แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 877
“ลูกพูดว่าสายตาที่เขามองกมลเหมือนอะไรนะ?”
เสียงของบุริศร์สั่นอย่างเย็นชา
กิจจากลับพูดออกมาคำต่อคำ: “สายตาน่าเกลียดมาก เหมือนกันหมาป่าหิวโหย และเขายังจะเอาตัวกมลไปด้วย ไม่อย่างนั้นผมคงไม่พยายามขัดขวางเขาอย่างไม่คิดชีวิตแบบนี้ แด๊ดดี้ ผมคิดว่าคนขับรถคนนี้น่ารังเกียจมาก”
นรมนสีหน้าเปลี่ยน
ต่ำทราม อนาจาร เด็กผู้หญิง!
เมื่อคำเหล่านี้ปรากฏขึ้นในสมองของนรมน เธอหวาดกลัวจนเหงื่อตก
เธอไม่คาดคิดว่า ลูกสาวของตนเองยังอายุไม่ถึงห้าขวบ นึกไม่ถึงว่าจะถูกผู้ชายแบบนี้จ้องมอง
“เรื่องนี้จบไม่ได้ พวกเราจำเป็นต้องจัดการอย่างจริงจัง”
นี่เป็นครั้งแรกที่นรมนอยากฆ่าคน
เธอมองแววตาไร้เดียงสาของกมล ทันใดนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ถ้าไม่ใช่กิจจาที่ปกป้องกมลอย่างสุดชีวิต ตอนนี้กมลจะเป็นอย่างไร?
เธอไม่กล้าคิดเลยจริง ๆ
“ฉันจะไปหาคนขับรถคนนั้น”
ในตอนแรก เธอไม่อยากให้ค่าโดยการไปหาคนขับรถคนนั้น ตอนนี้กลับอยากจะเข้าไปสับคนนั้นให้เป็นชิ้น ๆ
บุริศร์พยักหน้า ตอนนี้เขาก็มีความคิดเหมือนกัน
กล้ามีความคิดชั่วร้ายกับลูกสาวของเธอ คนขับรถคนนี้คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริง ๆ
ในขณะนี้ธิดามาถึงแล้ว และนำซุปกับโจ๊กมาด้วย
นรมนปลอบโยนเด็กทั้งสองทันที ให้พวกเขาพักผ่อน ตนเองออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับบุริศร์
“ร่างกายของคุณไม่เหมาะสม ถ้าคิดจะลงมือ บอกผม ผมจะทำให้เอง”
บุริศร์ไม่ค่อยเห็นนรมนมีท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือ ถ้านรมนในตอนนี้กินคนขับเข้าไปเขาก็เชื่อ
พิจารณาถึงร่างกายของนรมน บุริศร์จำเป็นต้องเอ่ยขึ้นมาก่อน
นรมนกลับกล่าวอย่างไม่แยแส : “วางใจเถอะ ฉันจัดลำดับความสำคัญได้”
รถขับมาถึงบ้านตระกูลโตเล็ก
คนขับรถถูกนภดลและคนอื่น ๆ พากลับมา ขังอยู่ในห้องใต้ดิน ส่วนกานต์นั่งอยู่บนโซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อย มองเห็นนรมนและบุริศร์กลับมา จึงรีบลุกขึ้นกล่าวว่า: “ คุณบุริศร์ หม่ามี้ พี่กิจจากับกมลเป็นไงบ้าง?”
บุริศร์ตอบอย่างไม่สบายใจ: “กมลปลอดภัยดี แต่เพราะกิจจาปกป้องกมล เกรงว่าหลังจากนี้จะไม่สามารถออกกำลังกายหนัก ๆ ได้แล้ว ทรวงอกกับปอดของเขาได้รับบาดเจ็บ และยังมีเลือดคั่งอยู่ ต้องรอดูหลังจากนี้”
ได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ นัยน์ตาของกานต์เยือกเย็น
“เมื่อสักครู่ผมลงมือเบาไปหน่อย ผมจะเข้าไปซ้อมมันอีกรอบ”
ในขณะที่พูดเขาลุกขึ้นยืน กลับถูกนรมนขวางเอาไว้
“หม่ามี้เอง”
นรมนพูดเบา ๆ แต่กานต์ตกตะลึงที่ได้ยินบางอย่างที่แตกต่างออกไป
ดูเหมือนหม่ามี้กำลังโกรธ?
เขาแอบเหลือมองนรมน ถามเสียงเบาว่า: “ ผมไปดูอยู่ด้านข้างได้ไหม?”
