แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 857
เมื่อเห็นนรมนชะงักไป คิมก็ถามอย่างรวดเร็ว “เป็นอะไรไป? บุริศร์ได้พูดอะไรหรือ?”
“เปล่าค่ะ หนูกำลังคิด เมื่อกี้หนูอาจทุ่มเทเขียนแบบมากไป เลยอาจไม่ได้ยินเสียงสายโทรเข้าของเขา เดี๋ยวสักพักหนูจะโทรไปถามเขาค่ะ แม่ หนูพักก่อนนะ สักเดี๋ยวหนูจะให้โตษินมาปลุก แม่ก็เหนื่อย ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนหนูหรอกค่ะ ”
นรมนรีบพูดพลางส่งยิ้ม
เธอไม่ต้องการให้คิมกังวล แม้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับบุริศร์ เธอก็ไม่อยากให้คิมรู้
คิมอยู่ในงานราชการมาหลายปีแล้ว เธอสามารถอ่านความคิดของนรมนได้ชัดเจน แต่เธอก็ยังไม่ทราบความคิดของเด็กน้อยทั้งหมด
เธอยิ้มและพูดว่า “จ๊ะ แม่ไปพักผ่อนก่อน อย่าทำงานดึกจนเกินไปละ ดูแลสุขภาพ ยังมีอีกคนอยู่ในท้องลูกนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
นรมนยิ้มและเดินไปส่งคิมออกจากห้อง
หลังจากปิดประตู รอยยิ้มของนรมนก็แข็งขึ้น
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู ไม่มีแม้แต่ข้อความ และไม่มีสายที่ไม่ได้รับ หัวใจของเธอพลันหนักอึ้ง
นรมนรีบโทรหาบุริศร์อย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีใครรับสาย
แม้จะต่อสายห้าถึงหกครั้งติดต่อกัน แต่ก็ยังไม่มีใครรับสายเหมือนเดิม
นรมนกังวลเล็กน้อย
เธอไม่ยอมแพ้ที่จะต่อสายหาเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีคนรับสายโทรศัพท์ ทว่ากลับเป็นเสียงผู้หญิงส่งต่อมาจากปลายสาย
“ฮัลโหล โทรหาใครคะ?”
หัวใจของนรมนหยุดเต้นกะทันหัน
ไม่ใช่ว่าบุริศร์ไม่เคยไปคลับเมื่อเข้าสังคม แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีผู้หญิงมานั่งดื่มกับเขา จุดนี้นรมนรู้ดี และยิ่งไม่ต้องพูดถึงถ้าจะให้อีกฝ่ายได้เข้าถึงโทรศัพท์ของเขาแล้วด้วย
ดวงตาของเธอจมดิ่งลงทันที
“คุณคือใคร”
เสียงของนรมนเย็นลงเล็กน้อย และทำให้อีกฝั่งหยุดชะงัก จากนั่นออร่าที่แผ่ออกมาก็อ่อนลง ก่อนพูดเสียงเล็ก “ฉันคือสาวดริ๊งค์แห่งคลับ54th Street”
นรมนรู้ ว่าคำว่า สาวดริ๊งค์ หมายความว่าอะไร เพราะว่ารู้ หัวใจของเธอยิ่งหนักราวโดนหินกดทับ
ไม่แปลกที่บุริศร์จะไปคลับ แต่ที่น่าแปลกคือเรียกสาวดริ๊งค์ อย่าบอกนะว่า ตอนนี้ผู้หญิงคนนั่นได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้โทรศัพท์ของตัวเองได้ ใจของนรมนอดไม่ได้ที่จะเย็นเยียบ
“แล้วเขาล่ะ?”
อีกฝ่ายกลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “คุณกำลังพูดถึงประธานบุริศร์ไหมคะ?”
“เขาละ?”
“ประธานบุริศร์ดื่มมากเกินไป ถูกประคองไปพักผ่อนค่ะ โทรศัพท์ถูกทิ้งไว้ที่นี่ ฉันมาเอาโทรศัพท์ไปให้เขา”
เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ความโกรธของนรมนก็เพิ่มขึ้น
ไอ้บุริศร์!
