แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1250 เขาใช้ชีวิตได้สุขุมเยือกเย็นกว่าใครๆ
เกวลินตกตะลึงไปเลย เธอยังไม่ทันพูดอะไร ก็เห็นวินเซนต์ได้สติขึ้นมาทันที ความดุดันในแววตาทำให้เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่น ถึงกับอยากจะวิ่งหนีไปเลย
เวลานี้ วินเซนต์กอดเกวลินเอาไว้ กอดเธอเอาไว้แน่น ผู้ชายที่แข็งแกร่งขนาดนั้นไม่นึกว่าจะร้องไห้ออกมาแล้ว
“ทรรศยา นั่นคุณเหรอ? คุณใช่ไหม? ผมรู้อยู่แล้ว คุณคงไม่ใจร้ายขนาดนั้น คงไม่ทิ้งผมไว้บนโลกที่แสนเย็นชานี้เพียงคนเดียว อย่าไปเลยนะ ทรรศยา ขอร้องล่ะคุณอย่าทิ้งผมไว้คนเดียวได้ไหม?”
เกวลินเคยสัมผัสกับความโหดร้ายและไร้หัวใจของวินเซนต์มาก่อน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะได้เห็นวินเซนต์ร้องไห้
ไม่นึกว่าเขาจะร้องไห้!
ความลึกซึ้งแบบไหนกันถึงทำให้หมดหนทางที่จะเดินออกมาแม้พี่จะจากไปเจ็ดแปดปีแล้ว?
ถ้าบุณพจน์ปฏิบัติกับเธอเหมือนวินเซนต์ เธอคิดว่าเธอคงจะทำทุกอย่างเพื่อเขาด้วยความยินยอม น่าเสียดายที่ผู้ชายคนนั้นไม่เห็นคุณค่าของตนเองเลย
ดวงตาของเกวลินก็ค่อนข้างแดง
เธอตบไหล่ของวินเซนต์เบาๆ ถอนหายใจ
ตอนนี้ไม่ควรพูดอะไรเลย พูดไปก็มีแต่จะทำให้วินเซนต์เสียใจ ให้เขาได้ปลดปล่อยไปกับความฝันที่แสนสุขนี้ไปเถอะ
วินเซนต์ร้องไห้ราวกับเป็นเด็ก
เขาไม่ต้องอยากกอดร่างที่งดงามร่างนั้นหลังตื่นจากฝันกลางดึกแต่กลับทำได้เพียงกอดอากาศเอาไว้เท่านั้นอีกแล้ว
ทรรศยาตรงหน้าเป็นของจริง เป็นร่างอุ่นๆ สามารถสัมผัสได้
ไม่ว่าจะจริงไม่จริง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร วินาทีนี้ เขาแค่คิดว่าจริงเท่านั้น
“ทรรศยา ผมคิดถึงคุณ คิดถึงมากจริงๆ คุณรู้ไหม? การไม่มีคุณ สำหรับผมแล้วโลกใบนี้ช่างเหน็บหนาว คุณแข็งใจทิ้งผมไว้บนโลกที่เย็นยะเยือกนี้คนเดียวได้ยังไง? คุณเคยบอกว่า คุณจะอยู่ดูดวงอาทิตย์ยามเย็นด้วยกัน พาผมกลับบ้าน คุณบอกว่าถ้าพ่อแม่ไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร คุณต้องการผม แต่หลายปีมานี้คุณอยู่ไหน? ทรรศยา คุณเป็นแสงอาทิตย์เพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของผม ผมจดจำผู้หญิงที่เปล่งประกายคนนั้นที่หันหลังให้ผมได้เสมอ เป็นเธอที่ช่วยชีวิตผม พาผมเข้าร่วมกองกำลังทหาร พาผมเดินไปตามทางที่ผมไม่เคยคิดจะไป แต่ผมก็คิดไม่ถึง ว่าเพราะเส้นทางนี้ คุณจะจากผมไปตลอดกาล ถ้าผมรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ผมจะซ่อนคุณเอาไว้ ชีวิตนี้จะไม่ยอมให้คุณเป็นทหารเด็ดขาด”
“ทรรศยา ตอนที่คุณสละชีวิตเคยคิดถึงผมบ้างไหม? เคยคิดใช่ไหม? คุณรู้อยู่แล้วว่าการจากไปของคุณจะทำให้ผมแตกสลาย ทำไมถึงยังทำอีก? ทรรศยา คุณเป็นห่วงคนอื่นมากเกินไป ความรักของคุณ ความภักดีของคุณ ความศรัทธาของคุณดูแล้วสำคัญมากกว่าผม ผมควรจะเกลียดคุณ แต่ผมเกลียดไม่ได้ ผมคิดถึงคุณ คิดถึงคุณใจจะขาด ความรักที่ลึกซึ้งอันนั้นคุณพาไปด้วยได้ไหม? ได้ไหม?”
