แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 854
ปาณีหายตัวไป!
เมื่อนรมนค้นหา ก็ไม่พบแม้เงาของปาณี
คิ้วของนภดลขมวดเข้าหากันแน่น เมื่อเห็นนรมนหาทุกแห่งหนแล้ว ในที่สุดก็อดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “เธออาจจะไปด้วยตัวเอง”
“ไม่ใช่แน่!”
นรมนตอบโดยไม่รู้ตัว แต่เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง รีบหันกลับไปมองนภดล ก่อนถาม “ทำไมคุณถึงมั่นใจนัก?”
“ผมบอกเธอว่าอย่าเสียเวลากับผมเลย ผมคิดว่าเธอบางทีเธออาจเป็นผู้หญิงที่หน้าบาง ตัวเองรู้สึกเสียหน้า เลยไป”
เมื่อได้ยินสิ่งที่นภดลพูด เธอก็แทบรอไม่ไหวที่จะทุบหัวเขาด้วยก้อนหิน
“คุณก็รู้ว่าคุณไม่ได้ชอบปาณีแต่นอกจากปาณีจะสนใจคุณแล้ว ก็ไม่ได้ทำเรื่องเสียหายหรือก่อเรื่องให้ฉันนี่? ทำไมไม่รอให้กลับเมืองชลธีก่อนค่อยพูดเล่า?”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของนรมน นภดลก็พูดทีละคำทีละประโยค “ใจของผมได้ตายไปแล้ว ให้ความหวังเธอ เสียเวลาเธอ ไม่ดีกว่าหรือถ้าให้เธอรู้ไว้ก่อน บางทีเธออาจจะหาความสุขที่เป็นของเธอเจอ ผมไม่ใช่คนรักของเธอ”
“ก็ไม่ควรรีบร้อนในเวลานั่น!”
นรมนร้อนใจ
เมื่อเห็นท่าทางเธอเช่นนี้เป็นเช่นนี้ บุริศร์กลัวว่าจะมีผลต่อทารกในครรภ์ เขารีบพูดขึ้น “ เอาละ คุณไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความรู้สึกของคนอื่นได้ ในเมื่อนภดลได้พูดไปแล้ว ให้โทรไปถามปาณีว่าเธอได้จองตั๋วเครื่องบินไหม”
นรมนส่ายหัวและพูดว่า “เธอไม่ไปแน่ ถึงแม้นภดลจะทำเรื่องน่าเกลียดกับเธอ เธอจะไม่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ฉันรู้จัก ปาณีเธอเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก ฉันยังอยู่ตรงนี้ หน้าที่ของเธอคือดูแลฉัน เธอจะไม่จากไปโดยไม่บอกฉัน”
เมื่อเห็นนรมนยืนยันเกี่ยวกับปาณีเช่นนี้ บุริศร์ก็ขมวดคิ้ว
“นภดล นายเจอปาณีที่ไหน?”
“ตรอกหลัง”
“พวกเราไปดูกันดีกว่า”
บุริศร์พูดพลางจะเดินไป นรมนก็ตามเขาไปด้วย
“ฉันจะไปดู อยู่นี่แล้วใจไม่สงบ”
บุริศร์รับรู้อารมณ์ของนรมน และไม่ได้พูดโน้มน้าว เขาสวมเสื้อคลุมให้เธอก่อนจะตามนภดลไปยังตรอกหลัง
ที่นี่ค่อนข้างมืดและเงียบงัน
นรมนและบุริศร์เป็นผู้สังเกตการณ์ที่ระมัดระวัง แต่เท้าของนรมนถูกกระทบกับอะไรบางอย่าง
เธอยกเท้าขึ้น ใช้แสงจากโทรศัพท์ส่องลงไป ก่อนจะพบว่าเป็นโทรศัพท์ของปาณี
“นี่มันมือถือของปาณี! ถ้าเธอเดินออกไปด้วยตัวเอง ทำไมถึงไม่เอามือถือไปด้วย!”
คำพูดของนรมน ทำให้ บุริสณ์เข้าใจในทันที
“ปาณีถูกลักพาตัว”
“แต่เธอไม่ใช่คนรวย ใครจะลักพาตัวเธอไปทำอะไร?”