ท่าทางตอนออกจากบ้านก็นึกว่าเกิดเรื่องอะไร ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าวิ่งเข้าคลับดื่มสุราเคล้านารี
ความหึงหวงและความโกรธของนรมนผสมปนเป เผาผลาญสติของเธอมอดไหม้
“เอาที่อยู่มาให้ฉัน!”
อีกฝ่ายบอกที่อยู่ให้นรมนเสียงเบา
นรมนรีบลุกขึ้น ยังไม่ทันเปลี่ยนชุดก็เดินออกไป แต่ทว่าเมื่อเดินออกมาแล้วกลับรู้สึกหนาว เมื่อก้มลงมอง เธอยังใส่ชุดนอนอยู่เลย
เมื่อคิดถึงสถานที่อย่างคลับเฮาส์ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไปและพบโตษิน
“มีกุญแจรถไหม? ฉันจะออกไปข้างนอก”
เสียงของนรมนต่ำมาก ซึ่งทำให้โตษินตกใจ
โชคดีที่ติดนิสัยการนอนพร้อมเสื้อเชิ้ตเป็นเวลาหลายปี ทำให้เขาไม่ต้องทำตัวไม่ถูก
“คุณหนู จะออกไปข้างนอกหรือครับ? ผมไปกับคุณเถอะ”
“ไม่ต้อง”
นรมนปฏิเสธไปโดยตรง
โตษินมองท่าทางของนรมน และเธอรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังโกรธ แต่ว่าเธอโกรธใครกันละ?
นรมนเห็นสายตาของโตษินมองสำรวจมาที่เธอ ก็กลัวว่าเขาจะไปหาคุณท่านพรโสภณก่อนพูดอย่างร้อนรน “ฉันจะไปรอข้างนอก”
โตษินข้าใจประโยคนี้
เขาลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า จัดการตัวเอง ก่อนที่จะรีบมายังโรงรถ
นรมนดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี ใบหน้ามืดมนอยู่ตลอด ทั่วทั้งร่างแผ่ความกดดัน ทำให้โตษินไม่กล้าถาม
“บอกเจ้าบ้านหรือยังครับ?”
“ไม่ต้องหรอก คุณตาหลับแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตามฉันไปคนเดียวก็พอ”
นรมนพูดหลีกเลี่ยง แต่นรมนไม่กล้าวุ่นวาย
ทั้งสองขับรถออกมาจากค่ายทหาร
นรมนให้โตษินขับไปตามที่อยู่ที่ผู้หญิงคนนั้นส่งมาให้
เมื่อมองไปยังคลับเฮาส์อันงดงามโอ่อ่าตรงหน้าเขา ความโกรธของนรมนก็ลึกขึ้น แต่เธอกลับยังคงระวังไว้
เธอต้องการได้ยินบุริศร์อธิบายด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นว่านรมนโกรธเช่นนี้ เขาก็มองไปที่คลับแล้วก็คิดอะไรขึ้นมาด้วย
“คุณหนู บุริศร์ไม่ใช่คนแบบนั่น เขา… …”
“หุบปาก!”
นรมนอยู่ในอารมณ์ไม่ดี โดยปกติแล้วก็นิสัยไม่ดี
โตษินหุบปาก ในเวลานี้เขารู้สึกว่าอารมณ์ของนรมนคล้ายคลึงกับคุณท่านพรโสภณ
เขายืนอยู่ด้านหลังนรมน มองไปยังนรมนที่ชะงักไปนิด ก่อนจะต่อสายไปยังเบอร์หนึ่ง
“ชั้นที่เท่าไหร่?”
“ชั้นที่13 ห้อง1308”
เสียงของผู้หญิงไม่ดัง แต่ดวงตาของนรมนจมลงเล็กน้อยอีกครั้ง
โอเค ได้สิ เข้าไปในห้อง
เธอสูดหายใจเข้าลึก และพยายามระงับความโกรธในใจ จากนั้นก้าวเท้าและเดินเข้าไปด้านใน
โตษินไม่พูดอะไร ก่อนเดินตามนรมนเข้าไป
เมื่อคนรับผิดชอบของคลับมองเห็นนรมน เขาก็รีบเข้าไปห้าม แต่เมื่อเห็นดวงตาของโตษินเขาก็ชะงักเลยรีบเปิดทางทันที
นรมนไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เธอตรงไปที่ลิฟต์ ตรงไปยังชั้นที่ 13
นี่คงเป็นพื้นที่พักผ่อนวีไอพี ทั้งชั้นเงียบมาก ความอนามัยก็สะอาดเรียบร้อย
ดวงตาของนรมนยิ่งลึกขึ้น
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเรื่องนอกใจเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เรื่องเข้าใจผิดระหว่างบุริศร์และเขมิกา เธอก็เจ็บปวดรวดร้าว ตอนนี้พวกเขาได้ผ่านความทุกข์ยากมามากมาย ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะแยะ คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีทางหลีกเลี่ยงปัญหานอกใจได้
หัวใจของนรมนเกือบจะหายใจไม่ออก
เธอยังมีความคับแค้นแทบระเบิด
เธอต้องการฆ่าคน!
โตษินเห็นนรมนเป็นแบบนี้ เขารีบห้ามเธออย่างรวดเร็ว
“คุณหนู ให้ผมเข้าไปดูก่อนดีไหมครับว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ถ้าหากไม่ใช่อย่างนั้นที่คุณคิดละครับ?”
“ฉันคิดอย่างไหน?”
นรมนหัวเราะด้วยความโกรธ ไม่เพียง รอยยิ้มสวยพราวเสน่ห์ไม่เพียงไม่ทำให้โตษินรู้สึกดึงดูด แต่กลับทำให้เขาเสียวสันหลังวาบ
เขามีประสบการณ์มากมายกับคุณท่านพรโสภณ เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มวัยละอ่อน แต่เมื่อกี้ เขาเห็นแววตาสังหารในดวงตาของนรมน
โตษินรู้สึกกดดันกับสายตาของนรมนมาก
“คุณหนู ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร ต้องใจเย็นนะครับ ตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณหนูใหญ่ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน เจ้าบ้านก็อายุมากแล้ว คุณ… …”
“ฉันรู้”
นรมนพูดตัดบทโตษิน ถ้าให้เขาพูดต่อไป นรมนรู้สึกตัวเองจะเป็นบ้าตายแล้ว
เธอเดินไปยังห้อง 1308
ประตูถูกปิดไว้ ซึ่งทำให้นรมนประหลาดใจเล็กน้อย
เสียงสวบสาบข้างใน ฟังแล้วเหมือนคนกำลังใส่เสื้อผ้า
หัวใจนรมนราวถูกไฟเผาวอด เธอแทบทนไม่ไหวผลักประตูตรงเข้าไป
“บุริศร์ ลุกขึ้นมา!”
นรมนเดินเข้าไปข้างในทันใด แต่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นคนบนเตียง
เมื่ออีกฝ่ายเห็นนรมน เธอไม่ได้แสดงออกมากนัก เพียงพูดเบาๆว่า “ขอโทษ”
นรมนมองไปยังคนคุ้นเคยตรงหน้า สมองรู้สึกเหมือนถูกตัดขาด
“คมทิพย์?”
เมื่อนรมนพูดคำสามคำนี้ เธอรู้สึกว่าเลือดของเธอกำลังแข็งตัว
คนใกล้ตัวอันตรายที่สุด?
พฤกษ์คือคนที่คมทิพย์ชอบไม่ใช่หรือ?
ทำไมเธอถึงอยู่กับุริศร์?
นรมนมองไปที่บุริศร์อีกครั้ง เขาเหมือนคนดื่มหนัก ร่างกายส่วนบนของเขาเปลือยเปล่า ท่อนล่างเป็นอย่างไรเธอไม่รู้ เพราะมีผ้าห่มปกปิดร่างกายไว้อยู่ทำให้มองไม่ชัด
แต่เธอเตะประตูอย่างไร้มารยาท แต่บุริศร์ก็ยังไม่ตื่น แบบนี้มันไม่ปกติ
“เธอทำอะไรกับเขา?”
