ด้วยรึ? ทานเสร็จแล้วค่อยไปไหม? เชื่อฟังหน่อย ทานเสร็จแล้วอาจะไปส่ง”
ธรณีเห็นด้วยกับคำพูดของธรรศ
นรมนไม่รู้จะพูดอย่างไร “ได้โปรดนะคะ อาสาม อาเล็ก หนูโตขนาดนี้แล้ว ขอให้มีเวลาส่วนตัวของตัวเองได้ไหมคะ? หนูไปสักประเดี๋ยว เหลือข้าวให้หนูด้วยนะ จะกลับมาทานค่ะ”
“ไม่ใช่ ไม่ออกไปได้ได้ไหม?”
ลางสังหรณ์ของธรรศ ไม่ต้องการให้นรมนออกไป
นรมนโบกมือ พลางพูดว่า “บอกแล้วไงคะ ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ต้องถามแล้ว หนูไปก่อน อย่าลืมเหลือกับข้าวไว้ให้ด้วยนะคะ”
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเธอเดินออกจากประตูบ้านมวีทรัพย์ธาดา รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็จางหายไป
การที่นิตาโทรมาหาเธอ แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับเจตต์และเทย่า
นรมนรู้ว่าแม้ตัวเองจะไม่มีเส้นสายอะไร แต่ที่ที่ควรช่วยก็ต้องช่วยเหลือ ถึงอย่างไรเจตต์ก็ช่วยเหลือเธอ ไม่ได้มีความเป็นอยู่ธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อที่จะช่วยเธอและบุริศร์ หลายครั้งที่นำชีวิตของตัวเองเข้าไปเสี่ยง
หลังจากขับรถออกมาจากบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา นรมนหยุดรถข้างทาง และต่อสายตรงโทรกลับหานิตา
“พูดมา”
นิตาค่อนข้างไม่พอใจเมื่อเขาได้ยินน้ำเสียงแกมสั่งของนรมน
“ประธานนรมน ตอนนี้คุณต้องมีท่าทีเป็นมิตรกับฉันไม่ใช่หรือ?”
“ฉันจะมีท่าทีเป็นมิตรกับเธอได้ยังไง? นิตา ทำให้ฉันตามืดบอก หลงคิดไปว่าเธอเป็นคนดี และยังคิดจะจับคู่เธอกับเจตต์ นี่เธอไม่ใช่แค่ทำร้ายจิตใจของเจตต์ แม้แต่ยังพาแม่ของเจตต์ไปด้วยหรืออย่างไร? ตอนนี้โทรมาหาฉัน คงต้องมีข้อเรียกร้องอะไรแน่ใช่ไหม? แต่ที่ฉันแปลกใจคือ เธอโทรหาผิดคนหรือเปล่า? เธอควรโทรหาเจตต์ ไม่ใช่ฉัน”
นรมนกล่าวเสียงเรียบ
นิตากัดริมฝีปากล่างของเธอแน่น ก่อนพูดอย่างเกลียดชัง “ไม่ต้องมาตบตาเป็นคนดีต่อหน้าฉัน พูดตามตรง คุณมันก็แค่นังโสเภณีเหยียบเรือสองแคม เจตต์ทำอะไรไปมากมายเพื่อคุณ แล้วคุณทำอะไรเพื่อเจตต์บ้าง?”
“เฮ้ ตอนนี้คือเจตต์พบเจอเรื่องที่ไม่เป็นธรรมหรือเปล่า? แล้วนี่เธออยู่ในสถานภาพอะไรถึงจะมาประณามฉันได้”
“นรมน อย่ามาพูดจิกกัดฉัน ถ้าอยากจะช่วยแม่ของเจตต์ เธอต้องมาตามที่อยู่ที่ฉันส่งไป ถ้าหากฉันรู้ว่าเธอพาคนมาแล้วละก็ ฉันกับพวกแกก็จะพินาศไปพร้อมกัน เชื่อฉันเถอะ ฉันไม่ได้ล้อเล่นแน่ โดยเฉพาะแกห้ามบอกเรื่องนี้กับเจตต์”
นิตาพูดจบก็วางสายไป
มุมปากของนรมนยกขึ้นเล็กน้อย ,
เธอพูดแค่ว่าห้ามบอกพวกเขาเธอก็จะไม่พูดแล้ว? นี่คิดว่าเธอถูกขู่ให้กลัวแล้วจริงหรือ?