วินเซนต์กำลังถาม กำลังพูด เกวลินก็หยุดร้องไห้ไม่ได้เลย
เธอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดที่วินเซนต์กับทรรศยาได้อยู่ด้วยกันแล้ว
วินเซนต์เคยพูดกับเธอ
ครั้งหนึ่งวินเซนต์เคยเป็นแค่เด็กที่ดื้อรั้นคนหนึ่ง เพราะทะเลาะกับพ่อแม่จึงออกมาจากบ้าน
เขาก็เป็นคนหัวแข็ง ตอนที่ออกมาไม่มีเงินจึงเริ่มอยู่ในสังคมอย่างไม่มีเป้าหมาย แต่ได้รับบาดเจ็บจากการชกต่อยครั้งหนึ่ง เกือบจะเอาตัวไม่รอด
เห็นร่างกายที่มีเลือดไหลออกมามากมายขนาดนั้น วินเซนต์คิดว่าตนเองต้องตายแน่ๆแล้ว
เขาเพิ่งจะสิบหกปี อายุยังน้อยก็จะจบลงอย่างนี้แล้วเหรอ?
“คุณเป็นอะไรไหม?”
วินเซนต์ไม่มีทางลืมวันที่หญิงสาวที่เปล่งประกายคนนั้นยื่นมือออกมาให้เขาอยู่แล้ว
ครั้งหนึ่งเขาคิดว่าเธอเป็นนางฟ้าด้วยซ้ำ
เธอหน้าตางดงามอย่างนั้น อบอุ่นอย่างนั้น ไม่กลัวรอยเลือดกับสภาพที่น่าเวทนาบนร่างของเขาเลย กลับยืนหยัดที่จะประคองเขาขึ้นมา
เลือดบนร่างของเขาเปื้อนเดรสที่ขาวสะอาดบนร่างของเธอ แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
เธอบอกวินเซนต์ว่า เป็นคนต้องใช้ชีวิตให้เต็มที่ ต้องใช้ประโยชน์จากร่างกายที่มีประโยชน์ทำเรื่องที่มีความหมายให้มากๆหน่อย
วันนั้น วินเซนต์ก็รู้เลยว่า หญิงสาวคนนี้ได้กลายเป็นผู้ช่วยชีวิตของเขาไปแล้ว
เธอถามว่าเขาอายุเท่าไหร่? อยู่ที่ไหน? แต่กลับใช้เงินของตนเองส่งวินเซนต์ไปรักษาตัวที่คลินิก
นั่นเป็นครั้งแรกที่วินเซนต์ต้องการปกป้องผู้หญิงสักคนหนึ่ง เป็นครั้งแรกที่อยากอยู่กับนางฟ้าที่เปล่งประกายคนนี้ด้วยกันตลอดไป
เพื่อผู้หญิงคนนี้ เขาเลือกที่จะกลับบ้าน กลับไปที่ที่ไม่มีอันตรายอย่างนั้นน่ะเหรอ บ้านที่ต้องต่อสู้และดิ้นรนตลอดเวลา
พวกพี่น้องของเขา เพื่อสิทธิ์ในการรับมรดกในครอบครัวจึงใช้แผนร้ายมุ่งเป้ามาที่เขาไม่ได้หยุดหย่อน
วินเซนต์รอดจากความตายมาได้อย่างหวุดหวิด เต็มไปด้วยบาดแผล แต่กลับปรากฏตัวอยู่ข้างๆทรรศยาด้วยรอยยิ้มที่สดใสทุกครั้ง
เขาย้ายโรงเรียนไปที่โรงเรียนของทรรศยา เพื่ออยู่เคียงข้างเธอ เขาตั้งใจเล่าเรียนอย่างหนัก แต่กลับได้ที่สอง ส่วนอันดับที่หนึ่งตกเป็นของทรรศยาเสมอ
ภายหลังทรรศยาบอกว่าอยากเข้าร่วมกองกำลังทหาร ถามเขาว่าอยากไปด้วยกันไหม?