“เป็นเด็กเป็นเล็กดูความรุนแรงให้น้อยหน่อยก็ดี กลับห้องไปเล่นเถอะ”
คำพูดของนรมนทำให้กานต์รู้สึกหดหู่
ตอนที่เธอให้ตนเองฟาดคนขับรถทำไมถึงไม่พูดแบบนี้?
แต่มองเห็นสายตาที่บุริศร์มองตนเอง กานต์จึงกลับห้องอย่างเชื่อฟัง
นรมนไม่รอช้า ลงไปห้องใต้ดินทันที
คนขับรถถูกซ้อมจนหายใจรวยริน เมื่อเห็นนรมนกับบุริศร์ มุมปากของเขามีคราบเลือด รีบขอให้ยกโทษให้
ประธานบุริศร์ คุณนายบุริศร์ ขอร้องพวกคุณล่ะ อย่าซ้อมผมเอง ผมสำนึกผิดแล้ว ผมไม่กล้าอีกแล้ว
เขาเจ็บซี่โครงสุด ๆ กระดูกแขนขาก็เจ็บเช่นกัน แต่นับว่าโชคดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่
เขาเคยคิดว่าตนเองคือปีศาจร้าย แต่คิดไม่ถึงว่าเด็กอายุสี่ขวบจะทำให้เขาต้องร้องขอความตาย
นรมนมองเห็นสภาพของเขาในเวลานี้ นึกถึงว่าคนแบบนี้จะกล้าทำเรื่องที่คนไม่ทำกันกับลูกสาวของเธออย่างไม่คาดคิด เธอเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ
เธอเดินไปตรงหน้าคนขับรถ กล่าวอย่างเย็นชา: “ฉันได้ยินมาว่าแกสนใจลูกสาวของฉัน?”
ประโยคนี้ถามออกไปอย่างเบา ๆ แต่กลับทำให้คนขับสะดุ้งทันที
“เปล่า เปล่าจริง ๆ คุณนาย คุณฟังมาผิดแล้ว”
ตอนนี้ตีให้ตายคนขับรถก็ไม่ยอมรับ
แต่สิ่งที่นรมนต้องการไม่ใช่การยอมรับของคนขับรถ สำหรับเธอ กิจจาไม่มีทางโกหก กมลก็ไม่มีทางถูกทุบตีโดยไร้เหตุผล
แค่คิดว่าลูกสาวของตนเองเกือบจะถูกทำลายในน้ำมือของคนแบบนี้ นรมนยกเท้าขึ้นโดยพลัน เตะไปที่สะโพกของคนขับรถ
“อ๊าก!”
คนขับรถร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด สองมือกุมตรงส่วนที่เจ็บจนเหงื่อท่วม
และต่อจากนั้นเอง นรมนคว้าคอเสื้อของเขา ยกเท้าขึ้นอีกครั้ง เตะซ้ำไปที่ตำแหน่งเดียวกัน
สุภาพบุรุษที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันสะดุ้งอย่างไม่ได้ตั้งใจ และมีบางคนถอยหลังออกมาสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว เอามือกุมน้องชายของตนเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ
มุมปากของบุริศร์ยกขึ้นมาเล็กน้อย
เขาคิดอยู่แล้วว่านรมนจะต้องลงมือ แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่านรมนจะลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้
ทุกคนต่างมองดู นรมนกลับดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร เตะเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ผ่อนคลายไหม?สบายไหม?รู้สึกว่าลูกสาวของฉันน่ารักใช่ไหม?คิดจะทำอะไรลูกสาวฉันเหรอ?แกไม่รู้ว่าก่อนใช่ไหมว่าเธอเป็นใคร?มารับคนจากหน้าประตูบ้านตระกูลโตเล็กของพวกเรายังกล้ามีความคิดแบบนี้ ฉันจะทำให้แกหยุดความคิดเรื่องนี้ไปตลอดชีวิต”
ในระหว่างที่พูด นรมนเตะไปสิบกว่ารอบ
ตอนแรกคนขับรถร้องเหมือนหมูถูกเชือด จากนั้นส่งเสียงออกทางจมูก
สุภาพบุรุษทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างกลืนน้ำลายอย่างไม่ตั้งใจ ในใจคิดอยู่เรื่องเดียว
ต่อจากนี้อย่ายั่วโมโหคุณนายเด็ดขาด!
