แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 971
หลังจากบุริศร์วางสาย คิ้วก็ขมวดแน่น
เขารู้ว่าราเชนเป็นดารา แต่ทำไมคนคนนี้ถึงมาหานรมนอย่างไม่มีเหตุผล?
“ชัยยศ ตรวจสอบเบื้องลึกเบื้องหลังของราเชนให้ฉันหน่อย ยิ่งละเอียดยิ่งดี”
“ครับ ประธานบุริศร์”
หลังจากชัยยศออกไป บุริศร์ยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างทะแม่ง ๆ เขาจึงโทรหาอรรณพต่อ
“ช่วยสืบเรื่องคนหนึ่งให้ฉันหน่อย”
“ว่ามา”
“ราเชน。”
อรรณพนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นจึงวางสายไป
ทางฝั่งนรมนหลังจากวางสายก็รู้สึกงงงวย ดาราดังขนาดนี้ มีทรัพยากรดีขนาดนี้ทำไมถึงมาหาเธอ?
เธอไม่ได้รู้สึกว่าตนเองล้ำเลิศมาก ในสังคมนี้ ถ้าไม่มีความช่วยเหลือจากบุริศร์ บริษัทภาพยนตร์เล็ก ๆ ของเธอไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไร สถานการณ์เช่นนี้จะสามารถดึงดูดดารานักแสดงแถวหน้ามาเซ็นสัญญาร่วมแบ่งปันทรัพยากรของตนเองได้อย่างไร?
นรมนไม่ใช่คนโง่ สามารถคิดได้เช่นนี้
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ตัดสินใจไปหาคมทิพย์ นานมากแล้ว คมทิพย์ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน
นรมนพูดกับปาณีสักพัก ปาณีจึงเตรียมของให้เธอ
เธอโทรหาคมทิพย์ รู้ว่าเธออยู่ที่อาคารฟอร์จูนจึงขับรถไป
อาคารฟอร์จูนเป็นอาคารขนาดใหญ่ครบวงจร ด้านในมีธุรกิจมากมาย นรมนรู้ว่าคมทิพย์กำลังอัดเสียงอยู่ อีกครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ถึงจะมีเวลา และสตูดิโอบันทึกเสียงก็ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปก็ได้ เธอจึงจองที่นั่งในร้านอาหารชั้นสี่ ตัดสินใจหาอะไรรับประทานระหว่างรอคมทิพย์ลงมา
นรมนสั่งคาปูชิโนแก้วหนึ่ง จากนั้นหยิบมือถือออกมาเปิดเวย์ปั๋วดู ในเมื่อตอนนี้เปิดบริษัทภาพยนตร์ ก็ต้องสนใจข่าวสาร และถือโอกาสผลักดันคนใหม่ในบริษัทของตนเองออกไปสักหน่อย แต่อย่างไรก็ตามต้องหาแหล่งทรัพยากรที่ไว้ใจได้
ในขณะที่นรมนกำลังอ่านอย่างใจจดใจจ่อ เสียงกระแอมอย่างสุขุมดังขึ้นเหนือศีรษะ
“ผมนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ?”
นรมนแปลกใจเล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็มองเห็นผู้ชายที่ดูสง่ายืนอยู่ตรงหน้าตนเอง
เธอคิ้วขมวดเล็กน้อย มองออกไปรอบ ๆ ธุรกิจที่นี่ดีจริง ๆ จนไม่มีที่นั่งเหลือเลย
“ตามสบายค่ะ”
นรมนพูดจบก็ก้มลงปัดหน้าจอมือถือต่อไป ไม่สนใจผู้ชายตรงหน้า
ราเชนมองผู้หญิงตรงหน้า รู้สึกน่าหัวเราะอย่างอดไม่ได้
ตอนนี้เขาไปที่ไหนก็กลัวว่าจะถูกแฟนคลับจำได้ คิดไม่ถึงว่านรมนจะมองเขาเป็นแค่คนที่ผ่านมา
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รู้สึกสบายอกสบายใจแบบนี้?
ราเชนจำไม่ได้แล้ว
เขามองนรมน แววตาดูอ่อนโยนขึ้น
นรมนไม่ใช่คนโง่ และไม่ได้ตาบอด แววตาที่ส่องแสงของราเชนแสดงความสนใจเกินขอบเขต ถึงกับทำให้เธอรู้สึกรังเกียจ
“คุณค่ะ ถ้าคุณจะดื่มกาแฟ ทางที่ดีดื่มเสร็จแล้วรีบไปซะ ฉันนัดกับเพื่อนเอาไว้ อีกสักพักจะมา ถึงตอนนั้นคุณจะไม่มีที่นั่ง”
นรมนไม่อยากไล่คนโดยตรง แต่คำพูดก็ไม่ต่างอะไรกับไล่คน
ราเชนอึ้งไปเล็กน้อย เอามือลูบจมูกและสูดดมทันที“คุณไม่รู้จักผมเหรอ?”
“วิธีชวนคุยแบบนี้ล้าสมัยไปหน่อยนะ ขอโทษด้วย ฉันแต่งงานแล้ว”
นรมนพูดจบก็ก้มหน้าลงต่อ แต่น้ำเสียงไม่ชอบใจ
ราเชนถูจมูก กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมคือราเชน”
“ฉันไม่สนว่าคุณเป็นใคร ดื่มเสร็จแล้วก็รีบไปซะ!”
ความอดทนของนรมนมาถึงขีดสุด
ตอนนี้ระหว่างเธอกับบุริศร์กำลังมีปัญหา ไม่มีความคิดที่จะมีความรัก แต่มีผู้ชายสายตากรุ้มกริ่มต้องการหาเรื่องให้โดนด่าที่นี่ เธอก็จะไม่เกรงใจ
เดิมทีราเชนคิดว่าบอกชื่อของตนเองออกไปแล้วจะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่าง คิดไม่ถึงว่านรมนจะโมโหขึ้นมาทันที นี่ทำให้เขาอดแปลกใจไม่ได้
“ผมบอกว่าผมชื่อราเชน”
“ฉันบอกให้คุณออกไป ฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่องเหรอ?ไม่อย่างนั้นฉันจะใช้ภาษาอังกฤษพูดกับคุณ?”
สีหน้าของนรมนน่าเกลียดมาก
ราเชนเห็นเธอเป็นเช่นนี้ จึงรู้ว่าตนเองอยู่ที่นี่ต่อไปอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เขาจึงรีบพูดเสียงเบาว่า “นี่คือช่องทางการติดต่อผม อย่างส่วนตัว หากมีธุระคุณสามารถติดต่อผมได้ทุกเมื่อ”
นรมนไม่ได้พูดอะไร
ราเชนคอตกเดินจากไป
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่รู้สึกคับอกคับใจเช่นนี้หลังจากที่เขามีชื่อเสียง แต่เพราะอีกฝ่ายคือนรมน เขาจึงอดทน
นรมนไม่แม้แต่จะมองนามบัตรใบนั้น โยนทิ้งลงถังขยะด้านข้างทันที
เธอก้มหน้าดูมือถือต่อ ไม่มีความฝังใจและผลกระทบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่
เมื่อคมทิพย์ลงมา เธอเปี่ยมไปด้วยความกระฉับกระเฉง
“นรมน รอนานไหม?”
“ไม่เลย เพิ่งจะมาถึง”
นรมนมองเห็นว่าคมทิพย์เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
ราวกับเธอค้นเจอเป้าหมายของชีวิต ความเบิกบานที่ส่งออกมาจากทั่วทั้งตัวทำให้คนเปล่งประกาย เธอรู้มาตลอดว่าคมทิพย์เป็นคนสวย เพียงแต่เธอตอนหน้าสดแตกต่างกับเธอในตอนนี้ที่แต่งหน้าบาง ๆ
“ทำไม?เคลิ้มไปกับใบหน้าของพี่เหรอจ๊ะ?”
คมทิพย์คุยโม้อย่างขี้อวด
นรมนถูกรอยยิ้มของเธอกระตุ้น รีบพยักหน้าและพูดว่า“ตอนนี้คมทิพย์เนื้อหอมที่สุด ฉันทำให้โกรธไม่ได้แล้ว”
“ช่างมันเถอะ จริงสิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
คมทิพย์ตักเค้กที่นรมนสั่งมาแต่ไม่ได้กินเข้าปาก
“เฮ้ เค้กนี้หวานมาก ระวังคอของเธอด้วยนะ”
“ไม่เป็นไร”
คมทิพย์ดื่มน้ำอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์และกล่าวว่า“ถ้าอัลบัมนี้ออกไปแล้ว หลังจากนี้ฉันคงจะกินอะไรอย่างอิสระไม่ได้แล้วล่ะ”
“ก็จริง งั้นเธอกินให้เต็มที่เลย”
นรมนดูเวย์ปั๋วจึงรู้ว่าการเป็นดารานักแสดงนั้นลำบากมาก
“การปรับแต่งบทเพลงนั่นจะช่วยเธอจัดจำหน่ายแผ่นเสียงออกไปเหรอ?”
“ไม่หรอก ฉันต้องหาความช่วยเหลือจากภายนอก แต่เขาจะจัดงานแถลงข่าว มีชื่อเสียงของเขา ฉันคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหา จริงสิ ฉันเคยบอกเธอไปแล้ว ฉันอยากเซ็นสัญญากับบริษัทภาพยนตร์ของเธอ”
คำพูดของคมทิพย์ทำให้นรมนอึ้งไปเล็กน้อย
“คมทิพย์ เธอก็รู้ บริษัทของฉันเพิ่งจะเปิดตัว ให้ทรัพยากรกับเธอไม่ได้มากมาย ถ้าเธอเซ็นสัญญากับบริษัทของฉัน อาจจะขัดขวางความก้าวหน้าของเธอ เธอไปบริษัทใหญ่ ๆ เถอะนะ”
นรมนคิดเพื่อคมทิพย์อย่างจริงใจ
คมทิพย์กลับโบกมืออย่างไม่สนใจและกล่าวว่า“เธอมีทรัพยากรที่สามารถใช้ประโยชน์ได้”
“ฉันจะหย่ากับบุริศร์แล้ว ฉันไม่อยากพึ่งพาเขาทุกเรื่อง”
“งั้นไปหาสามีของรมิดา”
คำพูดของคมทิพย์ทำให้นรมนมึนงงเล็กน้อย
“หมายความว่าอะไรเหรอ?”
“ที่นี่คุณชายอรรณพมีอิทธิพลมาก เธอไม่ต้องการหาบุริศร์ก็ไม่เป็นไร เธอสามารถให้รมิดาช่วยพูดให้ได้ หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ รมิดาก็คือผู้ถือหุ้นในบริษัทภาพยนตร์ หล่อนจะไม่ออกแรงสักหน่อยเลยเหรอ?ตอนนี้ถ้าบริษัทของเธอต้องพึ่งพาตนเองคงจะไปไม่รอด วงการบันเทิงมันช่างล้ำลึก ถ้าไม่มีผู้สนับสนุนรายใหญ่เบื้องหลัง ใครจะกล้าเซ็นสัญญากับบริษัทของเธอ?ตอนนี้เป็นสังคมที่ขึ้นอยู่กับเส้นสาย ถ้าไม่มีเส้นสาย ต่อให้เธอมีความสามารถทะลุฟ้าก็เปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะโปรดิวเซอร์ริชาร์ดยังเป็นที่รู้จักในวงการ ถึงแม้ฉันจะไม่กล้าพูดว่าอัลบัมของฉันจะสามารถเปิดช่องทางการจำหน่ายให้บริษัทภาพยนตร์ของเธอได้ แต่ก็ดีกว่าไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป”
ได้ฟังคมทิพย์พูดแบบนี้ นรมนก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา
ก็จริง อย่าพูดถึงความคับข้องใจส่วนตัวกับบุริศร์ มีผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ทำไมเธอถึงไม่ใช้?
“ได้ ฉันกลับไปจะให้พริมาร่างสัญญา พวกเราพี่น้องจะต้องจัดการให้ชัดเจน อย่าให้ฉันเอาเปรียบเธอ”
คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์หัวเราะขึ้นมา
“เธอเอาเปรียบฉัน?ฉันเอาเปรียบเธอมากกว่านะ จริงสิ ฉันยังมีเรื่องต้องการให้เธอช่วย”
“ว่ามา”
“การอัดเสียงช่วงบ่ายมีอาจารย์พิณโบราณคนหนึ่งติดธุระด่วนมาไม่ได้ แต่การอัดเสียงของพวกเราแน่นมาก ตอนนี้ไม่อาจหาอาจารย์พิณโบราณที่มีคุณสมบัติเหมาะสมได้ทันที ฉันนึกขึ้นมาได้ว่า เธอสอบผ่านพิณโบราณระดับแปดแล้ว จะเป็นอย่างไร?ช่วงบ่ายมาช่วยหน่อยได้ไหม”
ได้ยินคมทิพย์พูดเรื่องนี้ นรมนจึงตอบตกลงอย่างไม่ต้องคิดอะไร
“ได้เลย ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”
“ฉันรู้ว่าเธอเก่งที่สุด ไปเถอะ พวกเราไปดูโน๊ตเพลงกัน”
คมทิพย์บอกจะทำก็ทำเลย ลากนรมนเดินไป
เธอไม่กินแล้วเหรอ
“ไม่กินแล้ว วันนี้ตอนอัดเสียงมีศิลปินที่มีชื่อเสียงอาสามาอัดเสียง เห็นแก่หน้าตาของโปรดิวเซอร์ริชาร์ดถ้าฉันไปสาย คนอื่นจะพูดได้ว่าฉันเป็นเด็กใหม่เรื่องเยอะ”