เป็นทหาร?
ตอนนั้นสำหรับวินเซนต์แล้วเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย ถึงกับคิดว่าชีวิตนี้ตนเองคงไม่มาทางนี้หรอก แต่เพราะสายตาที่เร่าร้อนของทรรศยา เขาจึงพยักหน้าตอบตกลง
ทั้งสองคนเข้าร่วมกองกำลังทหารโดยคงสภาพการเป็นนักเรียนเอาไว้
วินเซนต์ไม่ได้บอกคนในครอบครัว แต่กลับหายไปจากครอบครัวเฉยๆเลย
เขารู้ว่า การออกไปของตนเองจะทำให้ความพยายามทั้งหมดในหลายปีมานี้สูญเปล่า พวกพี่น้องที่จ้องจะหาโอกาสเล่นงานคงจะใช้เวลานี้แบ่งแยกชื่อเสียงและอำนาจที่เขาสะสมมาหลายปี แต่มันจะเป็นยังไงล่ะ?
เขาต้องการแค่ทรรศยาคนเดียวเท่านั้น
ช่วงเวลานั้นเป็นความสุขของพวกเขา
เขตทหารถ้าไม่มียศทหารไม่อนุญาตให้มีแฟน พวกเขาก็ดำเนินต่อไปอย่างนี้ หลายครั้งที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาจากการทำภารกิจ สิ่งแรกของเขาก็คือไปดูทรรศยา ตอนที่ยืนยันว่าเธอปลอดภัยไม่มีอันตรายเขาถึงจะยิ้มออกมาอย่างเข้าใจกัน
ถ้าเขารู้ว่าการเดินเข้าไปถึงส่วนบนสุดของเขตทหาร การเข้าไปในกองกำลังพิเศษจะต้องจ่ายด้วยชีวิตของทรรศยา เขายอมให้ทรรศยาไม่มีวิชาความรู้ดีกว่า แค่ให้เธอทำหน้าที่เอ้อระเหยลอยชายไปสักสองปีก็พอแล้ว
น่าเสียดายที่ทั้งหมดนี้ไม่รู้ล่วงหน้า
รอตอนที่เขาสำนึกได้ถึงอะไร ทรรศยาก็ไม่อยู่แล้ว
หญิงสาวที่เปล่งประกายคนนั้นคนที่เป็นพลังชีวิตของเขาไม่ปรากฏตัวออกมาอีกแล้ว
คนที่น่ารังเกียจพวกนั้นพาแสงอาทิตย์กับความอบอุ่นเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของเขาไปแล้ว เขาจะไม่โกรธได้ยังไง? จะทนไหวได้ยังไง?