นภดลโทษตัวเองเล็กน้อย
บางทีมันอาจจะดีกว่าถ้านำปาณีกลับมาด้วยกัน แต่ตอนนี้พูดอะไรไปก็สายไปเสียแล้ว
“ลักพาตัวเธอไม่จำเป็นต้องเพราะเงิน บางครั้งเพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง นี่อาจเป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ทำให้มีคนลักพาตัวเธอ ที่กลางเขาไกลโพ้นจากผู้คนนี่มีคนที่หาภรรยาไม่ได้… …”
นรมนไม่ได้พูดส่วนที่เหลือ แต่ทุกคนเข้าใจ
“บางทีอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิด บางทีอาจจะเป็นสมาชิกที่เหลืออยู่ของเทย่า”
บุริศร์ปลอบโยนเธอ
นรมนอยากจะหัวเราะ แต่กลับหัวเราะไม่ออก
“สมาชิกที่เหลืออยู่ของเทย่าสามารถลักพาตัวฉันได้ ลักพาตัวแม่ฉันและสามารถลักพาตัวมิลินได้ แต่จะไม่ลักพาตัวปาณีพวกเราแจ้งตำรวจเถอะ ปาณีเป็นคนของฉัน ฉันหวังจริงๆ ว่าเธอจะไม่เป็นอะไร”
“ผมไปเอง”
อาจเป็นเพราะการตำหนิตัวเองต่อ ปาณีนภดลเลยอาสาโทรหาตำรวจ และเริ่มค้นหาที่อยู่ของปาณี
นรมนเหนื่อยเล็กน้อย เธอเอนตัวเองอยู่แนบอกของบุริศร์และกระซิบว่า “ฉันทำผิดไหม? ถ้าฉันไม่พาปาณีมาที่นี่ บางทีคงไม่เกิดเรื่องกับเธอ”
“ในโลกนี้มีความเป็นไปได้มากมาย นี่อาจเป็นความทุกข์ทรมานของคนหนึ่ง อย่าคิดมากเลย”
นรมนกระซิบ”ฉันคิดว่าตัวเองโตแล้ว ฉลาดแล้ว แต่ฉันไม่ได้คิดว่าจะถูกเทย่าหลอกใช้ บุริศร์ คุณว่าทำไมหัวใจมนุษย์นั้นซับซ้อน? แปลกประหลาดและเปลี่ยนแปลงได้?”
“คุณนี่ อย่าคิดมาก พักผ่อนให้ดี ตอนบ่ายคุณตาก็มาแล้ว ของของแม่ก็เก็บเรียบร้อยแล้ว อาการป่วยของเธอไม่เสถียร คุณต้องดูแลปกป้องตัวเอง ถ้าเกิดคุณป่วย แม่จะกังวล ผมก็จะเจ็บปวด”
บุริศร์กอดนรมน
นรมนดูเหมือนจะเหนื่อยจริงๆ เธอปล่อยให้บุริศร์กอดเขา และกระซิบว่า “คุณรู้ไหม ว่าฉัตรยาเสียชีวิตได้อย่างไร?”