คมทิพย์พูดแบบนี้ นรมนก็รู้สึกว่าเธอยากลำบากจริง ๆ
“โอเค ไปเถอะ”
นรมนลุกขึ้นไปสตูดิโอบันทึกเสียงชั้นห้ากับคมทิพย์
ราเชนคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอนรมนที่สตูดิโอบันทึกเสียง เขาอดแปลกใจไม่ได้
ริชาร์ดเห็นคมทิพย์พานรมนเข้ามา จึงอดขมวดคิ้วไม่ได้
“คมทิพย์ คนนี้คือ……”
“อ่อ คุณโปรดิวเซอร์คือว่าแบบนี้ค่ะ นี่คือนรมนเพื่อนสนิทของฉัน และเป็นผู้ดูแลบริษัท splendor เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด บ่ายนี้อาจารย์พิณโบราณของพวกเรามาไม่ได้ใช่ไหมคะ?พอดีเลยเพื่อนสนิทของฉันได้พิณโบราณระดับแปด ฉันจะอยากให้เธอมาช่วย ทุกคนจะได้ไม่ต้องออกไปหาอาจารย์พิณโบราณ”
คมทิพย์พูดแบบนี้ ริชาร์ดถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก สีหน้าดีขึ้นมา
“เป็นแบบนี้เอง งั้นก็ดีแล้ว ประธานนรมนใช่ไหม?ลองเล่นสักเพลงดูไหม?”
ริชาร์ดเป็นคนระมัดระวัง
นรมนพยักหน้า และมาตรงหน้าพิณโบราณ สวมปลอกเล็บ
หลังจากทำความคุ้นเคย นรมนถือโอกาสเล่นเพลง
ดวงตาของริชาร์ดเป็นประกายขึ้นมา
ราเชนก็คิดไม่ถึงว่านรมนจะดีดพิณโบราณได้ และยังเห็นว่าเธอดีดพิณโบราณอย่างสง่างาม แววตาของเขาดูอ่อนโยนมากขึ้น
“เยี่ยม!ประธานนรมนเก่งรอบด้านจริง ๆ ดีดพิณโบราณได้ยอดเยี่ยม เพียงแต่อาชีพของพวกเรามีกฎเกณฑ์ของอาชีพ ประธานนรมนน่าจะรู้ว่า ถ้าคุณช่วยพวกเรา จำเป็นต้องเซ็นสัญญารักษาความลับ อย่างไรเสียอัลบัมของพวกเรายังไม่เผยแพร่ออกไป มีหลายเรื่องที่ต้องเก็บเป็นความลับ”
ได้ยินริชาร์ดพูดเช่นนี้ คมทิพย์รีบกล่าวว่า“คุณโปรดิวเซอร์คือว่าฉันคิดแบบนี้ คุณไม่ได้กำลังมองหาบริษัทภาพยนตร์เพื่อเผยแพร่แผ่นเสียงเหรอคะ?ไม่สู้เซ็นสัญญากับบริษัท splendor เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัดไปเลยล่ะ แบบนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกัน เธอไม่มีทางเปิดเผยความลับ คุณว่าจริงไหมคะ?”
ริชาร์ดนิ่งไปสักพัก รู้สึกลังเลใจ
บริษัท splendor เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัดเขาเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก เห็นว่าเป็นบริษัทเล็ก ๆ ซึ่งเขามั่นใจในการทำเพลงของตนเองเสมอมา ถ้าร่วมงานกับบริษัทเล็ก ๆ หากมีการประชาสัมพันธ์ไม่เพียงพอ สิ่งนี้จะทำลายความพยายามของเขามาเป็นเวลานาน
นรมนมองเห็นความลังเลของริชาร์ด ในขณะเดียวกันก็เข้าใจว่าบริษัทของตนเองมีขนาดเล็ก ไม่อาจจะทำให้คนยินดีเสมอไป ในขณะที่กำลังจะพูด ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของผู้ชายดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ริชาร์ด ถึงแม้ตอนนี้บริษัท splendor เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัดจะดูเล็ก แต่ผมตัดสินใจจะเซ็นสัญญากับพวกเขา”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนอึ้งไปทันที และทำให้สายตาของนรมนกวาดมองไปบนใบหน้าของราเชน
คือเขาเหรอ?