แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 978
กลิ่นอายที่คุ้นเคยปกคลุมนรมนในชั่วพริบตา
นรมนคิดจะผลักออกไปตามสัญชาตญาณ กลับถูกบุริศร์จับสองมือเอาไว้ทันที และกอดเธอแน่น
“คุณ……”
นรมนเงยหน้าขึ้นช้า ๆ มุมปากเฉียดริมฝีปากบางของบุริศร์ไป ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนระหว่างกัน
นัยน์ตาของบุริศร์มืดลง เขากลืนน้ำลาย และคว้าท้ายทอยของนรมนเอาไว้ทันที จูบที่รุนแรงกวาดไปทั่วทั้งตัวในชั่วพริบตา
นรมนทำเป็นผลักออก ทั้งสองคนดื่มด่ำกับความสุขอย่างหาที่สุดไม่ได้
หลังจากความเร่าร้อนผ่านไป นรมนเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
บุริศร์มองแผ่นหลังของเธอ หลายวันที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าจิตใจสงบอย่างแท้จริง
นรมนให้น้ำร้อนไหลผ่านร่างกายของตนเอง ความเร่าร้อนของเธอยังคงอยู่ ความรักและความผูกพันกับบุริศร์ยังคงอยู่ แต่เรื่องนั้นเหมือนก้างที่ติดคอ ไม่อาจทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นได้
ถ้าบุริศร์ไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นจริง ทำไมถึงกลัวเธอรู้?
และทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงตาย?
นรมนรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถก้าวผ่านสิ่งนี้ไปได้ แต่ระหว่างบุริศร์เป็นแบบนี้อีกแล้ว ในขณะนี้จึงถอนหายใจไม่จบไม่สิ้น
รอเธอออกมา นัยน์ตาของบุริศร์สว่างไสว
“เมื่อไหร่คุณจะกลับไปเมืองชลธี?”
“ไม่มีความคิดที่จะกลับไป”
นรมนสะบัดผม
บุริศร์หาไดร์เป่าผมด้วยตนเอง และเข้ามาจับผมยาวของเธอเอาไว้
นรมนนิ่งไปชั่วครู่ แต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง
ทั้งสองคนเป็นเหมือนเมื่อก่อน คนหนึ่งเป่าผม คนหนึ่งหลับตาพิงหน้าเตียง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เส้นผมของนรมนนุ่มสลวย
บุริศร์ชอบผมยาวของเธอเสมอ วันนี้ยังสามารถสางผมสวยให้เธอ เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่อิ่มอกอิ่มใจสุด ๆ
“ไม่โกรธเหรอ?”
“สิ่งที่ทำกับคุณไม่ได้หมายความว่าไม่โกรธ บางทีฉันอาจจะไม่โกรธ เพียงแค่อยากรู้ต้นเหตุของเรื่องราว บุริศร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร อย่าปิดบังฉันเลย ถึงแม้ฉันจะเชื่อว่าคุณไม่ได้นอกใจฉัน แต่ระหว่างคุณกับผู้หญิงคนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บอกฉันได้ไหม?”
นรมนลืมตาขึ้นทันที
หัวใจของบุริศร์หยุดเต้นไปเล็กน้อย กล่าวเสียงเบาว่า“ ไม่ได้บอกไปแล้วเหรอ?ถามเรื่องงานนิดหน่อย ถึงต้องเจอกัน เพียงแค่ผมคิดไม่ถึงว่าเธอจะมีความคิดแบบนั้นกับผม”
“เรื่องอะไร?”
บางทีนี่อาจเป็นกุญแจสำคัญ
บุริศร์ตอบเสียงเบา“ เรื่องของบริษัท”
“ยังไม่ยอมพูดอีกนะ”
นรมนรู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที รู้สึกเสียความรู้สึกมาก เมื่อสักครู่ทั้งสองคนรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะเรื่องนี้จึงห่างเหินออกมาและไม่คุ้นเคยกันอีกครั้ง
“ฉันยังต้องปรับเสียงดนตรี คุณอยากจะค้างที่นี่ก็ค้างไปนะ”
นรมนดึงผมยาวของตนเองกลับมา สวมชุดนอนยาวเดินไปห้องอ่านหนังสือ
เธอไม่ได้ไล่บุริศร์
ในจุดนี้ บุริศร์ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจ
นรมนมาถึงห้องอ่านหนังสือ ในสมองกลับว่างเปล่า
เธอทบทวนเรื่องที่เธอสงสัยว่าบุริศร์มีชู้ตั้งแต่ต้นจนจบ เบาะแสเพียงเล็กน้อยก็ไม่มี จากนั้นเธอนึกถึงราเชนอีกครั้ง
ดาราแถวหน้าคนนี้ ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงสนใจตนเอง?
และบุริศร์กับราเชนรู้จักกันหรือเปล่า?
และการวางตัวของราเชน เขาถูกคนต่อยอย่างไม่มีสาเหตุ ทำไมถึงไม่พูดอะไรสักคำ?
นอกจากเขารู้ว่าคนที่ต่อยเขาเป็นใคร ก็รู้จักบุริศร์คนนี้
แต่ด้วยตัวตนภูมิหลังของบุริศร์ ถ้าราเชนเป็นคนธรรมดา ไม่ซักถาม เงียบเป็นใบ้แบบนี้ปกติเหรอ?
สมองของนรมนทำงานอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็หาเหตุผลที่สมเหตุสมผลไม่เจอ
ถ้าจะพูดว่าราเชนหลงรักเธอ นรมนรู้สึกว่าตนเองไม่ได้หลงตัวเองขนาดนั้น มันค่อนข้างไม่มีความเป็นไปได้ ในเมื่อราเชนหน้าตาหล่อเหลาขนาดนั้น จะไม่มีสเปคของผู้หญิงที่ต้องเลยเหรอ?ทำไมจะต้องมาชอบผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว?
นรมนรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ชัดเจน
บางทีราเชนกับผู้หญิงก่อนหน้านี้อาจจะรู้จักกัน?
คิดถึงตรงนี้ นรมนตื่นตัวขึ้นทันที
ถ้าการคาดเดานี้เป็นความจริง งั้นราเชนกับผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
เขาเข้าหาเธอเพื่อจัดการบุริศร์?
หรือเพียงต้องการล้างแค้นให้ผู้หญิงคนนั้น?
คิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันแน่น
เธอหยิบมือถือ ส่งข้อความคมทิพย์
“นอนหรือยัง?”
“ยังไม่นอน ทำไมบุริศร์กลับไปแล้วเหรอ?”
คมทิพย์ส่งอีโมจิหน้าตาทะเล้นมา
นรมนใบหน้าร้อนผ่าว
คมทิพย์คนนี้ ฉลาดจริง ๆ
“เปล่า เดาว่าคืนนี้เขาคงจะค้างที่นี่”
“แย่เลยฉัน ยังต้องเร่ร่อนอยู่ข้างนอกต่อ”
คำพูดของคมทิพย์ทำให้นรมนอยากจะหัวเราะ
“พูดไร้สาระ ฉันมีเรื่องจะถามเธอหน่อย”
“ว่ามา”
นรมนนิ่งไปชั่วคราว จากนั้นจึงพิมพ์ว่า“ยังจำผู้หญิงคนนั้นที่เป็นชู้กับบุริศร์ได้ไหม?หล่อนตายแล้ว ฉันอยากจะถามเธอว่า พอรู้จักคนที่จะช่วยสืบตัวตนกับข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นให้ฉันไหม”
คมทิพย์ขมวดคิ้วเบา ๆ
“นภดลไม่ได้เป็นลูกน้องของเธอเหรอ?”
“ฉันไม่อยากใช้คนของฉัน”
ประโยคนี้ของนรมนทำให้คมทิพย์เข้าใจทันที
เธอกลัวอยากให้บุริศร์ตกใจ
“ในใจยังข้ามผ่านเรื่องนั้นไปไม่ได้ใช่ไหม?”
“อืม ฉันมักจะรู้สึกว่าในนั้นมีเรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้ อีกอย่างราเชนคนที่ประสบความสำเร็จขนาดนั้นคิดไม่ถึงว่าจะยอมลดเกียรติมาหาฉัน เธอไม่รู้สึกว่ามันแปลกเหรอ?”
“เธอสงสัยว่าราเชนมีความเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้น?”
คมทิพย์รับรู้ถึงความหมายในคำพูดของนรมนอย่างว่องไว
นรมนพยักหน้ากล่าวว่า“ใช่ ฉันเดาว่าแบบนี้ ส่วนผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ยังคงต้องสืบดู เรื่องนี้ฉันไม่ต้องการให้บุริศร์รู้”
คมทิพย์เข้าใจโดยปริยาย
“เธอคิดว่าบุริศร์มีเรื่องปิดบังเธอเหรอ?”
“ใช่”
“ในเมื่อเขาคิดปิดบังเธอ เดาว่าพวกเราคงสืบอะไรออกมาไม่ได้ ไม่สู้เธอถามเขาไปตรง ๆ น่าจะเร็วกว่า”
นรมนหน้างอทันที
“ฉันเคยถามแล้ว แต่เขาเอาแต่ไม่พูด”
คมทิพย์กลุ้มใจ
บุริศร์คนแบบนั้น ถ้าแม้แต่นรมนก็ไม่ยอมเปิดปาก เดาว่าคงเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่ง บางทีอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับนรมน ถ้าเป็นเช่นนี้ตนเองช่วยนรมนสืบหาความจริงจะดีเหรอ?
ในขณะนี้คมทิพย์รู้สึกสองจิตสองใจ
“อะไรกันเนี่ย? แม้แต่เธอก็เริ่มจะไม่ช่วยฉันเหรอ?”
นรมนผ่านหน้าจอมือถือ สังเกตเห็นความคิดของคมทิพย์
“เปล่านะ ฉันแค่คิดว่า ถ้าบุริศร์ไม่ต้องการให้เธอรู้ บางทีอาจจะเพื่อตัวเธอ เธอต้องการสืบหาความจริงออกมา บางทีอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ตนเองสามารถรับได้นะ”
“ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร ฉันมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ “
คมทิพย์เข้าใจคำพูดของนรมนทันที
“เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะให้เพื่อนช่วยสืบเรื่องนี้ให้”
“ขอบคุณนะ”
หลังจากวางสาย นรมนมองห้องของบุริศร์ นัยน์เปล่งประกายไปด้วยความซับซ้อน
วันต่อมานรมนนำพิณโบราณมาที่อาคารฟอร์จูน
เธอให้คนนำพิณโบราณที่สายสตริงขาดทิ้งไป จากนั้นนำพิณโบราณราคาหนึ่งแสนที่ตนเองซื้อมาวางไว้
ทั้งทีมต่างเงียบเป็นเป่าสาก
ทุกคนต่างอยู่ในแวววงดนตรี จึงรู้ว่าพิณโบราณในมือของนรมนราคาไม่ใช่น้อย ๆ
สำหรับการกระทำที่แสดงถึงความร่ำรวยเช่นนี้ของนรมน แต่ละคนต่างแปลกใจ
นรมนนั่งลงไปทันที หยิบโน๊ตเพลงขึ้นมาลองเล่นดู รู้สึกว่าท่องทำนองเสียงเสนาะหูอย่างยิ่ง
เธอบรรเลงหนึ่งรอบอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจสายตาของผู้คนโดยรอบ
สีหน้าของบางคนในนั้นเริ่มเปลี่ยนไป
หลังจากริชาร์ดมาถึง ก็มองเห็นพิณโบราณในมือของนรมนทันที
“ประธานนรมน นี่คือ……”
“อ่อ โปรดิวเซอร์คะ ฉันคิดว่าท่วงทำนองเสียงการบรรเลงพิณโบราณสามารถดีได้กว่านี้อีก หลังจากออกอัลบัมนี้ไปแล้ว พิณโบราณชิ้นนี้ถือว่าฉันสนับสนุนทีมของพวกเราแล้วกันนะคะ ”
ริชาร์ดตะลึงไปกับคำพูดนี้ของนรมนทันที
พิณโบราณตัวนี้มูลค่าเท่าไหร่ เขาแค่มองแวบเดียวก็รู้แล้ว ตอนนี้นรมนพูดว่าต้องการสนับสนุนทีม เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ประธานนรมนพูดจริงเหรอ?”
“แน่นอนค่ะ เพื่อเป็นการขอบคุณที่โปรดิวเซอร์ริชาร์ดคอยปลูกฝังและดูแลคมทิพย์”
นรมนกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
“ไม่หรอก ๆ คมทิพย์มีความสามารถ ผมก็แค่เห็นคุณค่าของคนมีความสามารถ”
ริชาร์ดดีใจมาก
คนอื่นเห็นริชาร์ดพูดแบบนี้ แน่นอนว่าไม่กล้าพูดอะไร
ความวุ่นวายครั้งนี้ผ่านไป เพียงแต่เมื่อนรมนเข้าห้องน้ำก็ได้ยินคนในกลุ่มสองคนกำลังซุบซิบกัน
“เห็นไหม?นรมนคนนั้นเอาความรวยมาข่ม เอาพิณโบราณตัวละเป็นแสนเข้ามาในทีม อิจฉาใครนะ?นี่ไม่ได้เป็นการควักเงินมาตบหน้าพวกเราหรือไง?”
