แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1236 เขาทำเพื่อคุณ
“พิรุณ!”
ตอนที่นรมนพูดชื่อนี้ บุริศร์ก็ตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
การแสดงออกของเขาไม่ชัดเจนยากจะเข้าใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก เดินออกไปจากห้องทันที
เป็นครั้งแรกที่นรมนเห็นบุริศร์เป็นอย่างนี้ แต่เมื่อคิดดูดีๆ ก็เข้าใจแล้ว
พิรุณคนนี้แม้จะบอกว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเขา แต่พิรุณเคยอยู่กับป้าโอ และดูเหมือนพวกเขาสองคนจะมีลูกด้วย บุณพจน์นั่นอาจจะเป็นลูกชายของพิรุณก็ได้
ถ้าหากใช่จริงๆ ล่ะก็ เช่นนั้นพิรุณก็เป็นพี่ชายคนละพ่อของบุริศร์
เรื่องนี้เป็นใครก็คงไม่อยากเผชิญหน้า โดยเฉพาะบุริศร์อย่างนี้ ยิ่งไม่อยากเผชิญหน้าแม้จะเป็นความจริง
นรมนก็ไม่เข้าไปรบกวนบุริศร์ เลือกที่จะตรงไปโรงพยาบาล
แม้ว่าบุริศร์จะไปมาแล้ว แต่เธออยากจะไปดูหน่อยวินเซนต์บาดเจ็บแค่ไหน
หลังจากไปถึง ป้องเห็นนรมนก็ตะลึง
“ใครแต่งหน้าให้คุณ ไม่ดูดีๆ ผมคงไม่กล้าทัก”
คำพูดของป้องทำให้นรมนยิ้มชอบใจ
“อึม ฉันก็รู้สึก ทุกวันส่องกระจกรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง”
“คนในสหภาพQTเป็นคนแต่งให้เหรอ”
“ค่ะ”
นรมนไม่ปิดบัง
“วินเซนต์เป็นยังไงบ้างคะ”
นรมนเข้าสู่คำถามทันที
แววตาของป้องซับซ้อน ตอนที่มองนรมนหยุดนิดหนึ่ง แล้วพูดขึ้น “คุณรู้นานแล้วใช่มั้ยวินเซนต์กับพี่รองอยู่ด้วยกัน”
“ใช่แล้ว บุริศร์ไม่บอกคุณกับพี่ใหญ่ เขาไม่อยากให้พวกคุณลำบากใจเพราะเรื่องนี้ ไม่มีเจตนาอย่างอื่น”
นรมนเข้าใจความรู้สึกระหว่างพวกเขา
ตั้งแต่ตอนนั้นที่วินเซนต์จากไปก็ไร้ข่าวคราว ทุกคนต่างสืบหาข่าวของวินเซนต์ พวกเขาถึงกับเข้าใจว่าวินเซนต์ตายที่ต่างประเทศไปแล้ว แต่ตอนนี้จู่ๆ ก็รู้ว่าวินเซนต์ได้รับการดูแลจากบุริศร์ หลายปีมานี้ใช้ชีวิตแถบชายแดน
พูดตามตรง ป้องรู้สึกรับไม่ค่อยได้
“เขาไม่ควรใช้ชีวิตแบบนี้”
“ชีวิตคนเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต้องดูว่าตัวเองเลือกอย่างไร แม้ว่าตอนนั้นวินเซนต์จะเลือกเส้นทางนี้ ถ้าพวกคุณเป็นพี่น้องจริงๆ ก็ไม่ควรขวาง ตอนนั้นบุริศร์ก็คิดอย่างนี้ เทียบกับให้เขามีชีวิตเหมือนตาย สู้ให้เขาใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการจะดีกว่าไม่ใช่หรือคะ”
คำพูดของนรมนทำให้ป้องตะลึงอีกครั้ง
ทันใดนั้นเขารู้สึกว่ามุมมองของเขาแคบกว่านรมนทีเดียว
จริงด้วยสิ
วินเซนต์คือพี่น้องของพวกเขา แม้ว่าจุดยืนจะต่างกัน ขอแค่ไม่ใช่ผลประโยชน์ขัดกัน พวกเขายังคงเป็นพี่น้อง
แต่ป้องก็นับถือบุริศร์
