แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 794
นรมนหันไปมองบุริศร์อย่างแปลก
“โครงการพัฒนาภาคใต้ดงสิงห์ ?”
ใจ
บุริศร์รีบยิ้ม ก่อนพูด “ไม่มีอะไร เบื้องบนให้โครงการมาหนึ่งนะ เรายังคงมองหาพันธมิตร ในเมื่ออาเล็กพูดอย่างนี้ แน่นอนว่าเรือล่มในหนองเงินทองจะไปไหน”
“มีคำนี้ของเธอก็โอเคแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะไปบริษัทของเธอ และจะคุยเรื่องรายละเอียด”
ธรณีดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด บุริศร์พยักหน้า
ธรรศปล่อยวางไปไม่ได้นิดหน่อย
“ธรณี หลายปีมานี้ นายเป็นนักธุรกิจที่ทำอะไรก็ทำจนถึงที่สุด กลิ่นเงินมันหอมขนาดนั้นเลย? เกิดอะไรขึ้น? แค่ร่วมโครงการก็เลยส่งเด็กๆกับนรมนออกไปเลย? นายนี่ไม่รักษาความเป็นธรรมเกินไป”
“พี่สาม แม้จะไม่ได้ร่วมโครงการ นรมนกับเด็กๆก็ต้องกลับไป อย่างไรพวกเขาก็เป็นคนบ้านโตเล็ก ถ้าหากพี่รักเด็กจริงๆ ตัวเองก็หาผู้หญิงสักคน คลอดเด็กสักสิบคนก็ไม่มีใครสนใจพี่”
คำพูดของธรณีทำให้ธรรศหยิบหมอนขึ้นมา และโยนไป
“ไปให้พ้นหน้าฉัน! นายพูดราวกับมีคนรัก”
“ผมมีนะ เพิ่งดูตัวสำเร็จ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ธรณีพูด นรมนก็เริ่มสนใจ
“อาเล็ก ดูตัวหรือ?”
“ไม่ให้ดูตัวได้อย่างไร? อาเป็นคนพิการคนหนึ่ง มีคนแต่งด้วยก็ไม่เลว อาจะปล่อยให้ตระกูลเราขาดได้อย่างไร? ไม่อย่างนั้นร้อยปีหลังจากนี้คงไม่มีหน้าไปพบย่าของหนู”
“อย่าพูดให้ดูดีนักเลย ตัวเองต้องการผู้หญิงก็พูดมาให้แจ่มแจ้ง อย่าเอาแม่มาอ้าง”
ธรรศไม่ให้ที่ยืนแกธรณี
นรมนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เมื่อเห็นพวกเขาทะเลาะกันแบบนี้
“รีบบอกมา อีกฝ่ายเป็นใครคะ? ดูตัวเป็นอย่างไรบ้าง?”
เมื่อเห็นว่านรมนสนใจเรื่องนี้ บุริศร์ยิ้มและส่ายหัว ก่อนจะถอดเสื้อแจ็คเก็ตของเขา พับแขนเสื้อขึ้น แล้วเดินไปพูดข้างๆธรรศ “ให้ผมช่วยไหม?”
“ช่วยสิ เป็นอะไร? วันนี้จะกินข้าวเที่ยงที่นี่หรือ?”
“จริงๆแล้ววางแผนว่าจะกลับไปกินบ้าน แต่เห็นท่าทางกระตือรือร้นของเธอ รอให้เธอถามอาเล็ก คาดว่าคงหิวตาย ผมตัดสินใจอยู่นี่แหละ”
บุริศร์ตามใจ
เมื่อธรรศเห็นอย่างนี้ ค่อยเก็บสิ่งที่ตนเองมุ่งเป้ากลับไป
“ไม่ใช่ว่างานช่วงนี้ยุ่งหรือ? ไม่กี่วันนี่นายปล่อยให้สามแม่ลูกอยู่ที่นี่ไม่ถามสารทุกข์สุกดิบ ยังสบายใจอยู่ได้”
“ที่บริษัทมีจารชน ผมต้องกำจัดให้สิ้น ไม่อย่างนั้นกลัวว่านรมนกับเด็กๆ กลับไปแล้วจะถูกลอบทำร้าย ผมกลัวจริงๆ”
คำพูดของบุริศร์ ทำให้มือของธรรศหยุดชะงัก
เขาพูดเสียงต่ำ “นรมนไม่สามารถอยู่ภายใต้การคุ้มครองของนายได้ตลอดไป อีกอย่างบ้านทวีทรัพย์ธาดาไม่มีคนขี้ขลาด ฉันเชื่อว่าถึงแม้ตระกูลโตเล็กของนายจะอันตรายเพียงใด เธอต้องอยู่ข้างนายไปตลอดแน่”
“ผมเชื่อ เพราะว่าเชื่อนี่แหละ ผมเลยไม่อยากให้เธอต้องทนทุกข์ อาสาม คุณไม่รู้ นรมนต้องทุกข์ตรมกับผมมาเท่าไหร่ ผมเพียงหวังว่าในเวลาที่ยังเหลืออยู่ เธอจะสามารถทำสิ่งที่เธอต้องการได้ ผมจะสามารถช่วยเธอได้ ช่วยให้ถึงที่สุด นี่คือความรักที่ผมมีต่อเธอ”
หลังจากที่บุริศร์พูดจบ เขาก็เอาวัตถุดิบเข้าไปในครัว
มุมของริมฝีปากของธรรศยกขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าความรู้สึกที่มีต่อบุริศร์ค่อยโล่งใจมากหน่อย
นรมนยังคงรบเร้าธรณีเกี่ยวกับเรื่องนัดบอด เด็กสองคนไปเล่นด้วยตัวเองข้างนอก
ธรณีรู้สึกรำคาญนรมนมาก จนต้องพูด “เป็นน้องสาวของเพื่อนร่วมรบของอา เขาเป็นพ่อสื่อ เธอเป็นคุณครูโรงเรียนประถม รูปร่างหน้าตาก็ไม่เลวนะ ที่สำคัญคือเขาอารมณ์ดี”
“ครูโรงเรียนประถามหรือคะ? ไม่เลวเลย จะได้มาสอนการบ้านกมลกับกิจจาได้ในอนาคต”
คำพูดของนรมนทำให้ธรณีหดหู่
“ดวงของอายังไม่ได้กำหนดเลย นี่คิดไปถึงปัญหาการศึกษาของลูกๆพวกหนูแล้วหรือ?”
“ถ้าอย่างนั่น ใครมือยาวกว่าสาวได้สาวเอานะคะ หนูพูดกับอาเลย อาเล็ก อาอายุมากแล้วนา ได้เจอผู้หญิงดีๆก็คว้าไว้เถอะค่ะ พิการแล้วอย่างไร? เราคว้าชัยให้กับประเทศ เป็นความภาคภูมิใจ เป็นความรุ่งโรจน์ อย่ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเลยค่ะ!”
“ต้อยต่ำอะไรกัน หนูรีบไปวาดรูปแบบของหนูเถอะ ออกไปเที่ยวตลอดสองวันมานี่ไม่กลัวแพ้การเลือกหรือ”
“ไม่กลัวค่ะ แพ้ก็มาเกาะอากิน หรือให้หนูปลูกความสัมพันธ์กับอาสะใภ้สักหน่อย”
ได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ ธรณีรู้สึกเสียใจทีหลังทันทีที่พูดเรื่องดูตัวออกไป
“ยกโทษให้อาเถอะ”
เห็นธรณีเหนียมอายขึ้นมา เธออดไม่ได้ที่รู้สึกดีใจขึ้นมา
“ดูเหมือนว่าดวงจะได้ถูกกำหนดแล้วนะคะ มีรูปผู้หญิงไหม? ให้หนูดูหน่อย แล้วเมื่อไหร่จะให้มาเจอกับคนในครอบครัวละคะ?”
“มีคนในครอบครัวเช่นหนู กลัวจะทำให้เขาตกใจนะสิ”
คำพูดของธรณีทำให้นรมนไม่พอใจขึ้นมา
“อาเล็ก นี่ยังไม่เท่าไหร่ ก็ปกป้องอาสะใภ้ในอนาคตแล้วหรือคะ? ดูออกเลย ตอนนี้หูกำลังทำให้อาเบื่อใช่ไหม?”
“อย่ามามุกนี้นะ บุริศร์ตามใจหนูขนาดนั้น แทบจะดึงดวงจันทร์บนฟ้ามาให้หนูได้ อาบอกหนูเลย หนูไม่ควรยื่นมือไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น แค่ใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี รู้ไหม?”
นรมนรู้ดีว่าธรณีกำลังพูดถึงอะไร
ในเมืองชลธี มีเรื่องอะไรที่รอดพ้นสายตาธรณีหรือ?
แต่นรมนยังถอนหายใจ ก่อนพูด “อาเล็กคะ แต่ไหนแต่ไรมาหนูไม่คิดจะไปยุ่งเรื่องของชาวบ้าน แต่มีเรื่องเข้ามาหาหนูเองนี่ หนูก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว”
“ไม่รู้จะทำอย่างไร? ถอยออกมา ไม่ต้องเจอใคร รอให้เข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเสร็จก็พอค่อยพูด”
คำพูดของธรณีวิธีที่ดี แต่นรมนรู้สึกว่าหากเวลานี้ตัวเองทำอย่างนั่นจริงๆละก็ เจตต์ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง
“อาเล็ก รอให้เรื่องของคุณน้าผ่านไป หนูก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำแล้วละค่ะ โอเคไหม?”
เธอเขย่าแขนของธรณี ราวกับเด็กที่ออดอ้อน
ธรณีถอนหายใจและพูดว่า “เรื่องของเทย่า อาคิดว่าหนูอย่าเข้าไปยุ่งมากเกินไป เธอกับแม่ของหนูเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตอนนี้พวกเราต่างก็ไม่แน่ชัด สิ่งสำคัญอันดับแรกตอนนี้ คือการตามหาแม่ของหนูก่อน ช่วงนี้ได้ติดต่อกับเธอบ้างไหม?”
“ค่ะ แต่โทรศัพท์โทรไม่ติด หนูก็กังวลใจ ฉันขอให้กิมจิตรวจสอบฝั่งนั่นให้แล้ว ถ้าไม่ได้ผล หนูจะไปด้วยตัวเอง”
นรมนรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยกับคำพูดของธรณี
เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ ธรณีก็พูดอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้อง เร็วๆนี้อาจะไปคุยธุรกิจที่ยูนนานพอดี อาจะไปดูเสียหน่อย รอข่าวจากอาที่นี่แหละ สิ่งสำคัญที่สุดของหนูตอนนี้คือการแข่งขันการออกแบบ แม้ว่าจะมีเวลามากมายแต่อย่าเพิ่งคิดฟุ้งซ่าน ในเมื่อชอบอันนี้ ในเมื่อเลือกลงแข่งไปแล้ว ก็อย่าทำชุ่ยๆ สร้างความสำเร็จให้ดี นี่คือสไตล์ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเรา”
“เข้าใจแล้วค่ะ หนูมั่นใจมากกับการแข่งขันนี่ อาไม่ต้องห่วง”
ท่าทางมั่นใจของนรมน ทำให้ธรณียิ้มด้วยความพึงพอใจ
“แม้เราจะเป็นครอบครัวเก่าของหนู แต่มันไม่ดีเลยที่จะปล่อยให้บุริศร์ทำอาหารในครัวใช่ไหม? ไป ไปเรียกบุริศร์กลับมา อามีเรื่องจะคุยกับเขา”
คำพูดของธรณีทำให้นรมนชะงัก จากนั้นก็มองไปยังทางของห้องครัวโดยไม่รู้ตัวเพียง แล้วก็พบบุริศร์ที่พับแขนเสื้อขึ้นและกำลังยุ่งอยู่ในครัว
เธอมองไปที่วัตถุดิบที่เธอนำมาออกมาข้างนอก และพูดด้วยรอยยิ้ม “บุริศร์ของเราหล่อมากเลยนะคะ!”
“อย่าหลงตัวเองหน่อยเลย คนรักของหนูก็ต้องเห็นข้อดีอยู่แล้ว ขี้ยังหอมเลย”
นรมนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“อาเล็ก! จะอ้วก! อานั่นแหละขี้”
“อาเป็นขี้แล้วหนูเป็นอะไร? หลานของขี้หรือ? รีบไปเรียกบุริศร์มานี่”
ธรณีผลักนรมนออกไป
นรมนเดินไปที่ห้องครัวอย่างไร้คำพูด ในช่วงที่หันกลับมาจึงทำหน้าตาบูดบึ้งใส่ธรณี
ธรณียิ้ม ภายในดวงตาก็มีรอยยิ้ม
เมื่อเห็นว่านรมนมีความสุข ก็เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาแล้ว
นรมนมาที่ห้องครัว เมื่อเห็นว่าบุริศร์และธรรศกำลังยุ่งอยู่ เธอเลยเดินเข้าไปข้างหลัง ก่อนจะเขย่งปลายเท้าและปิดตาของ บุริศร์และพูดด้วยรอยยิ้ม “เดาสิ ว่าฉันคือใคร?”
