แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1241 ฉันเตรียมไว้ให้เธอตั้งแต่แรกแล้ว
ต้องบอกเลยว่า ธิดาวีร์รู้ใจเด็กสามคนนี้มากจริงๆ
ตอนที่กิจจาเห็นการเคลื่อนไหวของธิดาวีร์ก็ไม่กล้าขยับแล้ว มองมีดสั้นที่น่ากลัวเล่มนั้นพุ่งมาทางหน้าอกของตนเอง
แววตาของกานต์เย็นชาขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อไม่นานผู้หญิงคนนี้เป็นคุณน้าของพวกเขา เคยมอบความสุขและความอบอุ่นให้พวกเขา เพียงแค่ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ธิดาวีร์หายไปจากในสายตาของพวกเขา
พวกเขาไม่รู้ว่าธิดาวีร์เกิดเรื่องอะไรขึ้น คิดว่าเธอแค่ออกไปฝากครรภ์เท่านั้น แต่กลับไม่ได้คิดเลยว่าตอนที่เจอธิดาวีร์อีกครั้งจะเป็นสถานการณ์อย่างนี้
เห็นธิดาวีร์กำลังจะคุกคามพี่ชายกับน้องสาวของตนเองแล้ว กานต์ก็ไม่ทันได้คิดอะไรมาก ยกกระถางต้นไม้ที่อยู่ข้างๆขึ้นมา โยนไปที่ข้อมือของธิดาวีร์ทันที
ในตอนนี้เอง กมลก้มหน้าลงไปกัดต้นขาของธิดาวีร์ กัดแน่นไม่ยอมปล่อย
เธอไม่ยอมให้พี่กิจจาเป็นอะไรไปหรอกนะ
ธิดาวีร์รู้สึกได้ว่ามีสิ่งของจู่โจมเข้ามาหาตนเองอย่างฉับพลัน จึงยื่นมือออกไปขวางไว้อย่างรวดเร็ว แต่ต้นขากลับมีความเจ็บปวดแพร่ออกมา
“บ้าเอ้ย!”
เธอเตะกมลออกไปทันที
กมลที่โดนมัดมือมัดเท้าเอาไว้ ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว หลังจากโดนโยนออกไปอย่างนี้ใครๆก็ไม่กล้าจินตนาการผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นทั้งนั้น
ในช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจ กานต์จึงผลักกิจจาออกไปทันที
“พี่ รับกมลเอาไว้”
กิจจาใช้แรงจากขาเท่าที่มีทั้งหมดถีบพื้น กระโดดไปทางที่กมลร่วงลงมา
เสียง “พลั่ก” กิจจารับกมลเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด แต่กลับได้ยินเสียง “ฉึก” เสียงของมีคมที่แทงเข้าไปในผิวหนังลอยออกมา ทำให้ใจของกิจจากับกมลประหม่าขึ้นมาทันที
“พี่!”
กมลเห็นธิดาวีร์แทงมีดสั้นเล่มนั้นเข้าไปกลางหน้าอกของกานต์ด้วยตาตัวเอง
เสียงของกิจจาก็หายไปทันที
“กานต์!”
ในใจของเขากำลังตะโกนเสียงดัง น้ำตาร่วงเผลาะลงมา
แต่ธิดาวีร์กลับลากกานต์ที่ได้รับบาดเจ็บเข้ามาอย่างโหดร้าย
“ในเมื่อเธออยากตายขนาดนี้ ฉันก็จะช่วยให้เธอสมหวัง ประจวบกับที่หม่ามี้ของเธอรักลูกชายอย่างเธอมาก งั้นก็จะทำให้หม่ามี้ของเธอปวดใจมากขึ้นอีกหน่อยแล้วกันนะ”
ธิดาวีร์ลากกานต์เดินออกไปข้างนอก
กมลกับกิจจาที่โดนมัดมือมัดเท้าเอาไว้ สลัดหลุดไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้หลุดออกไปได้ สำหรับธิดาวีร์แล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เธอต้องการเบี้ยหมากรุกดีๆเพียงตัวเดียวก็พอแล้ว
เดิมทีคิดจะใช้กมลเป็นเหยื่อล่อ ในเมื่อตอนนี้กานต์บาดเจ็บ งั้นก็ใช้กานต์นี่แหละ
กานต์เจ็บจนตัวสั่นเทิ้ม
เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าความรู้สึกที่มีดสั้นแทงเข้ามาในอกจะเจ็บขนาดนี้ แต่ทว่าเขาไม่เสียใจ
คนหนึ่งคือน้องสาวของเขา คนหนึ่งคือพี่ชายของเขา เขาไม่ยอมให้เกิดเรื่องกับทั้งสองคนเด็ดขาด
กานต์เหงื่อท่วม กัดฟันทนที่โดนธิดาวีร์ลากออกมาข้างนอก ร่างเล็กๆโซเซเล็กน้อย เลือดไหลเป็นทางอยู่ที่ด้านหลัง เห็นแล้วน่าตกใจ
“นรมน เธอดูนี่”
บนร่างของธิดาวีร์พกโทรโข่งไว้ด้วย
เมื่อนรมนได้เห็น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“ธิดาวีร์ เธอบ้าไปแล้วเหรอ? กานต์เป็นหลานของเธอนะ!”
