แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 915
ทางเลือกของบุริศร์ทำให้แม่นรมนไม่รู้จะเลือกยังไงดี ที่จริงแล้วเธอเองก็มีตัวเลือกอยู่ในใจ เพียงแต่ไม่อยากพูดออกมาเท่านั้น
สำหรับจุดนี้ บุริศร์เองก็รู้ดี แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องบีบบังคับให้แม่นรมนต้องเลือกสักทาง
“คุณแม่ครับ ถ้าคุณแม่ไม่เลือก ผมก็จะไม่ยุ่งเรื่องของเนตราอีก”
“อย่า ! อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด !”
แม่นรมนร้อนรนขึ้นมาทันที
สายตาของบุริศร์เย็นชาลงหลายระดับ
แม่นรมนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “นรมนมีนาย มีตระกูลทวีทรัพย์ธาดา และตระกูลพรโสภณคอยสนับสนุน เธอก็ย่อมต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอยู่แล้ว แต่เนตราไม่เหมือนกัน เนตราถูกทิ้งไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก ได้ลิ้มรสผ่านร้อนผ่านหนาวของโลกนี้มามากมาย พวกเราติดค้างเด็กคนนั้นมากมายเหลือเกิน เขาเหลือแค่พวกเราแล้ว นายอย่ามาบีบบังคับฉันอีกเลยได้ไหม ?
สีหน้าของบุริศร์หมองหม่นลงทันที
“นรมนมีตระกูลทวีทรัพย์ธาดา มีผม มีตระกูลพรโสภณคอยสนับสนุน ก็เลยสมควรถูกคุณรังเกียจงั้นเหรอ ? เธอคือคนๆหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งของชิ้นหนึ่ง ยิ่งไม่ใช่ขยะชิ้นหนึ่งด้วย ที่จะถูกพวกคุณทะนุถนอมตอนที่คิดขึ้นได้ พวกคุณตามหาลูกสาวแท้ๆของตัวเองเจอ ก็เลยจะทิ้งขว้างเธอเหมือนขยะชิ้นหนึ่ง ตอนนี้พอคิดได้ว่าเธอมีค่าให้หลอกใช้ ก็เลยวิ่งมาหาเธออีก พวกคุณคิดว่าหัวใจของเธอทำด้วยเหล็กกล้าหรือไง เจ็บปวดเสียใจไม่เป็นหรือไง ? หลายปีที่ผ่านมา เธอปฏิบัติต่อพวกคุณเหมือนพ่อแม่แท้ๆมาตลอด แต่ตอนนี้พวกคุณปฏิบัติกับเธอเหมือนลูกตัวเองบ้างหรือเปล่า ?”
ต่อหน้าคำกล่าวโทษของบุริศร์ แม่นรมนไม่สามารถโต้แย้งได้เลยแม้แต่คำเดียว ทำได้เพียงนิ่งเงียบเท่านั้น
บุริศร์รู้ดี ว่าเธอไม่มีทางเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ตัวเองเลือก
จนเขาอดรู้สึกปวดใจแทนนรมนไม่ได้
ถ้ายังผู้หญิงซื่อบื้อคนนั้นรู้เข้าว่าผลจะเป็นแบบนี้ไม่รู้เลยว่าเธอจะเสียใจแค่ไหนกัน
“คุณแม่ ผมรับปากได้ว่าจะพาตัวเนตรากลับมา แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้พวกคุณออกไปจากชีวิตของนรมนเถอะ ในเมื่อในใจของพวกคุณเหลือแค่ลูกสาวของตัวเองเท่านั้น งั้นก็ลือนรมนเถอะ ต่อไปพวกเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก แน่นอนว่า หากวันไหนที่พวกคุณไปสวรรค์แล้วจริงๆ พวกเราจะกลับไปส่งเอง ขอแค่พวกคุณรับข้อเสมอนี้ของผม ผมก็จะช่วยเหลือเนตรา”
สิ่งที่บุริศร์พูดเหล่านี้ที่จริงแล้วมันค่อนข้างรุนแรง ถ้าหากพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนมีความอาลัยอาวรณ์ต่อนรมนสักเล็กน้อย เขาก็คงจะตัดสินใจตามสถานการณ์ แต่ตอนที่บุริศร์พูดประโยคเหล่านั้นจบ แม่นรมนกลับพูดขึ้นมาอย่างแทบไม่หยุดชะงักก่อนเลยว่า “ได้ ฉันรับปากนาย ขอแค่นายช่วยเนตรากลับมาได้ ฉันรับประกันว่าต่อไปพวกเราจะไม่มารบกวนชีวิตของพวกนายอีก”
คำตอบแบบนี้ บุริศร์เองก็เดาได้แต่แรกแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าแม่นรมนจะตอบได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
ตอนนี้เขารู้สึกว่าค่อนข้างโชคดีที่โทรศัพท์สายนี้นรมนไม่ได้เป็นคนโทร ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเจ็บปวดใจขนาดไหน
บุริศร์สูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “ได้ ผมจะพาตัวเนตรากลับมา โปรดจำคำพูดของพวกคุณไว้ด้วย”
เขาวางสายไป พอหันหลังไปก็เห็นนรมนยืนพิงประตูที่อยู่ตรงระเบียงแล้วกำลังมองมาทางเขา สายตาอึมครึมไม่ชัดเจน
“นรมน ? เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”
บุริศร์รู้สึกไม่ค่อยสบายใจขึ้นมา
นรมนอยากจะยิ้ม แต่กลับยิ้มไม่ออก
“สายเลือดแท้มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ?”