เขารู้ดีทางที่วินเซนต์เลือกเป็นอย่างไรแต่ก็ไม่ห้าม เห็นได้ว่าตอนนั้นหลังจากเขารับภารกิจออกไปจากเขตทหารก็เกิดความเปลี่ยนแปลงทางจิตใจแล้ว
ดังนั้นบุริศร์กลับไปเขตทหารไม่ได้แล้วจริงๆ
ไม่ว่าเรื่องตอนนี้จะแก้ไขได้อย่างสวยงามหรือไม่ เขาก็กลับไปไม่ได้แล้ว
ป้องรู้สึกเสียดายไม่มากก็น้อย
“พี่รองตัดสินใจออกมาแล้วใช่มั้ยครับ”
ในตอนแรกนรมนไม่เข้าใจความหมายของคำถามนี้ แต่เมื่อครุ่นคิดก็เข้าใจ
“ฉันเคารพการตัดสินใจของบุริศร์ค่ะ ในเมื่อเขาไม่อยากอยู่ในเขตทหารแล้ว อย่างน้อยพวกคุณก็ไม่ต้องหนักใจแล้ว”
“เขาทำเพื่อคุณ”
ป้องมองนรมนลึกซึ้งขณะพูด
นรมนกลับส่ายหน้า “บางทีฉันก็เป็นสาเหตุหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดแน่ ป้อง ตอนแรกคุณถอดชุดทหารเพื่อโพนี่รู้สึกเสียใจบ้างมั้ย หรือว่าตอนนี้คุณเสียใจบ้างมั้ย”
“แน่นอนว่าไม่”
ป้องตอบแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองสองมาตรฐาน
ใช่แล้ว
กับตัวเอง อะไรก็ได้ แต่เมื่อเป็นบุริศร์ทำไมถึงรู้สึกว่านรมนทำร้ายบุริศร์ล่ะ
เมื่อไหร่กันที่เขาก็มีนิสัยเสียแบบผู้ชายหลายคน
“พี่สะใภ้รอง ขอโทษครับ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก เรื่องนี้ไม่โทษพวกนาย พูดเรื่องสำคัญเถอะ ตกลงวินเซนต์เป็นยังไง”
ป้องถอนหายใจ “น่าห่วงทีเดียว แผลไม่ลึกก็จริง แต่เลือดออกมาก และตัวเขาเองก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่มากนัก คุณก็รู้ในทางการแพทย์ ถ้าหากคนไข้เองไม่อยากมีชีวิตอยู่ พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ ส่วนจะฟื้นเมื่อไหร่พวกเราไม่รู้จริงๆ”
คำตอบนี้นรมนคิดไว้แล้ว
“หลายปีมานี้ไม่มีทรรศยา เขาก็ใช้ชีวิตเหมือนศพเดินได้อยู่แล้ว ติดที่คำสัญญากับบุริศร์ถึงได้ไม่ล้มลงไป ตอนนี้ผู้หญิงที่เหมือน ทรรศยาอย่างเหลือเชื่อทำร้ายเขา ในใจเขาบางทีรู้สึกว่านี่คือการลงโทษของทรรศยา ลงโทษเขาที่ตอนนั้นไปช่วยเธอไม่ทัน ดังนั้นวินเซนต์เอง ตอนที่เกวลินแทงเขา ตอนที่เลือดไหลออกมา บางทีเขาอาจจะหลุดพ้นแล้ว ความรู้สึกผิดและโทษตัวเองต่อทรรศยามลายหายไปเมื่อถูกแทงครั้งนี้ แต่ก็ทำให้เขาสูญเสียความกล้าหาญและความเชื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป”
ป้องพยักหน้าเมื่อได้ฟังนรมนพูด
“ก็จริง นี่ถึงเป็นปัญหามากที่สุด ถ้าบอกว่าตอนนี้เขายังมีคนที่แคร์ บางทีอาจจะเรียกให้เขาตื่นได้ แต่ตอนนี้เขาจิตใจแน่วแน่ และยังสูญเสียกำลังใจ ผมหวั่นใจจริงๆ เขาจะนอนอย่างนี้ไม่ยอมตื่น กลายเป็นเจ้าชายนิทรา”
นี่คือเรื่องที่ป้องไม่อยากเห็นมากที่สุด
