แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 955
นรมนตกใจ เหลือบมองดูเป็นบุริศร์ ถึงถอนหายใจ
“อยู่ไหน?”
ทางฝั่งบุริศร์เสียงดังนิดหน่อย
นรมนพูดเสียงเบา “กลับโรงแรมแล้ว พึ่งออกมาจากห้องปัญญ์”
พูดจบ นรมนครุ่นคิดแล้วก็พูด “มีเรื่องอยากจะให้นายช่วยพอดี”
“ว่ามา”
“หาเฮลิคอปเตอร์ลำนึงไปรับคมทิพย์มาหน่อย การผ่าตัดของปัญญ์เย็นวันนี้ฉันหวังว่าเธอจะอยู่ด้วยได้”
พึ่งจะสิ้นเสียงของนรมน ตอนที่ในใจกระวนกระวายว่าบุริศร์จะรู้สึกว่าลำบากไหม ก็ได้ยินบุริศร์พูดขึ้น “พอดีเลย ฉันก็มีเรื่องจะหาเธอ ณพบอกว่าคุณหมอรมิดาให้นามบัตรเธอมาอันนึง ให้เธอช่วยคมทิพย์ตามหานักทำเพลงนั่นใช่ไหม?”
“นักทำเพลง? ฉันไม่ได้ดูให้ละเอียด ฉันนึกว่าเป็นผู้กำกับ”
นรมนรู้สึกว่าตนเองก็สะเพร่าเกินไปแล้ว
บุริศร์พูดยิ้ม “นั่นเป็นนักทำเพลงระดับเทพ เพียงแค่เธอให้คนเขาทำเพลงกับเขาโดยพื้นฐานแล้วจะดังทั้งนั้น ดังนั้นความหมายของฉันก็คือให้คมทิพย์มาเสียหน่อย ในเมื่อเธอคุยกับหล่อนไว้แล้ว งั้นฉันก็จะติดต่อไปเดี๋ยวนี้ รับหล่อนมา”
“โอเค”
ในใจนรมนมีความสุขมาก
ถ้าสามารถทำให้คมทิพย์เดินบนเส้นทางนักร้องได้จริงๆ อาจจะเข้าวงการบันเทิงได้เร็วกว่าเป็นนักแสดงกลุ่ม อีกอย่างเสียงของคมทิพย์ก็ไม่เลวเลย
นรมนส่งข่าวดีนี้ไปให้คมทิพย์ทางวีแชท
เป็นธรรมดาที่คมทิพย์จะดีใจมาก
ถึงอย่างไรก็ว่างอยู่ไม่มีอะไรทำ นรมนไปที่สนามบินในทันทีเพื่อรอคมทิพย์
ประมาณไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง คมทิพย์ก็มาถึงเมืองB ในตอนที่ได้เจอนรมนก็กอดเธอไว้แน่น
“เธอเป็นคนที่สูงศักดิ์ของฉันจริงๆ! ถ้าประสบความสำเร็จได้ อะไรก็จะดีเอง ไม่! ฉันจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน!”
มองเห็นประการที่เข้มแข็งในดวงตาของคมทิพย์ นรมนก็ทั้งปวดใจและมีความสุข
“ไปกันเถอะ ไปดูปัญญ์ก่อน บอกเขาว่าเธอมาถึงแล้ว แบบนี้แล้วในใจเขาจะได้สงบมากขึ้น จากนั้นรอการผ่าตัดของปัญญ์เสร็จสิ้นแล้ว พรุ่งนี้พวกเราก็ไปเยี่ยมเยียนนักทำเพลงขั้นเทพคนนี้”
“โอเค”
นรมนกับคมทิพย์ขับรถกลับมาถึงโรงแรม
ในตอนที่ปัญญ์เห็นคมทิพย์ก็ดีใจมากเป็นธรรมดา กระทั่งรู้ว่าคมทิพย์มีศักยภาพที่จะได้เป็นนักร้อง ก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น
เวลาผ่านไปในระหว่างที่พวกเขาหัวเราะยิ้มแย้ม
ในตอนที่รมิดามา นรมนก็รีบยืนขึ้นมา
“เธอมาแล้ว? เธอมาดูขาของเขาเร็ว ทำการผ่าตัดฟื้นสภาพเดิมได้ไหม?”
รมิดาถูกนรมนดึงมาถึงข้างตัวปัญญ์
เมื่อปัญญ์เห็นว่าเป็นผู้หญิง ก็เขินอายเล็กน้อย แต่เพื่อจะยืนขึ้นมาได้ เขาได้เพียงทนไว้
ในสายตาของรมิดากลับไม่มีการแบ่งแยกชายหญิง หลังจากทำการตรวจให้ปัญญ์แล้ว นิ่งไปซักพักก็พูดขึ้น “ฉันทำการผ่าตัดให้เขาได้ และทำให้เขายืนขึ้นมาได้ แต่จะมีข้อบกพร่องนิดหน่อย”
“ข้อบกพร่องหมายความว่ายังไง?”