“อย่าเป็นแบบนั้นสิ ทุกๆคนต่างก็มีทางเลือกของตัวเอง แบบนี้ก็ไม่มีอะไรไม่ดีนี่นา ที่จริงพวกเราก็ไม่ได้ติดค้างอะไรพวกเขา บุญคุณที่เลี้ยงดูมาหลายปีนั้น ถ้าเธอรู้สึกไม่สบายใจ เดี๋ยวฉันมอบเงินให้พวกเขาก้อนหนึ่งก็ได้ ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่พวกเขาเลี้ยงดูแล้ว”
บุริศร์รู้ว่านรมนคงจะได้ยินหมดแล้ว
ตอนนี้เขาหวังแค่ว่านรมนกับพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนจะตัดขาดความสัมพันธ์กันได้โดยเร็ว ต่อไปเธอจะได้ไม่ถูกทำร้ายอีก
นรมนถามเสียงต่ำว่า “เงินสามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้จริงเหรอ ?”
“ไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีเงิน พวกเขาอยากให้เนตราได้มีชีวิตที่ดีที่สุด ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางปฏิเสธหรอก”
“ดังนั้นก็ถือว่าพวกเขาขายฉันแล้วใช่ไหม ? เพื่อเนตรา พวกเขาก็เลยขายฉัน และขายความรู้สึกระหว่างพวกเราด้วย”
“นรมน เธอยังมีฉัน แล้วก็มีแม่คิมกับพวกคุณปู่สามด้วย”
นรมนพยักหน้า
“ฉันรู้”
เธอไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังเดินไปจากระเบียง แต่บุริศร์เองก็รู้ว่าประโยคที่เหลือเธอจะพูดว่าอะไร
นรมนมีญาติสนิทมากมาย แต่พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนเคยเป็นคนที่อยู่ในจุดสำคัญในชีวิตของเขา
บุริศร์ถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง แล้วให้ชัยยศส่งเงินไปให้ทางพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนเป็นจำนวนยี่สิบล้าน และทางพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ
แน่นอนว่า นรมนรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว และเดาเอาไว้แล้ว
เขาอยากจะไปปลอบใจนรมน แต่นรมนกลับเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาและกำลังวาดแบบอยู่ ท่าทางจริงจังแบบนั้นทำให้บุริศร์ไม่กล้าเข้าไปรบกวน
บุริศร์คิดถึงสิ่งที่รับปากพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนขึ้นมาได้ เขาเลยลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องนอน ตอนที่เดินไปข้างนอกก็เจอกับคุณท่านตระกูลพรโสภณเข้า
“จะไปไหนเหรอ ?”
“ไปเจอกับเชษฐ์สักหน่อย”
บุริศร์ไม่ได้ปิดบังคุณท่านตระกูลพรโสภณ
คุณท่านตระกูลพรโสภณพูดเสียงต่ำว่า “ระวังตัวเอาไว้หน่อย ฉันไม่อยากให้หลานสาวฉันต้องเสียใจ ตอนนี้นายเป็นแก้วตาดวงใจของเธอ”
“ทราบแล้วครับ”
บุริศร์ยิ้มบางๆแล้วเดินออกไปจากตระกูลพรโสภณ
พอขึ้นรถแล้วเขาก็โทรไปหากานต์
“ลูกชาย หาตำแหน่งที่อยู่ของเชษฐ์เจอหรือยัง ?”
“หาเจอแล้วครับ เดี๋ยวผมส่งให้นะ หม่ามี้ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ ?”
กานต์เป็นห่วงนรมนมาก
“เธอไม่เป็นไรหรอก กำลังวาดแบบอยู่ ช่วงนี้ไปเข้าร่วมการประกวดออกแบบน่ะ”
“อ๋อ”
กานต์ส่งตำแหน่งที่ตั้งไปให้บุริศร์
“จำเป็นต้องให้ผมช่วยไหมครับ ?”