นรมนไม่นึกเลยว่าเธอจะทำร้ายเด็กๆจริงๆ
กานต์เห็นนรมนแต่ไม่เห็นบุริศร์ จึงเข้าใจแล้วว่าหม่ามี้มาคนเดียว
เห็นๆอยู่ว่าเขาเจ็บจะตายแล้ว แต่กลับยิ้ม “หม่ามี้ ผมไม่เป็นไร ไม่เจ็บเลย”
แววตาของนรมนเจ็บปวดขึ้นมาทันที
กานต์เป็นเด็กฉลาดช่างคิดมาโดยตลอด ฉลาดจนทำให้ปวดใจ เห็นได้ชัดว่าบาดแผลนั้นน่าหวาดกลัว ถ้าเป็นเด็กทั่วไปคงร้องไห้ทนไม่ไหวแล้ว แต่เจ้าเด็กคนนี้ดันบอกว่าตนเองไม่เจ็บอย่างสงบนิ่งซะได้
เนื้อหนังทั้งนั้น จะไม่เจ็บได้ยังไง?
มีดสั้นที่น่าสะพรึงกลัวเล่มนั้นประกายแสงที่เย็นยะเยือกออกมา เลือดที่อยู่ด้านบนยิ่งขัดตาเหลือเกิน
วินาทีนี้ นรมนอยากฆ่าคนขึ้นมาแล้ว
“ธิดาวีร์ เธอไม่ควรแตะต้องเด็กๆ นี่เป็นความแค้นระหว่างผู้ใหญ่อย่างพวกเรา เธอเองก็เป็นแม่คน กล้าลงมือได้ยังไง?”
“กล้าลงมือได้ยังไง? ตอนที่พวกเธอทำกับแม่ฉันทำไมถึงไม่คิดบ้างว่ากล้าลงมือได้ยังไง? เจ้านี่เป็นหลานฉันน่ะใช่ แต่พวกเธอเคยเห็นฉันเป็นครอบครัวด้วยเหรอ? ตอนนี้ฉันกำลังท้องนะ พวกเธอยังจะทิ้งฉันไว้ในคุกต่างประเทศอย่างเลือดเย็นอีก นรมน เธอรู้ไหมว่าในคุกต่างประเทศเป็นยังไง? เธอรู้ไหมว่าฉันแทบจะเป็นบ้าอยู่ในนั้นอยู่แล้ว? ฉันยังสาว พวกเธออยากให้อยู่ในสถานที่ที่มืดฟ้ามัวดินอย่างนั้นไปตลอดชีวิต เคยคิดว่าฉันเป็นครอบครัวของพวกเธอบ้างไหม?”
น้ำเสียงของธิดาวีร์มาพร้อมกับความเดือดดาลเล็กน้อย ทั้งร่างกายบิดเบี้ยวจนน่ากลัว
นรมนรู้ดี ตนเองจะพูดยังไงก็คงไม่มีประโยชน์
เธอกลายเป็นคนที่โหดร้ายอย่างสมบูรณ์แล้ว
เพราะการตายของแพรวา เพราะการยุยงของกล้าณรงค์ ตอนนี้เธอคงเกลียดเธอกับบุริศร์จนเข้ากระดูกแน่ๆ
เวลานี้กานต์หน้าขาวซีดจนน่ากังวล เสียเลือดมาก นรมนกลัวกานต์ทนไม่ไหว
ก็ในเวลานี้เอง กานต์ที่อยู่ด้านหน้าธิดาวีร์ส่งสายตาไปให้นรมน
นรมนชะงักเล็กน้อย แล้วเข้าใจได้ในทันที
“ธิดาวีร์ เธอต้องการอะไร? เพียงแค่เธอไม่ทำร้ายเด็กๆ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรฉันจะยอมเธอทั้งหมด”
นรมนพยายามทำให้ตนเองใจเย็นลงหน่อย
แต่ธิดาวีร์กลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพูดขึ้น “ฉันอยากได้อะไรน่ะเหรอ? ฉันอยากให้เธอตาย! แค่เธอตาย ฉันก็จะปล่อยเด็กสามคนนี้ แล้วจะพากานต์ไปส่งโรงพยาบาลด้วย เป็นไง? นรมน เธอคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่มาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ? ใช้หนึ่งชีวิตของตัวเองมาแลกกับชีวิตของเด็กทั้งสามคน การต่อรองนี้คุ้มค่าไหม? อีกอย่างแค่เธอตายไป บุริศร์พี่ชายฉันก็จะเป็นบ้า ถึงตอนนั้นฉันจะดูสิว่าเขาจะใช้ชีวิตท่ามกลางความเจ็บปวดนี้ไปได้ยังไง”