แม้จะต้องสูญเสียชีวิตนี้ของตนเอง เขาก็จะฉีกคนพวกนั้นให้เป็นชิ้นๆ
ด้วยธาตุแท้ของเขาก็ไม่ได้มีเมตตา แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว
วินเซนต์ร้องไห้เหมือนจะขาดใจ
ตอนที่ทรรศยาตาย เขาไม่ร้องไห้
ตอนที่ฝังทรรศยา เขาเข้าไปในสุสานไม่ได้ ก็ไม่ร้องไห้
ถึงขนาดที่หลายปีมานี้ ทุกครั้งที่ตกใจตื่นจากความฝันกลางดึก เขาก็ยังคงไม่ร้องไห้
แต่วินาทีนี้ วินเซนต์เหมือนกับความรู้สึกแตกสลาย หยุดร้องไห้ไม่ได้เลย
ใครบอกว่าผู้ชายไม่ร้องไห้ง่ายๆ?
เพียงแค่ยังไม่ถึงจุดที่เสียใจเท่านั้นเอง
วินเซนต์ใช้ชีวิตอยู่ในโลกของตนเอง รู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงตรงหน้าอาจจะไม่ใช่ทรรศยา อาจจะแค่หน้าเหมือนเธอเกินไปเท่านั้น อาจจะ……
อาจจะที่มากเกินไปก็ไม่ต้องใส่ใจ
วินาทีนี้ เขากำลังกอดร่างที่อบอุ่น ไม่ใช่อากาศที่เย็นยะเยือก
เหมือนหญิงสาวที่เปล่งประกายคนนั้นกลับมาแล้ว ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาจริงๆ ลูบหัวของเขา น้ำเสียงอ่อนโยนพูดขึ้น “ขอโทษนะ วินเซนต์ ที่ฉันกลับมาช้า ขอโทษจริงๆ”
วินเซนต์อยากจะยัดผู้หญิงตรงหน้าเข้าไปในร่างกายของตนเองเสียเลย
เกวลินก็กำลังร้องไห้
พี่มีความสุขมากๆเลยใช่ไหม?
แม้ชีวิตของเธอจะสั้นมาก แต่เธอกลับมีผู้ชายคนหนึ่งที่รักเธอเช่นนี้ นี่ก็ถือว่าสมบูรณ์แล้วไม่ใช่เหรอ?
วินเซนต์ที่อยู่ตรงหน้าถือว่าเป็นพี่เขยของเธอ แต่พวกเขากลับเคยมีอะไรกันไปแล้ว
เกวลินบอกตนเอง เขารักพี่ ครั้งนั้นอาจจะเป็นอุบัติเหตุครั้งแรก เป็นการลงโทษครั้งแรก เป็นการวางเดิมพันครั้งแรกที่ไม่มีการแลกเปลี่ยนความรู้สึก
แต่ในใจของเกวลินยังคงเจ็บปวด
ผู้ชายคนนี้จริงๆแล้วก็เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ
เห็นเขาเสียใจเรื่องพี่จนกลายเป็นอย่างนี้ ในใจของเกวลินก็ทนไม่ได้ แต่ว่าเธอทำได้เพียงกอดวินเซนต์เอาไว้แน่นๆ กอดเขาแน่นๆเท่านั้น
บุริศร์กับนรมนที่ยืนมองฉากนี้อยู่ด้านนอก ก็ถอนหายใจไปด้วย
นรมนอยากจะเข้าไป แต่กลับโดนบุริศร์ห้ามเอาไว้
“ให้วินเซนต์ได้ปลดปล่อยอีกสักพักเถอะ”
“แต่คนๆนั้นคือเกวลิน บุริศร์ ต่อไปคุณคงไม่ให้เกวลินเป็นตัวแทนของทรรศยาใช่ไหม?”