“คอยเป็นกำลังเสริมแล้วกัน ตอนที่ต้องการนายก็ให้ไปถึงที่หมายได้ในทันที”
“ได้ครับ”
กานต์เองก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก
บุริศร์ขับรถไปตามตำแหน่งที่กานต์ส่งมาให้
ที่นั่นเป็นพื้นที่พลเรือน และเป็นใจกลางเมืองที่พลุ่งพล่าน
เขานั่งอยู่บนรถ แล้วจุดบุหรี่มวนหนึ่ง รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
ก่อนหน้านี้เขาส่งแม่แท้ๆของตัวเองเข้าคุก แล้วตอนนี้เขายังจะมาตามจับพ่อแท้ๆของตัวเองอีกเหรอ ?
ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันช่างน่าขันเสียจริงๆ
จนตอนที่สูบบุหรี่มวนหนึ่งจนหมด บุริศร์ก็ดับบุหรี่ แล้วลงมาจากรถ
เขาผลักประตูใหญ่ของสวนออก แล้วก็ได้ยินเสียงของเนตราดังขึ้น
“คุณอาเชษฐ์ อยากกินอะไรไหมคะ ? เดี๋ยวฉันออกไปซื้อของมาทำให้คุณกิน ฉันจำได้ว่าคุณชอบซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานที่สุดเลยใช่ไหมคะ ? เอาเป็นว่าฉันไปซื้อซี่โครงหมูมาดีไหมคะ ?”
นี่มันเหมือนผู้ลักพาตัวกับคนที่ถูกลักพาตัวตรงไหนกัน
บุริศร์อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเย็นชา
เชษฐ์รู้สึกรำคาญมาก เลยพูดเบาๆว่า “ตามใจเธอเถอะ อย่ามากวนใจฉัน ใช่แล้ว แม่เธอโทรหานรมนหรือยัง ตกลงผู้หญิงคนนั้นจะมาเปลี่ยนตัวกับเธอไหม ?”
“ต้องมาแน่นอน นรมนกตัญญูต่อแม่ฉันมาก ขอแค่แม่ฉันโทรไป เธอไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน ยังไงแม่ฉันก็เลี้ยงเธอมาตั้งหลายปีขนาดนั้น ไม่มีทางที่เธอจะไม่ตอบแทนบุญคุณที่แม่ฉันเลี้ยงดูเธอมาหรอก”
“นั่นมันก็ไม่แน่นะ”
บุริศร์เปิดปากเรียบๆ
เชษฐ์เงยหน้าขึ้นมาทันที แล้วก็เห็นบุริศร์เดินเข้ามาคนเดียว
“บุ… บุริศร์ ?”
เนตราเริ่มลนลานขึ้นมาเล็กน้อย
เชษฐ์มองดูบุริศร์ แล้วมองไปด้านหลังของเขา พอไม่เห็นคนอื่นก็ถอนหายใจโล่งอก
“ฉันนึกว่าคนที่มาจะเป็นนรมนเสียอีก ตอนนี้พอเห็นนาย ฉันก็รู้เลยว่าความพยายามตลอดหลายปีของฉันมันพังหมดแล้ว บุริศร์ นายนี่สมกับที่เป็นลูกชายฉันจริงๆเลยนะ !”
“อย่าพูดแบบนั้นเลย ถ้าหากเลือกได้ ผมก็จะขอไม่เป็นลูกชายคุณ”
บุริศร์ปิดประตูใหญ่ลง
เขามองดูเนตรา แล้วก็พูดอย่างค่อนข้างรังเกียจว่า “เธอไปทำกับข้าวในครัวเถอะ ฉันจะคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว”
เนตรารีบหันไปมองทางเชษฐ์ทันที
“ไปเถอะ”
เชษฐ์พยักหน้า เนตราถึงได้เดินเข้าไปในครัว แต่ก็ยังคงมองมาทางพวกเขาด้วยสายตาเป็นกังวล
พอบุริศร์เห็นจุดนี้เข้า ก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “คุณนี่แปลกจริงๆ ยอมมอบความรู้สึกดีๆให้คนภายนอก แต่กลับไม่เหลือไว้ให้คนในครอบครัวเลย ดังนั้นจะพูดยังไงดี ? คนอย่างคุณนี่มันเลือดเย็น ? หรือยังคงเหลือความดีในจิตใจอยู่บ้าง ?”
เชษฐ์ต้องรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังพูดถึงอะไร
เขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของบุริศร์ แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ธิดาวีร์เป็นอุบัติเหตุ”
“เหรอ ? ว่ายังไงล่ะ ?”