คมทิพย์กังวลมากเป็นพิเศษ
รมิดามองไปที่คมทิพย์ พูดเสียงต่ำ “กระดูกของเขาหักโดยสมบูรณ์ แหลกละเอียด ฉันใช้การผ่าตัดของฉันทำให้เขายืนขึ้นมาได้ แต่ไม่สามารถยืนเป็นเวลานานได้ อีกอย่างหลังจากนี้ขาทั้งสองข้างใช้แรงมากไม่ได้ เข้าใจความหมายของฉันไหม?”
คมทิพย์รีบส่ายหน้า
นรมนกลับฟังเข้าใจแล้ว
“เธอกำลังจะบอกว่าปัญญ์สามารถยืนเดินเหมือนคนปกติทั่วไปได้ แต่เวลานานมากไม่ได้?”
“ใช่! ถึงอย่างไรกระดูกก็แหลกละเอียด ฉันเป็นคน ไม่ใช่เทพ ฉันทำการผ่าตัดที่ดีที่สุดให้กับเขาได้ แต่มีข้อบกพร่องนิดหน่อยต้องพูดกับพวกเธอให้ชัดเจน เวลาปกติให้เขาเดินน้อยหน่อย นั่งให้เยอะๆจะดีกว่า”
คมทิพย์คิดไม่ถึงว่าจะมีผลลัพธ์แบบนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าใจ
แต่ปัญญ์กลับยิ้มแล้วพูดขึ้น “ค่อนข้างดีเลย นับว่าได้ยืนซักสิบนาที ผมก็รู้สึกว่าใช้ได้แล้ว ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ก็ไม่มีหมอคนไหนพูดกับผมว่าผมสามารถลุกยืนเหมือนคนปกติได้”
รมิดามองดูปัญญ์ เห็นแววตาของเด็กผู้ชายคนนี้แวววาวมาก อดไม่ได้ที่จะพูดยิ้ม “ที่ฉันพูดเป็นไปได้แค่80% ตัวนายเองมีความหวังก็ดีแล้ว อันที่จริงฉันรู้สึกว่าคนคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่เกี่ยวเลยว่าเขาจะยืนอยู่หรือนั่งอยู่ นายรู้สึกไหม?”
“ผมก็รู้สึกอย่างนั้น”
ปัญญ์ยิ้มอย่างใจกว้าง
เหมือนว่าจู่ๆเขาก็ตระหนักอะไรขึ้นมาได้ ตัวเองแต่ก่อนล้วนแต่คิดแก้ปัญหาที่ไม่มีทางแก้ไข อันที่จริงเพียงแค่ตัวเองคิดที่จะเริ่มธุรกิจ อาศัยสมองของตัวเองและความช่วยเหลือของบุริศร์ ตัวเองก็สามารถทำคะแนนออกมาได้เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการผ่าตัดของรมิดา
นรมนเห็นทัศนคติแบบนี้ของปัญญ์ ก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ
“คมทิพย์ ทุกอย่างล้วนพัฒนาไปในทางที่ดีที่สุด เธออย่ากังวลเลย”
“อืม”
คมทิพย์พยักหน้า
ในตอนที่รมิดาได้ยินชื่อของคมทิพย์ ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมอง แววตาของผู้หญิงคนนี้ใสสะอาดเกินไป ชัดเจนเกินไป ทำให้คนรู้สึกสบายเป็นพิเศษ
“พวกเธอออกไปก่อนเถอะ ตอนที่ฉันทำการผ่าตัดไม่หวังใครมีคนนอกมาอยู่ข้างๆ”
เสียงของรมิดาไม่ดัง แต่นรมนก็รู้แล้ว
เธอพาคมทิพย์ออกไปจากห้อง
“จะผ่าตัดที่นี่เลย?”
“เธอวางใจได้เลย เทคนิคของคุณหมอรมิดาไม่ต้องพูดถึง แน่นอนว่าได้จัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็นต่อการผ่าตัดไว้เรียบร้อยแล้ว”
นรมนพาคมทิพย์ที่กังวลออกมาจากห้องของปัญญ์
ระหว่างกระบวนการการรอคอยทั้งสองคนต่างรู้สึกทรมาน
จู่ๆนรมนก็พูดขึ้นมา “ตอนนี้ฉันสงสัยเนตรามาก”
“สงสัย?”