นรมนรู้สึกอยู่เสมอว่าไม่ใช่นิตาจะไม่รู้สึกอะไรเลยกับเจตต์ คงไม่ต้องพูดถึงเธอคงไม่ทำอะไรกับคุณนายรัตติกรวรกุล ดังนั้น …
นิตาส่งที่อยู่มา
นรมนคิดเหมือนไม่ได้คิดเธอนำที่อยู่นี้ส่งไปให้เจตต์กับบุริศร์
“ไม่ต้องรีบมา ฉันบอกไปว่าจะไปคนเดียว ไม่ต้องเป็นห่วง”
หลังจากที่นรมนส่งข้อความถึงเจตต์และบุริศร์ เธอก็ขับรถตามไปยังที่อยู่ที่นิตาให้ไว้
นิตาเลือกสโมสรแห่งหนึ่งในการนัดพบ เป็นสโมสรระดับสูง จากที่เธอรู้จักนิตา เธอไม่มีทางจองสโมสรนี่ได้ด้วยตัวเอง นอกเสียจากคนเบื้องหลังของเธอต้องเป็นคนร่ำรวยเงินทอง
ภายในหัวของนรมนกำลังคิดแล้วคิดอีกว่าคนที่มีความแค้นต่อแม่ของเจตต์คือใคร คิดไปคิดมาก็ไม่พ้นแม่ของพฤกษ์
“บุริศร์ ให้คนไปหาแม่ของพฤกษ์ คุณนายรัตติกรวรกุลมาสิว่าตอนนี้อยู่ไหน ทำอะไร? ลองดูว่าสามารถเกาะติดใกล้ชิดได้ไหม”
คำสั่งของนรมน ทำให้บุริศร์ขมวดคิ้วแน่น
“คุณคนเดียวไม่มีปัญหาแน่หรือ? อย่าฝืน ผมจะไปหาคุณที่นั่นก่อน”
บุริศร์เป็นห่วงนรมนแทบตาย
ก่อนหน้านี้ใครกันที่บอกว่าเธอไม่มีเส้นสาย เรื่องเหล่านี้ยกให้เขาจัดการ แล้วออกไปหานิตาคนเดียวได้อย่างไรเล่านี่?
จริงๆแล้วนรมนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
เธอรู้สึกจริงๆว่าตัวเองไม่มีเส้นสายช่วยเหลือเจตต์ ดังนั้นจึงให้บุริศร์ออกมือ แต่ตอนนี้นิตาเรียกให้เธอออกไปหาคนเดียว จะให้เธอทำอย่างไร?
นรมนรีบตอบบุริศร์ “คุณไม่ต้องสนใจฉันจริงๆ ฉันคิดว่าเจตต์คงรีบมาที่นี่แล้ว นิตาเรียกให้ฉันไปคนเดียว คงจะทำการบ้านอะไรมาบ้าง ฉันเรียกใช้สอยพวกธิดาแล้ว ความปลอดภัยของฉันไม่ใช่ปัญหา ค่อยว่ากันนะ ฉันเป็นลูกศิษย์ของคุณ สบายใจเถอะ”
“อย่าลืมรักษาความปลอดภัยของตัวเอง คุณรู้ ตอนนี้ผมยินยอมผิดใจกับทุกคน และหวังไม่ให้คุณได้รับความเจ็บปวด”
“ฉันรู้”
หลังจากที่นรมนวาง โทรก็โทรนัดธิดา หลังจากนั้นจึงเข้าไปในสโมสร
มีคนคอยต้อนรับอยู่ที่ทางเข้าของสโมสร และเมื่อเห็นนรมน ก็รีบเดินไปข้างหน้า
“คุณนายบุริศร์ เชิญมาทางนี้”
นรมนหยุดชะงักชั่วครู่
เจอครั้งแรกก็จำเธอได้ และยังนำเข้าไปยังห้องรับแขกอธิบายถึงปัญหา
นิตาเป็นวีไอพีที่นี่หรือ หรือจะมีความสัมพันธ์กับผู้จัดการของที่นี่กัน
นรมนรีบส่งข้อความหาเจตต์
“ตรวจสอบว่าเจ้าของสโมสรคือใคร? ฉันรู้สึกว่าน่าจะมีความสัมพันธ์กับนิตา”
เจตต์กำลังรีบมาที่นี่ และหลังจากได้เห็นวีแชทของนรมน เขาก็เริ่มการสืบหาอย่างรวดเร็ว
นรมนถูกคนต้อนรับแขกพาไปยังห้องรับรอง
นิตานั่งอยู่ที่นั่น เธอถือแก้วไวน์ไว้ในมือ ของเหลวสีแดงในแก้วแกว่งไหวไปมา ดูท่าทางชำนิชาญ ไม่ใช่เพิ่งจะมาหัดทำเอาตอนนี้ หรือนรมนสามารถเข้าใจได้ว่า นิตาอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีเลิศมาตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่ผู้หญิงที่ขยันขันแข็งและซื่อสัตย์อย่างที่เธอเห็นอย่างที่ทำผิวเผิน
“เทย่าอยู่ไหน?”