กางเกงของคนขับรถมีเลือดหยดลงมา
นรมนถึงจะโยนเขาทิ้งไปที่พื้น กล่าวอย่างเย็นชา: “ รักษาให้มัน นอกจากตรงนั้น รักษาตรงส่วนอื่นให้มัน มันไม่ได้ชอบเล่นสนุกกับเด็กผู้หญิงหรือไง?ทำลายน้องชายของมัน ส่งเข้าไป หาพี่น้องผู้ชายสองสามคนเข้าไป ให้มันได้ลิ้มรสว่าอะไรที่เรียกว่าถูกคนทรมานทุกวัน ไม่ว่ามันจะบาดเจ็บจนเป็นอย่างไร อีกวันให้คนมารักษาให้หาย ฉันต้องการให้ชีวิตที่เหลืออยู่ของมัน ทุกวันผ่านไปในคุกแบบนี้”
ผู้ชายสองสามคนหดตัวลงอีกครั้ง
โหดเหี้ยมจริง ๆ !
แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา
ตอนนี้คนขับรถปรารถนาที่จะให้ตนเองตายไปเสียที ชีวิตแบบนี้ยังจะมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?
คิดถึงตรงนี้ คนขับรถพยายามกัดลิ้นฆ่าตัวตาย กลับถูกนรมนบีบคางอย่างตาไวมือไว
“ฉันบอกแล้วไง ไม่ได้รับการอนุญาตจากฉันแกตายไม่ได้”
นรมนโยนเขาไปด้านข้างเหมือนทิ้งเศษผ้า จากนั้นหันตัวเดินจากไป
บุริศร์มองแผ่นหลังของนรมน คิดจะทำอะไร จึงมองไปสภาพของคนขับรถอีกครั้ง ส่ายหัวไปมาทันทีและกล่าวว่า: “ทำตามที่คุณนายบอก อีกอย่าง รูดแขนของมันขึ้นมา ฉันขอดูหน่อย”
คนอื่นไม่รู้ว่าทำไมบุริศร์จึงพูดแบบนี้ แต่ก็รูดแขนของคนขับรถขึ้นมาอย่างเชื่อฟังสุด ๆ
แขนของคนขับรถสะอาดหมดจดมาก ไม่มีรอยสักอะไร
คิ้วของบุริศร์ขมวดเบา ๆ
“เอาเหล้ามา กรอกใส่ปากมัน”
บุริศร์ออกคำสั่ง ก็มีคนไปนำเหล้าขาวมา และไม่สนใจว่าคนขับรถจะเป็นอย่างไร จับคางของเขาและกรอกลงไป
เหล้าขาวหนึ่งขวดลงไปในท้อง แขนของคนขับรถมีการเปลี่ยนแปลง ดอกป๊อปปี้อันสวยงามปรากฏขึ้นบนแขนของคนขับรถ
บุริศร์หยิบมือถือมาถ่ายลงไป จากนั้นเอ่ยถามคนขับรถอย่างเย็นชา: “ในเมื่อเป็นคนขับแท็กซี่ออนไลน์ คิดไม่ถึงว่ายังจะเมาแล้วขับ แกกล้ามากเลยนะ หรือว่าแกมีใครอยู่ข้างหลัง?”
คนขับรถส่ายหน้า กัดฟันแน่น ดูท่าทางไม่อยากพูด
บุริศร์หัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า: “ฉันจะให้โอกาสแกครั้งหนึ่ง พูดออกมาตอนนี้ ฉันอาจจะเมตตาให้แกอยู่ในคุกได้ดีขึ้นมาหน่อย ฉันก็สามารถให้เมียและลูกของแกมีชีวิตที่ดีขึ้นมาได้สักหน่อย”
พูดจบ มีคนนำรูปภรรยาและลูกของคนขับรถมาให้
ดวงตาของคนขับเบิกกว้างทันที แต่เขายังคงส่ายหน้า
ริมฝีปากของบุริศร์ยกขึ้นยิ้มเยาะอย่างโหดร้าย
“เอาเมียของมันไปขายที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มันชอบขายเด็กไม่ใช่เหรอ?เอาลูกของมันไปขายในที่ไกลโพ้น ให้ชีวิตนี้มันไม่มีทางหาเจอ และเอาเมียของมันไปขายในซ่อง”
บุริศร์พูดคำนี้จบลง คนขับรถตื่นตระหนกทันที
เขาอ้อแอ้คิดจะพูดอะไร กลับถูกคนปิดปากเอาไว้
บุริศร์พูดอย่างเย็นชา: “โอกาสของฉันมีเพียงแค่ครั้งเดียว ในเมื่อแกไม่คว้ามันไว้ ก็ไม่ต้องพูดอีกตลอดไป เรื่องที่ฉันอยากรู้ไม่มีทางที่จะหาคำตอบไม่ได้ โทรหาสถานีตำรวจ ให้พวกเขาพามันไป จำเอาไว้ คำสั่งของคุณนายไม่สามารถพลาดได้”
คนขับรถนั่งนิ่งอยู่บนพื้น เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับความน่ากลัวของบุริศร์กับนรมน
เดิมทีคิดว่านรมนเป็นแค่ผู้หญิงไม่สามารถทำอะไรได้ แต่คิดไม่ถึงว่านรมนจะโหดเหี้ยมกว่าผู้ชาย
ในขณะนั้นเอง บุริศร์กลับเห็นอกเห็นใจคนขับรถคนนี้
เขาตบหัวของคนขับรถ กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ยอมผิดใจกับคนเลวทราม แต่จะไม่ยอมผิดใจกับผู้หญิง หวังว่าบทเรียนนี้จะตามหลอกหลอนแกไปตลอดชีวิต”
เขามองคนขับรถบนพื้นที่มีสภาพเหลวแหลก จากนั้นก้าวเท้าเดินออกไป
บุริศร์กลับมาที่ห้องรับแขก พบว่าอารมณ์ของนรมนยังไม่ดีขึ้น จึงเทน้ำร้อนให้เธอแก้วหนึ่งอย่างอดไม่ได้
“ยังโกรธอยู่เหรอ? ถ้าความโกรธยังไม่ระบายออกมา ก็กลับเข้าไปเตะอีกสักทีสองทีก็ได้นะ”
นรมนส่ายหน้า จิบน้ำร้อนคำหนึ่ง กล่าวเสียงเบาว่า: “ไม่ต้องหรอก ไม่มีประโยชน์แล้ว ไม่จำเป็นต้องเตะอีก เพียงแต่ฉันคิดไม่ออก มันรู้จักลูกของพวกเราได้อย่างไร?ทำไมถึงทำกับเขาแบบนั้น?”
“ผมจะตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ผมรู้สึกว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคุณอารองของผม แน่นอนว่าเป็นเพียงการคาดเดาอย่างหนึ่ง ส่วนจะใช่หรือไม่ใช่ จากนี้จะตรวจสอบให้แน่ใจแล้วค่อยว่ากัน ภาพบนแขนของคนขับรถ ต้องดื่มเหล้าเข้าไปถึงจะปรากฏออกมา สามารถบอกได้ว่าตอนนั้นเขาเมาแล้วขับ รอยสักนี้ต้องใช้เลือดนกพิราบ ปกติคนทั่วไปจะมองไม่เห็น ภาพนี้อาจจะเป็นเบาะแสให้กับพวกเราได้”
บุริศร์นำภาพให้นรมนดู
คิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันแน่น
“แทบรอไม่ไหวที่จะได้รู้จริง ๆ แท้จริงแล้วใครกันที่โหดร้ายเช่นนี้”
“ต้องได้รู้แน่นอน ให้เวลาผมสักพักหนึ่ง”
บุริศร์กล่าวปลอบโยนนรมนเสียงเบา กลับได้รับสายจากพฤกษ์อย่างกะทันหัน ทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย
เกิดอะไรขึ้น
“สายจากพฤกษ์ หรือว่าทางฝั่งคมทิพย์เกิดปัญหาอะไรขึ้น?”
บุริศร์พูดออกมา นรมนรีบเร่งให้เขารับสายทันที
“คุณก็รีบรับสายสิ จะมาพูดกับฉันทำไม?”
บุริศร์รู้สึกว่าตำแหน่งในครอบครัวของตนเองสั่นคลอน แต่ก็ไม่ลังเล กดเปิดลำโพงทันที
“ประธานบุริศร์ ผมค้นพบบางอย่างอีกครั้งทางฝั่งของคมทิพย์ เธอบอกว่าตอนนั้นแขนของคนที่พากลุ่มคนมาทำลายตระกูลเจริญไชยของพวกเธอมีรอยสัก เธอไม่รู้ว่าเป็นดอกไม้อะไร แต่จำได้ จึงวาดออกมา ผมส่งไปให้ท่านดูทางวีแชทแล้วครับ”
คำพูดของพฤกษ์ทำให้บุริศร์กับนรมนสีหน้าเปลี่ยนทันที
ดอกป๊อปปี้