บุริศร์เริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมา
เชษฐ์ถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่งแล้วพูดว่า “มีบุหรี่ไหม ?”
“มี”
บุริศร์เอาบุหรี่ออกมา แล้วจุดให้เขา
เชษฐ์สูบเข้าไปคำหนึ่งแล้วพูดว่า “แม่ของธิดาวีร์เป็นผู้หญิงที่ปู่ของนายเป็นคนเลือกให้ฉัน”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”
บุริศร์เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
“เพราะว่าเป็นสิ่งที่คุณปู่เลือก คุณรู้สึกว่าคุณปู่อยากจะควบคุมคุณ ดังนั้นถึงคุณจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าทำผิดต่อคุณปู่ เพราะคุณอยากจะได้รายการข้อมูลชิ้นนั้น ดังนั้นต่อหน้าคนภายนอกคุณเลยดีกับคุณแม่ของธิดามาก แต่ลับหลังแล้วอยากจะให้เธอตายไปเลยใช่ไหม ?”
“ใช่ ฉันเคยคิดที่จะฆ่าเธอ แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะตั้งท้อง ตอนนั้นนายกับตรินท์ต่างก็อยู่ที่ตระกูลโตเล็ก และยังเด็กกันอยู่ ภาริชที่อยู่ในมือฉันเกิดมาพร้อมกับความพิการ มีอายุอยู่ได้ไม่เกินอายุสามสิบ ดังนั้นในใจฉันก็ยังหวังว่าจะมีลูกชายที่ร่างกายแข็งแรงคอยอยู่เคียงข้าง เพียงแต่ผู้หญิงคนนั้นกลับคลอดลูกสาวออกมา ฉันจะเอาลูกสาวไปทำอะไรล่ะ ? ดังนั้นคืนนั้นฉันก็เลยสั่งให้คนเอาเธอไปโยนทิ้ง”
ตอนที่เชษฐ์พูดเรื่องเหล่านี้เขาไม่ได้มีความรู้สึกใดๆเลย
บุริศร์ส่ายหัวแล้วพูดว่า “คนอย่างคุณไม่สมควรที่จะได้เป็นคนเลย และไม่สมควรที่จะเป็นพ่อคนด้วย สามี ? ! ทั้งชีวิตนี้ในใจคุณมีแค่ตัวเองเท่านั้น ไม่ ในใจของคุณมีเพียงความฝันทางพันธุกรรมเท่านั้น ถึงคุณจะได้รับข้อมูลทางพันธุกรรมจากคุณปู่แล้วยังไง ? คุณก็แค่รู้สึกภูมิใจ ภูมิใจในผลงานตัวเองเท่านั้น คุณก็แค่อวดความสำเร็จของคุณให้โลกรู้ คุณอยากจะบอกกับทุกคนว่า ถึงจะไม่มีข้อมูลของคุณปู่ คุณก็สามารถทำความฝันทางพันธุกรรมให้สำเร็จได้ ใช่ไหม ?”
เชษฐ์ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะพร้อมพูดว่า “สมกับที่เป็นลูกชายฉันจริงๆ ถูกแล้ว นี่เป็นความฝันของฉันจริงๆ แต่ว่านั่นมันผิดด้วยหรือไง ?”
“ไม่ผิด แต่ว่าคุณไม่ควรสร้างทั้งหมดนี้บนความเจ็บปวดของคนอื่น คุณเคยรักแม่ของผมบ้างไหม ?”
บุริศร์คิดถึงป้าโอที่ไม่ได้แต่งงานตลอดชีวิต เขาก็อดที่จะถามออกมาคำหนึ่งไม่ได้
เชษฐ์พูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่เคย ที่ฉันรักก็คือครอบครัวแพทย์แผนจีนของเธอ และส่วนที่เธอรู้วิธีทำยาจีน ผู้หญิงแบบนี้มีร่างกายที่แข็งแรงมาก เหมาะที่จะให้กำเนิดลูก โดยเฉพาะลูกแฝดหลายคน”
พอได้ฟังสิ่งเหล่านี้แล้ว จู่ๆบุริศร์ก็ซัดหมัดใส่หน้าของเชษฐ์ทันที
เลือดไหลออกจากจมูกของเชษฐ์ทันที แต่กลับได้ยินบุริศร์พูดว่า “คุณนี่มันเลวจริงๆ !”
“หึหึ ฉันเป็นคนเลวแล้วยังไง ? ถึงแม้นายจะไม่ยอมรับยังไง แต่ว่าในร่างกายของนายก็มีเลือดฉันอยู่ ลูกชายคนฉัน นายจะจับฉันด้วยมือตัวเองเหรอ ? นายไม่กล้าฟ้าจะผ่าลงมาหรือไง ?”