แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 859
“ตื่นแล้วหรือ?”
ป้องพูดเบาๆ แววตาของนรมนก็หายวับไป พูดตามจริง เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรมองบุริศร์ด้วยอารมณ์แบบไหน
นรมนต้องการออกไป แต่เมื่อก้าวขาจะออกไป ก็ชะงักกลับไปที่เดิม
“พวกเรากลับก่อนนะ”
ป้องเหลือบมองนรมน พวกเขาไม่สามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ได้ พูดมากเกินไปก็เหมือนหาข้อแก้ตัวให้บุริศร์ ไม่ไปยุ่งเสียดีกว่า
โพนี่รู้ว่าป้องคิดอย่างไร มองไปที่นรมน ถอนหายใจ ก่อนจะเดินตามป้องออกไป
บุริศร์รู้สึกเหนื่อยไปหมดทั้งร่างกาย รู้สึกไม่ดีเป็นพิเศษ เมื่อเปิดตาก็พบกับความประหลาดใจ
ที่นี่ที่ไหน?
เขาหันมองไปยังห้องที่ไม่คุ้นเคย เมื่อเห็นนรมนเขาก็นิ่งไปนิด ทั่วทั้งสมองว่างเปล่าไปหมด
“นรมน? ทำไมมาอยู่ที่นี่?”
สีหน้าของบุริศร์เซ่อซ่ามาก
นรมนถอนหายใจ ในใจเธอมีความน้อยใจและอึดอัดอย่างมาก เมื่อเห็นสีหน้าของบุริศร์เธอก็กดดัน บวกกับสิ่งที่เธอเดาเอาไว้ เดินไปข้างเตียงก่อนจะยื่นแก้วน้ำอุ่นที่รินเตรียมไว้ให้เขา
“ดื่มน้ำหน่อยเถอะ ดื่มเหล้าไปเยอะขนาดนั่น ตอนนี้คอคงแห้ง”
บุริศร์รับแก้วน้ำมา หลังจากดื่มน้ำแล้ว ดูเหมือนเศษความทรงจำที่หายไปของเขาจะกลับมา
ดวงตาของเขาก็แสดงความตกใจขึ้นมา
“ไม่สิ คมทิพย์ละ?”
บุริศร์ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะพบว่าตัวเขาเปลือยเปล่า
“สถานการณ์อะไรกันนี่?”
คิ้วของเขาขมวดเค้าหากัน
นรมนเข้าใจหมดเรื่องทุกอย่างแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชายที่ทำอะไรลงไปจริงๆ จะไม่รู้สึกอะไรเลย ยิ่งเป็นไปไม่ได้แน่ถ้าจำอะไรไม่ได้เลย ป้องบอกแล้ว เขาโดนวางยา คงจะไม่ได้ทำอะไรเลย ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั่นจริงๆ
“ไม่มีอะไร ใส่เสื้อผ้าเถอะ”
นรมนส่งเสื้อผ้าให้บุริศร์ กลิ่นเหล้าหึ่งบนเสื้อผ้าทำให้เขามุ่นคิ้ว
“ทำไมดื่มหนักขนาดนี้?”
บุริศร์รับเสื้อผ้ามา แต่ถูกกลิ่นเหล้ารบกวนจมูก
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ตัวคุณเองไม่รู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าคุณดื่มเหล้า?”
นรมนอึดอัด แต่ก็มองออก ว่าบุริศร์มีท่าทางราวกับคนไม่รู้เรื่องอะไร
เพียงแต่ว่าเขาจะแสดงเก่งมาก แต่นรมนรู้จักบุริศร์ ถ้าดื่มเหล้าแล้วทำไมถึงจะไม่ยอมรับมัน
เมื่อฟังนรมนพูด บุริศร์ก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่อง
“คุณเห็นคมทิพย์ไหม? เกิดเรื่องกับครอบครัวของเธอ”
บุริศร์เปลี่ยนเรื่องอย่างเร็ว แต่นรมนนิ่งไปนิดก่อนที่จะตามเขาทัน
“เรื่องใหญ่เหรอ?”
