แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 829
“ไม่ใช่นะ คุณอย่าร้องไห้สิ ผมพูดจริง ลูกยังอยู่ ไม่ได้หลุด ”
ไม่ว่าบุริศร์จะอธิบายยังไง นรมนก็ยังคิดว่าเขาปลอบใจอยู่ดี
ในตอนที่เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร หมอกับพยาบาลก็เข้ามา
“แหมคุณนายบุริศร์ เป็นไงบ้างครับ ร้องไห้แบบนี้ร่างกายรับไม่ไหวนะครับ เพิ่งรอดจากประตูผีหวุดหวิด ร้องไห้แบบนี้เดี๋ยวลูกก็หายไปหรอกนะครับ ได้ไม่คุ้มเสียนะครับ”
คำพูดของหมอทำให้นรมนหยุดร้องไห้ในทันที
“ว่าไงนะคะ ลูกยังอยู่”
“อยู่สิครับ อยู่ดีด้วย จะว่าไป เด็กคนนี้เข้มแข็งมากเลย ผมมาส่งผลอัลตราซาวน์นี่ไงครับ เห็นเป็นรูปแล้ว ดูสิครับ“
คุณหมอจึงยื่นผลการรายงานให้นรมน
นรมนรับรายงานมา อ่านอย่างละเอียด จึงยิ้มออก
“ลูกยังอยู่ บุริศร์ ลูกยังอยู่”
“ใช่สิ เมื่อกี้ผมบอกแล้วไง คุณไม่ยอมเชื่อลูกเดียว”
บุริศร์เซ็ง
นรมนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ กอดบุริศร์หัวเราะเสียงก้อง“เอาล่ะเอาล่ะ ฉันโทษคุณผิดไป ลูกยังอยู่ก็ดีแล้ว รีบมาดูสิ นี่ไงลูกของเรา”
นรมนหยิบรายงานส่งให้บุริศร์
บุริศร์มองก้อนกลมๆบนผลรายงาน อดนึกถึงเมื่อห้าปีก่อนตอนที่นรมนไปตรวจสอบไม่ได้ ตอนนั้นเขาเป็นเพื่อนอยู่ข้างกาย ขนาดผลอัลตราซาวน์ลูกยังดูไม่ชัดเลย
ถ้าตอนนั้นเขาอยู่ข้างนรมนได้ เธออาจจะไม่ต้องเจ็บปวดขนาดนี้
ตอนนี้มีโอกาสให้เขาได้ชดเชยความผิด
บุริศร์เก็บผลรายงานลงกระเป๋าอย่างระมัดระวัง มองดูนรมน พูดอย่างอ่อนโยน“คุณรีบนอนลงเถอะ ผมนวดให้”
“ใช่ๆๆ ให้คุณบุริศร์นวดสักหน่อย ร่างกายแข็งทื่อมานาน เลือดลมไม่ไหลเวียน ถ้าไม่นวดบ้าง ต่อไปจะป่วยเอาได้”
หมอรีบพูด
นรมนเขินอายบ้าง
คนมองเยอะแยะขนาดนี้ บุริศร์ก็คอยบีบนวดให้เธอ นรมนรู้สึกใบหน้าเผ็ดร้อน
“คุณหมอคะ ช่วยตรวจให้ฉันหน่อย ส่วนอื่นๆของร่างกายไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมคะ”
บุริศร์นวดพลาง พูดพลาง
คุณหมอรุดหน้าขึ้นตรวจ
นรมนอยากจะกุมมือบุริศร์ แต่บุริศร์ไม่ได้ฟัง
พอตรวจดู นรมนไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร ทุกอย่างปกติมั่นคง
“ค่อยๆบำรุงไป ผมบอกได้แค่ว่าเป็นปาฏิหาริย์ ขอแค่ให้ปาฏิหาริย์นี้ดำเนินต่อไป”