“แถมยังพูดอะไรอีก ประจบประแจงโปรดิวเซอร์ริชาร์ดบอกว่ามอบเป็นของขวัญ ใครจะรู้ว่าหลังจากนี้อันนาจะได้กลับมาหรือเปล่า?พูดไปอย่างงั้นแหละ ก็แค่สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองแค่นั้น”
นรมนไม่เก็บเอามาใส่ใจ
ในที่ทำงานก็เป็นแบบนี้ เธอคือเด็กใหม่ ไม่ว่าอย่างไรก็จะมีคนพูดถึงเธอ ตราบใดที่คนเหล่านี้ไม่รังแกเธอต่อหน้า เธอก็จะปิดตาข้างหนึ่งปล่อยผ่านไป
เมื่อคิดเช่นนี้ นรมนเปิดผนังกั้นห้องน้ำออก และเดินออกมาล้างมืออย่างไม่รู้ไม่ชี้ กลับทำให้สองคนนั้นที่เพิ่งจะพูดตกใจ
เมื่อเห็นว่าเป็นนรมน ทั้งสองคนมีสีหน้าประหลาด
นรมนล้างมือเสร็จ เดินผ่านพวกเธอไป เหมือนกับพวกเธอไม่มีตัวตน
ทั้งสองคนโมโหจนจมูกเบี้ยวทันที
“ทำเป็นหยิ่งเหรอ? ก็แค่มีเงินสกปรกไม่เท่าไหร่ไม่ใช่หรือไง?”
“ใช่ ฉันแค่มีเงินสกปรกไม่เท่าไหร่ ถ้าพวกคุณมีละก็ฉันไม่ถือสาถ้าพวกคุณจะเอาเงินมาสู้กับฉัน!”
เมื่อนรมนเดินมาถึงประตูก็หยุดลงเล็กน้อย จากนั้นหันไปยิ้มหวาน คำที่พูดออกมาทำเอาสองคนโกรธจนแทบจะหายใจไม่ออก
หลังจากพูดประโยคนี้จบ นรมนก็เดินจากไป
เธอสามารถเล่นพิณโบราณที่นี่ได้ พูดตรง ๆ คือเพื่อคมทิพย์ ส่วนคนอื่น เธอไม่เห็นอยู่ในสายตาจริง ๆ ถ้าพวกเขาทำเกินขอบเขต นรมนจะไม่รังเกียจที่จะสั่งสอนพวกเขาให้เป็นบทเรียน
หลังจากกลับมาในทีมงานฝ่ายผลิต คมทิพย์รีบดึงเธอและถามว่า“ ทำไมไปนานจัง? มีคนรังแกเธอหรือเปล่า?”
“เธอคิดว่าฉันเป็นคนที่ถูกคนรังแกเหรอ?”
เสียงย้อนถามของนรมนไม่ดังและไม่เบา ทำให้บรรยากาศโดยรอบหยุดชะงักทันที
ในขณะนี้เอง มีคนเคาะประตูจากด้านนอก จากนั้นมีคนสามสี่คนเข้ามาจากด้านนอก ยกกล่องเข้ามา
“สวัสดีครับทุกคน ประธานนรมนของพวกเรานำผลไม้สดมาให้ทุกคนรับประทาน เพิ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศทางอากาศ”
นรมนชะงักงันเล็กน้อย
ประธานนรมน?
คือเธอหรือเปล่า?
เธอจะเลี้ยงผลไม้สดให้ทีมงานฝ่ายผลิตตั้งแต่เมื่อไหร่?
และผลไม้เหล่านี้แค่มองก็รู้ว่ามูลค่าไม่ใช่น้อย
คนอื่นในทีมงานฝ่ายผลิตก็แปลกใจเช่นกัน
นรมนเห็นทุกคนจ้องมองตนเอง ในตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ในขณะที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร คนยกผลไม้ก็ก้าวมาข้างหน้า พูดอย่างอ่อนน้อมกับนรมน“ประธานนรมน พวกเราส่งผลไม้เรียบร้อยแล้ว ขอตัวไปก่อนนะครับ”
พูดจบก็หันตัวเดินจากไป
ทำเอานรมนสับสนไปหมดในชั่วพริบตา