แววตาของธิดาวีร์ในตอนนี้มีแต่ความบ้าระห่ำ
ครั้งหนึ่งบุริศร์เคยดีกับเธอยังไง ตอนนี้นรมนก็อยากจะแทงธิดาวีร์ให้ตายไปแบบนั้นเลย แต่เธอก็ดีใจอยู่เล็กน้อยที่คนที่มาไม่ใช่บุริศร์ ไม่งั้นตอนนี้บุริศร์คงจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
นรมนสูดหายใจเข้าลึกๆพูดขึ้น “ได้ เธอต้องการชีวิตของฉัน ฉันก็จะให้เธอ แต่ฉันไม่เชื่อ ตอนนี้เธอต้องปล่อยกานต์ แล้วให้เขาไปรักษาตัวก่อน”
“เธอคิดว่าฉันเป็นคนโง่จริงๆใช่ไหม? ถ้ากานต์ไปแล้ว เธอจะยอมให้ฉันจัดการอย่างว่าง่ายได้ยังไง? นรมน เธออย่ามาเล่นลูกไม้กับฉันนะ เร็วๆ! ฉันสาบานด้วยลูกในท้องของฉัน เพียงแค่เธอตาย ฉันก็จะปล่อยเด็กทั้งสามคน ไม่งั้นก็ขอให้ลูกในท้องของฉันไม่ตายดี!”
คำสาบานที่โหดร้ายของธิดาวีร์ถือว่ารุนแรงมาก
นรมนเห็นสีหน้าของกานต์ ในใจก็เจ็บปวด
“ฉันไม่ได้พกอาวุธมา”
“ฉันเตรียมไว้ให้เธอแต่แรกแล้ว”
ธิดาวีร์หยิบมีดสั้นของทหารออกมาจากชายแขนเสื้อแล้วโยนไปให้นรมน
ก็ตอนนี้เอง นรมนรับมีดสั้นเอาไว้ ส่วนกานต์กลับใช้แรงทั้งหมดล้มลงไปข้างหลัง กระแทกไปที่ท้องของธิดาวีร์ทันที
“โอ๊ย!”
ธิดาวีร์เจ็บท้อง มือจึงหลุดออกโดยอัตโนมัติ
ใช้โอกาสนี้ นรมนกระโดดลอยขึ้น แทงมีดสั้นที่น่ากลัวเล่มนั้นเข้าไปที่ฝ่ามือขวาของธิดาวีร์ แทงทะลุในทันที
“โอ๊ย!”
ธิดาวีร์ร้องเสียงแหลมด้วยความเจ็บปวด แววตาของนรมนชะงักเล็กน้อย แต่ก็ถือโอกาสบิดหักแขนของเธอเสียเลย
ธิดาวีร์เจ็บจนตัวสั่นเทิ้ม
เธอค่อนข้างไม่อยากเชื่อว่าทักษะของนรมนจะรวดเร็วเช่นนี้
เนื่องจากธิดาวีร์กำลังท้องจึงเคลื่อนไหวได้ช้า ส่วนนรมนแม้สุขภาพจะไม่ได้ดีมาก แต่กลับมุ่งมั่นออกกำลังกาย จุดประสงค์ก็เพื่อถ้าอยู่ในช่วงเวลาเสี่ยงตายจะได้ไม่กลายเป็นภาระของบุริศร์ เพียงแค่ไม่คิดว่าครั้งนี้จะได้ใช้ในสถานที่อย่างนี้
เธอคว้ากานต์เข้ามากอด พูดด้วยความสงสาร “หม่ามี้จะให้คนมารับลูกไปส่งโรงพยาบาลนะ”
มีดสั้นแทงลงไปลึกมาก แต่ทว่านรมนดูแล้ว ยังห่างจากหัวใจอยู่เล็กน้อย น่าจะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ในฐานะที่เป็นแม่ เธอยังคงเป็นห่วง
นรมนกอดกานต์ไว้แน่น พูดด้วยความเสียใจ “ขอโทษนะลูก ที่หม่ามี้มาช้า”
“หม่ามี้ ผมไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วงครับ”
กานต์กำลังปลอบนรมนเหมือนที่บุริศร์ทำ
ดวงตาของนรมนจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว
เธอรีบหยิบมือถือออกมาโทรหาคนด้านล่าง
“เร็วรีบๆขึ้นมากัน พากานต์ไปส่งโรงพยาบาล ส่งกมลกับกิจจากลับไป แล้วก็ขังธิดาวีร์ไว้ที่สำนักงานใหญ่ของสหภาพQT ทำลายแขนขาของเธอ เคลื่อนขากรรไกรเธอออกด้วย ให้คนดูไว้ อย่าให้เธอตาย”