มุมริมฝีปากของบุริศร์ยกขึ้นเล็กน้อย
“อย่าวุ่นวาย ตรงนี้ควันมันเยอะ คุณออกไปคุยเล่นกับอาเล็ก อีกเดี๋ยวผมก็ออกไป”
น้ำเสียงตามใจของบุริศร์ ทำให้นรมนทนไม่ได้เล็กน้อย
“อาเล็กให้ฉันมาเรียกคุณ บอกว่าจะพูดเรื่องความเรื่องอะไรนี่แหละ รีบไปเถอะ ตรงนี่ให้ฉันจัดการ”
นรมจะไปปลดผ้ากันเปื้อนของบุริศร์ แต่บุริศร์ห้ามไว้
“ผมจะรีบออกไป คุณอย่ามาอยู่ที่นี่ ให้อาสามทำก็โอเคแล้ว”
ธรรศรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
“เธอสองคน แค่แสดงความรักต่อหน้าฉันก็เหลือทนแล้ว ตอนนี้ยังสั่งให้ฉันทำนู้นนี่อีก พวกเธอรู้สึกว่าทำสิ่งที่ถูกอยู่หรือ?”
“ไม่ต้องการถูกคนอื่นโชว์ความรักต่อหน้า ก็รีบไปหาหญิงสาวสักคนแล้วแต่งงานเถอะครับ อายุมากแล้วจะเลือกอะไรอีก”
บุริศร์ปะทะกับธรรศโดยตรง จากนั้นก็ถอดผ้ากันเปื้อน และจูงมือนรมนเดินออกจากห้องครัวไป
ธรรศรู้สึกว่าเขากำลังจะบ้า
ไอ้บุริศร์ หมายความว่าอะไรกัน…
เขาอายุมากแล้วหรือย่างไร?
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รีบหาภรรยา?
จนกระทั่งถูกพวกเขาด่า?
บุริศร์ไม่สนใจว่าธรรศจะคิดอย่างไร หลังจากที่เขาดึงนรมนออก จึงยิ้มและพูด “ไปชงชาให้พวกเราเถอะ”
“ค่ะ”
นรมนไปที่ห้องชงชาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อบุริศร์มาถึงข้างกายธรณี เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ เขาจึงนั่งลงและพูดด้วยเสียงต่ำ “คุณรู้ว่าโครงการพัฒนาภาคใต้เป็นโครงการที่กำหนดไว้ แต่คุณยังต้องการเข้าร่วม นี่คุณกำลังทำให้ผมรู้สึกลำบากใจอยู่ไหม?”
ธรณีมองไปที่เขา และพูดด้วยเสียงต่ำ “เพราะเป็นโครงการที่กำหนด ฉันจึงจำเป็นต้องเข้าร่วม”
“หมายความว่ายังไง?”
บุริศร์ขมวดคิ้วทันที ราวกับว่าเขาสามารถได้ยินความหมายอื่นจากคำพูดของธรณี
ธรณีกระซิบ “โครงการนี้จริงๆแล้วไม่ควรให้ตระกูลโตเล็กของนายทำ ตอนนี้กลับมาอยู่ในกำมือนาย ตอนนี้ตระกูลโตเล็ก ตระกูลรัตติกรวรกุลและตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเรามีความสัมพันธ์ชิดใกล้ แยกกันไม่ออก นับว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ฉันแค่อยากจะบอกนาย มีบางเรื่องที่ลงแรงโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใด ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรื่องที่ดีเสมอไป นายต้องไตร่ตรองเอาเอง”
สีหน้าของบุริศร์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ข้อมูลภายในของธรณีแม่นยำกว่าของเขานัก ตอนนี้สามารถพูดคำนี้ออกมาได้ ต้องมีบางอย่างที่เขาไม่รู้และธรณีก็ไม่สะดวกที่จะบอก
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ บุริศร์ก็เข้าใจอะไรบางสิ่ง