“ใหญ่มาก อย่างน้อยมันอาจจะเป็นสิ่งที่ผมแก้ไม่ได้ในตอนนี้ ครอบครัวเขาไม่รู้ไปเย้าแหย่ใครเข้า ตอนนี้พ่อแม่ของเธอถูกคุมตัวที่ด่านศุลกากร ยังไม่รอให้คนของผมเข้าไป เธอถูกคนไม่รู้ลักพาตัวไป ธุรกิจครอบครัวของเธอภาพรวมก็โดนปิดไป สถานการณ์เป็นอย่างไรก็ไม่รู้ละเอียด แต่ว่ากันว่าถ้าหากคนที่ความสัมพันธ์กับครอบครัวเจริญไชยต่างก็ประสบกับหายนะ ผมเพิ่งได้รับข่าว รู้ที่อยู่ของเธอ และจะมาดู ไม่รู้ว่าทำไมถึงสลบ ผมจำได้ว่าดื่มไปแค่แก้วเดียว”
บุริศร์รู้แน่ว่าเกิดเรื่อง แต่เขาก็ไม่ประทับใจนัก เห็นใบหน้าที่ไม่โอเคของนรมน น่าจะเกี่ยวข้องกับเขา ยิ่งไปกว่านั่นความทรงจำของเขาเกี่ยวกับเรื่องเมื่อตะกี้ก็ไม่มีเลย ทุกอย่างขาวโพลนไปหมด
เมื่อนรมนได้ยินว่าครอบครัวเจริญไชยมีปัญหา เธอก็รู้ว่าเรื่องทุกอย่างบางทีอาจจะเป็นคมทิพย์เองที่เขียนและกำกับทุกอย่าง และไม่ได้เกี่ยวกับบุริศร์มากนัก
“ก่อนหน้านี่ที่คุณอยู่ในบ้านของคุณตา คุณรับสายนี่ใช่ไหม?”
“ใช่ ตอนนั่นผมว่าคุณจะกังวลกับคมทิพย์ เลยวางแผนออกมาสำรวจดูเสียหน่อย จากนั่นก็บอกคุณ ไม่คิดว่า… … เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“ไม่มีอะไร คาดว่าคมทิพย์คงไม่ต้องการให้เราเข้าไปยุ่ง เลยวางยาคุณ ให้หลับไป”
นรมนพูดเบาๆ
เมื่อเทียบกับความโกรธและความน้อยใจ เมื่อไม่นานที่ผ่านมา เธอไม่รู้สึกอึดอัดเลยในตอนนี้ แต่เริ่มกังวลเกี่ยวกับคมทิพย์แทน
อิทธิพลอะไรที่สามารถทำให้บุริศร์เอื้อมเข้าไปไม่ถึง
บุริศร์ขมวดคิ้ว เขาสวมเสื้อผ้าด้วยความรังเกียจ จากนั่นจึงพูด “เรื่องนี้ผมจะพูดกับพฤกษ์”
“พฤกษ์คงรู้แล้วไหม?”
“คมทิพย์ไม่ไปหาเขาไม่ได้ ถ้าหากว่าเป็นเรื่องใหญ่จริง สิ่งที่เธอไม่อยากให้พัวพันที่สุดคาดว่าจะเป็นพวกเราและพฤกษ์ ตอนนี้ผมกลัวว่าพฤกษ์จะใจร้อน”
บุริศร์ดมเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหล้าหึ่งของตัวเองด้วยความรังเกียจ ก่อนพูดเสียงต่ำ “ผมไปอาบน้ำก่อน ให้คนส่งเสื้อผ้ามาให้ด้วยนะ”
“โอเคค่ะ”
นรมนโทรศัพท์หาโตษิน และวานเขาซื้อเสื้อผ้ากลับมาให้บุริศร์เปลี่ยน จากนั้นบุริศร์ก็ได้เข้าไปในห้องน้ำ
เมื่อเสียงน้ำในห้องน้ำไหล คิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันแน่น
คมทิพย์ตัดสินใจจะออกห่างจากเธอไม่ว่าจะเป็นหรือตายตลอดชีวิตเลย?
ความสัมพันธ์ของพวกเธอดีขนาดนี้ ตอนนี้กลับใช้เรื่องของบุริศร์มาโกหกระหว่างเธอสอง เธอรู้ว่านรมนรักความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นจิตใจหรือร่างกาย ดังนั้นนี่คือสิ่งที่เธอวางเดิมพันไว้ทั้งหมด วางแผนที่จะไม่ไปมาหาสู่กับตัวเองอีก ทำลายความสัมพันธ์ของตัวเองกับครอบครัวเจริญไชยหรือไม่
นรมนจำได้ดีว่าคมทิพย์ทำเพื่อเธอมากมาย แม้กระทั่งหลังจากกลับบ้านเจริญไชย ก็ยังต้องไปชายแดนกับน้องชายเพื่อเรื่องของเธอ วิ่งเต้นเพื่อเธอมานาน ตอนนี้กลับมายังไม่พูดสักคำ ก็เพราะว่าเรื่องของครอบครัวครั้งนี้มันเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่ แล้วได้ตัดสินใจครั้งใหญ่แล้วหรือยัง?
เธอรู้สึกอึดอัดมาก
ใช่แล้ว
เธออึดอัดใจมาก
ไม่ว่าใครถ้ามามีความสัมพันธ์กับบุริศร์ เธอสามารถตัดได้อย่างรวดเร็ว คมทิพย์จับจุดนี้ได้ ถึงไม่สนที่จะทำอย่างนี้
มือของนรมนกำผ้าปูที่นอนแน่น จนเกือบฉีกขาด
ครอบครัวเจริญไชยเป็นนักธุรกิจไม่ใช่หรือ?
ทำไมถึงชวนให้หลง?
ไปทำผิดต่อใคร?
ทำไมความสามารถยิ่งใหญ่ขนาดนี้?
มันเกี่ยวข้องกับเธอที่ปล่อยให้คมทิพย์ไปที่ชายแดนหรือไม่?
นรมนฉลาดเฉียบแหลมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ถ้าเป็นเพราะเธอจริงๆ เธอก็รู้สึกผิด
บุริศร์รู้สึกอึดอัดในห้องน้ำเช่นกัน
ท่าทางการแสดงออกของนรมนไม่ถูกต้อง ความทรงจำของเขามันขาดไป ทั้งหมดนี้มันไม่ถูกต้อง แถมเขายังเจอกับคมทิพย์ ไม่ได้ดื่มเหล้า แล้วทำไมถึงมีกลิ่นเหล้าหึ่งเสียขนาดนั้น
คมทิพย์มอมเขา?
แต่ทำไมละ?
และถึงเขาจะเมา ก็ไม่จำเป็นต้องถอดท่อนบนไหม?
ยิ่งไปกว่านั้นสีหน้าของนรมนยังดูแย่มาก
บุริศร์ใช้ประโยชน์จากเสียงน้ำไหลรีบต่อสายหาป้อง
“มียาอะไรที่ทำให้คนกินเข้าไปสภาพเหมือนเมาเหล้าไหม?”
ป้องที่อยู่ทางนั่นยังไม่ถึงบ้าน เมื่อเห็นบุริศร์โทรมา เขาก็หยุดรถไว้ข้างทาง อย่างไรบนรถก็มีโพนี่ เขาไม่กล้าทำเรื่องอันตรายแน่
“ตื่นแล้วเหรอ?”
เสียงของป้องฟังดูขี้เกียจ แต่กลับทำให้บุริศร์ชะงักไป
“นี่นายมาที่คลับ?”
“อืม ออกมาไม่กี่นาทีที่แล้ว ตอนนี้อยู่บนถนนโคกสาร ”
คำพูดของป้องทำให้บุริศร์ขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก อดไม่ได้ที่จะมองออกไปข้างนอก
“นรมนให้นายมาหรือ?
“ใช่ นายอาจจะถูกคนเล่นเข้าให้แล้ว ตอนฉันไป ท่อนบนนายเปลือยเปล่า ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า สำคัญที่สุดเลยคือมีผู้หญิงออกจากห้องของนายไป ทั่งทั้งร่างกายมีแต่รอยรักทั้งนั้น”
คำพูดของป้องเกือบทำให้โทรศัพท์ในมือของบุริศร์ตก
“นายพูดบ้าอะไร?”
“ไม่ได้พูดบ้าโว้ย ทำไมนายไม่ไปดูกล้องวงจร?”
คำพูดของป้อง ทำให้บุริศร์นิ่งไปนิด
ในขณะนี้ นรมนที่อยู่ข้างนอกราวกับจะคิดอะไรได้บางอย่าง เธอลุกขึ้น ก่อนจะพูด “บุริศร์ ฉันออกไปดูโตษินก่อนนะว่ากลับมาหรือยัง”
จากนั้น เธอก็เดินออกไปข้างนอก
บุริศร์ จู่ๆก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง
“เดี๋ยวโทรกลับ”
เขารีบวางสาย จากนั้นจึงใช้โปรแกรมของมือถือเข้าดูระบบกล้องวงจรปิดของคลับ
หากเป็นเมื่อก่อน ก็ยังไม่มีค่ามากพอที่เขาจะต้องทำอย่างนี่ ฐานะของบุริศร์อยู่ที่ไหน เขาอยากดูกล้องวงจรอะไร แค่สั่งมาก็พอ แต่ตอนนี้เขามีความรู้สึกอย่างหนึ่ง ราวกับว่านรมนต้องการลบภาพจากกล้องวงจรปิด
ในขณะนี้ บุริศร์ไม่มีเวลาแล้ว ใช้เทคโนโลยีในการแฮ็คเพื่อใช้แฮ็คระบบกล้องวงจร
แต่วิดีโอในระบบกล้องวงจรปิดถูกลบไปแล้ว
มีช่องเวลาว่างประมาณยี่สิบนาที
ดวงตาของบุริศร์เย็นลงอีกครั้ง
ถ้าป้องไม่ได้พูดขึ้นมา เขาคงไม่นึกถึงเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ไม่ว่านรมนจะเห็นอะไร ฝั่งตรงข้ามก็ได้ลบวิดีโอจากระบบกล้องวงจรไปเสียแล้ว มันไม่ปกติ
บุริศร์รีบใช้เทคนิคการแฮ็กอย่างเร็ว ไม่นานวิดีโอที่ถูกลบไปก็โดนกู้กลับมา
อีกฝ่ายเพิ่งลบมันออกไป แต่ไม่ลบออกจากถังขยะ ถึงแม้จะลบในถังขยะไปจริง บุริศร์ก็มีวิธีเอาคืนมาได้
บุริศร์ดูเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวิดีโอ ดวงตาของเขาเย็นลง
คมทิพย์ขอให้คนพาบุริศร์ที่หมดสติเข้ามาในห้อง พร้อมกับถอดเสื้อของเขาออก
ในเวลานี้ คมทิพย์ขอให้ใครบางคนโทรหานรมน ไม่ถึงยี่สิบนาที นรมนก็มาถึง
เมื่อนรมนมาถึงโถงทางเดิน คมทิพย์ก็ฉีกเสื้อผ้าของตัวเอง และรอยจูบที่เด่นชัดก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา
หลังจากนั้น นรมนก็เตะเพื่อเปิดประตูเข้า พวกเธอคุยอะไรกันบุริศร์ฟังไม่ชัด แต่สามารถเห็นแววตาระคนประหลาดใจของนรมน เมื่อเห็นด้านหลังของคมทิพย์
ตั้งแต่เมื่อเขาเข้าไปในห้อง จนถึงเมื่อตอนที่คมทิพย์จากไป ใช้เวลาเพียงยี่สิบนาที ช่วงเวลานี้มีคนอยู่ ในตอนนี้ บุริศร์สามารถเข้าใจแล้วว่าทำไมสีหน้าของนรมนไม่ดีนัก
ถูกเพื่อนรักทรยศหักหลัง เธอจะรู้สึกดีได้อย่างไร ในเมื่อเห็นเพื่อนรักและสามีนอนด้วยกัน?
แต่นรมนไม่ได้พูดอะไร และไม่ทำอะไรเลย ซึ่งทำให้บุริศร์ประหลาดใจ
เขาจัดการนำวิดีโอที่กู้คืนมาแล้ว ใส่ลงในระบบกล้องวงจรก่อนหน้า ในตอนนี้เขาก็เห็นนรมนเดินไปยังห้องวงจรปิด
บุริศร์ถอนหายใจ กับความไร้เดียงสาของคมทิพย์ ถึงแม้ร่างกายของคมทิพย์จะมีร่องรอยพอให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าเขาไม่หวังให้เรื่องนี้มากระทบกับความสัมพันธ์ของตัวเองและนรมน
เขาไม่โทษคมทิพย์
ครอบครัวเจริญไชยประสบปัญหาใหญ่ ใครก็ตามที่มีความสัมพันธ์กับตระกูลนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการยศสูง หรือมีอิทธิพลมากขนาดไหน ต่างก็ยอมแพ้ในชั่วข้ามคืน จุดนี้มันไม่ปกติ
เขาเป็นสามีของรมน เขารู้ดีว่านรมนห่วงใยตระกูลเจริญไชย แต่ถ้านรมนตกอยู่ในอันตรายเพราะตระกูลเจริญไชย เขาจะสามารถเข้าใจวิธีการของตระกูลเจริญไชย
การทำเช่นนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้นรมนแตกหักกับคมทิพย์ ทำให้นรมนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตระกูลนี้
อารมณ์ของบุริศร์ซับซ้อน เขากังวลกับอารมณ์ของนรมนอยู่ครู่หนึ่ง
เธอสามารถทนได้ไหม?