คุณหมอพูดพลางพาพยาบาลออกไป พวกเขาไม่มีพื้นที่ในนี้แล้วจริงๆ บุริศร์ไม่ปล่อยมือให้คนอื่นเลยจนกระทั่งห้องเงียบสงบขึ้นอีกครั้ง นรมนมองดูบุริศร์ ยิ้มแล้วถาม“บอกความจริงฉันมา ใช้ยาอะไรแพงๆอีกแล้วใช่ไหม”
“เลือดของนภดล ดีที่มีนภดล ไม่งั้นคุณกับลูกคงจะ……นภดลตัดสินใจอยู่ข้างเรา ผมให้คนของเรากับเขาไปแล้ว ตั้งกลุ่มอาณาจักรรัตติกาลใหม่ ตอนนี้อาณาจักรรัตติกาลเป็นของคุณแล้วนะ นภดลแค่ฟังคุณก็พอ”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนนิ่งงัน แล้วจึงพูดขึ้นเสียงค่อย“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้บุริศร์ ชีวิตคนเรา รับประกันไม่ได้หรอกว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุ ต่อให้คุณคุ้มครองดีหนาแน่นแค่ไหน ก็ต้องมีช่องโหว่ เพราะงั้นคุณจะโทษตัวเองเพราะเรื่องนี้ไม่ได้ คุณอบรมคนให้นภดลตั้งนาน คุณไม่เสียดายหรือคะ”
“เขาภักดีกับเรา ไม่มีอะไรน่าเสียดายเลย อีกอย่างก็ควรหาอะไรให้นภดลทำ ไม่งั้น เขาคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้จริงๆ ฉัตรยาตายแล้ว เขาก็หมดกำลังใจ ถ้าไม่ให้เขามีอะไรทำหน่อย ผมกลัวเขาจะกลายเป็นศพเดินได้เสียก่อน แบบนี้ก็ดีนะ มีเขาอยู่ ผมวางใจ จริงสิ ผมเชิญพยาบาลมาให้คุณคนนึง ชื่อปาณี เดี๋ยวผมจะให้เข้ามาหาคุณนะ”
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนอึ้ง
“จ้างคนอีกทำไมคะ มีธิดาไม่ใช่เหรอ”
“ตอนนี้คุณท้อง ธิดาแต่งงานไปแล้ว ก็ต้องให้เวลาข้าวใหม่ปลามันกับคนเขาบ้าง เรื่องของธัญญาพฤกษ์คงต้องใช้เวลากว่าจะกลับมาปกติ คุณไม่มีใครเลย ผมไม่ไว้ใจ”
บุริศร์พูดช้าๆ นรมนจึงไม่พูดอะไรต่อ
“ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ”
บุริศร์เห็นนรมนเงียบ จึงอดเป็นห่วงไม่ได้
นรมนยิ้มแล้วพูด“ไม่มีอะไร คุณเตรียมให้ฉันหมดแล้ว ฉันจะทำอะไรได้อีก และฉันเชื่อใจคุณค่ะ คนที่คุณหามาต้องไม่เลวแน่นอน”
“พูดแบบนี้ไม่ได้หรอก คนก่อนที่ผมหามาให้ ก็ทำร้ายคุณเข้า”
“มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่พูดแล้ว ตอนนี้เราก็ยังดีๆกันอยู่นี่”
นรมนกำมือบุริศร์แน่น
ผ่านความเป็นความตายครั้งนี้ เธอยิ่งกลัวตาย
เธอโหยหาความอบอุ่นนี้ ไม่อยากเสียบุริศร์ไป อยากอยู่เป็นเพื่อนเขาอีกหลายๆปี แม้กระทั่งหลายสิบปี
บุริศร์มองดูแววตาอ่อนโยนดุจสายน้ำของนรมน อดปวดใจไม่ได้
“ขอโทษนะ”
เขาแนบเธอไว้กับอก