คมทิพย์รู้สึกว่านรมนใช้คำนี้ได้อย่างน่าสนใจ
นรมนพยักหน้า ดูข้อมูลของกล้าณรงค์อีกครั้ง ก็ไม่ได้เห็นอะไรเป็นพิเศษ แต่ในใจก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“บางทีกลับไปที่เมืองชลธีแล้วฉันต้องไปเจอเชษฐ์หน่อย”
คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์ส่ายหน้า
“เธอไปแล้วเขาก็เจอเธอไม่ได้ ฉันได้ยินว่าเชษฐ์หมดอาลัยตายอยากโดยสิ้นเชิง คนแบบนี้บอกความลับเธอไม่ได้หรอก อีกอย่างบุริศร์ก็เคยไปแล้ว ก็ถามโดยไม่ได้อะไรมาเหมือนกันไม่ใช่หรอ?”
นรมนชะงักเล็กน้อย
“ทำไมเธอถึงรู้เรื่องที่บุริศร์ไปหาเชษฐ์?”
คมทิพย์พูดอย่างเฉยเมยมาก “ฉันได้เจอกับแพรวาแม่ของธิดาแล้ว ฟังหล่อนพูดมา”
คิ้วของนรมนขมวดขึ้นมาทันที
“คุณน้าแพรวา? ทำไมหล่อนถึงพูดเรื่องนี้กับเธอ?”
“ไม่แน่ใจ พูดขึ้นมาตอนคุยกัน อาจจะพูดลอยๆขึ้นมา”
คมทิพย์พูดอย่างไม่ใส่ใจ นรมนกลับมีความคิดหยั่งลึก
แพรวาไม่รู้จักคมทิพย์ ทำไมถึงพูดเรื่องพวกนี้กับคมทิพย์? แค่ถามลอยๆจริงหรอ?
“ตอนที่เธอเจอแพรวา ธิดาอยู่ข้างๆ?”
“ใช่แล้ว ไม่งั้นฉันจะรู้จักแม่หล่อนได้ไง? ดูท่าทางเหมือนออกมาซื้อกับข้าว”
คมทิพย์เห็นนรมนขมวดคิ้วแน่น ถึงได้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ทำไมหรอ? เธอรู้สึกผิดปกติ?”
“ไม่ใช่ผิดปกติ มันผิดปกติมาก เรื่องที่บุริศร์ไปหาเชษฐ์ฉันเองก็พึ่งรู้กะทันหัน ทำไมแพรวาถึงรู้ได้? ในเมื่อรู้แล้ว ทำไมถึงมาพูดให้เธอที่พึ่งเจอครั้งแรกฟัง?”
ได้ฟังนรมนถามแบบนี้ คมทิพย์ถึงชะงักเล็กน้อย
“ตอนนั้นพวกเราพึ่งเจอกัน ธิดาทักทายฉัน ฉันก็ถามไปโดยไม่รู้ตัวว่านี่คือใคร หล่อนแนะนำว่าเป็นแม่ของหล่อน ฉันถามว่าเธอไปไหนหรอ? แพรวาก็บอกว่าเธอกับบุริศร์ออกไปแล้ว เหมือนจะได้ยินว่าไปหาเชษฐ์จัดการเรื่องให้เรียบร้อย ที่ผ่านมาก็เป็นตามนี้แหละ”
คมทิพย์พยายามนึกย้อนภาพในวันนั้น พูดกับนรมน
คิ้วของนรมนขมวดลึกยิ่งขึ้น
“เป็นไปไม่ได้! ตอนที่ฉันกับบุริศร์ออกไปไม่ได้บอกใครเลยว่าพวกเราจะออกไปทำอะไร อีกอย่างบุริศร์ไปหาเชษฐ์ถามธุระนิดหน่อยก็ไม่ใช่ไปทันที แต่หลังจากออกไปทำธุระกับฉันแล้วถึงตัดสินใจไปกะทันหัน ตรงจุดนี้แพรวารู้ได้ยังไง?”
คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เธอสงสัยแพรวา?”
“ที่ฉันสงสัยไม่ได้หยุดแค่ตรงนี้ ตามเหตุผลพลังของเชษฐ์ถูกถอนไปแล้ว ทำไมถึงยังมีศัตรูเล็ดลอดออกมา? กล้าณรงค์คนนี้ตรวจสอบอะไรไม่เจอ แต่ทำธุรกิจต่างประเทศมาโดยตลอด แล้วยังบังเอิญมีความเกี่ยวข้องกับเชษฐ์ เป็นเด็กกำพร้าที่เชษฐ์รับมาเลี้ยง ทำไมถึงไม่ถูกเชษฐ์ดึงเข้าไปเกี่ยวเนตราก็เป็นคนที่เชษฐ์พาออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า อยู่ด้วยกันกับกล้าณรงค์วางแผนอะไรอีก?”