คนที่เคยมีอำนาจตอนนี้ต้องมานอนในสภาพร่อแร่ อาศัยน้ำตาลกลูโคสประคองชีวิต ช่างเป็นการดูถูกอย่างหนึ่ง แต่ก็ทำให้พวกเขาทำอะไรไม่ได้
นรมนก็รู้สึกเสียใจ
เธอรู้จักวินเซนต์ไม่นาน แต่เธอรู้ว่าวินเซนต์เป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของบุริศร์ ตอนนี้เขากลายเป็นอย่างนี้ บุริศร์ก็คงจะเสียใจเหมือนกัน
“ตอนนี้ไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่มั้ยคะ”
“ไม่ครับ แค่ไม่อยากมีชีวิตก็เท่านั้น”
เรื่องนี้ป้องกังวลจริงๆ
ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะมีชีวิตเพื่อทรรศยาเท่านั้น เพื่อไถ่โทษ
แม้ว่าในตอนที่ทรรศยาเกิดเรื่องไม่มีใครโกรธแค้นเขา แต่เขาไม่อาจให้อภัยตัวเองได้
เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนรักของทรรศยา ตอนที่ทรรศยาต้องการเขามากที่สุดแต่เขากลับไม่อยู่ข้างเธอ และยังให้เธอตายอย่างน่าเวทนา นี่คือความเสียใจของเขา
มีชีวิตเพื่อแก้แค้นและเพื่อไถ่โทษ
แต่ตอนนี้ ตอนที่เกวลินที่เสมือนทรรศยาใช้มีดแทงเข้าไปที่อกของเขา เส้นทางการไถ่โทษก็จบลงแล้ว
เขารู้สึกว่าตัวเองได้ชดใช้สิ่งที่ติดค้างทรรศยาแล้ว เขาอยากจะตามทรรศยาไป อยากจะรั้งเธอไว้ที่สะพานไน่เหอ แล้วไปเกิดใหม่พร้อมกับเธอ สัญญารักชั่วนิรันดร์
วินเซนต์จึงไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้วจริงๆ
นรมนมองผ่านหน้าต่างกระจกเห็น วินเซนต์ที่นอนใส่ท่อช่วยหายใจเหมือนนอนหลับ ก็รู้สึกเศร้าใจ
วินเซนต์เป็นคนรักลึกซึ้ง บุริศร์ก็เหมือนกัน
เธอไม่กล้าคิด ถ้าหากตัวเองเป็นอะไรขึ้นมา บุริศร์จะกลายเป็นแบบวินเซนต์หรือไม่
ไม่!
เขาอาจจะโหดร้ายกว่าวินเซนต์ หมดหวังมากกว่า ทำอะไรโดยไม่มีกฎเกณฑ์ยิ่งกว่า
เพราะในตัวเขายังมีพิษทองคำ
เมื่อคิดอย่างนี้ นรมนก็กระซิบถามป้อง “คุณพอจะรู้เรื่องพิษมากน้อยแค่ไหนคะ”
“ไม่มากนัก เคยเกี่ยวข้องบ้างก็เพราะหน้าที่ในตอนนั้นทำให้ผมศึกษาอยู่ช่วงหนึ่ง แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะศึกษาได้ลึกซึ้งในช่วงเวลาสั้นๆ หลายคนศึกษาทั้งชีวิตยังไม่เข้าใจ ผมไม่มีความสามารถจริงๆ”
เมื่อได้ยินป้องตอบเช่นนี้นรมนก็เคร่งขรึมลง
“อย่างนั้นไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือคะ ในตัวของบุริศร์มีพิษทองคำ ฉันไม่รู้ว่ามันจะมีผลอะไรบ้างกับร่างกายเขา แต่ดูเหมือนอารมณ์เขาเปลี่ยนไปมาก หงุดหงิดขึ้นมาก รุนแรงขึ้นมาก บางครั้งก็ถึงกับหงุดหงิดอย่างประหลาด”
นรมนพูดเสียงแผ่วเบา
ป้องขมวดคิ้วแน่น
“ผมเคยแนะนำให้เขาสวมเครื่องประดับหยก พอจะได้ผลอยู่บ้าง แต่อยากจะกำจัดพิษทองคำออกจากร่างกายจริงๆ เกรงว่าคงต้องหาตัวคนวางพิษถึงจะใช้ได้”