ในอ้อมกอดของบุริศร์ นรมนมีความสุขเหลือเกิน
“ผ่านไปแล้ว คุณนวดให้ฉันทีค่ะ ปวดนิดหน่อย”
“ตกลง”
สองคนไม่ได้พูดอะไรมาก แต่กลับให้ความอบอุ่นและความสุขพิลึก
ตอยปาณีหันกลับมา เห็นภาพนี้ จึงลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือไม่
นรมนเห็นหล่อนเข้า รู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้น่ารักดี เธอยิ้มแล้วพูด“เธอคือปาณีสินะ”
“ค่ะ คุณนาย ฉันชื่อปาณี ต่อไปมีอะไรสั่งได้นะคะ”
ปาณียิ้มขึ้นมามีลักยิ้มสองที่ น่ารักมาก ทำให้คนอดรู้สึกอยากชิดใกล้ไม่ได้
“จ๊ะ ฉันชื่อนรมน ต่อไปรบกวนดูแลด้วยนะจ๊ะ”
“คุณบุริศร์ให้เงินเดือนฉันค่ะ ฉันจะตั้งใจทำให้ดี”
บุริศร์เห็นปาณีกับนรมนคุยกันสนุกดี ยิ้มแล้วพูด“ผมออกไปทำอะไรให้กินนะ คุยกันไปก่อน”
“ตกลงค่ะ”
นรมนพยักหน้า
ปาณีรีบขึ้นหน้าเอาหมอนไปวางให้นรมนพิง
นรมนยิ้มแล้วพูด“ขอบใจจ๊ะ”
“ฉันสมควรทำค่ะ”
สองคนยิ้มให้กัน
หลังจากบุริศร์ออกไป ปาณีจึงนวดขาให้นรมน ไม่ได้ขี้เกียจแม้แต่น้อย ท่าทีคล่องแคล่ว แรงดีอีกด้วย นรมนไม่รู้สึกเจ็บเลย แถมยังคลายเมื่อย
“ฝีมือเธอนี่ดีจริง เมื่อก่อนทำอะไรจ๊ะ”
“เป็นพยาบาลที่นี่ค่ะ”
ปาณีเล่าเรื่องหลังจากที่ส่งนรมนมาที่โรงพยาบาลให้ฟัง
นรมนฟังพลาง รู้สึกร้อนวูบวาบ
บุริศร์นี่ ทำเธอตกใจหมด
“ผู้ชายที่ถูกส่งมาพร้อมฉันล่ะจ๊ะ เป็นไงบ้าง”
นรมนไม่อยากเอ่ยถึงรเมศ แต่ไม่เอ่ยก็ไม่ได้ เพราะเธอรู้ ถ้ารเมศไม่ตาย อีกหน่อยยังมีเรื่องเดือดร้อนอีกเยอะ
ปาณีพูดเสียงค่อย“รอดชีวิตแล้วค่ะ แต่ได้ยินว่าคุณบุริศร์ไปทำอะไรกับเขา ตอนนี้นอนร้องครวญครางในห้อง นอนก็ไม่กล้าเข้าใกล้ คุณนายคะ คุณบุริศร์คงไม่ฆ่าคนใช่ไหมคะ”
“ไม่ควรรู้ก็อย่าไปรู้ นี่เป็นกฏ”
น้ำเสียงนรมนไม่เปลี่ยน แต่ว่าปาณียังคงเงียบเสียงไว้ พูดขึ้น“ค่ะ ฉันจำไว้แล้ว”
สองคนจึงคุยเรื่องอื่นๆ
ปาณีรู้สึกว่านรมนมีความรู้กว้างขวางเหลือเกิน จึงอดรู้สึกอิจฉาและศรัทธาไม่ได้
“คุณนายคะ คุณเป็นนักออกแบบรถยนต์เหรอคะ เก่งมากเลย”
“ที่ไหนกัน ฉันก็แค่รู้นิดหน่อย”
“ก็ถือว่าไม่เลวแล้วค่ะ ฉันแค่คันเร่งยังไม่รู้จักเลย”
คำพูดของปาณีทำให้นรมนอดยิ้มไม่ได้
ทั้งสองคนคุยกันอย่างสนุกสนาน จู่ๆด้านนอกก็มีเสียงเอะอะมะเทิ่ง เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีเสียง
ร้องไห้
“เกิดอะไรขึ้น”