“ผมรู้ นภดลบอกแล้วละ แต่เราไม่จำเป็นต้องอิจฉาความรักแบบนั้น เราไม่ต้องการ เราต้องการความรักที่เรียบง่ายลึกซึ้ง จับจูงมือกันไปตลอดชีวิต ดังนั้นอย่าให้ความรักของพวกเขาส่งผลกระทบนะรู้ไหม? ไม่ว่าตอนไหน แค่คุณต้องการ แค่หันกลับมา ผมอยู่นี่”
คำพูดของบุริศร์ทำให้หัวใจที่กังวลของนรมนดีขึ้นมาก
เธอซบลงในอ้อมแขนของบุริศร์และกระซิบ “บุริศร์ฉันเหนื่อย ฉันอยากนอนสักเดี๋ยว ตอนที่ฉันพักผ่อนคุณต้องหาปาณีให้เจอนะคะ”
“อืม ผมรับปาก เมื่อคุณลืมตาขึ้นมา คุณจะเจอเธอแน่นอน”
บุริศร์สัญญา
ในที่สุด นรมนก็ผล็อยหลับไป
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้กังวลเกี่ยวกับปาณีหรือเธอไม่ต้องการไปหาปาณีด้วยตัวเอง แต่ร่างกายของเธอไม่สามารถทนทานได้อีกต่อไป
เที่ยวบินที่ยาวนาน ได้ขโมยเรี่ยวแรงของเธอไป หลังจากลงจากเครื่องบิน เธอก็ต้องต่อสู้กับปัญญาและทักษะของเทย่า หลังจากเห็นคิมอารมณ์ของเธอก็ไม่คงที่ ถ้าเธอไม่รักษาสภาพไว้ เธอคงล้มลงไปนานแล้ว
บุริศร์มองดูความเหนื่อยล้าในสายตาของนรมน เขารู้สึกเป็นทุกข์มากขึ้น ,
โชคดีที่เรื่องเหล่านี้มีตอนจบที่สมบูรณ์แบบ
ว่ากันว่าเรณุกาถูกจับกุมขณะติดต่อกับผู้คนภายนอก และผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งหมดถูกจับ เทย่าก็ถูกกองทัพนำตัวไปเช่นกัน
เจตต์ลับบ้าน เขาขังตัวเองไว้ และไม่เจอใครเลยหนึ่งวันหนึ่งคืน เมื่อประตูเปิดออกมา เพลย์บอยเจตต์คนเดิมก็กลับมาอีกครั้ง
บุริศร์รู้ว่าวันที่เขาและนรมนต้องการได้มาถึงแล้ว
เมื่อนรมนดีขึ้น เขาก็พาเด็กๆ กลับจากเขตทหาร ครอบครัวสุขสันต์
บุริศร์กอดนรมนแล้ววางลงบนเตียง
คิมถามด้วยความเป็นห่วง “นรมนเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เธอเหนื่อยครับ ตอนนั่งเครื่องไม่ได้พักผ่อน เครียดและต้องการพักผ่อน”
เมื่อได้ยินคำพูดของบุริศร์ คิมรู้สึกเป็นทุกข์มาก
“ฉันไม่ดีเอง เป็นฉันที่ทำให้เธอเป็นห่วง เด็กคนนี้ทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ”
“ไม่น่าประหลาดใจเลย คุณเป็นแม่ของเธอ เธอรักคุณ”
คำพูดของบุริศร์ ทำให้คิมพยักหน้า
เมื่อคุณท่านพรโสภณมาถึง นรมนยังคงหลับอยู่ ยังไม่ตื่น
คิมมองไปยังคุณท่านพรโสภณอย่างอึดอัดเล็กน้อยและไม่รู้จะทำตัวอย่างไร แต่เธอยังคงตะโกนเรียก “พ่อ” ทำให้คุณท่านพรโสภณน้ำตารื้น
“ในที่สุดลูกก็เรียกพ่อแล้ว จำพ่อได้แล้ว”
คุณท่านพรโสภณร้องไห้ราวเด็กน้อย
จู่ๆ คิมก็พบว่าทุกสิ่งที่เธอยืนกรานมาตลอดหลายปีนั้นช่างน่าขัน และตอนนี้เธอกอดพ่อที่แก่ชราของตัวเอง และร้องไห้ออกมาในที่สุด
มิลินกำลังจัดของ ทุกคนกำลังรอที่จะกลับไปยังเมืองชลธี แต่บุริศร์รู้ว่าถ้าหากหาปาณีไม่เจอ นรมนจะไม่ออกไปจากที่นี่
เขาปล่อยให้คนของตัวเองปกป้องพวกเขา และออกไปตามหาปาณีด้วยตัวเองกับนภดล
เมื่อนรมนตื่นขึ้นมา เขาไม่เห็นเงาของบุริศร์
เธอเห็นคุณท่านพรโสภณ และเห็นว่าคิมและคุณท่านพรโสภณคืนดีกันแล้ว ในขณะที่กำลังปีติยินดี เธอก็รีบโทรหาบุริศร์อย่างเร็ว
ไม่มีใครรับสาย นรมนกังวลเป็นพิเศษ
เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งคุณท่านพรโสภณและคิม กลัวว่าอารมณ์ของเธอจะผันผวนมากเกินไป แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่านรมนไม่พูดอะไรเลย ต่างก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
ในที่สุดเวลาประมาณห้าทุ่ม บุริศร์และนภดลก็กลับมา
นภดลอุ้มปาณีที่หมดสติกลับมาด้วย
“ปาณี”
นรมนลุกขึ้นมาอย่างเร็วด้วยความหวั่นใจ
บุริศร์กลัวเธอล้ม จึงเข้ามาประคองทันที
“ปาณีเป็นอะไรไป? พวกคุณไปพบเธอที่ไหน?”