นรมนมองไปรอบๆ ห้อง และเธอไม่เห็นใคร อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
นิตาปิดประตูห้องรับรอง ก่อนจะล็อคมัน
“นั่งคุยกันก่อนเถอะ”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ นิตา เธอควรรู้นะ คนที่เจตต์เป็นห่วงที่สุดคือแม่ของเขา เธอทำอย่างนี้จะยิ่งผลักเจตต์ให้ไกลออกไป ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะไม่มีความรู้สึกอะไรให้เขา”
“แล้วยังไง? คุณมาที่นี่เพื่อเป็นนักเกลี้ยกล่อมหรือ? หรือยังคิดว่าระหว่างฉันกับเขายังเป็นไปได้? นรมนคุณนี่มันไร้เดียงสาเกินไปแล้ว บางครั้งฉันก็สงสัย ว่าคุณโตมาได้อย่างไรกัน?”
นิตายิ้มแกมดูถูก จากนั้นก็นั่งลงและรินไวน์แดงหนึ่งแก้วให้นรมน
“ลองชิมดูสิ ว่ากันว่าเป็น Lafiteปี1982 รสชาติเยี่ยม แต่ฉันดื่มแล้วมันก็งั้นๆ”
นิตายิ้มจาง ท่าทางอย่างนั้นเหมือนเป็นหญิงสาวซื่อตรงที่นรมนเพิ่งเริ่มรู้จัก
นรมนนั่งตรงข้ามเธอ ไม่ได้มองไปที่แก้วไวน์ตรงหน้า ก่อนพูดอย่างเย็นชา “นี่เธอกำลังทำบ้าอะไรกันแน่?”
“ฉันก็แค่อยากจะคุยกับคุณ ไม่ได้เหรอ?”
นิตายิ้มกวนเล็กน้อย แต่นรมนก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความสูญเสียในสายตาของเธอ
“จะคุยตอนไหนก็ได้ แต่เธอนำน้าเทย่าส่งกลับมาก่อน”
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ละ?”
นิตาดื่มไวน์ในแก้วให้หมดภายในรวดเดียว หลังจากนั้นจึงกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว
“ฟินมาก! ไวน์แดงทำไมถึงเพลิดเพลินขนาดนี้นะ แต่มีคนบอกฉันว่า ดื่มไวน์ต้องละเลียดชิม ฉันไม่ชิน”
เมื่อได้ยินนิตาพูดทีเล่นทีจริง นรมนก็ลุกขึ้นและเดินจากไป
“เธอไปเถอะ ถ้าเธอไป ฉันจะให้คนไปฆ่าเทย่า อย่างไรฉันกับเจตต์ก็ไม่สามารถอะไรกันได้ ก็ไม่ถือสาอะไรถ้าจะเพิ่มความรู้สึกเกลียดลึกลงกระดูกเข้าไปอีกนิด บางทีอาจจะทำให้เขามีความรู้สึกเกลียดฉันไปตลอดชีวิตเลยก็ได้”
นิตาพูดช้าๆ แต่นรมนก็ไม่มีความกล้าพอที่จะก้าวขาออกไป
เธอมองไปที่นิตา และต้องการเห็นแววล้อเล่นเล็กน้อยในดวงตาของเธอ แต่ที่เธอเห็นคือความบ้าคลั่งและความสิ้นหวัง
นิตาบ้าไปแล้ว!