นรมนขมุ่นคิ้วเล็กน้อย
“ฉันออกไปดูเองค่ะ คุณนายอยู่ที่นี่ก่อนนะคะ”
ปาณีพูดจบจึงลุกขึ้นยืน
จังหวะที่เปิดประตู ปาณีเห็นหญิงชราคนหนึ่งโดนบอดี้การ์ดสองสามคนล้อม และกำลังตะคอกใส่
พวกเขาอย่างเดือดดาล
“พวกแกรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร ถึงได้กล้ามาขวางทางฉัน ฉันจะบอกอะไรให้ ถ้าฉันพูดอะไรออกไปสักคำ พวกแกจะถูกไสหัวไปแน่นอน รู้มั้ย”
ดูจากสง่าราศี ปาณีรู้สึกว่าหญิงชราคนนี้มีสง่าราศรีมาก แต่น้ำเสียงออกจะทำให้คนไม่ชอบใจ
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
ปาณีเปิดประตู
บอดี้การ์ดหลายคนเห็นปาณีจึงตกตะลึง แต่ก็จำได้อย่างรวดเร็วว่าเป็นปาณีจึงรีบพูดขึ้น“รบกวนคุณนายพักผ่อนใช่ไหมครับ”
“ใช่สิ เอะอะขนาดนี้ จะไม่รบกวนได้ไง คุณนายท่านนี้เป็นใคร”
“เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร”
คุณนายใหญ่แห่งวัชโรทัยเปล่งเสียงสูงขึ้น
บางทีไม่กี่ปีนี้เธออยู่ในตำแหน่งสูง เคยชินกับการได้รับการยกย่อง ผู้คนเรียกว่าคุณนายใหญ่วัชโรทัย ตอนนี้มาล้มละลาย จึงดึงบรรยากาศเหล่านี้กลับมาไม่ได้
ปาณียิ่งไม่ชอบหล่อนมากยิ่งขึ้น
“ฉันต้องรู้จักคุณด้วยหรือคะ คุณไม่ใช่เจ้านายฉันสักหน่อย ไม่ได้ให้เงินเดือนฉัน ทำไมฉันต้องรู้จักคุณด้วย”
“ยัยเด็กบ้า!”
คุณนายวัชโรทัยยืดตัว ตวัดไม้เท้าไปทางปาณี
ปาณีรับไม้เท้าไว้ พูดเสียงเย็น“คุณจะทำอะไร อย่ามาวางอำนาจที่นี่นะ !ที่นี่เป็นโรงพยาบาล ไม่อนุญาตให้ส่งเสียงดัง เรื่องพื้นฐานแค่นี้ก็ไม่รู้หรือ ตอนนี้ยังจะลงไม้ลงมืออีก คุณคิดว่าคุณสูงวัยแล้วฉันจะทำอะไรคุณไม่ได้งั้นเหรอ คุณเชื่อมั้ย ถ้าคุณแหกปากอีก ฉันจะให้คนหามคุณออกไป!”
“เธอกล้า!”
คุณนายใหญ่วัชโรทัยไม่เคยโมโหหนักขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้โมโหจนตาตั้ง
ปาณียิ้มแล้วพูด“ทำไมฉันจะไม่กล้า ฉันจะกลัวคุณทำไม ที่นี่มีกล้องวงจร พวกนายไม่กี่คุณ คุณนายกำลังปวดหัว รีบเอายายแก่นี่ออกไป อย่ารบกวนคุณนายพักผ่อน ถ้าคุณบุริศร์เอาโทษ พวกนายรับผิดชอบไหวมั้ย”
บอดี้การ์ดสองสามคนได้ฟัง ตื่นตัวขึ้นมาทันที มองไปทางคุณนายใหญ่วัชโรทัยแล้วเดินไป
คุณนายใหญ่วัชโรทันตัวสั่นเทิ้ม แต่ก็จับใจความคำพูดปาณีได้ วันนี้พอนึกถึงบริษัทวัชโรทัย ก็นึกถึงหน้าตา จึงตะโกนก้อง
“นรมน ถ้าเธอยังมีน้ำใจ ก็โผล่หัวออกมานี่!