สีหน้าของนภดลย่ำแย่ เขาพูดเสียงต่ำ “ผมพาเธอไปพักที่ห้องก่อนนะครับ”
“ปาณี”
นรมนอยากจะถามอะไรหน่อย แต่กลับถูกบุริศร์ดึงไว้ก่อน
“พวกเรากลับไปพักก่อนเถอะ ดึกมาแล้ว”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนเข้าใจ เขาไม่อยากให้ตัวเองไปถามนภดล
ทั้งสองกลับไปยังห้องพัก
นรมนถามอย่างร้อนใจ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ? ไปเจอปาณีที่ไหนกัน?”
“ในพื้นที่ภูเขาห่างจากที่นี่กว่าร้อยกิโลเมตร ที่คุณเดาไม่ผิดนัก ปาณีถูกทำให้หมดสติ ขายเธอให้กับพื้นที่ภูเขาเพื่อให้เป็นภรรยา ตามรอยไปจนสุดทาง แต่ถึงแม้พวกเราจะตามไปอย่างเร็วปาณีก็ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย เธอตื่นมาในระหว่างนั่น พบว่าตัวเองถูกจับมา และต้องการหลบหนี ถูกคนทำให้ขาหัก”
“อะไรนะ?”
เมื่อนรมนได้ยินบุริศร์พูดอย่างนี้ นรมนก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ
“พวกคนที่ค้าขายมนุษย์ถูกจับแล้วหรือยัง?”
“ไม่ต้องห่วง ถูกจับหมดแล้วละ ไม่มีใครหนีรอด”
“น่ารังเกียจที่สุด! ทำไมถึงมีคนที่น่าขยะแขยงได้ขนาดนี้!”
นรมนผ่านเรื่องราวมามากมายแล้ว เธอรู้ดีว่าตอนนั้นปาณีสิ้นหวังและหวาดกลัวเพียงใด
“เธอก็กระดูกก้นกบหักอยู่แต่แรกแล้ว วันนี้ขาสองข้างก็หักอีก ฉันจะให้ปาณีอภัยให้ได้อย่างไร?”
“อย่าเป็นอย่างนี้ นรมน ไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมขอให้นภดลไปเชิญมิลินมารักษาแล้ว คาดว่ามิลินจะสามารถรักษาเธอได้”
บุริศร์เสียใจกับเรื่องนี้มาก แต่เขารู้ ว่านรมนเป็นมากกว่าเขา
“ฉันอยากไปเยี่ยมปาณี”
“พรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้ดึกแล้ว แถมปาณียังเจ็บมากด้วย ระหว่างทางผมจะให้หมอจากสถานีตำรวจให้ยานอนหลับเธอด้วย คาดว่าก่อนพรุ่งนี้เช้าก็คงยังไม่ตื่น คุณปล่อยให้เธอพักเถอะ มีอะไรค่อยพูดพรุ่งนี้นะ”
“ค่ะ”
นรมนดูออกว่าบุริศร์เป็นห่วงเธอ
ทั้งสองไม่ได้นอนทั้งคืน นรมนนอนหลับอย่างกระสับกระส่าย เธอฝันอยู่เสมอว่าปาณีกำลังร้องไห้และขอความช่วยเหลือ
เธอตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยหอบ เหงื่อเปียกโชกไปทั่วตัว เมื่อลมพัดมาเธอก็ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
นรมนต้องการลุกขึ้นไปล้างตัว แต่ขณะที่เธอยกผ้าห่มขึ้น เสียงกรีดร้องแหลมสนั่นหูก็ดังก้องไปทั่วห้อง
“ปาณี!”
นรมนรีบยกผ้าห่มออก รองเท้าไม่ใส่ เธอวิ่งออกไปข้างนอกด้วยเท้าเปล่า