แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 775
บทที่ 775 นี่ไม่ใช่ความรัก
ได้ยินเทย่าพูดแบบนี้ นรมนกับบุริศร์ก็มองหน้ากันและกัน
อย่างไรแล้วถ้านิตาต้องการทำร้ายเทย่าจริงๆ คงไม่พาเทย่าออกไปตอนนั้นหรอก ในเมื่อสามารถพาเทย่าออกมาได้ แสดงว่าในใจเธอยังมีเจตต์ อาจจะรู้อะไรบางอย่างแล้วแอบปกป้องเทย่าลับๆ ด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นการปกป้องคุณแม่เพื่อเจตต์
คิดถึงตรงนี้ นรมนก็พูดเสียงทุ้ม “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธออย่าเพิ่งสนใจ ตอนนี้รอดูสถานการณ์ของเธอก่อนค่อยว่ากันค่ะ”
“ก็ต้องเป็นตามนี้”
เทย่าพยักหน้า
หลังจากบุริศร์เห็นทั้งหมดนี้ก็พูดขึ้น “ฉันกับไอริณจะออกไปตามหาคนก่อน ฉันจะจัดเตรียมคนมาทางนี้ ถ้าคุณต้องการอะไรต้องบอกฉันนะ”
นรมนเห็นท่าทางกังวลของบุริศร์ อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วพูดขึ้น “ฉันรู้แล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ฉันไม่เป็นอะไร อย่างมากสุดก็ไปหาเจตต์”
“อืม ระวังความปลอดภัยด้วย ฉันไปก่อนนะ”
บุริศร์พูดจบก็กล่าวลาเทย่า จากนั้นก็เดินตามไอริณไป
เทย่ามองแผ่นหลังไอริณ ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “เด็กที่พ่อแม่หย่าร้างกันน่าสงสารที่สุด เด็กอย่างไอริณยิ่งน่าสงสาร ไม่มีพ่อแม่มีแม่ ชีวิตในอนาคตไม่รู้จะทำยังไง”
“เธอแค่บอกว่าพ่อเธอเสีย ไม่ได้บอกว่าแม่เธอเสียเหมือนกันนี่คะ?”
คำพูดนรมนทำให้เทย่าชะงักไปสักพัก
“ไม่ได้พูดเหรอ?”
“ไม่นะคะ เหมือนเธอไม่ได้พูดถึงแม่ตัวเองเลยตั้งแต่ต้นจนจบ”
เทย่าขมวดคิ้ว จากนั้นก็พูดขึ้น “ช่างเถอะ แม่ของเธอก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่เด็กคนนี้ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่ตัวเองเป็นเด็ก”
“ตอนคุณน้าเด็กๆ เหรอคะ?”
“ใช่ ตอนนั้นพ่อแม่ฉันหย่ากัน พ่อยืนกรานจะเอาพี่สาวไป ไม่ต้องการฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงไม่อยู่ในสายตาพ่อ เหมือนตั้งแต่ฉันเกิดมา พ่อก็ไม่ชอบฉัน แม่ฉันก็ว่าง่ายมาตลอด ทุกครั้งที่พ่อฉันอารมณ์ไม่ดี แม่ก็จะกอดฉัน ปกป้องฉันไว้ในอ้อมกอดแน่น เมื่อเทียบกันแล้ว พี่สาวได้รับความรักจากพ่อเป็นพิเศษ ถึงแม้แม่ก็ชอบพี่สาวเหมือนกัน บางทีอาจจะเพราะพ่อปฏิบัติกับฉันไม่ดี แม่ก็เลยค่อนข้างรักฉัน ฉันคิดมาตลอดว่าฉันกับพี่สาวไม่มีความสุขเลย ตอนที่พ่อแม่หย่ากัน ฉันแปดขวบ พี่สาวสิบสองขวบ ตอนนั้นเธอออกจากบ้านไปเรียนหนังสือ ตอนฉันออกมาก็ไม่เห็นเธอ ต่อมาอยากเจอ พ่อก็ไม่อนุญาต หลายสิบปีก็ผ่านไปในพริบตาเดียว”
ขณะที่เทย่าพูดเรื่องในอดีตที่เศร้าสลดใจ นรมนก็ฟังเงียบๆ
เธอไม่เคยคิดเลย คิมแม่ของตัวเองจะมีวัยเด็กแบบนี้ มีภูมิหลังชีวิตแบบนี้
“ตอนคุณตาเสียชีวิตก็ไม่เรียกคุณน้ากลับมาเหรอคะ?”