ดวงตาของนรมนเย็นยะเยือก เย็นเสียจนทำให้ผู้คนรู้สึกถึงลมหนาวพัดผ่าน
คมทิพย์ก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็วและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ไม่มีอะไร มันแค่ใส่ยาลงในเหล้าของเขา ทำให้เขาค่อนข้างมีสีสันก็เท่านั่นเอง ตอนนี้ร่างกายเขาทรุดโทรมแล้ว คงจะหลับไปแล้วละ”
คมทิพย์พูดพลางจัดแจงรวบปกเสื้อเข้าด้วยกันโดยไม่รู้ตัว
เมื่อนรมนเห็นรอยที่คอของคมทิพย์ เธอรีบปรี่เข้าไปจับมือเธอโดยไม่รู้ตัว เล็บจิกเข้าไปในเนื้อ แต่น้อยกว่าความเจ็บปวดในหัวใจของเธอ
“ทำไม?”
“ไม่ทำไม อยู่ๆฉันก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่เลว เลยดลบันดาลให้ฉันทำ เธอด่าฉันเถอะ ตีฉันก็ได้ ฉันรู้อารมณ์ของเธอดี หลายปีขนาดนี้แล้ว ฉันทำเรื่องขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าเธอไม่ให้อภัยแน่ เธอไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้ฉันจะไปจากที่นี่ จะไม่มาเจอเธออีก”
คมทิพย์ก้มหน้าลง นรมนมองไม่เห็นใบหน้าเธอไม่ชัด
หัวใจของนรมนเจ็บปวด และโกรธ ถ้าหากคนตรงหน้าไม่ใช่คมทิพย์ ไม่ว่าใครก็ตาม เธอคงเข้าไปฉุดกระชากลากถู ตีให้ตายเสีย แต่ตอนนี้ คนตรงหน้าคือคมทิพย์ เพื่อนรักของเธอ เธอลงมือไม่ลง
“ไสหัวไป! อย่าให้ฉันเห็นเธออีกตลอดชีวิต!”
เสียงของนรมนสั่นเทา กักเก็บเอาไว้ แต่กลับเสียงแหบแห้งเล็กน้อย
คมทิพย์รู้ว่านี่เป็นความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนรมน บางทีเธออาจทำร้ายตัวเอง
เธอเงยหน้าขึ้นมองนรมน เมื่อเห็นท่าทางนรมนที่แผ่ไอเย็นออกมาจากทั่วร่าง เธออยากจะเปิดปากพูดอะไรหน่อย สุดท้ายก็ไม่พูดมันออกมา ค่อยๆใส่เสื้อผ้าและเดินจากไป
นรมนนิ่งอยู่ตรงนั่น
เธอไม่ได้ตาบอด และเธอเห็นว่าท่วงท่าการเดินของคมทิพย์ไม่ถูกต้อง
คมทิพย์เป็นผู้หญิงที่รักความสะอาด หลายปีมานี่ก็ยังคงเก็บรักษาไว้ ก่อนหน้าจะปลูกต้นรักกับพฤกษ์ก็ไม่ยอมข้ามคั่นไปถึงไหน บอกว่าจะเก็บสิ่งที่ดีที่สุดไว้จนถึงวันวิวาห์
ตอนนี้สองขาเธอเลื่อนลอย จุดรับน้ำหนักไม่มั่นคง สามารถจินตนาการได้ถึงบทรักเร่าร้อนระหว่างพวกเขา
นรมนไม่มีทางรับมันได้
อีกคนคือคนที่รักที่สุด อีกคนคือเพื่อนรัก จะให้เธอทนได้อย่างไร?
แล้วเธอควรเกลียดใคร?
บุริศร์รับโทรศัพท์แล้วก็ไป หรือคมทิพย์จะโทรไปหาเขา? แล้วทำไมตอนแรกสีหน้าของบุริศร์เป็นอย่างนั่น?
หรือพวกเขาสองคนนั่นมีความสัมพันธ์ลับหลังกันมานานแล้ว?
หรือคมทิพย์จะเป็นอารมณ์ชั่ววูบชั่วคราว?
คำถามต่อเนื่องนี่ทำให้นรมนหัวหมุน
เธอมองบุริศร์ที่นอนสลบอยู่ ทันใดก็ยกขาขึ้น ถีบไปที่เตียง ความแรงทำให้เตียงสั่น แต่คนบนเตียงยังคงหลับใหล