“นิตา ใจเย็นๆ เธอกับเจตต์ยังไปไม่ถึงขั้นนั้น ระหว่างเธอกับเขาเกิดอะไรขึ้นฉันไม่รู้ แต่ฉันเห็นเจตต์เป็นห่วงเธอมาก เธอควรจะรู้ เมื่อเขาตกหลุมรักแล้ว เขาไม่มีวันปล่อยมือแน่”
“ใช่ บางครั้งฉันก็มีความสุขมากที่ได้มีความรักกับเขา แต่ฉันกับเขาไม่เหมือนกัน นรมน, ความรักของเธอกับบุริศร์ทำให้คนอิจฉาและต้องการจะทำลายคุณรู้ไหม?” นิตามองไปยังนรมน ก่อนจะพูดทีละประโยค “ฉันได้ยินเจตต์พูดถึงชะตาชีวิตที่ขมขื่นของเธอ พูดตามตรง ฉันเห็นใจเธอนะ แล้วก็นับถือเธอด้วย ถ้าหากเป็นฉัน บางทีฉันอาจจะไม่อยากอดทนกับความสัมพันธ์นี้ไปนานแล้ว แต่คุณยังคงยืนกรานต่อไปตอนนี้บุริศร์ก็ตามใจและรักใคร่ดูแลอย่างดีพระเจ้ารู้ว่าฉันอยากแก่ไปพร้อมกับเจตต์น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถทำได้”
“ไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้ แค่ต้องดูว่าเธอต้องการมันหรือเปล่า”
คำพูดของนรมนทำให้นิตารู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย
“ฉันคิดว่า ฉันต้องการความรักของเจตต์มากกว่าใครอื่น ฉันขาดความรักตั้งแต่ยังเด็ก พ่อแม่ของฉันเสียไปนานแล้ว และฉันอาศัยอยู่กับน้องชายตามลำพัง ไม่มีใครรู้ว่าฉันทนความทุกข์ยากมาได้อย่างไร แต่พระเจ้าไม่รอที่จะพบฉัน น้องของฉันเขาเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ในปีที่สองที่พ่อแม่เสียไปก็ไม่โอเคแล้ว โรงพยาบาลมีหัวใจพร้อมสำหรับการปลูกถ่าย แต่ฉันไม่มีเงิน ตอนนั้น ใครเล่าจะรู้ว่าเด็กที่อายุไม่กี่ปีคนนั้นที่กระหายจะได้เงิน เพื่อน้องชายแล้ว เธอต้องเอาตัวเองไปขายตัว ฉันขายตัวเธอเข้าใจไหม? ตลอดชีวิตนี้ฉันเลือกทางเดินไม่ได้ ไม่สามารถทำในสิ่งที่ฉันชอบได้ และไม่สามารถไปรักคนที่ตัวเองรักได้ แต่แล้วทำไมฉันถึงบังเอิญได้พบเธอกันนะ? ได้มองเห็นเธอมีความสุข เธอคงไม่รู้ว่าฉันอยากทำลายเธอขนาดไหน ทำลายความรักของเธอ ฉันยังรู้สึกว่าเธออยู่ในโรงพยาบาลทั้งวัน ดูแลบุริศร์ที่หมดสติในโรงพยาบาลยังจะดูดีกว่า”
นิตาพูดและยิ้มไปพลาง
ในใจของนรมนรู้สึกสะอิดสะเอียน
“เธอเป็นบ้าเหรอ? ตัวเธอเองไม่มีความสุข ก็ไม่อยากเห็นใครมีความสุขด้วย นิตา เธอมีปัญหาแล้วนะ เธอควรไปหาจิตแพทย์ ถ้าเธอไม่รู้จัก ฉันจะแนะนำให้”
“หุบปาก! นรมน เธอนั่นแหละควรไปพบจิตแพทย์! เธอมีบุริศร์ แล้วยังจะเอาเจตต์ไปทำไมอีก? เธอรู้ไหม เพราะฉันพูดไม่ดีเกี่ยวกับเธอ เจตต์ก็เลยตบฉัน ในใจของเขา เธอสำคัญกับเขามากกว่าฉัน!”
คำพูดของนิตาทำให้นรมนชะงักงัน