เทย่าส่ายหน้า
“ไม่เลย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อเสียชีวิตไปตอนไหน พี่สาวเป็นคนบอกฉัน แต่พวกคุณอาคุณลุงไม่ให้ฉันกับเข้าไปในตระกูลพรโสภณ แม่ก็ไม่พูดอะไร ก่อนเสียชีวิตก็ไม่บอกฉันว่าทำไมพ่อถึงเกลียดฉันแบบนี้ เธอแค่บอกฉันว่า ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็อย่าไปรบกวนชีวิตพี่สาว และห้ามไปหาพ่อ ยกเว้นตัวเองไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้วถึงจะไปหาพี่สาวได้”
เทย่ายิ้มขมขื่นขณะมองนรมนแล้วพูดขึ้น “รู้สึกว่าฉันน่าสังเวชมากเลยใช่ไหม?”
“ทำไมเป็นแบบนี้คะ? ทำไมคุณยายต้องการแบบนี้?”
“ไม่รู้ ฉันก็ไม่ทันได้รู้ ตอนนั้นที่แม่ฉันเสียชีวิต พรรษาก็ปลอบฉันอยู่ข้างๆ และช่วยเหลือฉัน หลังจากแม่ฉันหย่า ก็ไม่ได้เอาเงินของตระกูลพรโสภณมาแม้แต่แดงเดียว หลายปีมานี้ เพื่อเลี้ยงดูฉัน เธอต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ทุกที่ สุดท้ายก็ไปเป็นคนรับใช้ในตระกูลรัตติกรวรกุล เลยมีเงินให้ฉันเรียนหนังสือ ใครจะไปคิดว่าครั้งหนึ่งคุณนายตระกูลพรโสภณจะเคยเป็นคนรับใช้ของคนอื่นล่ะ? แต่แม่ฉันไม่อนุญาตให้ฉันบอกว่าตัวเองคือลูกหลานตระกูลพรโสภณ และยิ่งไม่อนุญาตให้ฉันบอกคนอื่นว่าฉันมีความสัมพันธ์กับตระกูลพรโสภณ หลายปีที่ผ่านมา แม่ฉันขยันขันแข็งมุมานะ สุดท้ายก็เหนื่อยจนป่วย ฉันไม่มีเงินรักษาอาการป่วยของแม่ พรรษาเป็นคนออกเงินรักษาให้แม่ฉัน และช่วยฉันจัดการงานศพ หลังจากแม่ฉันเสียชีวิต เขาก็ยังแต่งงานกับฉันโดยไม่สนใจการคัดค้านของตระกูล ฉันคิดว่าชีวิตที่มีความสุขของฉันจะเริ่มต้นตรงนี้ คิดว่าในที่สุดพระเจ้าก็เริ่มสงสารฉันแล้ว แต่ไม่คิดว่าหลังจากคลอดเจตต์ฉันก็พบว่าพรรษาผิดปกติ เหมือนเขาจะนอกใจ”
เทย่ายังคงยิ้มขมขื่น
ตอนนี้พูดเรื่องพวกนี้ ถึงแม้จะเจ็บปวดหัวใจ แต่มันก็ดีกว่าแต่ก่อนมาก
นรมนรู้ ถ้าคนคนหนึ่งมองว่าอีกคนเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของตน เป็นโลกของตน เมื่อพบว่าอีกฝ่ายทรยศตน การโจมตีนั้นเป็นการทำลายล้าง เหมือนที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าเจตต์ทรยศตนเมื่อห้าปีก่อน
เธอจับสองมือเทย่าไว้แน่น พูดขึ้นอย่างปวดใจ “คุณน้า มันผ่านไปแล้วนะคะ”
“ใช่ มันผ่านไปแล้ว แต่ผ่านไปแล้วจริงๆ ไหม? เพราะเหตุการณ์นี้ เพราะความรู้สึกของตัวเอง ทำให้ยืดเยื้อไปครึ่งชีวิต ยืดเยื้อการเติบโตของลูก ฉันพลาดชีวิตวัยเด็กและวัยรุ่นของเจตต์ด้วยซ้ำ ฉันจมอยู่กับความเศร้าของตัวเองมาตลอด ปล่อยให้ความเศร้าห่อหุ้มตัวเอง ฉันถามตัวเองทุกวัน ทำไมพระเจ้าถึงทำกับฉันแบบนี้? แต่ฉันไม่มีคำตอบเลย ในที่สุดวันนี้ฉันก็เดินออกมาได้แล้ว แต่ฉันผิดพลาดมากเกินไป ชีวิตไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ฉันรู้สึกผิดต่อลูกชายตัวเองมาก นรมน เธอรู้ไหม? ผู้หญิงคนหนึ่งจะเข้าใจความรักของพ่อแม่ที่มีต่อตัวเองได้ก็ต่อเมื่อได้เป็นแม่คนแล้ว ฉันติดหนี้เจตต์ ชาตินี้ก็อาจจะใช้ไม่หมด”
“คุณน้า อย่าพูดแบบนี้เลยนะคะ เจตต์ไม่เคยโทษคุณเลย”
ขณะที่มองนรมน เทย่าก็ยิ้มขมขื่นพูดขึ้น “ฉันรู้ เขาเป็นเด็กดี หลายๆ ครั้งที่ฉันได้สติ ฉันก็เห็นเขาคอยรับใช้ฉันอยู่เคียงข้าง ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนที่ต้องการความเอาใจใส่นะ ฉันไม่เคยให้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบแก่เขาเลย และยิ่งไม่ได้ให้แม่ที่ดีที่เขาต้องการด้วย หลายปีที่ผ่านมา เขาเติบโตโดยลำพังมาตลอด พูดตามตรง ฉันหวังจริงๆ ว่าเขาจะเจอผู้หญิงที่รักและใช้ชีวิตร่วมกัน อย่างน้อยความรักของเขาก็งดงาม สามารถรักษาบาดแผลเดิมในครอบครัวได้ แต่ตอนนี้นิตาคนนี้ โจมตีเจตต์อย่างแรงอีกครั้ง ฉันมองออก เจตต์รู้สึกดีกับหล่อน ถึงจะไม่ได้ตราตรึงสลักในหัวใจและกระดูก แต่เมื่อเกิดเรื่องในครั้งนี้ ถ้านิตาพิการ เขาจะต้องไม่ทิ้งนิตาแน่นอน นรมน ฉันเป็นแม่คนหนึ่ง ฉันไม่สามารถเห็นชีวิตของลูกชายฉันพังพินาศแบบนี้โดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย”
เทย่ามองตรงไปที่นรมน
หัวใจนรมนกระตุก ราวกับเดาอะไรบางอย่างออก
“คุณน้า เรื่องนี้คุณอย่าเข้าไปยุ่งดีกว่า มันคือความรักของเจตต์ คือเส้นทางของเขาเอง คุณไม่สามารถ……”
“ฉันทำได้! เพราะฉันเป็นแม่! นรมน เธอคิดดีๆ ถ้าลูกชายของเธอ เธอจะยอมให้เขาแต่งงานกับคนพิการไหม? กินข้าวสามมื้อก็ต้องให้คนดูแล ประเด็นนี้ยังพอไหว จ้างผู้ช่วยพยาบาลมาดูแลได้ แต่ลูกหลานสืบสกุลล่ะ? ชีวิตนี้ของเจตต์ไม่ต้องการมีลูกของตัวเองเหรอ? เขาสุขภาพร่างกายแข็งแรง และถือว่ามีภูมิหลังครอบครัวดี ไม่มีผู้หญิงแบบไหน? ทำไมต้องไปแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้?”
คำถามของเทย่าทำให้นรมนนิ่งไป
ตอนนี้พูดเกี่ยวกับรักแท้อยู่ยงคงกระพันกับเทย่า มันไร้อำนาจอย่างเห็นได้ชัด ประวัติชีวิตของคนอย่างเทย่า เป็นไปได้ว่าเธอจะพยายามอย่างเต็มที่ในการวางแผนทุกอย่างเพื่อเจตต์
“คุณน้า เรื่องนี้ฉันไม่รู้ว่าควรพูดยังไง แต่ฉันคิดว่าคุณควรฟังความต้องการของเจตต์หน่อยนะคะ”
“ความต้องการของเขาเหรอ? เด็กคนนี้ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ แต่ฉันก็รู้จักลูกชายฉัน ถึงเขาจะไม่รู้สึกดีกับนิตา แค่ให้เขารู้ว่านิตากลายเป็นแบบนี้เพราะเขา เขาก็จะดูแลนิตาตลอดชีวิต ถึงขนาดแต่งงานกับหล่อน แต่นรมน นี่เป็นความรักจริงๆ เหรอ? เจตต์เคยบอกฉันว่าชีวิตนี้ของเขาคนที่รักมากที่สุดก็คือเธอ ถึงแม้แต่ก่อนไม่รู้ว่าเธอคือลูกสาวของพี่สาวฉัน แต่ถ้าเจตต์ตัดสินใจจะทำอะไรแล้วนั่นก็คือทั้งชีวิต ในจุดนี้เขาเหมือนฉันมาก แต่เขาตัดใจจากเธอ ฉันไม่คิดว่าเพราะเหตุผลที่เธอแต่งงาน มันต้องมีเหตุผลอื่นแน่ๆ เลยใช่ไหม?”
คำถามเทย่าทำให้นรมนตกตะลึง
เธอย่อมนึกถึงสาเหตุที่เจตต์ตั้งจะคบกับนิตาเพราะนิตาช่วยชีวิตเขาจนเสียสิทธิในการเป็นผู้หญิง
หรือถ้าเหมือนที่เทย่าพูดจริงๆ ที่เจตต์ปฏิบัติกับนิตาเพียงเพราะซาบซึ้งเหรอ?
“คุณน้า ไม่ใช่นะคะ เจตต์รู้สึกดีกับนิตา ฉันมองออก”
นรมนรีบพูด
เทย่าพยักหน้า
“ใช่ เขาต้องมีความรู้สึกแน่นอน ถ้าไม่รู้สึกเลย เขาคงไม่จับคู่ตัวเองทั้งชีวิตง่ายแบบนี้หรอก แต่เธอก็รู้ ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชายกับหญิง มันไม่เหมือนกับความรัก ฉันยอมรับว่ามันมีสิ่งที่เรียกว่ารักแรกพบ แต่เจตต์กับนิตาไม่ใช่รักแรกพบอย่างแน่นอน สาเหตุที่เขาตกลงจะคบกับนิตา ฉันคิดว่าเธอคงรู้ว่าทำไม นรมน ถ้านิตาเป็นเด็กดีจริงๆ ฉันก็ยอมรับลูกสะใภ้แบบนี้ได้ อย่างน้อยเธอก็ดีจับเจตต์มากจริงๆ แต่ตอนนี้เธอบอกฉันได้ไหมว่านิตาเป็นเด็กดีจริงๆ?”
ในจุดนี้นรมนก็ไม่สามารถตอบได้
มีข้อสงสัยมากมายในตัวนิตา ถึงแม้ความตั้งใจแต่เดิมของเธอจะดี ถึงแม้ว่าสิ่งที่ทำหลายๆ อย่างนั้นคำนึงถึงเจตต์ แต่นรมนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านิตาเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
เทย่าเห็นนรมนแสดงออกแบบนี้ ทันใดนั้นก็ยิ้มขมขื่นพูดขึ้น “เห็นไหมล่ะ เธอก็คิดว่าหล่อนไม่ธรรมดาใช่ไหม? ใครจะไปรู้ว่าด้านหลังหล่อนยังมีอะไรอยู่? ตอนนี้หล่อนโดนคนทุบตีจนกลายเป็นแบบนี้ อย่าว่าแต่ชีวิตที่เหลือจะเป็นยังไง รู้ว่าหล่อนจะนำหายนะแบบไหนมาสู่เจตต์ นรมน ตอนนี้เธอกับเจตต์ไม่ใช่แค่เพื่อนกันเฉยๆ แล้วนะ พวกเธอเป็นพี่น้องกัน เป็นญาติที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเศษหนึ่งส่วนสี่ หรือเธอเห็นชีวิตของเจตต์พังพินาศด้วยน้ำมือนิตาได้ลงเหรอ?”
นรมนพูดไม่ออก
ถึงไม่รู้ความสัมพันธ์ญาติพี่น้องระหว่างเธอกับเจตต์ เธอก็ทนมองเจตต์ตกลงไปยังหลุมเพลิงไม่ได้ แต่เธอเชื่อว่าเจตต์มีความสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องพวกนี้ได้
“คุณน้า ได้โปรดเชื่อใจเจตต์นะคะ ถึงภายนอกเจตต์จะดูปล่อยเนื้อปล่อยตัว แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรมากกว่าใครๆ เรื่องนี้ฉันคิดว่าคุณอย่าไปยุ่งเลยดีกว่า”
“ดังนั้นนรมน ความหมายของเธอคือไม่อยากช่วยน้าใช่ไหม? ถึงน้าจะขอร้องเธอ เธอก็ไม่ช่วยน้าใช่ไหม?”
แววตาและคำพูดจริงจังของเทย่า มันทำให้นรมนตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที
เธอควรทำอย่างไรดี?