แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1234 นี่ไม่ใช่ลักษณะท่าทางของเขา
บุริศร์กับนรมนยังเที่ยวมีความสุขบนภูเขา ทันใดนั้นก็ได้รับข่าววินเซนต์ถูกแทงสาหัส บุริศร์ตะลึงพรึงเพริด
“วินเซนต์ถูกแทง แน่ใจนะ”
ไม่แปลกที่เขาจะประหลาดใจ หลายปีมานี้วินเซนต์อำนาจแข็งแกร่ง อาจจะได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ถูกแทงบาดเจ็บนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เขาแข็งแกร่งมาก บางคนอยากจะเข้าใกล้ตัวเขายังทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงถูกแทง
ในหัวเขานึกถึงทรรศยาตัวปลอมนั่นทันที
สายตาบุริศร์เย็นชาทันที
“ขังคนไว้ก่อน ยังไม่มีคำสั่งของวินเซนต์ห้ามลงโทษเธอ ห้ามแตะเธอ”
คำสั่งของบุริศร์ทำให้ลูกน้องแปลกใจ
“ลูกพี่ เธอทำร้ายพี่วินเซนต์ ตอนนี้พี่วินเซนต์ไม่รู้เป็นหรือตาย และยังฆ่าพี่น้องของเราทมโภลี ปล่อยเธออย่างนี้ไม่ง่ายไปหน่อยหรือ”
“ฉันไม่ได้บอกว่าจะปล่อย แค่รอให้วินเซนต์ฟื้นขึ้นมาจัดการเรื่องนี้เท่านั้น”
บุริศร์นึกไม่ถึงแค่ไม่กี่วันจะเกิดเรื่องมากมายอย่างนี้ อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
นรมนเห็นบุริศร์ขมวดคิ้ว สายตาฉายแววโหดเหี้ยม เธอรีบกุมมือเขาแน่น “เรารีบกลับกันดีมั้ยคะ”
“แต่ผมรับปากแล้วจะถ่ายรูปกับคุณ”
บุริศร์โมโห
นรมนกลับยิ้ม “ถ่ายรูปไม่มีกำหนดเวลา ช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรนี่คะ อีกอย่างวินเซนต์เป็นพี่น้องของคุณ ตอนนี้ไม่รู้เป็นตาย คุณไม่มีกะจิตกะใจจะถ่ายรูปกับฉันแล้ว สองสามวันนี้ฉันสนุกมาก เด็กๆ ก็เหมือนกัน คุณไม่ต้องโทษตัวเอง พวกเราเดิมทีก็มีเรื่องมากมายที่ยังสะสางไม่เสร็จไม่ใช่หรือคะ หลายปีมานี้ วินเซนต์ทำเพื่อคุณมาไม่น้อย ตอนนี้เขาคงต้องการให้คุณช่วย”
เมื่อได้ยินภรรยาพูดอย่างนี้ บุริศร์ก็พยักหน้า พูดขอโทษ “นรมน ถ้าให้คุณเลือกได้ใหม่ ถ้าคุณรู้แต่งงานกับผมแล้วจะลำบากอย่างนี้ คุณจะยังรักผมมั้ย จะแต่งงานกับผมมั้ย”
จากคำพูดของบุริศร์ นรมนได้ยินความไม่สงบและไม่สบายใจ
บุริศร์คือใครกัน
คนที่ยืนอยู่จุดสูงสุดตลอด คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ตอนนี้เพื่อความรักกลับพะว้าพะวังกลัวจะสูญเสียทุกอย่าง
นี่ไม่ใช่บุริศร์
เขาควรจะมั่นใจในตัวเอง
แต่นี่ก็คือบุริศร์ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นนรมนทุกข์ใจได้อีก
นี่คือความขัดแย้ง ปล่อยมือไม่ลง ทว่าเก็บไว้ก็มีแต่เจ็บปวดใจ
นรมนจับมือเขาแน่น “ในโลกนี้มีถ้าหากเยอะแยะขนาดนี้ที่ไหนกันคะ รักแล้วก็คือรัก คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ขอแค่คุณจำไว้ ความรู้สึกที่ฉันมีให้คุณไม่เคยเปลี่ยน ต่อไปไม่ว่าต้องเดินไปทางไหน เราจะเดินไปด้วยกัน ไม่ต้องเสียใจเพราะฉัน มีความรักของคุณฉันถึงจะเดินไปได้ไกลขึ้น”
บุริศร์กอดนรมนแน่น ถ้อยคำมากมายกลับจุกที่ลำคอพูดไม่ออกสักคำเดียว
สวรรค์ไม่ได้ให้ครอบครัวที่สมบูรณ์แก่เขา ไม่มีญาติที่รักเขา แต่มอบภรรยาที่จิตใจดีและงดงามอย่างนี้ ฉะนั้นสวรรค์ไม่ได้ใจร้ายกับเขามากเกินไปนักใช่ไหม
อารมณ์พลุ่งพล่านในตัวก็สงบลงช้าๆ ท่าทางดุดันที่ต้องการกำจัดทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลองก็นิ่งสงบลงช้าๆ
“พวกเรากลับกัน”
“ดีค่ะ”
พวกเขาเก็บของง่ายๆ ปล่อยให้เด็กๆ อยู่บนภูเขา แล้วสั่งให้คนคุ้มครองพวกเขา ขณะที่นรมนกับบุริศร์ลงเขาไป
กลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง นรมนยังปรับตัวกับไอเสียรถยนต์และมลพิษทางอากาศไม่ค่อยได้ แต่ไม่นานเท่าไหร่ก็คุ้นชิน
คนเรามักเป็นอย่างนี้ เปลี่ยนตัวเองไปตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ปรับตัวเข้ากับสังคมนี้
ตอนที่บุริศร์พานรมนกลับไปถึงสหภาพQT ทั้งห้องโถงใหญ่ก็มีแรงกดดัน
ใบหน้าทุกคนมีความโกรธแค้นและต้องการฆ่าคน อยากจะหั่นศพเกวลินใจจะขาด
“เกวลินล่ะอยู่ที่ไหน”
นรมนมองรอบๆ แต่ไม่เห็นเงาของเกวลิน
ดูจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เกวลินทำ ตอนนี้ถ้าถูกขังคุก เกรงว่าคงจะรอดยาก
พฤธามองนรมนแวบหนึ่ง เดินออกมาจากกลุ่ม พูดอย่างโมโห “พี่สะใภ้ อยากจะขอร้องแทนผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย คุณคิดว่าผู้หญิงคนนั้นยังสมควรได้รับการอภัยอีกหรือครับ”
เขาเพิ่งพูดจบ บุริศร์ก็เตะเขาลงไปกองกับพื้น
คนรอบข้างต่างตะลึงงัน
รังสีอำมหิตของบุริศร์แผ่ออกมาทันที
“ระวังน้ำเสียงของนายด้วย! นี่คือพี่สะใภ้ของพวกนาย! ไม่ใช่ฆาตกรแทงวินเซนต์ ว่ายังไง หลายปีมานี้ฉันไม่อยู่ที่สหภาพ ก็เลยไม่เห็นหัวฉันหรือ ฉันรู้พวกนายเป็นห่วงวินเซนต์ แต่ทำอย่างนี้กับพี่สะใภ้ได้ยังไง พวกนายอยากจะแข็งข้อหรือไง”
สายตาของบุริศร์จ้องมองพฤธาเขม็ง ราวกับถ้าเขาพูดไม่เข้าหูคำเดียว บุริศร์ก็จะปล่อยให้เขาเลือดนองพื้น
พลังอำนาจของเขาสูงกว่าวินเซนต์ กระทั่งเลือดเย็นยิ่งกว่าวินเซนต์
พฤธาติดตามวินเซนต์ตลอด เคยแต่ได้ยินในสหภาพมีลูกพี่ใหญ่ แต่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน
เขาเห็นวินเซนต์ดูแลทั้งสหภาพQTคนเดียว เห็นแต่วินเซนต์ขยายองค์กรจนตัวเองบาดเจ็บหนัก แต่ลูกพี่ใหญ่คนนี้อยู่ที่ไหนกัน
พูดตามจริง ก่อนหน้านี้พฤธาดูถูกบุริศร์ รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ก็แค่คนรวยไม่ทำอะไร เพราะเป็นพี่น้องกับวินเซนต์ ถึงได้นั่งในตำแหน่งสูงสุด
ตอนนี้พลังอำนาจของบุริศร์ทำให้เขาหายใจไม่ได้ ถึงกับแขนขาแข็งทื่อ ความเย็นชาและไร้ความรู้สึกที่มาจากกระดูกทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวเหน็บและสะพรึง
วินเซนต์โหดเหี้ยมกับศัตรู แต่กับพี่น้องของตัวเองเขาไม่เห็นแก่ตัว ถึงกับดูแลพี่น้องไม่ขาดตกบกพร่องโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง แต่วันนี้พวกเขาเห็นความไร้ความรู้สึกและสังหารในสายตาของบุริศร์
เขาเหมือนไร้ความรู้สึก เพียงแค่กล้าต่อต้านเขา เขาจะฆ่าทิ้งได้โดยไม่สงสารสักนิด
ในสายตาของเขามองไม่เห็นความรักพี่น้อง มีแต่ความเย็นชา
คำพูดที่ริมฝีปากพฤธาถูกกลืนลงไปทันที
เป็นครั้งแรกที่เขาไม่กล้า ไม่กล้าพูดจาไม่เข้าหูบุริศร์
“ลูกพี่ ผมผิดไปแล้ว”
พฤธารีบก้มหน้า เหงื่อผุดซึมที่หน้าผาก
นรมนก็สังเกตเห็นความผิดปกติของบุริศร์เช่นกัน
นี่ไม่ใช่บุริศร์!
หรือเป็นเพราะผลของพิษทองคำ
นรมนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ได้ยินบุริศร์พูดเสียงเย็นก่อน “ฉันขอเตือนพวกนาย มีอะไรก็พูดกับฉันตรงๆ ใครกล้าไม่เคารพเมียฉัน อย่าคิดว่าฉันไม่ไว้หน้าวินเซนต์ ฉันรู้ว่าพวกนายเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายที่ผ่านศึกมากมายมากับวินเซนต์ ฉันไม่อยากเห็นถึงตอนนั้นพวกนายทำให้ฉันแตกหักกับวินเซนต์ ได้ยินแล้วยัง”
“ครับ”
ทุกคนรอบตัวต่างตอบทันที
“พฤธา พาพี่สะใภ้ไปหาเกวลิน”
บุริศร์รู้ว่านรมนคิดอะไร จึงสั่งขึ้นทันที
ครั้งนี้พฤธาไม่มีท่าทางไม่เกรงใจนรมนอีก
“พี่สะใภ้ เชิญทางนี้”
นรมนมองบุริศร์กังวล อยากจะพูดอะไรบางอย่างก็ได้ยินบุริศร์พูดขึ้น “วางใจเถอะ เดี๋ยวผมจะไปดูวินเซนต์หน่อย ผมให้คนโทรไปหาป้องแล้ว เขารีบมาที่นี่แล้ว มีป้องอยู่ ต่อให้ยมทูตอยากจะได้ชีวิตของวินเซนต์ พวกเราก็เจรจาได้”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ นรมนก็วางใจ ขณะที่พี่น้องรอบตัวก็โล่งใจ เมื่อมองบุริศร์อีกครั้งสายตาก็มีความเคารพ
วินเซนต์เป็นหัวหน้าพวกเขา เดิมทีพวกเขาไม่คิดยอมรับบุริศร์ แต่ครั้งนี้ พวกเขาได้ยินว่าบุริศร์เรียกป้องมา ทุกคนต่างรู้สึกซาบซึ้งใจ
ขอแค่พาวินเซนต์กลับมาจากเส้นแบ่งความเป็นความตายได้ พวกเขาจะยอมรับเขาเป็นพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ตลอดชีวิต
บุริศร์ก็รู้ว่าคนพวกนี้ที่จริงแล้วไม่ยอมรับตัวเอง ในเมื่อหลายปีมานี้วินเซนต์เป็นผู้นำพวกเขา ส่วนเขาไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่ออกเงินอยู่เบื้องหลังเท่านั้น
ความรู้สึกของตัวเขากับวินเซนต์ไม่มีอะไรที่ต้องตำหนิ แต่พี่น้องพวกนี้ไม่ใช่ใจเดียวกับเขา