ได้ยินป้องพูดอย่างนี้ นรมนก็เข้าใจทันที
พิษคือคนของหมู่บ้านดารายนวาง ไม่ว่าจะเป็นบรรพบุรุษหรือลูกหลานของพวกเขา ต้องให้คนของหมู่บ้านดารายนแก้ไข
ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างบุริศร์กับหมู่บ้านดารายนก็คือตัดไม่ขาดใจสับสน
“ทุกคนของหมู่บ้านดารายนควบคุมพิษได้หรือคะ”
“น่าจะใช่นะ ไม่อย่างนั้นตอนนั้นพวกเขาคงไม่ทำให้เกิดการฆาตกรรมหรอก”
ความเห็นของป้องทำให้นรมนรีบหันไป
“คุณรู้อะไรบ้าง คุณรู้เรื่องที่ตอนนั้นหมู่บ้านดารายนถูกกำจัดมากแค่ไหน”
“ไม่มากนัก เรื่องนี้ถูกเก็บเป็นความลับ มีคนรู้แค่ไม่กี่คน ผมก็บังเอิญรู้มาแค่ข้อความสั้น ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการควบคุมพิษของพวกเขา ส่วนเป็นเรื่องอะไรกันแน่ผมก็ไม่รู้ชัดนัก และไม่ได้สืบถาม”
นรมนมองป้อง จากดวงตาของเขาป้องไม่ได้โกหก แต่ความลับอะไรกันที่ทำให้ทุกคนไม่รู้
“ความลับนี้น่าจะมีบันทึกไม่ใช่หรือคะ ถ้าหากเป็นอย่างนี้ พวกเราแค่ชำนาญด้านเทคนิคคอมพิวเตอร์ ก็เข้าไปดูข้อมูลได้แล้วไม่ใช่หรือคะ”
ป้องส่ายหน้า “เรื่องนี้ไม่มีบันทึก”
“เป็นไปได้ยังไงคะ”
นรมนแปลกใจ
ถ้าไม่มีบันทึก จะส่งคนมากขนาดนั้นไปกำจัดหมู่บ้านดารายนจนสิ้นซากได้อย่างไร
ไม่มีคำสั่งและเอกสารจากเบื้องบน คนระดับล่างจะปฏิบัติได้อย่างไร
แต่ป้องไม่ได้โกหก และไม่จำเป็นต้องโกหกกับนรมน นรมนจึงประหลาดใจมาก
ป้องส่ายหน้า “ผมก็ไม่ค่อยรู้ ตอนนั้นผมเพิ่งอายุเท่าไหร่ หรือไม่แน่อาจจะยังไม่เกิดด้วยซ้ำ เรื่องนี้ถ้าคุณอยากรู้ ลองถามคุณตาของคุณดูสิ แต่ตอนนี้คุณตาถูกกักบริเวณแล้ว”
“คุณพูดอะไรนะ คุณตาของฉันไม่เป็นไรใช่มั้ย”
นรมนกังวลขึ้นมาทันที
ก่อนหน้านี้เธอสงสัยเพราะคุณตาไปบอกความลับทำให้บุริศร์ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอย่างนี้ แต่ตอนนี้ป้องกลับบอกว่าคุณท่านตนุวรถูกกักบริเวณแล้ว
นรมนรู้สึกเป็นห่วง
ป้องรีบพูดขึ้น “คุณวางใจเถอะ ท่านไม่เป็นไร เพียงแต่ถูกจำกัดอิสระ กินอยู่ยังสบายมาก ผมคิดว่าคงจะกลัวท่านติดต่อกับพวกคุณ เรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่ ผมก็สงสัย แต่คุณวางใจเถอะ ถ้ามีเวลาผมจะใช้คอนเนคชั่นหลายๆ ทางตรวจสอบ ต่อให้ผมช่วยอะไรไม่ได้ คุณท่านตนุวรปลอดภัยแน่นอน”
“ขอบคุณค่ะ ป้อง”
นรมนพยักหน้าสบายใจขึ้น
เธอกำลังจะกลับ ก็ได้ยินป้องพูดขึ้น “ช่วงก่อนพี่รองให้ผมสืบเรื่องผู้ก่อการร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวคนโตคุณตาของคุณ สองสามวันมานี้ทางผมมีข่าวบ้างแล้ว เดี๋ยวผมจัดการเรียบร้อยแล้วจะส่งให้พวกคุณ”