นรมนรู้สึกว่าสมองของตนมึนงงแล้ว
ดวงตาของคมทิพย์หรี่ลงเล็กน้อย พูดเสียงต่ำ “เธอสงสัยว่าแพรวาบงการอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้?”
“เป็นไปได้ไหม?”
นรมนไม่อยากเชื่อการคาดเดาของตัวเอง แล้วยังไม่มีหลักฐานใดๆ แต่ความรู้สึกแบบนี้ไม่ดีอย่างมาก
ดวงตาของคมทิพย์จมดิ่งลง
“ถ้าเรื่องของชยนต์กับกล้าณรงค์เกี่ยวข้องกัน แล้วกล้าณรงค์ยังมีความสัมพันธ์กับแพรวาล่ะก็ งั้นฉันก็จะไม่สนว่าหล่อนเป็นแม่ของธิดาไหม ฉันปล่อยไปไม่ได้เหมือนกัน”
“เรื่องนี้กลับไปตรวจสอบให้ชัดเจนแล้วค่อยว่ากัน ช่วงนี้มีเรื่องมาไม่หยุดหย่อน แปลกเกินไปแล้ว ฉันกระทั่งรู้สึกว่าพฤกษ์อาจจะรู้อะไรเข้าแล้วถึงได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์”
ก่อนหน้านี้นรมนยังไม่มีการคาดเดาในทิศทางนี้ ตอนนี้กลับรู้สึกว่าความสงสัยแบบนี้มีมากขึ้น
ทั้งสองนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
มือทั้งสองของคมทิพย์กุมกันไว้แน่น ผ่านไปนานมากถึงพูดขึ้นเสียงต่ำ “ถ้าหากพฤกษ์โดนรถชนเพราะเรื่องนี้จริงๆ ฉันจะไม่ปล่อยไปแน่”
“วางใจเถอะ ฉันช่วยเธอเอง”
นรมนกุมมือของคมทิพย์ไว้แน่น
ทันใดนั้นคมทิพย์ก็เงยหน้าขึ้นมา เอ่ยถามเสียงต่ำ “ธิดาเป็นพี่สะใภ้ของเธอ”
“เธอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันไม่ช่วยเธอแล้วใครจะช่วยเธอ?”
คมทิพย์ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ดวงตาก็แดงขึ้นมาทันที
“ชั่วชีวิตนี้ฉันมีเพื่อนแบบเธอได้ยังไง”
“คำพูดนี้ฉันควรพูดหรอก เอาเถอะ ไม่ต้องงองแงแล้ว พวกเรามาตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนกัน”
นรมนตบบ่าของคมทิพย์แล้วยิ้มให้ แต่ดวงตากลับมีความแน่วแน่แวบผ่าน
เรื่องนี้เธอจะต้องตรวจสอบจนความจริงปรากฏ
ช่วงเวลาการผ่าตัดผ่านพ้นไปแล้ว
ในตอนที่รมิดาออกมาเห็นได้ชัดว่าเหนื่อยล้ามาก
“คุณหมอรมิดาน้องชายฉันเป็นยังไงบ้าง?”
คมทิพย์ลุกยืนด้วยความรวดเร็ว
รมิดานวดคอของตัวเอง พูดยิ้ม “ประสบความสำเร็จมาก วางใจเถอะ หลังยาชาหมดฤทธิ์แล้ว พักฟื้นประมาณหนึ่งเดือนก็น่าจะสามารถฝึกเดินได้แล้ว”
“เยี่ยมไปเลย!”
คมทิพย์มีความสุขขึ้นมาทันที
นรมนเองก็เผยรอยยิ้มออกมา
นี่คงจะเป็นข่าวที่ดีที่สุดในช่วงนี้แล้ว
คมทิพย์เข้าไปดูปัญญ์ในห้องด้วยความรวดเร็ว
นรมนมองไปที่รมิดาพูดยิ้ม “กินมือเย็นด้วยกัน?”
“ช่างมันดีกว่า เลี่ยงไม่ให้สามีเธอกินฉัน”
ระหว่างที่พูด ปากของรมิดาก็มุ่ย
นรมนมองไปด้านหลัง ไม่รู้ว่าตอนไหน บุริศร์ก็ยืนรอพวกเธออยู่ที่ทางเดินแล้ว
“ไม่งั้นเรากินด้วยกัน?”
นรมนเขินอายเล็กน้อย
รมิดาโบกมืออย่างรู้งาน จากไปทันที
บุริศร์เดินเข้ามาโอบล้อมนรมนไว้ พูดเสียงอ่อน “ผ่าตัดสำเร็จแล้วก็พักผ่อนได้แล้วใช่ไหม? สาวตั้งท้อง!”
นรมนยิ้มเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ได้กลิ่นน้ำหอมแรงๆบนตัวของบุริศร์