นรมนเป็นผู้หญิง ต้องเข้าใจผู้หญิงด้วยกันอยู่แล้ว
แม้เธอจะไม่รู้ว่าตอนนี้เกวลินหวั่นไหวในตัววินเซนต์ไปแล้วหรือยัง แต่พวกเขาไม่สามารถ แล้วก็ไม่มีสิทธิ์ให้เกวลินไปอยู่ข้างกายของวินเซนต์ในฐานะตัวแทนด้วย
บุริศร์เห็นภรรยาตัวน้อยของเขากำลังกระวนกระวายจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา
ไม่ว่าตอนไหน นรมนก็จะอบอุ่นและยุติธรรมเสมอเลย
เขาขยี้ๆหัวของนรมน พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน “คุณคิดว่าวินเซนต์ไม่รู้จริงๆเหรอว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ทรรศยา? หลายปีนี้ เขาใช้ชีวิตได้สุขุมเยือกเย็นกว่าใครๆ ตอนนี้ก็แค่สายธนูที่พังมาเจ็ดแปดปีแล้วขาดอย่างกะทันหัน เขาแค่ใจสลายเท่านั้น รอเขาปลดปล่อยอารมณ์เสร็จแล้ว คงจัดการได้ อีกอย่างเจ็ดแปดปีนี้เขาไม่สนใจใครเลย ไม่แปดเปื้อนผู้หญิงคนไหนเลย แต่กลับต้องการเกวลินเพียงคนเดียว”
“นี่หมายความว่าไง? จะบอกว่าตั้งแต่เริ่มแรกวินเซนต์ก็ให้เกวลินเป็นตัวแทนใช่ไหม?”
“ไม่ใช่”
บุริศร์จูงมือของนรมนเดินออกมาจากบริเวณห้องไอซียู แล้วถึงหยิบมือถือออกมาหารูปพวกนั้นส่งไปให้นรมนดู
ผู้หญิงในรูปต่างก็มีเงาของทรรศยาไม่มากก็น้อยปนๆกันไป
“ผู้หญิงพวกนี้คือ……”
“ครอบครัวของวินเซนต์หาคู่ดูตัวให้เขา ถึงกับคิดจะใช้ประโยชน์จากผู้หญิงพวกนี้เรียกตัวของวินเซนต์กลับไป แต่น่าเสียดายที่วินเซนต์ไม่หวั่นไหวให้ใครเลย ในจำนวนนี้มีไม่น้อยเลยที่เสนอตัวมาขอนอนด้วย ก็โดนวินเซนต์โยนออกไปทันที แต่วินเซนต์กลับต้องการเกวลิน”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนไม่ค่อยเข้าใจ
นี่หมายความว่าไง?
บุริศร์ยิ้มแล้วพูดต่อ “จริงๆถ้าจะเรียกร้องความยุติธรรมให้ทมโภลี การฆ่าเกวลินในทันทีเป็นวิธีที่ดีที่สุด แล้วก็สามารถสร้างความหวาดกลัวให้บุณพจน์ที่อยู่เบื้องหลังของเกวลินได้อย่างมากด้วย แต่น่าเสียดายที่วินเซนต์ดันเลือกใช้วิธีประเภทนั้นซะได้”
“คุณจะพูดอะไรกันแน่?”
นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจความหมายในคำพูดของบุริศร์
บุริศร์มองไปทางห้องผู้ป่วยที่วินเซนต์อยู่ พูดเบาๆ “ตอนที่คุณให้คนไปสืบประวัติของเกวลิน วินเซนต์ก็ส่งคนไปสืบประวัติของเกวลินอยู่ก่อนแล้ว ไม่งั้นคุณคิดว่าทำถึงได้ข้อมูลกลับมาอย่างรวดเร็วล่ะ? ตรวจ DNA ก็ต้องใช้เวลานะ”
นรมนชะงักไปทันที
“ความหมายของคุณคือวินเซนต์รู้ว่าเกวลินเป็นน้องสาวของทรรศยางั้นเหรอ?”
บุริศร์พยักหน้า
“แล้วเขายังทำอย่างนั้นกับเกวลิน? เขานี่มันช่าง……”
“เขาคิดจะปล่อยวางจิตใจที่ครอบงำอยู่กับทรรศยาแล้ว แต่เขาปล่อยวางคนในครอบครัวของทรรศยาไม่ได้ ดังนั้นกลายเป็นลูกเขยของตระกูลตรีนิกรจึงเป็นวิธีเดียว แล้วก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดด้วย”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนตะลึงงันในทันที