แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 864
บทที่ 864 เธออยากจะตายจริงๆ ใช่มั้ย
เหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ คมทิพย์มองพฤกษ์ตะลึง
“คุณเป็นอะไรมั้ย เมื่อกี้ฉันตีถูกคุณมั้ย ฉัน…”
คำพูดของคมทิพย์ติดอยู่ในลำคอ
เธอนึกขึ้นมาได้
เธอไม่ใช่คมทิพย์คนก่อนแล้ว!
เธอมีเรื่องที่ต้องทำมากมาย เธอจะให้เพื่อนและคนรักเข้ามายุ่งไม่ได้
พฤกษ์เห็นเธอชะงัก ก็จับมือเธอแน่น
“คุณต้องเจอกับเรื่องอะไรกันแน่ บอกผมได้มั้ย คิดว่าผมดูแลคุณไม่ได้หรือ ไม่มีทางทำให้คุณมั่นคงปลอดภัย ต้องให้คุณแบกรับคนเดียวหรือ ในสายตาคุณ พฤกษ์คนนี้เป็นคนไม่มีความรับผิดชอบขนาดนั้นหรือ”
“ใช่แล้ว! คุณช่วยฉันไม่ได้ ช่วยตระกูลเจริญไชย คุณก็เป็นแค่ผู้ช่วยของบุริศร์ จะช่วยอะไรฉันได้ เงินของคุณแค่นั้นก็แค่เศษเงิน ช่วยอะไรไม่ได้!”
คมทิพย์ผลักเขาเต็มแรง นรมนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกยากจะรับได้
“คมทิพย์ เกินไปแล้ว!”
ใบหน้าของเธอเย็นชา
คมทิพย์รู้ดี นรมนโกรธแล้ว แต่แล้วอย่างไรล่ะ
คมทิพย์ต้องการให้เธอโกรธ
“เกินไปหรือ ฉันยัง…”
เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกนรมนตบฉาดใหญ่
เสียงตบดัง ชัดเจน ทุกคนต่างได้ยิน โดยเฉพาะปัญญ์
“พี่นรมน พี่ตบพี่สาวผมหรือ”
เขาตกตะลึงมาก เพราะเขารู้จักความรู้สึกของคมทิพย์กับนรมนดีกว่าใคร
“พี่ตบพี่สาวผมได้ไง”
ดวงตาของปัญญ์แดงก่ำ
เขาอยากจะลุกขึ้น แต่ก็ทำไม่ได้ดั่งใจ
มุมปากของคมทิพย์มีรอยเลือด
ตบฉาดนี้ของนรมนไม่เบา แต่ในใจเธอกลับรู้สึกโล่ง
เธอเป็นพี่น้องที่ดีที่สุด สาดน้ำสกปรกให้ตัวเองกับสามีของเธอ ในใจคมทิพย์ยิ่งรับไม่ได้ ตอนนี้ตบฉาดหนึ่งทำให้เธอรู้สึกผิดในใจและตำหนิตัวเองน้อยลงหน่อย
“ปัญญ์ อย่าเพิ่งแทรก พี่ติดค้างเธออยู่”
คำพูดของคมทิพย์ทำให้ปัญญ์อึ้งไป ไม่ได้พูดอะไรอีก
นรมนมองเธอ มองผู้หญิงที่เติบโตมากับเธอ พูดเสียงเย็น “บางเรื่องเธอทำได้ แต่บางเรื่องเธอทำไม่ได้! เธอทำแล้ว รู้ดีว่าตัวเองผิด อย่างนั้นก็ต้องแก้ไข ตอนนี้ไม่ใช่แค่ไม่แก้ ยังพูดจาบ้าบอ เธอไม่รู้หรือไงพฤกษ์รู้สึกยังไงกับเธอต่อให้เธอไม่อยากให้พวกเราช่วย ไม่อยากให้พวกเราลำบาก เธอก็ไม่เห็นจะต้องทรมานตัวเองอย่างนี้ ทรมานพวกเรา คมทิพย์ หลายปีมานี้ เสียชาติเกิดแล้ว! มิตรภาพระหว่างเราไม่มีค่าอะไรเลย”
นรมนไม่เคยรู้สึกโกรธและเสียใจอย่างตอนนี้มาก่อน เธอถึงกับอยากตีตัวเองให้ตาย
ถ้าหากคมทิพย์เล่าแผนของเธอออกมา ก็จะไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างพวกเขาแล้ว พฤกษ์จะคิดอย่างไร
บุริศร์จะคิดอย่างไร
ไม่มีใครคิดว่าแผนนั้นจะเป็นเรื่องน่าขัน โดยเฉพาะผู้ชาย
คมทิพย์รู้ดีนรมนหวังดีกับตนเอง เธอเงยหน้า ใบหน้านั้นบวมนิดหน่อย
พฤกษ์สงสารจับใจ รีบดึงตัวคมทิพย์เข้ามาข้างตัว มองหน้านรมน “คุณนาย มีเรื่องอะไรมาลงที่ผมเถอะ ร่างกายคมทิพย์อ่อนแอ ไม่ควรถูกตบ”
“เธอไม่ควรถูกตบ ฉันว่าถูกตบเบาไปด้วยซ้ำ ตระกูลเจริญไชยเกิดเรื่อง เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวหนีทุกอย่าง ฉันรู้ว่าไม่ง่าย ความรักระหว่างเรา ทำให้เธอไม่อยากจะทำให้ฉันลำบาก ไม่อยากให้ฉันเข้ามายุ่ง ฉันก็เข้าใจดี แต่วิธีการของเธอทำให้ฉันผิดหวังมาก! เธอเป็นพี่น้องฉัน เราโตมาด้วยกัน เธอเคยพูดเอง พวกเราต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ใช่หรือ เธอไปชายแดนเพื่อฉัน ทำให้ขาสองข้างของปัญญ์เป็นอย่างนี้ ทำไมไม่บอกฉันสักคำล่ะ พี่น้องกันมีใครทำอย่างเธอ ทำทุกอย่างเงียบๆ แล้วไม่หวังอะไรตอบแทนหรือ มีหรือ เธอบอกฉันมาสิ เธอทำเพื่อฉัน คมทิพย์ ปัญญ์ทำเพื่อฉัน ฉันจะไม่ตอบแทนได้ยังไง เธอคิดถึงแต่ตัวเอง คิดว่าเธอหวังดีกับฉัน แต่ทำให้ฉันเป็นคนไม่มีคุณธรรม กระทั่งทำให้ฉันดูถูกตัวเอง เธอคิดว่าพี่น้องกันจะทำอย่างเธอหรือไง”
นรมนยิ่งพูดยิ่งเสียใจ น้ำตายิ่งไหลมากขึ้นๆ
บุริศร์ส่งกระดาษเช็ดหน้าให้เธอ ไม่ได้สนใจนรมนอีก หันไปมองขาสองข้างของปัญญ์
ปัญญ์อยากจะหลบ แต่ถูกบุริศร์ขวางไว้
“อย่าขยับ กระดูกหักแตกละเอียดจะเคลื่อนย้ายง่ายๆ ไม่ได้ ผมติดต่อรถพยาบาลไว้แล้ว อีกเดี๋ยวก็ถึง”
ได้ยินคำพูดของบุริศร์ คมทิพย์ก็โวยวาย
“เรียกรถพยาบาลไม่ได้! ไม่ได้! ถ้าปัญญ์ออกไปล่ะก็ พวกมันจะ…”
“มีผมบุริศร์อยู่ทั้งคน ยังจะมีใครกล้าแย่งคนต่อหน้าผม ตระกูลโตเล็กไม่พอ ยังมีตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่พอ ยังมีตระกูลพรโสภณ คมทิพย์ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ถ้าคุณไม่ใช่ผู้หญิง วันนี้ผมชกคุณไปแล้ว”
บุริศร์ตาแดงก่ำ ดูแล้วไม่ใช่พูดเล่นๆ
เขาโกรธแล้วจริงๆ
พฤกษ์ไม่เห็นบุริศร์เป็นอย่างนี้นานมากแล้ว ตอนนี้เห็นเขาเป็นอย่างนี้ ไม่รู้คมทิพย์ไปทำผิดต่อเขาได้อย่างไร จึงปกป้องคมทิพย์ไว้ข้างหลังตัวเอง
“ประธานบุริศร์ คมทิพย์แค่ใจร้อนไปหน่อย ไม่ได้มีเจตนาครับ”
“ไสหัวไป!”
ความโกรธที่บุริศร์อดกลั้นไว้ในใจระเบิดออกมาในที่สุด
ถ้าคนนี้ไม่ใช่คมทิพย์ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไม่อยากดึงนรมนให้ลำบาก วันนี้ไม่ว่าใคร บุริศร์ต้องฆ่ามันให้ได้
แค่ที่วางแผนกับเขา ทำให้เขากับนรมนผิดใจกัน ก็พอให้เขาฆ่าเธอให้ตายร้อยครั้งแล้ว
เพราะเป็นคมทิพย์ และเป็นห่วงนรมน บุริศร์ถึงได้อดทนมาตลอด เก็บไว้ข้างใน แต่เพลิงโกรธยิ่งทียิ่งแรง จนจะไหม้ทั้งตัวแล้ว
นรมนย่อมรู้เขาหมายความว่าอย่างไร ตอนนี้จึงไม่ได้เข้าไปขวาง
ไม่ให้บุริศร์ระบายความโมโหออกมา เธอกลัวว่าระหว่างพวกเขาจะเข้าใจผิดกัน
พฤกษ์ตกใจเมื่อเห็นแววตาอาฆาตของบุริศร์
เขาไม่เคยเห็นบุริศร์เป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว
“ประธานบุริศร์ ผม…”
“นายอยากตายหรือไง”
สายตาโหดเหี้ยมของบุริศร์มองพฤกษ์
พฤกษ์ยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ถูกคมทิพย์ห้ามไว้ เดินออกมาจากการปกป้องของพฤกษ์
เธอมองบุริศร์ พูดทีละคำ “วันนี้ต่อให้คุณฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็จะยังพูด คุณไม่เหมาะกับนรมน ต่อให้ไม่มีฉัน ก็ต้องมีคนอื่น อีกอย่าง ฉันยอมรับความช่วยเหลือจากใครก็ได้ แต่จะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากคุณ และบุริศร์เด็ดขาด ต่อให้ฉันกับน้องชายต้องตาย ฉันก็ไม่ต้องการให้คุณมาช่วย!”
พูดจบ เธอก็เดินเข้าไปหาบุริศร์ เอามือของเขาจากของปัญญ์มาตบ สายตาฉายแววอาฆาตแค้น
บุริศร์หรี่ตาทันที
นรมนกับพฤกษ์เห็นสองคนจะตบกันจริงๆ ก็รีบเข้ามาห้าม
“คมทิพย์ เลิกพูดเถอะ ขาของปัญญ์สำคัญ คุณชายป้อง เป็นผู้เชี่ยวชาญ อาจจะช่วยปัญญ์ได้”
พฤกษ์กอดคมทิพย์แน่นปกป้องเธอ
นรมนก็ดึงบุริศร์ไว้ กระซิบกับเขา “พอแล้ว จะโกรธผู้หญิงไปทำไม ฉันก็ไม่ได้เชื่อว่าจริงสักหน่อยนี่คะ”
“งั้นคุณให้เธอหลบไปสิ! ขาของปัญญ์ปล่อยไว้นานเกินไปแล้ว ถ้าไม่รีบรักษาจะเดินไม่ได้จริงๆ แล้ว”
บุริศร์โกรธจัด ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เมื่อเห็นท่าทางนรมนเป็นกังวล เขาจำต้องระงับความโกรธไว้ก่อน
คมทิพย์ตั้งแต่แรกก็ไม่ชอบบุริศร์อยู่แล้ว ไม่ง่ายที่จะชอบเขา ตอนนี้เป็นอะไรไปอีก
นรมนรู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องอะไร แต่ยังไม่ทันได้ถาม คมทิพย์ก็สูดลมหายใจลึกพูดขึ้นก่อน “นรมน ฉันรู้เธอเห็นฉันเป็นเพื่อนรู้ใจ เป็นเพื่อนสนิท ฉันก็รู้ เธอไม่อยากเห็นฉันกับปัญญ์ตายอยู่ข้างนอก พูดตามตรง ฉันกลัวจะทำให้เธอลำบากจริงๆ ถ้าเธออยากจะช่วยฉันกับน้องชายจริงๆ ล่ะก็ งั้นเธอก็ทำแท้งเด็กในท้องสิ หย่ากับบุริศร์ ฉันจะฟังเธอ ต่อให้เธอขอให้ฉันไปตายฉันก็จะทำตาม”
“คมทิพย์ อยากตายจริงๆ หรือไง”
บุริศร์อดทนกับคมทิพย์ถึงขีดสุดแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
เขากับนรมนกว่าจะมีลูกได้ ไปทำให้คมทิพย์ไม่พอใจตรงไหน
เห็นได้ชัด นรมนตกตะลึงนิ่งไป
เธอรู้ว่าคมทิพย์ไม่ชอบบุริศร์ แต่ก็ดีกันแล้วไม่ใช่หรือ ช่วงนี้ก็เห็นพูดคุยกันดี ทำไมจู่ๆ กลายเป็นอย่างนี้ล่ะ
พฤกษ์มองคมทิพย์ทันที
“คุณจะพูดกับผมด้วยใช่มั้ย ถ้าผมอยากอยู่กับคุณ ต้องไปจากประธานบุริศร์ ไปจากตระกูลโตเล็ก”
พฤกษ์จ้องมองคมทิพย์
คมทิพย์รับรู้ได้ถึงความผิดหวังเสียใจมากแค่ไหนในแววตาของเขา แต่เธอยังคงกัดริมฝีปากพูด “ใช่! ถ้าอยากคบกับฉัน ก็ต้องตัดขาดกับบุริศร์ ไม่อย่างนั้นชาตินี้เรื่องของเราไม่มีทางเป็นไปได้!”
พฤกษ์ไม่อยากปล่อยมือ แต่ก็ยังคงปล่อยมือคมทิพย์
ดวงตาของเขาแดงก่ำ ถามทีละคำ “ทำไมล่ะครับ”
“ไม่มีเหตุผลอะไรหรอกค่ะ พวกคุณอยากช่วยฉันไม่ใช่หรือ พูดกันจริงจังขึงขัง ความรู้สึกเปี่ยมล้น ฉันไม่ใช่เพื่อนที่ดี บอกว่าฉันไม่ให้พวกเธอช่วยเหลือ ฉันไม่ขอความช่วยเหลือ งั้นฉันถามบ้าง เงื่อนไขที่ฉันพูดพวกเธอทำได้มั้ยล่ะ คนหนึ่งเป็นผู้ชายที่ฉันรักที่สุด อีกคนคือเพื่อนที่ฉันรักที่สุด พวกเธอเพื่อฉันแล้ว ทิ้งพี่น้องของเธอ คนรักของเธอได้มั้ย ทำได้มั้ย”
คมทิพย์ร้องไห้ เสียงร้องสะอึกสะอื้น
เธอมองนรมนกับพฤกษ์ ยิ้มทั้งน้ำตา “ทำไม่ได้ใช่มั้ย ถ้าทำไม่ได้ ก็ออกไปซะ! เรื่องของพวกเราตระกูลเจริญไชยไม่ต้องให้พวกเธอออกหน้า ไปซะ!”
ปัญญ์เห็นคมทิพย์ทำอย่างนี้ รีบยื่นมือไปกอดคมทิพย์ในอ้อมกอด
เขามองนรมน แล้วมองพฤกษ์ พูดช้าๆ “พี่นรมน พี่พฤกษ์ ถ้าพวกพี่สงสารพี่สาวผมจริงๆ ถือว่าผมขอร้องล่ะ พวกพี่กลับไปเถอะ ปล่อยพวกเราไปตามยถากรรม พวกพี่ไม่ต้องยื่นมือมาช่วยครอบครัวเรา แล้วก็ขอให้พวกพี่อยู่ห่างๆ พวกเรา ชีวิตของพวกเรา ต่อจากนี้ไป ต่างคนต่างอยู่ ทางใครทางมัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก”
นรมนรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว
“ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก ปัญญ์ ขาของเธอ…”
“ถือว่าผมตอบแทนที่พี่ดูแลพี่สาวผมมาตั้งนานหลายปีละกัน พี่นรมน ผมขอร้องล่ะ กลับไปเถอะ”
ปัญญ์มองนรมน แววตาสับสนมาก คมทิพย์ร้องไห้ซบอกปัญญ์ ท่าทางอย่างนั้นไม่ว่าใครเห็นแล้วก็ไม่อาจใจแข็งได้
“เพราะอะไรกันแน่ เพราะอะไรพวกเธอถึงทำอย่างนี้”
นรมนไม่เข้าใจ ทำไมคมทิพย์ต้องยื่นข้อเสนอเช่นนี้ให้ได้ ทำไมครั้งนี้แม้แต่ปัญญ์ไม่ช่วยเธอ
เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่