บุริศร์รู้ดี แต่ก็รู้สึกไม่สนใจ ต่อให้ยกทั้งสหภาพQTให้วินเซนต์เขาก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อครู่นี้ เขาพบว่าสายตาของคนพวกนี้เปลี่ยนไป
เขาทอดถอนใจนิดๆ
เก้าปีมานี้ ในที่สุดวินเซนต์ก็ได้รับความรักแล้ว
กับวินเซนต์แล้ว นี่นับเป็นผลดี
นรมนเห็นบุริศร์ยังมีอะไรจะพูดกับพวกเขา จึงไม่รบกวน เดินตามพฤธาไปยังห้องด้านใน
“เกวลินตอนนี้สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง”
นรมนไม่รู้เกวลินคิดอย่างไรกันแน่ ระหว่างทางกลับมาเธอได้ยินบุริศร์เล่า เกวลินคนนี้หน้าตาเหมือนทรรศยามาก ตอนนี้แทงวินเซนต์บาดเจ็บ ไม่รู้ว่ารู้สึกผิดมากแค่ไหน
ทำตัวเองเข้าทางตันที่มีแต่ความตายรออยู่เท่านั้น
ถ้าหากแค่ทำให้ทมโภลีตาย วินเซนต์บางทีอาจจะพอมีวิธีช่วยชีวิตเธอไปได้ แต่ตอนนี้แม้แต่วินเซนต์ยังบาดเจ็บ สถานการณ์นี้มีแต่ตายสถานเดียว
แต่จะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไรก็ต้องใช้สมองหน่อย
พฤธารีบรายงาน “นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมกินอะไร สายตาว่างเปล่าไม่รู้คิดอะไรอยู่ แต่ผู้หญิงแบบนี้ควรจะฆ่าทิ้งสถานเดียว หั่นศพเป็นชิ้นๆ ยังไม่สาสม”
นรมนมองพฤธาแวบหนึ่ง ถามขึ้น “นายมีคนรักมั้ย”
“เอ่อ ครับ!”
พฤธาไม่รู้ทำไมนรมนจึงถามอย่างนี้ แต่ก็ตอบตามตรง
นรมนถามอีก “นายรักเธอมั้ย”
“แน่นอนสิครับ คนอย่างพวกเราจะได้เจอผู้หญิงสักคนที่ยอมอยู่กับเราไปจนแก่เฒ่าไม่ง่ายเลย ถ้าผมไม่ดูแลเธอให้ดี ไม่ยกทั้งหัวใจให้ อย่างนั้นก็แย่มากแล้ว”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของพฤธาก็เผยความรู้สึกเป็นสุขออกมา
นรมนพูดเสียงเบา “นายรู้มั้ย พี่วินเซนต์ของนายเคยอยู่ใกล้กับความสุขแค่เอื้อม”
“อะไรนะ”
พฤธาตะลึง
เก้าปีมานี้ ทุกคนต่างไขว่คว้าความสุข แสวงหาคู่ชีวิต มีเพียงวินเซนต์ที่ไม่เคยสนใจผู้หญิง ในตอนแรกพวกเขายังล้อเล่นกับวินเซนต์ แต่ทุกครั้งวินเซนต์จะโมโห พวกเขาถึงกับไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้อีก แต่เขาไม่รู้ชัดเป็นเพราะใครกันแน่
คำพูดของนรมนในตอนนี้ทำให้เขาเสียใจอย่างไม่รู้ตัว
“พี่วินเซนต์เคยมีคนรักหรือครับ”
“ใช่แล้ว รักกันมาก แต่ผู้หญิงคนนั้นตายแล้ว ศพเป็นชิ้นๆ น่ากลัวมาก เขาล้างแค้นให้คนรักจนทำผิดวินัย ตอนนี้แม้แต่สิทธิ์จะไปไหว้ผู้หญิงที่ตัวเองรักที่สุดยังทำไม่ได้ นายรู้มั้ยในใจเขารู้สึกอย่างไร
คำบอกเล่าของนรมนทำให้พฤธาดวงตาแดงขึ้นมา
“พี่สะใภ้ อยากจะบอกอะไรผมหรือครับ”
พฤธาไม่ใช่คนโง่ ย่อมรู้ว่านรมนคงไม่เล่าเรื่องในอดีตของวินเซนต์โดยไม่มีสาเหตุ เขาจึงถามขึ้น