นี่เป็นครั้งแรกที่นรมนอยากฆ่าคน ความหมายของการฆ่าคนจริงๆ
ความเกรี้ยวกราดขาดสติอย่างนั้นในที่สุดเธอก็ได้สัมผัสด้วยตนเองแล้ว
หลังจากพูดจบ นรมนเห็นลูกน้องอุ้มกมลกับกิจจาออกมา หลังจากดูแล้วว่าพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรมากจึงพูดเบาๆ “หม่ามี้จะพากานต์ไปโรงพยาบาล ลูกสองคนกลับไปรอหม่ามี้ก่อน แด๊ดดี้อยู่ในห้องนอน พวกลูกไปหาเขาในห้องนอนก็ได้ กิจจา แด๊ดดี้อารมณ์ไม่ค่อยดี ลูกช่วยหม่ามี้ดูเขาหน่อยนะ อย่าให้เขาทำเรื่องผิดๆ กมล ช่วยหม่ามี้ดูธิดาวีร์ด้วย อย่าให้เธอตาย”
นรมนรู้ว่าตอนนี้เด็กๆค่อนข้างหวาดกลัว แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาปลอบใจพวกเขา เธอต้องช่วยกานต์ก่อน ตอนนี้วิธีเดียวที่จะทำให้พวกเขาควบคุมความหวาดกลัวไว้ได้ก็คือหาเรื่องที่พวกเขาสามารถทำได้ ให้ยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น
กมลเห็นสีหน้าที่ขาวซีดของกานต์ จึงกัดฟันพูด “หม่ามี้ วางใจเถอะค่ะ หนูกับพี่กิจจาจะทำตามอย่างดีเลย”
“เด็กดี!”
แต่ก่อนเวลาอย่างนี้ กมลมักจะร้องไห้ออดอ้อนอยู่เสมอ แต่ตอนนี้เหมือนจู่ๆเธอก็โตขึ้นแล้ว
ลูกน้องพาเด็กๆออกไป นรมนอุ้มกานต์เอาไว้รีบเดินลงเขา
สีหน้าของกานต์แย่ขึ้นเรื่อยๆ
ใจของนรมนก็ยิ่งบีบตัวแน่นขึ้นเรื่อยๆ ถึงกับค่อนข้างหวาดกลัว
“กานต์ ทนหน่อยนะลูก เดี๋ยวจะถึงแล้ว หม่ามี้จะส่งลูกไปโรงพยาบาล อย่าหลับนะลูก อย่าหลับเด็ดขาด รู้ไหม?”
เสียงนรมนสั่นเครือ
กานต์รู้เรื่องเกินไป ไม่เคยออดอ้อน ไม่เคยร้องไห้ แต่ก็เป็นลูกชายที่รู้เรื่องอย่างนี้ ในช่วงเวลาสำคัญจึงปกป้องคนในครอบครัวของตนเองเอาไว้ได้เสมอ
เขาอายุแค่นี้ เห็นๆอยู่ว่าเป็นช่วงวัยที่ต้องออดอ้อนออเซาะอยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่ แต่กลับยืนกรานที่จะใช้ชีวิตของตนเองให้กลายผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ
นรมนหวาดกลัว
กลัวว่าลูกชายที่เฉลียวฉลาดอย่างนี้จะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดเพราะเสียเลือดมากเกินไป
เธอกำลังอุ้มกานต์ ก้าวเท้าสะเปะสะปะ
ตอนที่ขึ้นรถก็รีบพูด “โทรหาหมอ ให้พวกเขาถ่ายเลือด หมู่เลือดของกานต์พิเศษ ขอความช่วยเหลือจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เอาเลือดทั้งหมดที่สามารถถ่ายได้เตรียมไว้ให้เรียบร้อย”
“ครับ พี่สะใภ้”
ลูกน้องทำตามที่นรมนสั่ง
กานต์รู้สึกเจ็บมาก เจ็บจนจะทนไม่ไหว
แล้วเขาก็รู้สึกหนาวมาก
มือเล็กๆดึงแขนของนรมนเอาไว้แน่น เสียงอ่อนแรง “หม่ามี้ ผมหนาว”
น้ำตาใสๆร่วงลงมาจากดวงตาของนรมน
เธอกอดกานต์เอาไว้ กอดไว้แน่นๆ กลัวว่าเขาจะจากตนเองไป….